คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ผมมองแบบนี้นะครับ
- การรู้สึกสำนึกผิด เป็นสิ่งที่ดีครับ
เรียนรู้จากสิ่งผิด หาทางแก้ไข พัฒนาตน
เพื่อให้รอบคอบกับชีวิตมากขึ้น จะได้ทำผิดให้น้อยลง
- แน่นอนว่า การแสดงความขอโทษ
แสดงความสำนึกผิดต่อคนเหล่านั้น
เป็นเรื่องที่ควรทำเช่นกันครับ
แต่.. ถ้าตามหาคนเหล่านั้นไม่เจอ
(ไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่ หรือเสียชีวิตไปแล้ว)
จะทำยังไงดี??
ผมเสนอความเห็นแบบนี้ละกันครับ
ตอนนี้ ที่รบกวนจิตใจคุณ คือ ความคิดของตัวคุณเอง เป็นภาพจำของอดีต
และเอามาปรุงแต่งต่อเติม คิดย้ำๆ ซ้ำๆ
คุณก็ต้องรับมือกับความคิดของตัวเองครับ
ทำไงที่จะปล่อยวางความคิดนี้ คิดให้น้อยลง เลิกตอกย้ำซ้ำๆ ให้อภัยตัวเอง
เหล่านี้ ต้องหาทางครับ เพราะทำได้หลายอย่าง
เช่น ทำความดีอื่นๆ เพื่อชดเชยความรู้สึกผิดในใจ
หรือจะฝึกภาวนาก็ดี จะช่วยให้ปล่อยวางเรื่องความคิดฟุ้งซ่านได้โดยตรง
หรือ จะส่งจิตบอกกล่าว ไปยังคนเหล่านั้น (ไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว)
ขออภัยอย่างจริงใจ จะอุทิศบุญกุศลอะไรให้พวกเขา ก็ทำไปเถอะครับ
เค้าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เค้าจะได้รับหรือไม่ เราไม่ทราบได้
แต่ทำเพื่อความสบายใจของเรา เอา "กุศล" ไปถมทับ "อกุศล" ในใจ
มันเกิดผลดีต่อตัวคุณแน่ๆ
..... และวิธีอื่นๆ อีก มันทำได้หลายวิธีครับ
แต่ทั้งหมดนี้ คือ การบรรเทา "ความรู้สึกผิดในใจตัวคุณเอง" ครับ
เป็นสิ่งที่สมควรทำ ในเมื่อยังไม่ได้เจอคนเหล่านั้น แล้วขอโทษโดยตรง
ที่แนะนำแบบนี้ เพราะว่า หากวันนึง ใครทำผิดต่อใคร แล้วคนๆ นั้นไม่ได้อยู่ให้เจอ
ไม่ได้อยู่ให้ขอโทษ เราก็ต้องแบกความผิดไปชั่วชีวิตหรือ??
มองกว้าง ๆ จะเห็นว่า
1. มีสิ่งที่ต้องทำต่อตนเอง ต่อจิตใจตนเอง ซึ่งทำได้เลยครับ
ไม่ต้องรออะไร พิจารณาหาทางที่ทำแล้วสบายใจ ทำแล้วเกิดกุศลต่างๆ
ทำไปเลยครับ
2. สิ่งที่ต้องทำต่อคู่กรณี อันนี้ ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยต่างๆ ครับ
ถ้าพวกเขาไม่อยู่ให้เจอ ไม่รู้อยู่ไหน หรืออื่นๆ อันนี้ ก็สุดวิสัยครับ
ต้องทำใจปล่อยวางครับ
- การรู้สึกสำนึกผิด เป็นสิ่งที่ดีครับ
เรียนรู้จากสิ่งผิด หาทางแก้ไข พัฒนาตน
เพื่อให้รอบคอบกับชีวิตมากขึ้น จะได้ทำผิดให้น้อยลง
- แน่นอนว่า การแสดงความขอโทษ
แสดงความสำนึกผิดต่อคนเหล่านั้น
เป็นเรื่องที่ควรทำเช่นกันครับ
แต่.. ถ้าตามหาคนเหล่านั้นไม่เจอ
(ไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่ หรือเสียชีวิตไปแล้ว)
จะทำยังไงดี??
ผมเสนอความเห็นแบบนี้ละกันครับ
ตอนนี้ ที่รบกวนจิตใจคุณ คือ ความคิดของตัวคุณเอง เป็นภาพจำของอดีต
และเอามาปรุงแต่งต่อเติม คิดย้ำๆ ซ้ำๆ
คุณก็ต้องรับมือกับความคิดของตัวเองครับ
ทำไงที่จะปล่อยวางความคิดนี้ คิดให้น้อยลง เลิกตอกย้ำซ้ำๆ ให้อภัยตัวเอง
เหล่านี้ ต้องหาทางครับ เพราะทำได้หลายอย่าง
เช่น ทำความดีอื่นๆ เพื่อชดเชยความรู้สึกผิดในใจ
หรือจะฝึกภาวนาก็ดี จะช่วยให้ปล่อยวางเรื่องความคิดฟุ้งซ่านได้โดยตรง
หรือ จะส่งจิตบอกกล่าว ไปยังคนเหล่านั้น (ไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว)
ขออภัยอย่างจริงใจ จะอุทิศบุญกุศลอะไรให้พวกเขา ก็ทำไปเถอะครับ
เค้าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เค้าจะได้รับหรือไม่ เราไม่ทราบได้
แต่ทำเพื่อความสบายใจของเรา เอา "กุศล" ไปถมทับ "อกุศล" ในใจ
มันเกิดผลดีต่อตัวคุณแน่ๆ
..... และวิธีอื่นๆ อีก มันทำได้หลายวิธีครับ
แต่ทั้งหมดนี้ คือ การบรรเทา "ความรู้สึกผิดในใจตัวคุณเอง" ครับ
เป็นสิ่งที่สมควรทำ ในเมื่อยังไม่ได้เจอคนเหล่านั้น แล้วขอโทษโดยตรง
ที่แนะนำแบบนี้ เพราะว่า หากวันนึง ใครทำผิดต่อใคร แล้วคนๆ นั้นไม่ได้อยู่ให้เจอ
ไม่ได้อยู่ให้ขอโทษ เราก็ต้องแบกความผิดไปชั่วชีวิตหรือ??
