ในเมืองท่าเล็กๆ ชื่อว่าองซาน มีถนนเส้นสำคัญเรียกกันว่า ถนนสายปูดอง ตลอดทั้งถนนเต็มไปด้วยร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านขายปูดองอันเป็นผลิตผลขึ้นชื่อของเมือง ในชุมชนเล็กๆ ที่ทุกบ้านล้วน รู้นอกรู้ในกันยิ่งกว่าญาติสนิท บางเรื่องไม่อยากให้ใครรู้ แต่ก็ไม่เคยรอดสายตาของประชาคมปูดองไปได้ ราวกับว่ามีเวลาว่างเหลือเฟือทั้งที่จริงทุกชีวิตต่างดิ้นรนเพื่อเลี้ยงปากท้อง
ความซ้ำซากซังกะตายของชีวิตบนถนนสายปูดองเปลี่ยนเป็นกระตือรือร้นสนใจโดยไม่ต้องนัดหมาย เพราะการปรากฏตัวของผู้หญิงคนหนึ่ง อย่างไร้เงาผู้คุ้มครองติดตาม สาวสวยพร้อมเด็กน้อยในอ้อมกอด ที่มองอย่างไรก็ไม่ใช่คนถิ่นนี้ เธอมาพร้อมด้วยรถขนของคันใหญ่ ไม่ต้องถามก็เดาได้ว่าเธอจะย้ายเข้ามาอยู่บนถนนเส้นนี้
โกดังเก่าที่ไม่มีแม้แต่หน้าต่างสักบาน กับค่าเช่าในราคาที่พอกัดฟันจ่ายไหว ถูกบูรณะอย่างหยาบๆ กับการตกแต่งภายในอีกหน่อย เธอก็เปลี่ยนมันเป็นร้านที่มีชื่อเก๋ไก๋ว่า camellia ที่ใครๆ พากันเข้าใจว่าคือร้านขายดอกไม้
หญิงสาวผู้มาเปลี่ยนแปลงความซึมเซาของถนนสายปูดองแห่งองซาน เจ้าของร้าน camellia ที่ไม่ได้ขายดอกไม้ แต่คือร้านขายเหล้า ที่ผู้ชายแทบทุกคนในองซานต่างมุ่งหน้ามา อย่าเรียกว่ามั่วสุม แต่ให้เรียกว่า พักผ่อนหย่อนกายและใจ ก่อนและหลังที่จะออกไปพบกับความจริงของชีวิตหลังจากกึ่มจนเมามาย ร้านไม่ลับที่ความพิเศษคือ ทุกคนสามารถระบายความอึดอัดคับข้องใจทุกเรื่องราวทิ้งไว้กลางวงเหล้า โดยไม่ต้องพะวงว่าความลับจะเล็ดรอดออกไป
ในขณะที่ผู้หญิงอื่นๆ โดยเฉพาะบรรดาเมียๆ ทั้งหลายบนถนนสายปูดองกลับเข่นเขี้ยวคอยแต่จะเคี้ยวแม่ดอกคาเมลเลียให้แหลกคาปากด้วยความหมั่นไส้ ทั้งๆที่มองให้ลึกจะพบว่าเธอ ทำมาหากินอย่างสุจริต สงบเสงี่ยมเจียมตัวเจียมใจ มีมารยาท มีน้ำใจ ไม่เคยวุ่นวายวอแวใคร ใช้ชีวิตอย่างถูกทำนองเลี้ยงปากท้อง เลี้ยงลูกอย่างคนสู้ชีวิตคนหนึ่ง , กระพริบตาสองที ผ่านไป 7 ปี ไม่มีใครสักคนในองซานที่จะไม่รู้จัก “ราชินีแห่งองซาน” ไม่ว่าจะเป็นคนแก่เฒ่าหรือเด็กน้อย ต่างเรียกเธอว่า ทงแบค
ทงแบคมาเปลี่ยนความซึมเซาบนถนนสายปูดองให้สดใสขึ้นจริง แต่คนที่เปลี่ยนถนนสายปูดองหรือพูดให้ถูกคือเมืององซานให้ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไปอย่างแท้จริง กลับเป็นผู้ชายคนนี้
หนุ่มองซานผู้มุ่งมั่นจะตามหาเจ้าหญิง(ไดอาน่า)แห่งเมืองหลวง ไม่ใช่โชคชะตาหรอกที่ส่งเขาไปไกลถึงกรุงโซลในฐานะตำรวจสายสืบ แล้วเหวี่ยงเขากลับมาองซานในฐานะตำรวจสายตรวจ แต่คือตัวเขาเองต่างหากที่เป็นคนกำหนดชะตาชีวิตตัวเอง
