หมา 2 หัวของ Vladimir Petrovich Demikhov

.
ในปี 1955 ในที่ประชุมของสมาคมศัลยกรรมมอสโคว์
ได้จัดแสดงสิ่งที่แปลกประหลาดอย่างมากในที่หัองประชุม
บนเวทีใกล้กับผู้ชมมีการนำหมาสองหัว
หมาสีดำตัวใหญ่กับลูกหมาสีน้ำตาล
หมาตัวนี้ดูเหมือนว่ามีความสุขและกระดิกหางอย่างร่าเริง
และไม่แสดงความสนใจฝูงชนจำนวนมาก
ที่ต่างตื่นเต้นและแปลกใจต่อหน้ามัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอวัยวะส่วนที่ผิดธรรมชาติ
ซึ่งยื่นออกมาจากด้านข้างคอของมัน

เมื่อไม่กี่วันก่อนการประชุมสมาคมศัลยแพทย์
หมาตัวนี้ได้ผ่านการผ่าตัดครั้งใหญ่
โดยได้ตัดหัวลูกหมาขนสีน้ำตาลตัวเล็ก ๆ
มาติดที่ด้านข้างคอของหมาสีดำตัวใหญ่
โดยหัวลูกหมายังมีชีวิตอยู่และตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอก
และถึงแม้ว่า  พวกศัลยแพทย์จะดู/จับที่หัวของลูกสุนัข
ลูกสุนัขก็ยังทำท่าจะกัด ขณะนี้หัวหมาสีดำส่งเสียงคำราม

การสาธิตของ Vladimir Petrovich Demikhov 
สร้างความตื่นตระหนกอย่างแรงต่อการแพทย์ของรัสเซีย
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Dr. Frankenstein ได้สร้างเรื่องราวน่าตื่นเต้น
ในการแสวงหาความก้าวหน้าทางการแพทย์
ในปี 1937  ขณะที่ Vladimir Petrovich Demikhov  มีอายุเพียง 21 ปี
และยังเป็นนักเรียนอยู่ ก็ได้สร้างความตกตะลึงให้กับอาจารย์ที่สอน
ด้วยการปลูกถ่ายหัวใจเทียมดวงแรกให้กับหมาตัวหนึ่ง
ซึ่งประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายอวัยวะให้กับหมา
หมารอดตายได้ถึง 5 ชั่วโมง

หลังจากสำเร็จการศึกษา
Vladimir Petrovich Demikhov 
ยังคงทำการวิจัยทดลองทางสัตวแพทย์อีก
ในที่สุดก็ทำการปลูกถ่ายหัวใจและปอดให้กับหมา
และต่อมาทำการปลูกถ่ายตับและไตในหมาและแมว
สัตว์ป่วยบางตัวรอดตายได้ถึงหนึ่งเดือน
การทดลองครั้งสำคัญ คือ
การบายพาสหลอดเลือดหัวใจหมา
มีหมา 4 ตัวมีชีวิตอยู่ได้นานถึง  2 ปี
หมาตัวหนึ่งที่บายพาสในปี 1953 
มีชีวิตยืนยาวถึง 7 ปี
 

.

ในปี 1954 หลังจากประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
Vladimir Petrovich Demikhov
จึงเริ่มทำการทดลองครั้งที่โดดเด่นยึ่งขึ้น
โดยเริ่มการทดลองที่ขัดแย้งกันมากที่สุด
ด้วยการตัดต่อหัวลูกหมาพร้อมกับขาหน้าข้างซ้าย
ต่อไว้กับคอของหมาโตตัวใหญ่

“ เมื่อหมาสองหัวฟื้นคืนสติขึ้นมาหลังจากการผ่าตัด
ลูกสุนัขก็ตื่นขึ้นมาและหาว  แต่หมาตัวโตดูงงงวย
และความพยายามในครั้งแรกของหมาตัวโต คือ สลัดลูกสุนัขทิ้ง ”
ตามรายงานข่าวของ Time
 
