KIA เป็นแบรนด์รถยนต์เกาหลีที่แน่นอนว่าหลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกันบ้าง ส่วนในการทำตลาดในไทยนั้นอาจจะไม่ได้มีความหลากหลายเท่าไรแน่นอนว่าเพราะรถแต่ละรุ่นของค่ายนี้นั้นจะเป็นการนำเข้ามาทั้งคันทำให้ในหลายๆเรื่องของการทำราคาและออฟชั่นนั้นค่อนข้างยาก และอาจจะสู้เจ้าตลาดได้ยากกันพอสมควรถ้าเรามองกันตรงๆ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ยากพอสมควรครับในการนำเข้ามาทั้งคันและทำราคาสู้ได้ยาก เจอกันในหลายๆแบรนด์ ส่วนทางด้าน KIA นั้นก็ยังคงมีตลาดที่ค่อนข้างลุยกันมานานคือในตระกูลรถแวน KIA Carnival ที่หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกันครับและทำตลาดเรื่อยๆมาจนมาถึงในชื่อ Grand Carnival เป็นรถยนต์ อเนกประสงค์ รถแวนที่รองรับได้มากถึง 11 ที่นั่งและมาอยู่ในรูปทรงที่ไม่ได้สูงใหญ่อะไรมากมายทำให้ ครอบครัว หรือ พ่อบ้านนั้นจะมองหามาใช้งานกันขับเองมากกว่ารถตู้ทรงสูง เลยเป็นจุดเด่นของค่ายนี้และรุ่นนี้ที่เป็นไม่กี่รุ่นในตลาดที่ ทำออกมาทรงนี้ที่ขับเองได้แบบไม่เขิน หรือเด่นเกินไป
 

 
KIA ได้ทำการเปิดตัว KIA GrandCarnival โฉมล่าสุดที่เราทำการรีวิวนั้นจะเป็นรุ่น Minor change ล่าสุดก่อนที่จะปรับโฉมใหม่ทั้งคันแบบ Model Change ในไม่กี่ปีแล้วครับ ซึ่งในโฉมนี้จะเป็นรุ่นที่เปิดตัวมาในช่วงปี 2015 และได้ปรับเปลี่ยนหน้าตาอะไรใหม่มาในปี 2018 และในไทยก็เอาเข้ามาพร้อมกับปรับออฟชั่น หน้าตา ฟีเจอร์อะไรทั้งหมดจนครบเครื่องและครบครันมากกว่ารุ่นก่อน Minor change กันเยอะมากครับเรียกได้ว่าออฟชั่นมันทำออกมาลงตัวทุกจุดมากขึ้น ทั้งเรื่องของความปลอดภัย รวมถึง ระบบอะไรต่างๆในตัวรถ ในรุ่นนี้จะเป็นรุ่น SXL ตัวท็อปสุดของค่ายที่มาพร้อมกับ ออฟชั่นและหน้าตาที่จัดเต็มมากที่สุด ทั้งเรื่องของระบบ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อม +/- ที่ปกติรุ่น ไมเนอร์นั้นจะไม่ค่อยเห็นการเปลี่ยนระบบเกียร์เท่าไรนัก แต่ระบบอื่นๆที่ปรับก็มีเยอะมากครับ ทั้งหน้าจอ MID แบบใหม่รวมถึง ปุ่มบนพวงมาลัยที่เพิ่มเข้ามา ปรับหน้าจอใหม่ตรงกลาง ทั้งหน้าตาและระบบ และย้ายส่วนควบคุมอะไรไปบนหน้าจอเลย และมีการใส่ที่ชาร์จไร้สายเข้ามา พร้อมกับปรับปุ่มอะไรพวกนี้  หน้าจอตอนหลังรวมถึง Sunroof ทั้ง 2 ตำแหน่งที่เพิ่มเข้ามาทำให้ตัวรถเอาจริงๆมันครบเครื่องหรูพรีเมี่ยมขึ้นกว่าเดิมเยอะมากครับ และทางด้านเครื่องยนต์ยังคงใช้  Diesel 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2,199 ซีซี  Common-Rail  พร้อมระบบ Turbo VGT กำลังสูงสุด 197 แรงม้า (PS)  Euro 4 และเด่นๆเลยคือการเปลี่ยนเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
 