ชายผู้ห้าวหาญ ห่ามห้าว และเถรตรงที่สุดในปฐพี ซื่อตรง ซื่อสัตย์ ซื่อใส และบางครั้งคล้ายจะซื่อบื้อ ในความซื่อ ในความตรงทุกตรง ที่เขามี และเป็นตัวเขา คือความภาคภูมิใจของแม่แก่ๆ ผู้เปรียบเสมือนเจ้าแม่แห่งถนนสายปูดอง ไม่เพียงแต่แม่แก่ๆ แต่ใครๆ ในองซานต่างภาคภูมิใจใน ตำรวจหนุ่มผู้ ซื่อ-ตรง คนนี้ ฮวังยงชิก ที่ใครๆ ก็เรียกเขาว่า ยงชิก
นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ยงชิกได้พบทงแบค นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องรักที่สุดแสนจะซาบซึ้ง,ประทับใจและชวนให้เรา หัวเราะร่าน้ำตาริน
ระหว่างยงชิกกับทงแบค ยังแวดล้อมไปด้วยผู้คนกลุ่มก้อนโตในชีวิตของทั้งคู่
ไม่ว่าจะเป็น แม่แก่ๆ ที่รักลูกชายยิ่งกว่าชีวิต, เด็กผู้ชายตัวเล็กที่กุมหัวใจของแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้พยายามจะแข็งแกร่ง, เถ้าแก่หนุ่มใหญ่ผู้กว้างขวาง ที่พยายามจะซื้อใจทุกคน, สาวใจแตก กับชีวิตที่แตกสลายของเธอ, นักกีฬาหนุ่มชื่อเสียงโด่งดัง ที่พยายามจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด, ทนายความหญิงที่ชนะคดีมากมาย แต่แพ้พ่ายในเรื่องครอบครัว, แม่ที่ทอดทิ้งลูก กับสายใยรักที่ตัดไม่ขาด, ทีมปูดอง ที่คอยขัดขาจนได้เรื่อง, ทีมสายตรวจที่สนับสนุนทุกช่องทาง
บทละครที่แม้จะไม่ได้ซับซ้อนจนเกินจะคาดเดา แต่การเล่าเรื่องที่สนุกและดึงเสน่ห์ของตัวละครที่มีเส้นเรื่องของตัวเองอย่างชัดเจนทุกคน แม้แต่ตัวละครที่เรารู้สึกถึงความไม่น่ารัก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ็นดูในความใสซื่อบางอย่างไปพร้อมกันด้วย
ในที่นี้ฉันหมายถึงเสน่ห์ในการแสดงของนักแสดงทุกคนด้วยเช่นกันที่งัดออกมาฟาดใส่กันหน้ากล้องอย่างไม่มีใครยอมใคร ต่อให้เป็นตัวละครที่มีบทพูดเพียงประโยคเดียวในเรื่องก็ตาม นอกเหนือจากคังฮานึลและกงฮโยจินในบทยงชิกและทงแบค คุณจะตกหลุมรักตัวละครอื่นๆ ในเรื่องนี้อีกหลายคน
ขอยกมากล่าวแบบเน้นๆ หนึ่งคน คือ เจ้าหนูน้อยพิลกู รับบทโดย นักแสดงเด็กเจ้าบทบาท คิมคังฮุน ที่คนดูคุ้นหน้ามาจากซีรีส์หลายเรื่อง กับการถ่ายทอดทุกอารมณ์ของเด็กตัวแค่นี้ แต่เล่นได้ชนิดที่ผู้ใหญ่บางคนยังไม่สามารถทำได้ดีเท่า ฉันเพียงจะบอกคุณว่า จดจำชื่อของเขาไว้ เส้นทางนักแสดงของเจ้าหนูจะต้องเจิดจ้ากว่านี้อีกร้อยเท่าพันเท่ากับการแสดงระดับพรีเมี่ยมของเขา ฉันคือหนึ่งในแฟนคลับเหนียวแน่นของเขา
กับเหล่าอาจุมม่า-อาจอชี่ที่คุ้นหน้าอีกหลายคน เป็น cast ที่สมบูรณ์แบบที่สุดอีกหนึ่งทีม ฉันกล้าพูดประโยคนี้ต่อให้พวกเขาจะไม่มีรางวัลทางการแสดงจากผลงานเรื่องนี้มาอวดก็ตาม