หัวของลูกหมายังคงรักษาบุคลิกของมันเอง
แม้ว่ามันจะกลายเป็นหมาพิการที่ไม่มีร่างกายของตัวเอง
แต่มันก็ยังขี้เล่นเหมือนลูกหมาตัวอื่น ๆ
มันคำรามและเห่าเสียงดังอย่างมาก
หรือพร้อมจะเลียมือของคนที่ลูบมัน

แต่หมาตัวโตเจ้าของร่างกายเริ่มเบื่อกับเรื่องนี้
แต่ในไม่ช้าก็ต้องคืนดีกับลูกหมาที่สลัดทิ้งไม่ได้แล้ว
ลูกหมาที่งอกขึ้นบนคอของมันอยู่เคียงข้างกับมัน
เมื่อลูกหมากระหายน้ำก็จะดื่มกินน้ำนมที่ผสมไว้
(ส่วนหมาตัวโตกินอาหารได้ตามปกติ)
และเมื่อห้องปฏิบัติการอากาศเริ่มร้อนขึ้น
ทั้งเจ้าบ้าน(หมาตัวโต)และลูกหมาต่างแลบลิ้นออกมา
และสะบัดลิ้นไปมาเพื่อระบายความร้อน/ทำให้รู้สึกเย็นขึ้น
หลังจาก 6 วัน ทั้งสองตัวก็ตายพร้อมกัน
(ทั้งหัวสองตัว และใช้ร่างกายร่วมกัน)



Vladimir Petrovich Demikhov 
ได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ทางการแพทย์มากมาย
พร้อมกับผ่านช่วงเวลาและเก็บเกี่ยวประสบการณ์
ทำให้อัตราการรอดตายของหมาดีขึ้น
จนกระทั่งหมาสองหัวตัวหนึ่งมีชีวิตอยู่ได้ถึง 29 วัน

เมื่อข่าวการผ่าตัดบุกเบิกหมา 2 หัว
ของ Vladimir Petrovich Demikhov
แพร่กระจายไปทั่วซีกโลกตะวันตก
ทำให้มีปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย
พร้อมกับคำถามทางด้านจริยธรรมมากขึ้น
เกี่ยวกับเรื่องยอมรับได้หรือไม่กับการทดลองแบบนี้
และการทดลอง/งานวิจัยดังกล่าวนี้
เป็นความต้องการทางการแพทย์ที่แท้จริงหรือไม่

แต่ Vladimir Petrovich Demikhov 
คือ ผู้มาก่อนกาลเวลาและมองเห็นอนาคตได้อย่างชัดเจนว่า
อีกหน่อยการปลูกถ่ายอวัยวะคนเป็นเรื่องธรรมดา

“ เป้าหมายสุดท้ายของการทดลองของเรา
คือ การปลูกถ่ายหัวใจและอวัยวะอื่น ๆ ในคนให้เป็นไปได้ ”
Vladimir Petrovich Demikhov เขียนไว้ในเอกสาร

ในปี 1960 Vladimir Petrovich Demikhov
ได้ตีพิมพ์หนังสือของตนเองที่ชื่อว่า
การทดลองปลูกถ่ายอวัยวะสำคัญ
Experimental Transplantation of Vital Organs
ซึ่งได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการ
และเทคนิคการผ่าตัดต่าง ๆ ในรายละเอียด
หลังจากนั้นไม่นานหนังสือเล่มนี้ก็ได้รับการแปล
และตีพิมพ์ในหลายประเทศทางตะวันตก
และใช้เป็นตำราครูและเอกสารอ้างอิงเฉพาะ
ในด้านการปลูกถ่ายอวัยวะและเนื้อเยื่อ