 
สำหรับทางด้านราคานั้นทาง KIA GRAND CARNIVAL จะมาพร้อมกับรุ่น LX 1,397,000 บาท รุ่น EX 1,991,000 บาท และ SXL รุ่นท็อปสุดที่ทางเรารีวิวนี้ 2,292,000 บาท พร้อมกับ   KIA Care Plus รับประกันตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร + บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance 5 ปี+ ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี ครับ
 

 
EXTERIOR
 
ภายนอกในรุ่นนี้กระจังหน้ายังคงใช้เอกลักษณ์งานออกแบบ Tiger Nose อยู่ที่เป็นทรงที่คุ้นตากันครับ รูปร่างรูปทรงของรุ่นนี้จะค่อนข้างใหญ่โตมากๆแต่ทรงของตัวรถมันจะไม่ได้ดูสูงใหญ่ หรือเป็นรถตู้มากเกินไปครับ ถือว่าออกแบบและจัดทรงรถออกมาได้ดีและยิ่งในการออกแบบเมื่อเทียบกันกับทางคู่แข่งในหลายๆยี่ห้อดีไซน์ในรุ่นนี้ยังคงสวยและลงตัวแม้จะเป็นปลายอายุตลาดแล้วก็ตามครับ ถือว่าขอชมงานออกแบบในรุ่นนี้และทีมพัฒนารุ่นนี้จริงๆ อีกทั้งเมื่อไมเนอร์แล้วเปลี่ยนกันชมหน้าทั้งหมด ไฟหน้าอะไรยิ่งล้ำและลงตัวด้วยไฟ LED PROJECTOR สวยงามทั้งบนและล่าง อีกทั้งล้ออะไรก็เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ที่บอกว่าดูพรีเมี่ยมหรูขึ้นกว่าตัวเดิมเยอะมากครับ เป็นรถครอบครัวที่ลงตัว
 

 

 

 
ภายนอกทั้งหมดมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะครับในรุ่นนี้เมื่อเทียบกันกับตัวก่อนไมเนอร์ เริ่มจากส่วนไฟหน้า ไฟตัดหมอกรวมถึงกันชนหน้าออกแบบใหม่ พร้อมไฟตัดหมอกข้างล่าง 4 ดวง และเป็น led ด้วยทั้งหมด ฝาท้ายอะไรสวยงามเปลี่ยนไฟท้ายพร้อมกับ กันชนท้ายรวมถึงมีสปอยเลอร์หลังที่พร้อมไฟเบรคและราวหลังคาเปลี่ยนเข้ามาครับ เสาอากาศแบบใหม่ หลังคามีซันรูฟ 2 ตอน และแถบโครเมียมอะไรเปลี่ยนใหม่หมดครับในด้านหลัง และในด้านข้างก็จะเห็นเป็นล้อลายใหม่ของรุ่นนี้ พร้อมกับมีบันไดมาให้ด้วยซึ่งตัวบันไดนี้สามารถเลือกได้ว่าจะเอาหรือไม่เอาในตอนซื้อนะครับ แน่นอนว่าทรงนี้รถทำออกมาได้ลงตัว มีเส้นสายค่อนข้างคมเป็นบ่ารถและตัดด้วยความมนของท้ายรถที่ดูอวบอ้วนและก็ไม่ได้สูงเกินไปทำให้ทรงภาพรวมน่าจะเป็นรถที่ทรงสวยที่สุดในบรรดาคู่แข่ง แล้วก็ไม่เทอะทะมาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยหลังคาที่เมื่อเข้าไปข้างในอาจจะยืนไม่ได้แบบรถตู้นั้นเองครับ สีขาวรุ่นนี้ค่อนข้างสวยพร้อมเสา BCD นั้นเป็นสีดำทั้งหมดทำให้เราเห็นการออกแบบหลังคาแบบหลังคาลอยก็เป็นจุดที่ทำให้รถนั้นดูเบาบางขึ้นไปอีกนั้นเอง
 

 

