เมื่อปลายปีที่แล้ว ผมไปเที่ยวเกาะกูดกับเพื่อนอีก 1 คน จองที่พักไว้ริมหาดแห่งหนึ่ง เป็นบ้านชั้นเดียว 1 เตียง จำนวน 2 คืน พอไปถึงที่พักปรากฏว่าได้เป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นขึ้นมาเล็กน้อย มี 2 ห้อง ห้องละ 2 เตียง สามารถนอนได้ถึงห้องละ 4 คน พนักงานที่พาไปส่งก็ไม่ได้พูดอะไร ผมก็ไม่ได้ถาม แต่ผมกับเพื่อนก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะยังจ่ายราคาเดิม ส่วนอีกห้องที่อยู่ติดกันไม่มีแขกเข้าพัก ตัวที่พักจะอยู่บนเนินเขา ด้านหน้าเป็นวิวทะเล หน้าบ้านที่ผมพักจะเป็นลานหญ้าไม่กว้างมาก ซึ่งมีเต้นท์ของพนักงานกางอยู่ 2 หลังสำหรับให้พนักงานนอนตอนกลางคืน

คืนแรกผมกับเพื่อนนอนกันคนละเตียง เหตุการณ์ปกติ เช้าก็เช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ไปเที่ยวกันบนเกาะ ไปเกือบทุกที่ที่มีอยู่ในแผนที่เที่ยวเกาะกูด ทะเลและหาดสวยมาก น้ำตกก็สวย ป่าไม้ที่นั่นยังคงสมบูรณ์ สถานที่หนึ่งที่เราไปเที่ยวเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์บนเกาะ (ขอไม่ระบุว่าเป็นที่ไหนนะครับ) ซึ่งตั้งอยู่กลางป่า แต่มีทางรถเข้าถึงได้ ช่วงที่เราไปถึงเป็นช่วงเที่ยง แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยสักคน บรรยากาศในป่ามันก็วังเวงน่ากลัวพอสมควร แต่ที่ทำให้ขนลุกมาก ๆ คือ สิ่งที่เราไปดูแลเครื่องเซ่นไหว้ของบูชาทั้งหลายที่อยู่โดยรอบ โดยเฉพาะชุดไทยที่ถูกแขวนไว้ ทั้งผมและเพื่อนต่างรู้สึกถึงบรรยากาศความน่ากลัว อึดอัด อยากออกมาเร็ว ๆ แต่ต่างคนต่างเงียบไม่พูดอะไร เดินดูอยู่เพียง 2 - 3 นาที ก็ยกมือไหว้ลากลับกันออกมา แล้วไปเที่ยวที่อื่นต่อจนถึงเย็น

ตอนหัวค่ำเราออกไปกินข้าว และซื้อเบียร์มานั่งกินกันหน้าห้อง 2 ขวด ราว 3 ทุ่มก็เข้าไปอาบน้ำนอน ผมปิดไฟหน้าบ้าน เพราะไม่อยากให้แสงเข้ามาในห้อง ส่วนไฟในห้องยังเปิดสว่าง ผมนอนได้สัก 2 - 3 นาที ก็ได้ยินเสียงเคาะกระจกหน้าต่างเบา ๆ 1 ครั้ง ผมซึ่งนอนเตียงริมหน้าต่างก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าคงเป็นจิ้งจกหรือลมพัดอะไรมากระทบกับหน้าต่าง หรือหมาแมวขึ้นมาหาเศษอาหารกิน แต่เสียงเคาะมันก็ยังดังเป็นระยะ บางครั้งก็เบา บางครั้งก็หนักเหมือนคนใช้นิ้วเคาะ ผมหันไปพูดกับเพื่อนว่าเสียงอะไร เพื่อนก็บอกว่าไม่รู้ ผมเลยลุกไปเปิดไฟหน้าบ้านแล้วเปิดม่านหน้าต่างดูว่ามีอะไรข้างนอก ก็ไม่พบอะไร หมา แมว จิ้งจก หรือแม้แต่ลมก็ไม่มี ผมยืนมองดูอยู่ประมาณ 1 นาที ระหว่างนั้นเสียงเคาะมันหายไป ก็เลยไม่คิดอะไรกลับมานอนต่อ แต่คราวนี้เปิดไฟหน้าบ้านไว้ พอกลับมานอนได้สัก 2 - 3 นาที เสียงมันก็ดังอีก ผมก็ลุกไปแหวกม่านดูอีก ก็ไม่มีอะไร คิดว่าถ้าเป็นจิ้งจกมันก็ไม่น่าจะหนีเร็วขนาดนั้น แต่ก็ยังไม่คิดไปถึงสิ่งลี้ลับ เพราะผมไม่เคยเจอ พอกลับมานอนได้อีกแป๊บนึงเสียงมันก็ดังขึ้นอีก คราวนี้ผมกับเพื่อนหันมองหน้ากันต่างคนต่างรู้ความคิดของอีกคน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ผมเลยย้ายไปนอนเตียงเดียวกับเพื่อน เสียบหูฟัง จนหลับไปตอนไหนไม่รู้

หลังจากกลับมา ผมก็ยังสงสัยว่าเสียงนั้นมันเกิดจากอะไร ตอนแรกผมให้น้ำหนักไปทางจิ้งจกมากที่สุด แต่ก็ไม่เห็นตัวเป็น ๆ เลยไม่อยากฟันธง ส่วนเรื่องสิ่งลี้ลับ ผมไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่เพราะไม่เคยเจอมาก่อน เลยขอจัดให้เป็นสมมติฐานสุดท้าย และผมก็ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับบนเกาะกูดในเน็ต มันก็มีอยู่เพียงเรื่องเดียว ซึ่งอ่านแล้วคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องแต่งมากกว่าเรื่องจริง

จนวันนี้ เพื่อนที่ไปเที่ยวกับผมในวันนั้น ถามผมว่า คิดว่าเสียงที่ได้ยินคืนนั้นมาจากอะไร ผมบอกว่าน่าจะเป็นจิ้งจก เพื่อนบอกว่าจิ้งจกไม่น่าจะทำให้กระจกเกิดเสียงดังได้ขนาดนั้น โดยส่วนตัวเขาคิดว่าน่าจะมาจากสิ่งที่อยู่กลางป่าที่เราไปดูตอกลางวัน อาจจะมีบางอย่างตามมา ผมได้ฟังแล้วขนลุก ยิ่งคิดถึงบรรยากาศตอนไปอยู่ตรงนั้นก็ขนลุกทุกครั้ง และแอบคิดเหมือนกันว่าอาจจะเป็นไปได้ เพราะคืนแรกเหตุการณ์มันปกติดี อีกอย่างที่ชวนให้คิดคือ บ้านหลังที่เราพักมันมีอะไรแปลก ๆ หรือเปล่า เพราะได้ห้องไม่ตรงกับที่จองไว้ แถมห้องข้าง ๆ ยังไม่มีแขกมาพักทั้งที่เป็นช่วงวันหยุด หรือจริง ๆ แล้วมันไม่มีอะไรเลย แล้วเสียงเกิดจากอะไร?

ผมเลยอยากถามสมาชิกพันทิปที่เคยไปเที่ยวเกาะกูดว่าเคยเจอเหตุการณ์อะไรแปลก ๆ ที่นั่นกันบ้างมั้ยครับ