หนังชีวประวัติคนดังส่วนใหญ่มักจะเล่าด้วยทีท่าจริงจังเคร่งขรึม ขับเน้นดราม่าในชีวิตให้เข้ากับผลงานอันยิ่งใหญ่ ทว่ากับ Wild Nights with Emily หนังชีวิตประวัติของ Emily Dickinson กวีหญิงชาวอเมริกันผู้โด่งดังนั้นมีรสชาติที่แปลกออกไป ด้วยทีท่าแสนผ่อนคลาย เหยาะเสียงหัวเราะและรอยยิ้มตลอดเวลา พรั่งพร้อมด้วยเรื่องชุลมุนชวนขัน พร้อมๆ กับนำเสนอผลงานของ Emily อย่างรื่นรมย์ ทั้งที่จริงแล้ว ชีวิตของ Emily นั้นดราม่าหนักหนามากทีเดียว

.
Emily Dickinson ตกหลุมรัก Susan เพื่อนสาวคนสนิทมาตั้งแต่เข้าสู่วัยสาวแรกรุ่น แต่แล้ว Susan กลับเลือกแต่งงานกับพี่ชายของ Emily โดยให้เหตุผลว่า นี่คือหนทางในการคงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้แนบชิดสนิทสนมกันได้ เพราะ Susan ก็จะย้ายมาอยู่บ้านข้างๆ Emily และสามารถลอบนัดพบกันได้โดยไม่มีใครสงสัย นอกจากนี้ Susan ยังช่วยวิจารณ์และสนับสนุนงานกวีของ Emily ได้ง่ายขึ้นด้วย และถึงแม้ว่าทั้งคู่จะอยู่บ้านติดกันแบบไม่มีรั้ว แต่ Emily ก็มักจะเขียนทั้งจดหมายและบทกวีส่งให้ Susan เสมอ (บ้างก็เดินมายื่นให้อ่าน บ้างก็ฝากลูกๆ ของ Susan เป็นคนเดินจดหมาย) แล้วความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดำเนินไปเช่นนั้น จนเข้าสู่วาระสุดท้ายของชีวิต โดยที่ Emily ไม่ได้มีโอกาสเห็นความสำเร็จของผลงานตัวเองในวงกว้าง และแม้เมื่อผลงานของเธอจะโด่งดังแบบข้ามทวีปในภายหลัง ก็ไม่มีใครรู้ว่าบทกวีเหล่านั้นถูกเขียนถึงให้ Susan ต้องรออีกหลายสิบปี ถึงได้มีการพิสูจน์ได้ว่า มีการลบชื่อของ Susan ออกจากบทกวีและจดหมายของ Emily หลายร้อยฉบับ!

.
ชอบความสัมพันธ์ของ Emily กับ Susan ในหนังมาก เพราะมันไม่ได้โรแมนติกหวานหยดย้อยจนเลี่ยน แต่ในความสัมพันธ์เกือบทั้งชีวิตของทั้งคู่นั้นมีช่วงพ่อแง่อนจนไม่คุยกันหลายปี มีความหึงหวงและง้องอนกัน ไปจนถึงประคับประคอง สนับสนุนชีวิต ครอบครัว และหน้าที่การงานกันยิ่งกว่าคู่รักคู่ไหนๆ มันเป็นความสัมพันธ์แสนพิเศษ ที่ถึงจะครอบครองหัวใจกันและกัน แต่ก็ไม่ได้ครอบครองชีวิตกันแต่อย่างใด กระนั้น บทกวีแสนเร่าร้อน อ่อนหวาน และชุ่มฉ่ำไปด้วยแรงปรารถนาของ Emily ก็บ่งบอกถึงสิ่งที่อยู่ข้างในหัวใจเธอได้เป็นอย่างดี ถึงเราจะไม่ได้รู้จักกับ Emily Dickinson มาก่อน แต่ก็ปลื้มผลงานกวีของเธอมาก ยิ่งพอได้เห็นเบื้องลึกเบื้องหลังของการสร้างสรรค์ผลงาน ความพยายามต่อสู้กับกรอบของสังคมชายเป็นใหญ่ และความรักที่เธอมีให้ต่อ Susan แล้ว เราก็ยิ่งอยากอ่านงานของเธออีกเยอะๆ

.
มากไปกว่านั้น Wild Nights with Emily ยังทำให้เราคิดถึงวงการวรรณกรรม การสร้างสรรค์งานเขียน ชื่อเสียงเกียรติยศ ความสำเร็จ นักเขียนที่ตายจากไปก่อนผลงานจะโด่งดัง การตักตวงผลประโยชน์จากผู้ครอบครองลิขสิทธิ์ ไปจนถึงเรื่องน่าเศร้าของการขีดฆ่า บิดเบือน ลบล้างสิ่งที่อยู่ในผลงานดั้งเดิมของผู้สร้างสรรค์ โดยที่เค้าไม่สามารถโต้แย้ง เรียกร้องอะไรได้เลย ... เศร้า!

.
Molly Shannon สร้าง Emily ในแบบที่เราต้องส่ายหัวให้กับความเพี้ยน ล้นๆ เกินๆ แต่ก็น่าเอ็นดูเธอเหลือเกิน ส่วน Susan Ziegler ก็มอบความอบอุ่นให้กับตัวหนังได้อย่างน่าประหลาด กลายเป็นว่าเคมีของสองนักแสดงทำให้ Wild Nights with Emily ดูน่าเชื่อในสายสัมพันธ์ได้อย่างงดงาม จนเราเลิกสนใจไปเลยว่า นักแสดงรุ่นเด็กของสองตัวละครนั้นมีรูปลักษณ์ที่ต่างจากรุ่นใหญ่มากแค่ไหน กระนั้นสองสาว Emily และ Susan วัยเด็ก (Dana Melanie และ Sasha Frolova) นั้นก็มีเสน่ห์และแรงดึงดูดทางเพศมากเลยนะ

.
เราได้ดู Wild Nights with Emily ในเทศกาลหนัง LGBT+ Film Festival 2019 ซึ่งจัดขึ้น Bangkok Screening Room และไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะมีโอกาสได้ฉายที่ไหนอีกไหม 

อ่านบทความอื่นๆ ได้ที่ เพจ ชีวิตผมก็เหมือนหนัง