KIA ยังคงทำตลาดในบ้านเราอย่างต่อเนื่องแน่นอนว่าจะเน้นไปทางรถยนต์แบบ 11 ที่นั่ง ซึ่ง KIA เองก็ทำรถยนต์ในตระกูล CARNIVAL มาหลากหลายรุ่นแล้วและในตอนนี้ก็มาถึงรุ่นที่ 4 แล้วนั้นเองต้องบอกว่ามันเป็นการพัฒนาขึ้นเยอะมากๆถ้ามองเทียบกับรุ่นแรกๆ หรือว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรุ่นนี้ที่ปรับมาใช้งานชื่อ CARNIVAL แล้วนั้นเองไม่มีการใช้ Grand Carnival แล้วเพื่อเป็นการเปลี่ยนชื่อทำให้ทั่วโลกนั้นเหมือนกันทั้งหมด ชื่อเดียวสากลขึ้นนั้นเองครับและตอนนี้มาถึงรุ่นที่ 4 พัฒนาขึ้นทั้งหน้าตา งานออกแบบภายใน หรือว่าจะเป็นฟีเจอร์และความปลอดภัยแบบจัดเต็มทั้งหมด และยิ่งถ้าเทียบกับ รุ่น 3 ก่อนหน้านี้มันเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก ทันสมัยมากขึ้นดูมีความล้ำมากขึ้นเช่นกัน และ ตัวนี้เป็นการเปลี่ยนโลโก้ใหม่ทั้งหมด และ เข้าสู่ยุคใหม่ของ KIA แล้วเช่นกันซึ่งนอกเหนือจากการเปลี่ยนโลโก้ ยังมีการเพิ่มออพชั่นบางส่วนทำให้มันค่อนข้างครบและลงตัวขึ้นใน CARNIVAL คันนี้







KIA CARNIVAL 2022  ในรุ่นที่เราจะรีวิวจะเป็น CARNIVAL SXL นั้นเองครับซึ่งจะมาพร้อมกับออพชั่นจัดเต็มและรองรับการใช้งานแบบครบเต็มรูปแบบเลยนั้นเอง ทั้งระบบช่วยเหลือความปลอดภัยต่างๆรวมถึงการใช้งานการขับขี่และการตกแต่งอะไรทั้งหมดด้วยเช่นกันทางด้านเครื่องยนต์นั้นใช้งาน เครื่องยนต์ดีเซล Smart Stream CRDi แบบ 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 2.2 ลิตร พ่วงเทอร์โบ VGTกำลังสูงสุด 202 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 441 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อม Manual Mode + – ใช้งานการขับเคลื่อนล้อหน้า ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO5 รองรับน้ำมันสูงสุด ดีเซล B7 นะครับตัวนี้ แน่นอนว่าในรุ่น SXL นั้นจะเป็นรุ่นสูงสุดรองรับออพชั่นจัดเต็มทั้งระบบ Drive Wise ที่เป็นระบบ Active Safety ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go+ ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง + ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear + ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางช่องจราจร + ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร + ระบบเตือนการชนด้านหน้า + ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง + ระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งผ่าน ทำให้การใช้งานภาพรวมนั้นจะไปทำงานคล้ายๆกับระบบช่วยขับได้เลยทำให้ ตัวรถสามารถเลี้ยวตามเลนได้โดยที่เราไม่ต้องจับพวงมาลัยนั้นเอง อีกทั้งยังมี Sunroof ทั้ง 2 ตอน ให้มาพร้อมใช้งาน ไฟหน้า Projector Lens แบบ Dual LED รวมถึงหน้าจอภายในขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับ  Apple CarPlay / Android Auto พร้อม ลำโพง BOSE Surround Sound 12 ตำแหน่ง และ ระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charger รวมถึงการออกแบบที่รองรับการชาร์จมือถือตามตำแหน่งที่นั่ง หรือว่าจะเป็นที่วางมือถือต่างออกแบบมาได้ดีกว่าเดิมชัดเจน ทั้งแถว 2 และ แถว 3 เช่นกัน และ มาพร้อมกับหน้าจอเรือนไมล์แบบ ดิจิตอล 12.3 นิ้วของใหม่ พร้อม Blind Spot view Monitor ที่เพิ่มเติมเข้ามา และได้หน้าตาที่เปลี่ยนได้ รวมถึง อนิเมชั่นที่สวยขึ้น อีกทั้งจะได้ โลโก้ใหม่ทั้งคัน และ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติเพิ่มเข้ามาจากรุ่นก่อนหน้าถือว่าเปลี่ยนแปลงได้ดี  SXL ที่เรารีวิวนั้นจะอยู่ที่ 2.459 ล้านบาทไทยนั้นเอง