.
เรื่องราวสำคัญและความสำเร็จในการผ่าตัดหัวใจ
ผู้เขียน  Stephen Westaby ได้เขียนใน
Landmarks of Cardiac Surgery ว่า
ในปี 1962 เมื่อบทความเกี่ยวกับการปลูกถ่ายหัว
ของ Vladimir Petrovich Demikhov
ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Cape Argos
Christiaan Barnard ศัลยแพทย์หัวใจชาวแอฟริกาใต้
ที่โรงพยาบาล Groote Schuur ได้ตั้งข้อสังเกตว่า 
" พวกรัสเซียสามารถทำได้ เราก็ทำได้เช่นกัน ”
ในบ่ายวันเดียวกันนั้นเอง ท่านได้ทำการทดลองอีกครั้ง
โดยย้ายหัวหมาไปไว้ที่หมาตัวอื่น 
หมารอดชีวิตได้หลายวันเลยทีเดียว

Christiaan Barnard  ได้ทำการปลูกถ่ายหัวใจมนุษย์
ที่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในโลก
จากหัวใจของคนตายเพราะอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ
 
ในปี 1997 หนึ่งปีก่อนการเสียชีวิตของ 
Vladimir Petrovich Demikhov 
Christiaan Barnard ได้เขียนจดหมาย
ถึงเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของท่านว่า
ความสำเร็จของท่านนั้น
มาจากผลการทดลองก่อนหน้านั้น
ของ Vladimir Petrovich Demikhov
ที่คู่ควรจะได้รับเกียรติยศดังกล่าว

“ ท่านเป็นคนที่มีความรู้ที่โดดเด่นอย่างแน่นอน
หลังจากทำการวิจัยทั้งหมดก่อนนี้
เกี่ยวกับการไหลเวียนของโลหิตนอกร่างกาย
ผมยืนยันเสมอมาว่า หากมีบิดาแห่งการปลูกถ่ายหัวใจและปอด
Vladimir Petrovich Demikhov
ก็สมควรได้รับตำแหน่งนี้อย่างแน่นอน ”
จดหมายของ  Christiaan Barnard

แม้ Vladimir Petrovich Demikhov 
จะมีส่วนร่วมในวิทยาศาสตร์การแพทย์น้อยมาก
ทำให้มีผู้คนน้อยมากที่จดจำความสำเร็จของท่าน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในประเทศรัสเซียของท่านเอง
คุณค่าที่แท้จริงของการทดลองของท่าน
เพิ่งจะได้รับการยอมรับจากรัฐบาลรัสเซีย
หลังบั้นปลายชีวิตของท่านแล้ว
โดยในปี 1998 ทางการรัสเซียมอบรางวัล
Order for Services for the Fatherland
ให้กับท่านก่อนที่ท่านจะตายในปลายปีนั้น
 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Classical Conditioning - Ivan Pavlov
.
ประวัติสังเขปของท่าน

Vladimir P. Demikhov เกิดวันที่ 18 กรกฏาคม 1916
ครอบครัวเป็นชาวนาทาสที่ดินอยู่ทางตอนเหนือของเขต Russia's Volgograd
Demikhov Peter Yakovlevich พ่อของท่านถูกฆ่าตายในช่วงสงครามกลางเมืองในปี 1919
(หลังการปฏิว้ติรัสเซียที่เริ่มปี 1917 ตามมาด้วยการรบระหว่างฝ่ายขาวนิยมเจ้ากับฝ่ายแดงนิยมคอมมิวนิสต์)
พ่อท่านตายตอนที่ท่านอายุได้ 3 ขวบ ทำให้แม่ท่านต้องเลี้ยงดูท่าน น้องชายและน้องสาว
Domnika Alexandrovna แม่ของท่านส่งเสริมการศึกษาของลูก ๆ ทุกคน
ท่านเริ่มสนใจระบบไหลเวียนของเลือดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตอนวัยเด็ก
เพราะได้รับแรงบันดาลใจจากการทดลองของ Ivan Pavlov ที่ทดลองกับหมา
(สั่นกระดิ่ง หมาน้ำลายไหล เพราะมีอาหารล่อ ไม่สั่นกระดิ่ง หมาเฉย ๆ)
เมื่อท่านออกจากโรงเรียนในปี 1931
โรงงาน Stalingrad Tractor Plant  คือที่ทำงานแห่งแรกของท่าน
ท่านทำหน้าที่เป็นช่างกลและช่างซ่อมบำรุง