แต่สิ่งที่ผู้ชมได้รับรู้หลังจากค่อนปีที่ซีรีส์เรื่องนี้ออกอากาศจบไป พวกเขาตะเวนคว้ารางวัลจากเวทีเล็กใหญ่ ล่าสุดบนเวทีประกาศรางวัลทางการแสดงที่ถือกันว่าเป็นเวทีใหญ่อันทรงเกียรติที่สุดเวทีหนึ่งของบ้านเขา Baeksang Arts Award ที่คว้ามาทั้งสมทบชายยอดเยี่ยมของ โอจองเซ คนที่คอซีรีส์เกาหลีคุ้นหน้ามาหลายปี
บทละครยอดเยี่ยม, นำชายยอดเยี่ยมของคังฮานึล แม้กงฮโยจิน จะพลาดนำหญิงไปในเวทีนี้ แต่การแสดงที่มีเสน่ห์ของเธอยังจับใจผู้ชมได้เสมอ โดยเฉพาะกับบท ทงแบค ในเรื่องนี้ อย่างน้อยมีรางวัลปลอบใจเป็นรางวัลใหญ่สูงสุดของงานที่จะมอบให้กับบุคคลหรือซีรีสก็ได้ และ When The Camellia blooms ก็คว้า Grand Prize หรือ Daesang มาครองอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
การที่คังฮานึลในบท ฮวังยงชิก สามารถก้าวออกจากแถวผู้เข้าชิงอันประกอบไปด้วยนักแสดงรุ่นพี่อีก 4 คนที่ได้รับการยอมรับในความสามารถทางการแสดงอย่าง ฮยอนบิน, นัมกุงมิน, จูจีฮุนและพัคซอจุน ขึ้นไปกำรางวัลอยู่บนเวที เป็นเหตุผลที่มากพอจะทำให้บางคนอยากพิสูจน์ความดีงามทางการแสดงของคังฮานึล ในวันนี้ และฉันบอกคุณได้ทันทีว่า คุ้มค่า ที่จะสละเวลาให้พ่อหนุ่มคนนี้
กับการแสดงที่ดึงทักษะและประสบการณ์ทั้งหมดที่เขามีออกมาใช้ ในบท ฮวังยงชิก หนุ่มบ้านนอกสำเนียงเหน่อ ที่มุ่งมั่นบนความถูกต้อง และ ซื่อ-ตรง กับทุกอย่างในชีวิต คุณจะหลงรักเขา อย่างชนิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกอารมณ์ทุกตรง ที่คังฮานึลถ่ายทอด ในความเป็นฮวังยงชิก หนึ่งในตัวละครที่คอซีรีส์จะหลงรักและจดจำไปอีกแสนนาน
เรื่องรักของตำรวจสายตรวจหนุ่มกำพร้าพ่อกับหญิงสาวแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ถูกแม่ทอดทิ้ง ดำเนินไปท่ามกลางอุปสรรคที่ทั้งคู่ต้องฝ่าฟัน ขนานไปกับคดีฆาตกรรมลึกลับที่เกี่ยวโยงทั้งคู่ในต่างฐานะ ยงชิกต้องคลี่คลายทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพื่อจะเดินหน้าเรื่องราวชีวิตและความรักของเขาให้สำเร็จให้จงได้
อะไรที่จะเป็นกำลังใจ ใครที่จะเป็นแรงใจ ปมด้อยที่ผลักดันคนคนหนึ่งให้หยัดยืนอยู่ได้ในสังคม ความดำรงตนอยู่บนความดี ความเกื้อกูลในสังคม ความรับผิดชอบทั้งกับตัวเอง คนรอบข้างและสังคมที่เราอยู่อาศัย คือสิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้อยากจะบอกเล่า
ซีรีส์ที่รวมทุกความดีงามของ “ความซีรีส์เกาหลี” ไว้ในเรื่องเดียว ความดราม่า ความสืบสวน ความโรแมนติก ความฮา ความซึ้ง ที่ขนออกมาใช้กันอย่างฟุ่มเฟือยสุดๆ แต่ก็ถูกใจผู้ชมที่สุด เพราะเขาใช้ทุกอย่างที่มีได้อย่างคุ้มค่าและได้อรรถรสที่กลมกล่อมเหลือเกิน
