ทำไมพ่อแม่ทั่วไปไม่เก็บออมเงินตั้งแต่ตอนหนุ่มสาวครับ ต้องรอให้ลูกมาทดแทนบุญคุณด้วยครับ

แล้วถ้าลูกไม่มีกำลังในการหาเงินมาทดแทนได้ คนรอบข้างจะมองอย่างไรครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
มีเพื่อนส่งมาให้อ่านค่ะ

“มี..ลูก แก่แล้ว
จะได้มีคนเลี้ยง”

เป็น..แนวความคิด ที่สืบทอดมาแต่..โบราณ
และเป็น..
ปรากฏการณ์..
ทาง..สังคม
ที่เกิดขึ้น..จริง
แต่..ในปัจจุบันนี้ เห็น..
มี..ข่าวรายงานมากมาย...

"..คนชรา..
เข้ากับครอบครัว
ไม่..ได้ "

คุณคิดว่า..
คำพูด..นี้
ยังใช้ได้..ไหม?”

เรื่องราวของ.. คุณพ่อ..คนหนึ่ง ที่ภรรยาเสียชีวิตไป..นานแล้ว
เขาต้อง..หาเงิน เลี้ยง..ลูกชายตั้งแต่อายุสี่ขวบ จน..โต

ลูกชายคนเดียวคนนี้ ก็เป็น..
เด็ก..เรียบร้อย เชื่อฟัง..
คำสอนของเขา
..ตั้งแต่เด็ก
พอ..ลูกโต
เขาก็ส่งไปเรียน
ที่..อเมริกา

...แต่พอลูกเรียนจบ ก็..อยู่ทำงานต่อ ที่..อเมริกาหาเงิน..ซื้อบ้าน แต่งงานกับหญิงอเมริกัน และ..
มีลูกชายหนึ่งคน สร้าง..ครอบครัว
ที่..แสนสุข

คุณพ่อ..ของลูกชาย..คนนี้ ตัดสินใจ..
จะย้ายไปอยู่
กับ..ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลาน ที่..อเมริกา
หลังจาก..
ปลดเกษียณ
จะได้..
มีความสุข..
ในบั้นปลายชีวิต

พอ..อีก 3 เดือนก่อนที่..เขาจะเกษียณ
เขาได้..เขียนจดหมายไปหา..ลูกชาย บอก..ความปรารถนานี้
กับลูกชาย ว่า..
ตัวเขา..เอง คิดถึง..ประโยคที่ว่า..
"มี..ลูก จะ..ได้มี
คนเลี้ยง..ดูแล ยาม..แก่ชรา"
เมื่อ คิดถึง.. สายตาอิจฉาของ..ญาติ ๆ และ..เพื่อนฝูง เขาคง..
มีความสุข..มาก

ระหว่าง..รอความฝัน หลังเวลา..เกษียณ
เขาก็ได้รับ..คำตอบ จาก.. จดหมายของลูกชาย ที่ส่งมาจากอเมริกา โดยมี..เช็คมูลค่า  สามหมื่นดอลล่าห์ แนบ..มาด้วย

เขารู้สึกแปลกใจมาก เพราะ.. ลูกชายเขา ไม่เคย..ส่งเงินให้เขา..มาก่อนเลย เขา..รีบเปิดอ่านจดหมายลูก

ใน..จดหมายเขียนว่า...
“พ่อ..ครับ
ผมกับเมีย ได้คุยกันแล้ว ตัดสินใจกันว่า..พวกเราไม่ยินดี..ให้พ่อมาอยู่ด้วยกัน กับ..พวกเรา ที่.. อเมริกา
...ถ้าพ่อคิดว่า.. พ่อมีบุญคุณ
ที่..เลี้ยงดูผมมา ผม..จึงคำนวณตาม..ราคาตลาด ก็ตกประมาณ 2 หมื่นกว่าเหรียญ ผมก็เลย..เพิ่มให้..นิดหน่อย แล้วส่งเช็ค 3 หมื่น มาให้พ่อ หวังว่า..ต่อไปนี้ พ่อจะไม่เขียนจดหมายมาอีก”

เขาอ่านจดหมายฉบับนั้น หลายรอบ..หลายจบ
น้ำตาไหลพราก รู้สึกว่า..ตัวเอง
ที่ยอม..เป็นม่ายมาตลอดชีวิตก็เพื่อจะได้รับสิ่งเช่นนี้เหรอ
..แล้วจากนี้ไป
เขาก็..จะต้องแก่อย่าง..โดดเดี่ยว

เขาเจ็บปวด จนไม่อยากมีชีวิตอยู่..อีกต่อไป
เวลาต่อมา..เขาก็ได้หันมาศึกษาและฝึกปฏิบัติตามคำสอนของศาสนา
..หลังจากนั้นทำให้เขาคิดได้ เขาใช้เงิน 3 หมื่นเหรียญ และเงินที่เก็บสะสมไว้ เอาไปเดินทางเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ได้เห็นสิ่งใหม่ มากมาย