มองกว้าง ๆ จะเห็นว่า
1. มีสิ่งที่ต้องทำต่อตนเอง ต่อจิตใจตนเอง ซึ่งทำได้เลยครับ
ไม่ต้องรออะไร พิจารณาหาทางที่ทำแล้วสบายใจ ทำแล้วเกิดกุศลต่างๆ
ทำไปเลยครับ
2. สิ่งที่ต้องทำต่อคู่กรณี อันนี้ ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยต่างๆ ครับ
ถ้าพวกเขาไม่อยู่ให้เจอ ไม่รู้อยู่ไหน หรืออื่นๆ อันนี้ ก็สุดวิสัยครับ
ต้องทำใจปล่อยวางครับ
แสดงความคิดเห็น
ขอสอบถาม วิธีแก้นิมิตกรรมที่ไม่ดีในอดีตผุดขึ้นมาหลอกหลอนครับ
เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วผมได้ก่อเรื่องขึ้นมาในคาบเรียนซึ่งผมก็ยอมรับผิดให้คือทำโทษต่อหน้าชั้นแล้ว แล้วปรากฏว่ามีเพื่อนนักเรียนหญิงเธอได้ด่าเสริมขึ้นมา ผมทั้งเจ็บทั้งอาย ที่โดนครูด่าแล้ว ใยมาด่า Gu เสริมได้อีก พอโดนด่าเสร็จก็เดินเข้าไปเตะหน้าเขาจนเลือดกำเดาไหล แต่เธอก็ไม่ตอบโต้อะไรได้แต่เพียงด่ากลับมาว่า เห็นหน้าซื่อๆนะเนี่ย ไม่นึกว่าจะร้ายขนาดนี้ แล้วก็โดนครูชำระโทษต่อ หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนไป เวลาเจอหน้ากันเธอก็จะเหน็บว่า เห็นหน้าซื่อๆนะเนี่ย ไม่นึกว่าจะร้ายขนาดนี้ ตลอดเวลา หลังจากนั้นกรรมก็สนองผม ผมได้ไปโดนแกงค์อันธพาลประจำโรงเรียน เตะหน้าเลือดกำเดาไหลแบบเดียวกับเธอเด๊ะ ๆ เลยครับ แล้วแถม เรื่องก็ได้กลายมาเป็นตราบาปในชีวิตของผมอีก
จนวันเลี้ยงจบ ผมจะไปขออโหสิกรรมกับเธอ เธอก็หนี ไม่กี่ปีต่อมา ผมก็มางานเลี้ยงรุ่น เจอเธอก็ทัก นางก็สะบัดหน้าหนีเราไป ผมก็จนปัญญาไม่รู้จะทำอย่างไรดี เธอคงจะอายและเจ็บยิ่งกว่าผมอีก
แต่ขอนับถือน้ำใจที่เธอไม่ไปฟ้องผู้ปกครองเธอ ไม่งั้นก็คงบานปลาย เธอเป็นผู้หญิงน่ารัก มารยาทเพียบพร้อมไปทุกอย่าง แต่เราเป็นคนทำตำหนิให้กับเธอ
อีกราย
ผมได้ล่วงเกิน เพื่อนหญิง อีกคน ซึ่งเธอดีกับเรามาก แต่เราไปทำเรื่องสวะกับเธอ กล่าวคือ เธอทะเลาะกับเด็กผู้ชายคนนึง แล้วพลาดเขี้ยงของมาโดนหัวผมแตก จากนั้นเราก็ไปต่อยทุบตีนางทันที ไม่เข้าใจว่าทำไม ตอนนั้นไม่รู้ผีห่าตัวไหนสิงสู่ ผมทำเธอมากกว่าที่เธอทำผมซะอีก พอตั้งสติได้เห็นหน้านางช้ำก็สมเพชตัวเองจากใจ ถึงแม้จะขอโทษกันแล้ว นางก็เปลี่ยนไป ไม่นานนางก็ย้ายโรงเรียน ลือกันว่าเพราะผมเป็นเหตุ (เธอดีกับผมมากครับคนนี้ มีอะไรก็ช่วยตลอดก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไปทำแบบนั้นกับนางได้)
และผมมักจะเห็นเธอ 2คน นี้ มาปรากฏตัวในนิมิต เวลาทำสมาธิ อีกคนก็จ้องด้วยความแค้นเคือง ความผิดหวังในสิ่งที่ผมทำกับเธอ
ไม่ทราบว่าพอจะมีท่านใดชี้ทางสว่าง ให้ผมได้มั๊ยครับ ขอบพระคุณครับ