EXTERIOR 

งานออกแบบภายนอกต้องบอกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากๆถ้าเทียบกับรุ่นก่อนหน้าหรือว่าจะเป็นการเปลี่ยนแนวชัดเจนเริ่มเข้าสู่ความทันสมัยมากขึ้นทั้งด้านหน้ารูปทรงและตัวรถมีความเหลี่ยมสันชัดเจนจนบางมุมนั้นแอบไปคล้ายกับบรรดา SUV เลยทีเดียวและการใช้งานเส้นสายไฟหน้าแบบเส้นลากยาวไปกระจังหน้ามีความโดดเด่นชัดเจนและรูปทรงของตัวรถนั้นมีความใช้งานเส้นสายตรงๆดูล้ำสมัยมากขึ้นหรือแม้จะเป็นไฟท้ายแนวยาวก็ตามในรุ่นใหม่นี้ รวมถึงการใช้งานเส้นสายโครมเมี่ยมแทรกเข้ามารอบๆคันแบบสีอลูมิเนียมทำให้มีความพรีเมี่ยมและสวยงามขึ้นครับ และสีตัวนี้มาพร้อมกับ สีน้ำเงิน Astra Blue ที่จะเป็นสีพิเศษของรุ่นท็อป SXL เท่านั้นรุ่นอื่นจะไม่มีให้เลือกนั้นเอง สีจะเป็นสีน้ำเงินผมเขียวเล็กน้อยครับเมื่อเจอแสงต่างๆจะเปลี่ยนสีเล็กน้อยครับถือว่าเป็นสีที่สวยและลงตัวมากๆสีนึงเลยและการเปลี่ยนโลโก้ใหม่ที่ไม่มีพื้นหลังดำทำให้ตัวรถเองดูคลีนขึ้นเยอะมาก และ ทันสมัยขึ้นถือว่ามีผลมากๆในครั้งนี้







เส้นสายรอบคันนั้นจะเห็นว่าตัวรถเส้นสายเรียบร้อยมากขึ้นแต่มีความดุดันขึ้นกว่าเดิมการใช้งานกระจกหลังเส้นตรงๆก็สวยงามไปอีกแบบในการมองด้านข้าง เข้ากับด้านหน้ารถรวมถึงเส้นสายโดยรวมได้เป็นอย่างดี รวมถึงไฟท้ายแนวยาวพร้อมกับเส้นโครมเมี่ยมที่ต่อเนื่องมาจากเสาสีเงินก็ลากต่อมายังด้านท้ายตัวรถได้สวยงามลงตัว แต่ก็ต้องบอกก่อนว่าในเรื่องของ กระจกมองข้าง ไฟท้าย และ กระจังหน้าที่อาจจะไม่ได้เหมือนกับตัวเกาหลี ต้องบอกเลยว่าเป็นข้อกำหนดของรถ 11 ที่นั่งในเรื่องของกระจกมองข้างมีขนาดใหญ่แบบนี้ทำให้ในไทยได้กระจกขนาดใหญ่แบบนี้นั้นเองครับ ส่วนพวกไฟท้าย กระจังหน้า หรือว่าจะเป็นเส้นสายไฟท้ายที่เป็นแบบนี้เพราะว่า ที่เราเห็นในเกาหลีจะเก็บไว้ให้รุ่นที่ขายเกาหลีเท่านั้นรวมถึงไฟท้ายแบบเส้นๆก็จะให้ได้แค่บรรดารุ่น 7 ที่นั่งกันซะส่วนใหญ่นั้นเองครับสำหรับ CARNIVAL และจะเห็นว่าตัวรถนั้นจะมีการ ปรับตัวรถให้มีความสูงจากพื้นเตี้ยลงกว่ารุ่นเดิม 28 มม. ทำให้ขึ้นลงอะไรได้ดีกว่าเดิม