 
มาส่องหน้าตรงกันหน่อย ต้องบอกว่าด้านหน้าตรงนั้นรุ่นนี้เป็นอะไรที่ลงตัวจริงๆกระจังหน้าทรง จมูกเสือพร้อมกับเล่นลวดลายโครเมียมรอบๆพร้อมกับกระจังสีดำข้างใน รวมถึงโซนกันชนหน้าในรุ่น SXL นั้นจะสวยและมีโครเมียมเล่นกับตรงไฟตัดหมอก 4 ดวง รวมถึงตัวไฟหน้าก็เปลี่ยนงานออกแบบใหม่ทั้งหมดพร้อมไฟ LED ทั้งหมดในส่วนไฟหน้าและไฟสูงเป็นสีขาวทั้งหมดครับ ส่วนที่น่าเสียดายมากๆคือรุ่นนี้ไม่มีไฟ DRL ในการขับขี่กลางวันเลย รวมถึงไฟเส้นๆยังเป็นแค่ไฟหรี่เท่านั้น และไฟเลี้ยวยังไม่ใช่ LED นั้นเอง ส่วนเซนเซอร์รอบคันนั้นมีมมาให้ครบ แต่ไม่มีกล้องรอบคันนะครับอันนี้น่าเสียดายเลยแหละ แต่ก็ยังดีมีกล้องหลัง และระบบเตือนเวลารถตัดผ่านเวลาถอยให้มาอยู่ครับ ส่วนในด้านท้ายนั้นจะเห็นว่าทรงไฟท้ายอะไรเหมือนเดิมเลยแต่เปลี่ยนรายละเอียดเส้นข้างในสวยขึ้นแน่นอน พร้อมกับ สปอยเลอร์หลังทรงใหม่พร้อมไฟเบรค รวมถึงตัวเสาอากาศ ครีบฉลามและ ตรงชุดกันชนท้ายเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเลยนั้นเอง
 

 

 

 
ล้อในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ทั้งหมดพร้อมกับขนาดที่ใหญ่ขึ้นครับเป็นล้อ 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/60 R18 ทรง 5 ก้านคู่สวยงามปัดเงานิดๆครับ พร้อมกับรุ่นนี้มีแถมบันไดข้างมาแล้ว เพราะหลายๆคนชอบบ่นกันว่าขึ้นลงยากเพราะพื้นรถสูงแต่ครั้งนี้ทาง KIA ยนตรกิจ ให้มาแล้วครับ แต่ถ้าใครไม่ชอบก็ไม่เอาได้เลยเพราะเวลาเลี้ยวหรือขึ้นลงเนินอาจจะทำให้ตัวรถนั้นเตี้ยและไปขูดพื้น ฟุตบาทได้ง่ายกว่าเดิม แต่ถ้ามีไว้ก็ขึ้นลงรถง่ายขึ้นสำหรับผู้ใหญ่ครับในด้านหลัง ส่วนท้ายรถก็มีเซนเซอร์รอบคันเลย ไฟทับทิมอยู่ด้านล่างพร้อมกับชื่อรุ่นอะไรมาในด้านซ้ายทั้งหมด และมียางรองเวลาขนของในส่วนท้ายรถด้วยครับ และจุดโหลดของนั้นไม่ได้สูงขอบฝาท้ายอยู่ในระยะกำลังดีไม่สูงเกินไปครับ
 

 

 

 
ไฟท้ายเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดแต่ยังคงใช้โคมทรงเดิมของค่ายนี้ เป็นไฟเบรค LED และไฟหรี่เส้นๆสวยงาม แต่ส่วนของไฟถอย ไฟเลี้ยวยังเป็นแบบหลอดทั่วไปครับรวมถึงตัวไฟส่องป้ายทะเบียนด้วย ส่วนกระจังหน้านั้นเปลี่ยนวัสดุและงานออกแบบข้างในกระจังให้ดูดีขึ้นและโครเมียมรอบๆสวยงามขึ้นครับยังคงเอกลักษณ์ของค่ายนี้ได้ดีเลย ส่วนไฟหน้าก็เปลี่ยนใหม่ยกโคมครับแต่ทรงเดิม ไฟมาสวยขึ้นเป็น LED สีขาวทั้งหมดไฟสูงไฟต่ำ พร้อมไฟหรี่ แต่ไม่มีไฟ DRL นะครับแอบเสียดายมาก และไฟเลี้ยวหลอดไส้ปกติเลย ไฟค่อนข้างสว่างและมองเห็นชัดเจนครับสีขาวตัดขอบได้สวยและแสงเข้ม ชัดเจนครับเท่าที่ลองขับลุยฝนหรือไฟต่างจังหวัดนั้นยังถือว่าเห็นชัดเจนอะไรสวยงามแต่ยังไม่มีฟีเจอร์ไฟสูงเปิดปิด อัตโนมัติอะไรมาให้ครับแต่ก็พอเข้าใจได้รุ่นนี้ออกมานานและอยู่ในอายุปลายตลาดของรุ่นนี้แล้วด้วย
 