When The Camellia Blooms ไม่ใช่ซีรีส์ที่ให้เพียงความบันเทิงกับผู้ชม แต่ยังทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ในหัวใจของผู้ชมเพื่อจะบอกว่า อย่าเอาความขาดแคลนหรือความบกพร่องบางอย่างมาเป็นข้ออ้างที่จะทำสิ่งไม่ดีหรือเป็นคนเลว ทุกคนต่างมีความไม่สมบูรณ์แบบ แต่คนที่ไม่สมบูรณ์แบบก็สามารถเป็นคนที่ดีในสังคมได้ และได้อย่างดีด้วยการยึดมั่นในความดี ทุกคนต่างมีความรักที่ยิ่งใหญ่ของตัวเองที่พร้อมจะปกป้องดูแล รวมทั้งสนับสนุนคนที่รักอย่างถึงที่สุด ทงแบคและยงชิก บอกเราทุกคนเช่นนั้น นี่คือการตอบแทนสังคมที่ดีที่สุดที่ซีรีส์เรื่องหนึ่งได้มอบไว้ให้กับผู้ชม
ไม่อยากให้คุณพลาดเรื่องราวความรักดีๆ อีกเรื่องหนึ่ง อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว คุณจะรู้สึกเอาใจช่วยให้ความรักของยงชิกและทงแบคสมหวังที่สุดยิ่งกว่าคู่รักคู่ไหนในซีรีส์เรื่องหนึ่งที่เคยดูมา คุณอาจจะเคยดูซีรีส์รักมาเยอะแยะแล้ว แต่ซีรีส์รักที่ “โคตรน่ารัก” มันมีไม่เยอะ และ When The Camellia Blooms คือ ซีรีส์รัก ที่ “โคตรน่ารัก” ที่สุดเรื่องหนึ่งในปฐพี
[รีวิวซีรีส์] When The Camellia Blooms ลมพาเกสรปลิวว่อน อีกไม่ช้ารอก่อน เกิดดอกไม้ชื่นชม
ในเมืองท่าเล็กๆ ชื่อว่าองซาน มีถนนเส้นสำคัญเรียกกันว่า ถนนสายปูดอง ตลอดทั้งถนนเต็มไปด้วยร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านขายปูดองอันเป็นผลิตผลขึ้นชื่อของเมือง ในชุมชนเล็กๆ ที่ทุกบ้านล้วน รู้นอกรู้ในกันยิ่งกว่าญาติสนิท บางเรื่องไม่อยากให้ใครรู้ แต่ก็ไม่เคยรอดสายตาของประชาคมปูดองไปได้ ราวกับว่ามีเวลาว่างเหลือเฟือทั้งที่จริงทุกชีวิตต่างดิ้นรนเพื่อเลี้ยงปากท้อง
ความซ้ำซากซังกะตายของชีวิตบนถนนสายปูดองเปลี่ยนเป็นกระตือรือร้นสนใจโดยไม่ต้องนัดหมาย เพราะการปรากฏตัวของผู้หญิงคนหนึ่ง อย่างไร้เงาผู้คุ้มครองติดตาม สาวสวยพร้อมเด็กน้อยในอ้อมกอด ที่มองอย่างไรก็ไม่ใช่คนถิ่นนี้ เธอมาพร้อมด้วยรถขนของคันใหญ่ ไม่ต้องถามก็เดาได้ว่าเธอจะย้ายเข้ามาอยู่บนถนนเส้นนี้
โกดังเก่าที่ไม่มีแม้แต่หน้าต่างสักบาน กับค่าเช่าในราคาที่พอกัดฟันจ่ายไหว ถูกบูรณะอย่างหยาบๆ กับการตกแต่งภายในอีกหน่อย เธอก็เปลี่ยนมันเป็นร้านที่มีชื่อเก๋ไก๋ว่า camellia ที่ใครๆ พากันเข้าใจว่าคือร้านขายดอกไม้