หลังจากนั้น เขาจึงได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่ง ถึงลูกชาย

...ในจดหมาย บอกว่า..
“ลูпรัก ลูกไม่อยากให้พ่อเขียนจดหมายมาอีก ก็ถือซะว่า.. จดหมายฉบับนี้ เป็น.. ข้อความเพิ่มเติม จากฉบับที่แล้ว..ละกัน
..พ่อได้รับเช็คแล้ว และใช้เงินจำนวนนั้นไปหมดแล้ว

ระหว่างเดินทางไป..ท่องเที่ยว และ การไป.. ปฏิบัติธรรม
พ่อ..ก็รู้สึกว่า พ่อ..ควรขอบใจลูก
ขอบใจ ที่.. ทำให้พ่อ..
เห็น..อะไร
ทะลุ..ปรุโปร่ง ปล่อยวาง
..ทำให้พ่อ..
ได้เห็นว่า..
ความสัมพันธ์.. ใน..ครอบครัว เพื่อน และคนรัก ไม่มีรากหยั่งลึก มันเปลี่ยนแปลงได้..เสมอ

ถ้า..วันนี้
พ่อยังคิดไม่ตก ยัง..ยึดติด
ยังทุกข์..อยู่
พ่อคง..
ตายไปนานแล้ว

การปฏิเสธของลูก ทำให้..พ่อได้เห็นว่า..

'คนเรา"
มี..วาสนา
ก็ได้..เจอ

หมด..วาสนา
ก็..จากกัน

..ทุกอย่าง..
ไม่..เที่ยงแท้..

ทำให้พ่อ..
เรียนรู้ที่จะ.. สงบและใจเย็น มอง..ทุกอย่างใน..เชิงบวก

พ่อถือว่า..
พ่อไม่มีลูกแล้ว พ่อจึงไม่มีอะไรให้..เป็นห่วง เพราะงั้น..พ่อถึงสามารถ..อยู่ได้โดย..ไม่มีมัน

...@@@...

โอ้..
“..พ่อ แม่..
ที่..น่าสงสาร”

..คนเป็นพ่อแม่.. อยากมอบ..
สิ่งที่..ดีที่สุด
ให้..ลูก

..แต่..
สุดท้ายแล้ว..
สิ่งที่..ได้รับ
กลับ..ไม่ใช่
สิ่งที่..ดีที่สุด

มีคนกล่าวไว้ว่า..

"บ้านของพ่อแม่คือ..บ้านของลูก
..ตลอดเวลา

แต่..บ้านของลูกไม่เคยเป็น..
บ้านของพ่อแม่"

การให้กำเนิดลูกเป็น..
*งานที่ต้องทำ*

การเลี้ยงดูลูกเป็น..
*ภาระหน้าที่*

การพึ่งพาลูกเป็น..
'ความเข้าใจผิด'

ช่างเป็นเรื่องราวที่..ไม่น่าฟัง
แต่..
ไม่ฟัง ก็..ไม่ได้
แม้ว่า..
ไม่ใช่'ลูกทุกคน'
จะเป็น..
เหมือน..ลูกชายที่..ไม่มีหัวใจ
ตาม..เรื่องนี้

แต่..คน
เป็นพ่อ เป็นแม่ ไม่ควรคิดว่า..
*แก่..แล้วจะ..พึ่งพาลูก*

พูดกัน..ตามตรง *แก่..แล้ว
ต้องดูแลตัวเอง*

ลูก..
กตัญญูต่อ..คุณถือเป็น..บุญ

ถ้า..ลูก
กตัญญู..ไม่พอ พ่อแม่ก็..
บังคับ..ไม่ได้

วิธี..ที่ดีที่สุด
คือ..
วางแผนชีวิต
จะขอ..พึ่งพาตัวเอง..ตอนแก่

จาก..มุมมองของ..สังคม

...'การ..มีลูก
จะได้มี..คนเลี้ยงตอน..แก่'
ควรเป็น..
ความปรารถนา..
ในใจ..เท่านั้น

แต่..
ใน..ยุคปัจจุบัน เศรษฐกิจ สังคม วัตถุนิยม และ.. วิถีแห่ง..การดำเนินชีวิต
ที่..เปลี่ยนไป

...สถานการณ์..
ใน..ปัจจุบัน
คือ..
คน..ยุคใหม่ เปลี่ยนไป..แล้ว
แต่...
คน..อายุมาก
ยัง..ยึดติด

การที่..
คนอายุมาก
ยึดแนวความคิด ว่า..มีลูก จะได้มีคนเลี้ยงตอนแก่
...ไม่เหมาะสม... กับ..ยุคนี้
อีก..ต่อไป


ส่วนตัวเองตอนนี้ส่งลูกเรียนจบ ทำงาน ค่าใช้จ่ายในส่วนของลูกๆ ค่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล ก็กลายมาเป็นเงินเก็บของเราค่ะ  

พยายามหาทางเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองมาโดยตลอด จนพอมีเงินเก็บไว้ดูแลตัวเองกับสามีโดยไม่ต้องพึ่งลูกค่ะ   ลูกๆถ้ามีสิ่งที่จำเป็นในเรื่องเกี่ยวกับการเงินเราก็ยังเป็นที่พึ่งพาให้กับลูกได้  ลูกๆทำงานกันแล้วให้เงินแม่ทุกเดือนเป็นค่าใช้จ่ายตั้งแต่เดือนแรกที่ลูกได้เงินเดือน ลูกมาขอเลขที่บ/ชธนาคารเราๆไม่บอก  บอกลูกเก็บเงินเดือนไว้ไม่ต้องให้แม่ ลูกเลยโอนเงินให้เราทางพร้อมเพย์เบอร์มือถือค่ะ

ลูกชายคนโตได้ทุนเรียนต่อแต่เงินเดือนที่ได้จากทุนไม่พอมาขอแม่ให้แม่ช่วยเราก็ช่วยค่ะ  
แต่ก่อนจะเรียนลูกเดินมาหาเรา  บอกแม่ลูกจะบวชให้แม่ก่อนเรียนให้แม่และลูกก็ได้บวชให้พ่อ แม่ เรียบร้อยแล้วค่ะ
ความคิดเห็นที่ 2
เลี้ยงเด็กคุณภาพปานกลางตั้งแต่ทารก-วัยทำงาน ก็หมดอย่างน้อย 1-2ล้าน แล้วครับ นี่ยังไม่นับค่าเสียโอกาสด้านเวลาเลยนะ
ความคิดเห็นที่ 4
พ่อแม่ตอนหนุ่มสาว หาเงินได้ หมดไปกับค่าใช้จ่ายลูก ยิ่งมีลูกหลายคนยิ่งเยอะ
เด็กทารกเกิดมาแล้ว 6 เดือนแรกช่วยตัวเองไม่ได้ 100% คลานยังไม่ได้เลย
ต้องดูแลทั้งกลางวันกลางคืน กินก็ร้อง ฉี่ก็ร้อง ไม่เป็นอันต้องทำงาน
แต่มนุษย์เราก็แปลก ตอนเป็นทารก พ่อแม่ลำบากแค่ไหน จำความไม่ได้แล้ว
จำความได้ก็อายุหลายขวบแล้ว
ส่วนลูกไม่มีกำลังในการหาเงินมาทดแทน ก็ไม่ต่างจากพ่อแม่ต้องใช้จ่ายเพื่อลูก
ในวันเด็กจนไม่มีเงินเก็บนั่นแหละ

ตอนพ่อแม่มีลูกส่วนใหญ่อยู่ในวัยไม่เกิน 35
อยู่ในช่วงของการสร้างฐานะ พอมีพอใช้เป็นส่วนใหญ่
คิดว่ารายได้อนาคตคงมีมากขึ้น พ่อแม่น้อยมากมีลูกเพื่อคิดพึ่งพา
ฝากแบงค์ไว้ดีกว่า คนรุ่นหลังจึงมีลูกน้อยลง

พออายุมากขึ้น หลายคนก็มั่งคั่งขึ้น หลายคนก็ยากจนลง
หรือมีปัญหาสุขภาพ มีรายได้ลดลง

การตอบแทนบุญคุณเป็นจิตสำนึก
ผมหาเงินได้เยอะ แต่สิ่งที่ไม่ค่อยได้ให้พ่อแม่ คือ ไม่ค่อยมีเวลาดูแล
ต่อพ่อแม่เจ็บไข้ได้ป่วย ยังนึกเสียดาย
ความคิดเห็นที่ 6
เราว่า วัยทำงานยุคนี้จะมีส่วนหนึ่งที่ต้องแบกภาระของพ่อแม่ และตัวเองก็มีครอบครัวมีลูก แบกภาระ 2 ฝั่งแบนเป็นแซนวิชอยู่ตรงกลาง.. น่าเห็นใจ

ก็ดูตามความสมควร ลูกควรเลี้ยงดูพ่อแม่แต่ไม่ต้องเลี้ยงกิเลสของพ่อแม่ เพราะลูกเองก็มีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน
ความคิดเห็นที่ 12
ตอนผมมทำงานบริษัท ผมส่งเงินให้แม่เดือนละ 14,000-18,000 บาท ทุกเดือน มา 15 ปีเต็ม พอเงินเดือนออกปุ๊บ จะรีบโอนให้แม่ทันที ไม่เคยขาดเลย และเวลาไปทำงานกับลูกน้อง ผมเลี้ยงข้าวให้ลูกน้องประจำ ทุกวันนี้ผมตกงาน นั่งเล่นหุ้นอยู่บ้าน แต่เหมือนมีโชคลาภ เงินทอง พุ่งเข้ามาหาเองทุกวันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่