ในปี 1934 ท่านเริ่มเข้าเรียนที่ Voronezh State University
ในปี 1937 ท่านประดิษฐหัวใจเทียมเครื่องแรกของโลกที่ใช้กับหมา
ซึ่งหมามีชีวิตอยู่ได้ถึง 2 ชั่วโมงภายหลังปลูกถ่ายอวัยวะ
ผลงานวิจัยที่ล้ำยุคล้ำสมัยครั้งนี้ ได้รับการตีพิมพ์ในเดือนเมษายน 1938
ในวารสารของนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ท่านเรียน
และมีการนำเสนอต่อบรรดานักศึกษาในงานประชุมทางวิทยาศาสตร์ในเดือนต่อมา
ต่อมา ท่านย้ายไปเรียนต่อที่ Biology Faculty of Moscow State University
มหาวิทยาลัยแห่งแรกของรัสเซียตั้งขึ้นในปี 1755 
จากความคิดริเริ่มของ Mikhail Lomonosov
ท่านเขียนเกี่ยวกับผลงานวิทยาศาสตร์เรื่องแรก
และได้รับปริญญาบัตรเกียรตินิยมในเดือนสิงหาคม 1940

ในเดือนมิถุนายน 1941
หลังจากท่านสำเร็จการศึกษา  ท่านถูกเกณฑ์เข้ารับรัฐการทหาร
และเป็นทหารกองทัพแดง (ซึ่งกำลังรบกับนาซีเยอรมัน)
หลังจากสหภาพโซเวียตรัสเซียชนะนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1945
ท่านต้องย้ายไปประจำแนวหน้าในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชและอายุรเวช 
และประจำการที่จีน หลังจากที่สหภาพโซเวียตประกาศสงครามกับญี่ปุ่นในปี 1945
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลงพร้อมกับชัยชนะของสหภาพโซเวียต
ท่านปลดประจำการกลับบ้านพร้อมกับเหรียญกล้าหาญ 

ในเดือนสิงหาคม 1946
Vladimir Petrovich Demikhov แต่งงานกับ Lia Nikolayevna
ทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างยาวนานถึง 52 ปี
มีบุตรสาวชื่อ Olga Demikhov เกิดวันที่ 16 กรกฏาคม 1947

ในตอนต้นปี 1950  ท่านได้พาแม่มาอยู่กับครอบครัวท่านด้วย
จนกระทั่งในปี 1972 แม่ท่านจึงเสียชีวิต
ก่อนหน้านี้ทั้งสี่คนต่างพักอาศัยในห้องพักขนาดย่อม 2 ห้อง
ท่านมตะในอพาร์ทเมนต์ขนาดเล็ก ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 1998

Clarence Walton Lillehei
หนึ่งในศัลยแพทย์โรคหัวใจที่มีชื่อเสียงมากกล่าวว่า
"  บางคนมองเห็นทุกอย่าง อย่างที่เคยเห็นแล้วตั้งคำถามว่า  ทำไปทำไม
บางคนฝันเห็นทุกอย่าง  อย่างที่ไม่เคยเห็นแล้วตั้งคำถามว่า  ทำไมไม่ทำ
นี่คือ สิ่งเราสามารถสรุปได้เกี่ยวกับชีวิตขั้นเทพของ  Vladimir Demikhov "

เรียบเรียง/ที่มา

https://bit.ly/3d2a3ho
https://bit.ly/2Y0zdJh
https://bit.ly/3fqkf5g
https://bit.ly/2MVZ2Ur
https://bit.ly/2UICmex
.





แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่