 

 

 
เปิดประตูในรุ่นนี้เป็นไฟฟ้าทั้งหมดและก็รวมถึงฝาท้ายไฟฟ้าที่รองรับการใช้งานแบบเดินไปใกล้ๆแล้วเปิดเองได้โดยไม่ต้องเตะอะไรให้ยุ่งยากครับ หลักการทำงานมันแค่พกกุญแจ เดินเข้าหารถ ค้างไว้จนไฟฉุกเฉินกระพริบและมันจะเปิดเองเลยยืนค้างไว้นิดหน่อยครับถือว่าสะดวกเหมือนกัน ส่วนประตูข้างทั้งหมดเป็นไฟฟ้า กดเปิดได้จากรีโมท หรือบนประตู หรือจะกดเปิดจากคอนโซลหน้าด้านบน และตรบขอบประตูได้ทั้งหมด และสามารถใช้แบบระบบมือไปได้ด้วย ประตูนั้นถือว่าเปิดได้ค่อนข้างลึกและเข้าออกได้สบายครับ แต่ประตูจะเปิดได้แค่ ตอนจอดนิ่ง + เข้า P+ปลดล็อคเท่านั้นนะครับ เป็นระบบที่ปลอดภัยสุดๆและการตั้งค่าอะไรรุ่นนี้จะต้องเข้าเกียร์ P ตลอดเลยแม้จะตั้งเมมเบาะก็ตาม
 

 

 

 
เอาภาพยามค่ำคืนมาฝากกันบ้างเมื่อเปิดไฟอะไรเรียบร้อย ถือว่าสวยงามกันเลยทีเดียวครับ ไฟหน้าแบบใหม่พร้อมไฟตัดหมอกทำให้ตัวรถดูสวยและดูทันสมัยขึ้นเยอะพอสมควรและด้วยการใช้ไฟสีขาวทั้งหมดรวมถึงไฟเลี้ยวตรงกระจกมองข้างด้วยครับ ส่วนไฟท้ายนั้นก็เป็น LED ไฟเส้นสวยงามพร้อมกับไฟเบรคนั้นจะแทรกตรงกลางเส้นนั้นรวมถึงไฟเลี้ยวอะไรเป็นหลอดไส้อยู่นะครับ ถือว่าในด้านหน้าท้ายการเปลี่ยนไฟใหม่ทำให้สวยงามขึ้นเยอะพอสมควรเลยครับ
 

 

 
มาส่องไฟหน้าไฟท้ายยามค่ำคืนกันแบบชัดๆครับ ความสว่างอย่างที่บอกไฟว่าสวยและเข้มแสงตัดคัทออฟสวยงามและยกซ้ายปกติครับทำให้ทางไกลอะไรนั้นส่องได้สบายๆและไฟตัดหมอก ข้างละ 4 ดวงยิงตรงทำให้เก็บพื้นที่ส่วนใกล้รถได้ดีและการวางแบบ 2 ชั้นทำให้ครอบคลุมได้ดีครับ แต่ในส่วนไฟท้ายนั้นแอบเสียดายตรงไม่มีไฟตัดหมอกหลังมาให้เวลาขับฝนตกหนักๆพวกนี้รวมถึงไฟเลี้ยวไฟถอยยังเป็นแบบหลอดไส้ปกติครับไม่ใช่ LED อะไร แต่ความสว่างในการใช้งานจริงนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยทั้งตัวไฟเบรคนั้นเป็น LED เห็นชัดเจนและสว่างเข้มพอสมควรครับ