หญิงสาวผู้มาเปลี่ยนแปลงความซึมเซาของถนนสายปูดองแห่งองซาน เจ้าของร้าน camellia ที่ไม่ได้ขายดอกไม้ แต่คือร้านขายเหล้า ที่ผู้ชายแทบทุกคนในองซานต่างมุ่งหน้ามา อย่าเรียกว่ามั่วสุม แต่ให้เรียกว่า พักผ่อนหย่อนกายและใจ ก่อนและหลังที่จะออกไปพบกับความจริงของชีวิตหลังจากกึ่มจนเมามาย ร้านไม่ลับที่ความพิเศษคือ ทุกคนสามารถระบายความอึดอัดคับข้องใจทุกเรื่องราวทิ้งไว้กลางวงเหล้า โดยไม่ต้องพะวงว่าความลับจะเล็ดรอดออกไป
ในขณะที่ผู้หญิงอื่นๆ โดยเฉพาะบรรดาเมียๆ ทั้งหลายบนถนนสายปูดองกลับเข่นเขี้ยวคอยแต่จะเคี้ยวแม่ดอกคาเมลเลียให้แหลกคาปากด้วยความหมั่นไส้ ทั้งๆที่มองให้ลึกจะพบว่าเธอ ทำมาหากินอย่างสุจริต สงบเสงี่ยมเจียมตัวเจียมใจ มีมารยาท มีน้ำใจ ไม่เคยวุ่นวายวอแวใคร ใช้ชีวิตอย่างถูกทำนองเลี้ยงปากท้อง เลี้ยงลูกอย่างคนสู้ชีวิตคนหนึ่ง , กระพริบตาสองที ผ่านไป 7 ปี ไม่มีใครสักคนในองซานที่จะไม่รู้จัก “ราชินีแห่งองซาน” ไม่ว่าจะเป็นคนแก่เฒ่าหรือเด็กน้อย ต่างเรียกเธอว่า ทงแบค
ทงแบคมาเปลี่ยนความซึมเซาบนถนนสายปูดองให้สดใสขึ้นจริง แต่คนที่เปลี่ยนถนนสายปูดองหรือพูดให้ถูกคือเมืององซานให้ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไปอย่างแท้จริง กลับเป็นผู้ชายคนนี้
หนุ่มองซานผู้มุ่งมั่นจะตามหาเจ้าหญิง(ไดอาน่า)แห่งเมืองหลวง ไม่ใช่โชคชะตาหรอกที่ส่งเขาไปไกลถึงกรุงโซลในฐานะตำรวจสายสืบ แล้วเหวี่ยงเขากลับมาองซานในฐานะตำรวจสายตรวจ แต่คือตัวเขาเองต่างหากที่เป็นคนกำหนดชะตาชีวิตตัวเอง
ชายผู้ห้าวหาญ ห่ามห้าว และเถรตรงที่สุดในปฐพี ซื่อตรง ซื่อสัตย์ ซื่อใส และบางครั้งคล้ายจะซื่อบื้อ ในความซื่อ ในความตรงทุกตรง ที่เขามี และเป็นตัวเขา คือความภาคภูมิใจของแม่แก่ๆ ผู้เปรียบเสมือนเจ้าแม่แห่งถนนสายปูดอง ไม่เพียงแต่แม่แก่ๆ แต่ใครๆ ในองซานต่างภาคภูมิใจใน ตำรวจหนุ่มผู้ ซื่อ-ตรง คนนี้ ฮวังยงชิก ที่ใครๆ ก็เรียกเขาว่า ยงชิก
นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ยงชิกได้พบทงแบค นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องรักที่สุดแสนจะซาบซึ้ง,ประทับใจและชวนให้เรา หัวเราะร่าน้ำตาริน
ระหว่างยงชิกกับทงแบค ยังแวดล้อมไปด้วยผู้คนกลุ่มก้อนโตในชีวิตของทั้งคู่
ไม่ว่าจะเป็น แม่แก่ๆ ที่รักลูกชายยิ่งกว่าชีวิต, เด็กผู้ชายตัวเล็กที่กุมหัวใจของแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้พยายามจะแข็งแกร่ง, เถ้าแก่หนุ่มใหญ่ผู้กว้างขวาง ที่พยายามจะซื้อใจทุกคน, สาวใจแตก กับชีวิตที่แตกสลายของเธอ, นักกีฬาหนุ่มชื่อเสียงโด่งดัง ที่พยายามจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด, ทนายความหญิงที่ชนะคดีมากมาย แต่แพ้พ่ายในเรื่องครอบครัว, แม่ที่ทอดทิ้งลูก กับสายใยรักที่ตัดไม่ขาด, ทีมปูดอง ที่คอยขัดขาจนได้เรื่อง, ทีมสายตรวจที่สนับสนุนทุกช่องทาง
