พูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จังหวัดที่เราจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ ก็คงไม่พ้นจังหวัดสุพรรณบุรี
พื้นที่มีความสมบูรณ์ ทุ่งนาสีเขียวมองไปแล้วสบายตา นอกจากทุ่งนาสีเขียวที่มีความสวยงามสบายตาแล้ว
ที่นี่ยังมีอีกมุมที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด คือการท่องเที่ยวใน "ชุมชนบ้านต้นตาล"
ชุมชนที่ทำให้หัวใจอิ่มเอมถ้าอยากรู้ว่าเป็นขนาดไหนอย่ารอช้าตามมาเลย...
เราเริ่มต้นกันตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเดินทางไปยังชุมชนบ้านต้นตาล ตั้งอยู่ตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ออกจากกรุงเทพ
ตามถนนหมายเลข 3422 ประมาณ 20 กม. จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสู่จ.สุพรรณบุรี สังเกตป้าย อ.สองพี่น้อง ให้เลี้ยวซ้าย แล้วไปต่ออีก 5 กม.
เจอไฟแดงให้เลี้ยวขวา ก็จะถึงละจ้า
ทริปนี้เริ่มกันที่ บีอินดี้ คันทรี ฟาร์ม “ไข่ไก่ปลอดสาร” ที่ฟาร์มนี้เขาเป็นการทำเกษตรแบบยั่งยืน โดยสร้างความสมดุลซึ่งกันและกัน
ระหว่างธรรมชาติ เลี้ยงไก่โดยเน้นที่สารอาหารที่แม่ไก่ได้รับ มีความปลอดภัยทางด้านยาปฏิชีวนะ และปลอดภัยจากเชื้อแบคทีเรีย
เพื่อให้ได้ไข่ไก่ที่มีคุณภาพส่งต่อถึงผู้บริโภค
มีเครื่องการันตรีเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยได้ใบรับรองจาก NFI ว่าเป็นไข่ปลอดสารพิษ ยังส่งขายให้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดัง 27 สาขา ทั่วประเทศ
แถมยังเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับเกษตรกรที่สนใจ แค่ได้ยินก็อยากลิ้มลองเลยใช่ไหมล่ะ
การเลี้ยงแบบสร้างความสมดุลซึ่งกันและกันระหว่างธรรมชาติ
ไข่มีการแยกชั้นอยากสวยงาม บอกเลยว่ากินสดๆ อร่อยมาก
จากที่เราไปดู ฟาร์มไก่แล้ว เราก็มากันต่อที่ ตลาดน้ำสะพานโค้ง ตลาดน้ำวิถีชมชุม ริมคลองสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง ทางข้ามเป็นสะพานไม้เก่าแก่ริมคลองสองพี่น้อง โดยสร้างเชื่อมโยงสองฝั่งคลองสองพี่น้อง ระหว่างศูนย์หัตถสานบ้านต้นตาล กับสะพานโค้ง 100 ปี วัดทองประดิษฐ์นั่นเอง
ไฮไลท์เด็ดสุดๆ คือ "สุ่มปลายักษ์" เอกลักษณ์อันโดดเด่นของคนท้องทุ่งนาเมืองสุพรรณมีวิถี สุ่มปลายักษ์นี้เกิดจากชาวบ้านช่วยกันสร้างขึ้น
จนเกิดเป็นแลนด์มาร์คขนาดใหญ่
รายล้อมไปด้วยทุ่งดอกบัวแดง ที่ออกดอกบานสะพรั่งตลอดทั้งปี สามารถขึ้นไปชมวิว และถ่ายรูปสวยๆ ได้แบบ 360 องศา
แถมยังไม่ตลาดน้ำให้ได้ ช้อป ชิม อย่างเต็มที่ ทำให้เราได้เห็นชาวบ้านที่ร่วมมือร่วมใจกัน
พัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น คงความเป็นเอกลักษณ์ ยึดหลักชุมชนยังยืน
ปลาแดดเดียว อีกหนึ่งอย่างที่ต้องซื้อติดไม้ติดมือ
ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น คือ "ปลาหม่ำ" ของขึ้นชื่อของที่นี้อีกหนึ่งอย่าง
พลาดไม่ได้ต้องกิน ก๋วยเตี๋ยวที่ผักเก็บใหม่ๆสดๆ กันเลย
หลังจาก ชิม ช๊อป เที่ยว กันจุใจแล้ว เราก็มาต่อที่ “เรือนมะลิวัลย์” บ้านหัตถกรรมไม้จิ๋ว เป็นทั้งแหล่งการเรียนรู้สำหรับใครที่สนใจการทำ
สิ่งประดิษฐ์จิ๋ว ต่างๆ ที่ทำจากไม้
ที่มียังมีที่พักไว้รองรับแขกนักท่องเที่ยวที่สนใจจะมาสัมผัสบรรยากาศวิถีชาวบ้าน ท่ามกลางท้องทุ่งนาเขียวขจี อากาศเย็นสบาย
แบบเป็นกันเอง ที่นี้มีห้องพักจำนวน 2 ห้อง ใหญ่ อยู่ได้ห้องละ 6-10 คน ราคาห้องละ 1,000 บาท ถือว่าไม่แพงเลย
ใกล้ๆ โฮมสเตย์บ้านมะลิวัลย์ เรายังไปชมกับบรรยากาศแบบลูกทุ่งที่ หอเอนเมืองเหน่อ หรือ หอชมทุ่งบ้านต้นตาล เป็นอีกจุดชมวิวคู่กันของสุ่มปลายักษ์
มาเที่ยวสุ่มปลายักษ์แล้วก็ต้องแวะมาหอชมทุ่งแห่งนี้ ตั้งตระหง่านอยู่กลางบึงน้ำขนาดใหญ่ รายล้อมด้วยผืนนาเขียวขจีกว้างสุดลูกหูลูกตา
มองเห็นต้นข้าวพลิ้วไหวตามแรงลม
บรรยากาศสุดจะบรรยายมันดีมากๆ หลับตาฟังเสียงลม ทำให้เรามีจิตใจที่เงียบสงบ และได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง มากขึ้น
ถือว่าเป็นการชมบรรยากาศที่คุ้มค่าจริง
เผลอแปบเดียวเวลา ก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเวลาสั้นๆ แต่มันก็นานพอที่จะทำให้เราตกหลุมรักที่แห่งนี้ การได้มาสัมผัสวิถีชีวติที่นี่ทำให้เราชุ่มชื่นไปด้วยน้ำใจ และเปี่ยมล้นไปด้วยภูมิปัญญาของชาวบ้านที่น่าเรียนรู้ และรักษาไว้ จนเราต้องขอว่าเพื่อนๆ ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วจะรู้ว่าชุมชนต้องเที่ยวในเมืองไทยยังมีอีกมากมายให้ได้สัมผัส จังหวัดสุพรรณบุรี ใกล้แค่นี้เอง อย่ามัวแต่ช้าหาเวลาพาตัวเองไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เที่ยวที่ใหม่ๆ เพื่อชาร์ตแบตให้กับตัวเองกันซักหน่อยดีกว่า
[SR] 1 วันเที่ยววิถีชุมชนใกล้กรุงที่ "ชุมชนบ้านต้นตาล"
เพื่อให้ได้ไข่ไก่ที่มีคุณภาพส่งต่อถึงผู้บริโภค
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้