บทละครที่แม้จะไม่ได้ซับซ้อนจนเกินจะคาดเดา แต่การเล่าเรื่องที่สนุกและดึงเสน่ห์ของตัวละครที่มีเส้นเรื่องของตัวเองอย่างชัดเจนทุกคน แม้แต่ตัวละครที่เรารู้สึกถึงความไม่น่ารัก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ็นดูในความใสซื่อบางอย่างไปพร้อมกันด้วย
ในที่นี้ฉันหมายถึงเสน่ห์ในการแสดงของนักแสดงทุกคนด้วยเช่นกันที่งัดออกมาฟาดใส่กันหน้ากล้องอย่างไม่มีใครยอมใคร ต่อให้เป็นตัวละครที่มีบทพูดเพียงประโยคเดียวในเรื่องก็ตาม นอกเหนือจากคังฮานึลและกงฮโยจินในบทยงชิกและทงแบค คุณจะตกหลุมรักตัวละครอื่นๆ ในเรื่องนี้อีกหลายคน
ขอยกมากล่าวแบบเน้นๆ หนึ่งคน คือ เจ้าหนูน้อยพิลกู รับบทโดย นักแสดงเด็กเจ้าบทบาท คิมคังฮุน ที่คนดูคุ้นหน้ามาจากซีรีส์หลายเรื่อง กับการถ่ายทอดทุกอารมณ์ของเด็กตัวแค่นี้ แต่เล่นได้ชนิดที่ผู้ใหญ่บางคนยังไม่สามารถทำได้ดีเท่า ฉันเพียงจะบอกคุณว่า จดจำชื่อของเขาไว้ เส้นทางนักแสดงของเจ้าหนูจะต้องเจิดจ้ากว่านี้อีกร้อยเท่าพันเท่ากับการแสดงระดับพรีเมี่ยมของเขา ฉันคือหนึ่งในแฟนคลับเหนียวแน่นของเขา
กับเหล่าอาจุมม่า-อาจอชี่ที่คุ้นหน้าอีกหลายคน เป็น cast ที่สมบูรณ์แบบที่สุดอีกหนึ่งทีม ฉันกล้าพูดประโยคนี้ต่อให้พวกเขาจะไม่มีรางวัลทางการแสดงจากผลงานเรื่องนี้มาอวดก็ตาม
แต่สิ่งที่ผู้ชมได้รับรู้หลังจากค่อนปีที่ซีรีส์เรื่องนี้ออกอากาศจบไป พวกเขาตะเวนคว้ารางวัลจากเวทีเล็กใหญ่ ล่าสุดบนเวทีประกาศรางวัลทางการแสดงที่ถือกันว่าเป็นเวทีใหญ่อันทรงเกียรติที่สุดเวทีหนึ่งของบ้านเขา Baeksang Arts Award ที่คว้ามาทั้งสมทบชายยอดเยี่ยมของ โอจองเซ คนที่คอซีรีส์เกาหลีคุ้นหน้ามาหลายปี
บทละครยอดเยี่ยม, นำชายยอดเยี่ยมของคังฮานึล แม้กงฮโยจิน จะพลาดนำหญิงไปในเวทีนี้ แต่การแสดงที่มีเสน่ห์ของเธอยังจับใจผู้ชมได้เสมอ โดยเฉพาะกับบท ทงแบค ในเรื่องนี้ อย่างน้อยมีรางวัลปลอบใจเป็นรางวัลใหญ่สูงสุดของงานที่จะมอบให้กับบุคคลหรือซีรีสก็ได้ และ When The Camellia blooms ก็คว้า Grand Prize หรือ Daesang มาครองอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
การที่คังฮานึลในบท ฮวังยงชิก สามารถก้าวออกจากแถวผู้เข้าชิงอันประกอบไปด้วยนักแสดงรุ่นพี่อีก 4 คนที่ได้รับการยอมรับในความสามารถทางการแสดงอย่าง ฮยอนบิน, นัมกุงมิน, จูจีฮุนและพัคซอจุน ขึ้นไปกำรางวัลอยู่บนเวที เป็นเหตุผลที่มากพอจะทำให้บางคนอยากพิสูจน์ความดีงามทางการแสดงของคังฮานึล ในวันนี้ และฉันบอกคุณได้ทันทีว่า คุ้มค่า ที่จะสละเวลาให้พ่อหนุ่มคนนี้
กับการแสดงที่ดึงทักษะและประสบการณ์ทั้งหมดที่เขามีออกมาใช้ ในบท ฮวังยงชิก หนุ่มบ้านนอกสำเนียงเหน่อ ที่มุ่งมั่นบนความถูกต้อง และ ซื่อ-ตรง กับทุกอย่างในชีวิต คุณจะหลงรักเขา อย่างชนิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกอารมณ์ทุกตรง ที่คังฮานึลถ่ายทอด ในความเป็นฮวังยงชิก หนึ่งในตัวละครที่คอซีรีส์จะหลงรักและจดจำไปอีกแสนนาน
เรื่องรักของตำรวจสายตรวจหนุ่มกำพร้าพ่อกับหญิงสาวแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ถูกแม่ทอดทิ้ง ดำเนินไปท่ามกลางอุปสรรคที่ทั้งคู่ต้องฝ่าฟัน ขนานไปกับคดีฆาตกรรมลึกลับที่เกี่ยวโยงทั้งคู่ในต่างฐานะ ยงชิกต้องคลี่คลายทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพื่อจะเดินหน้าเรื่องราวชีวิตและความรักของเขาให้สำเร็จให้จงได้
อะไรที่จะเป็นกำลังใจ ใครที่จะเป็นแรงใจ ปมด้อยที่ผลักดันคนคนหนึ่งให้หยัดยืนอยู่ได้ในสังคม ความดำรงตนอยู่บนความดี ความเกื้อกูลในสังคม ความรับผิดชอบทั้งกับตัวเอง คนรอบข้างและสังคมที่เราอยู่อาศัย คือสิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้อยากจะบอกเล่า
ซีรีส์ที่รวมทุกความดีงามของ “ความซีรีส์เกาหลี” ไว้ในเรื่องเดียว ความดราม่า ความสืบสวน ความโรแมนติก ความฮา ความซึ้ง ที่ขนออกมาใช้กันอย่างฟุ่มเฟือยสุดๆ แต่ก็ถูกใจผู้ชมที่สุด เพราะเขาใช้ทุกอย่างที่มีได้อย่างคุ้มค่าและได้อรรถรสที่กลมกล่อมเหลือเกิน
When The Camellia Blooms ไม่ใช่ซีรีส์ที่ให้เพียงความบันเทิงกับผู้ชม แต่ยังทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ในหัวใจของผู้ชมเพื่อจะบอกว่า อย่าเอาความขาดแคลนหรือความบกพร่องบางอย่างมาเป็นข้ออ้างที่จะทำสิ่งไม่ดีหรือเป็นคนเลว ทุกคนต่างมีความไม่สมบูรณ์แบบ แต่คนที่ไม่สมบูรณ์แบบก็สามารถเป็นคนที่ดีในสังคมได้ และได้อย่างดีด้วยการยึดมั่นในความดี ทุกคนต่างมีความรักที่ยิ่งใหญ่ของตัวเองที่พร้อมจะปกป้องดูแล รวมทั้งสนับสนุนคนที่รักอย่างถึงที่สุด ทงแบคและยงชิก บอกเราทุกคนเช่นนั้น นี่คือการตอบแทนสังคมที่ดีที่สุดที่ซีรีส์เรื่องหนึ่งได้มอบไว้ให้กับผู้ชม
ไม่อยากให้คุณพลาดเรื่องราวความรักดีๆ อีกเรื่องหนึ่ง อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว คุณจะรู้สึกเอาใจช่วยให้ความรักของยงชิกและทงแบคสมหวังที่สุดยิ่งกว่าคู่รักคู่ไหนในซีรีส์เรื่องหนึ่งที่เคยดูมา คุณอาจจะเคยดูซีรีส์รักมาเยอะแยะแล้ว แต่ซีรีส์รักที่ “โคตรน่ารัก” มันมีไม่เยอะ และ When The Camellia Blooms คือ ซีรีส์รัก ที่ “โคตรน่ารัก” ที่สุดเรื่องหนึ่งในปฐพี