จุดเปลี่ยนแปลงภายนอกจะเป็นโลโก้ใหม่ทั้งหมด และการเปลี่ยนฟอนต์ CARNIVAL แบบเหลี่ยมมากกว่าเดิมเท่านั้นรวมถึงล้อโลโก้ใหม่ลายเดิมมาพร้อมกับ 18 นิ้วใช้งานงานออกแบบ 2 โทนสีเงินและดำ Machine Finished ขนาด 18 นิ้วใช้งานยางขนาด  235/60 R18 ซึ่งยางติดรถที่เห็นจะเป็นแบรนด์ Continental CrossContact ต้องบอกว่าคุณภาพดีเลยนะในเรื่องของความนุ่ม และ เงียบทำได้ดีในการขับขี่ความเร็วสูงถือว่าใช้งานยางติดรถที่ดีระดับนึง





หน้าตรงมีความดุดันมากจริงๆจะยังคงเห็นกระจังหน้าขนาดใหญ่ชัดเจนที่มาพร้อมกับเส้นสาย DRL และไฟเลี้ยวในตัวลา่กไปยังกระจังหน้าพร้อมกับไฟ LED ทั้งหมด 12 ดวง ทั้งไฟตัดหมอก ไฟสูงและไฟใหญ่ และเส้นสายโครมเมี่ยมจะเด่นชัดมากขึ้นทั้งส่วนกรอบด้านล่าง และ กระจังหน้านั้นเองถือว่าสวยที่สุดในบรรดา รถแวน รถตู้ในไทยตอนนี้เลยทีเดียว ส่วนด้านท้ายนั้นไฟท้ายแนวยาวแต่น่าเสียดายว่าไม่มีเส้นต่อเนื่องแบบรุ่น 7 ที่นั่งเลยทำให้ไฟท้ายเป็นแบบในภาพเท่านั้นและเป็นแบบหลอดไส้แอบน่าเสียดายจริงๆ ส่วนไฟตัดหมอกหลังอยู่ล่างสุด พร้อมกับ ไฟเลี้ยว ไฟถอยในแถบล่าง และ ไฟเบรคไฟหรี่นั้นจะอยู่ส่วนบนแถบสีแดงยาวๆนั้นเองพร้อมกับฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมใช้งานเหมือนเดิม แต่การเปลี่ยนโลโก้ทำให้ดูดีขึ้น และชิ้นส่วนไฟท้ายมีการเปลี่ยนใหม่ให้รองรับกับโลโก้ใหม่ จากของเดิมที่เป็นวงรีครับ



INTERIOR

งานออกแบบภายในรุ่นนี้มีความทันสมัยเส้นสายสวยงามและหน้าจอขนาดใหญ่ตามสมัยนิยมเพิ่มเข้ามารวมถึงการออกแบบโทนสีทูโทนสวยงามตัดกับสีดำได้เป็นอย่างดีครับแน่นอนว่าในรุ่น SXL ยังคงให้หลังคากระจก Sunroof มาให้ทั้งตอนหน้า และ ตอนหลังทำให้ตัวรถนั้นดูโปร่งโล่งมากขึ้นพร้อมกับที่บังแดดแบบเลื่อนมือใส่เข้ามาให้เช่นเดิมทั้ง 2 ตอนหน้าหลังนั้นสามารถเปิดออกได้ทั้งหมดเลยนั้นเองครับ และที่น่าสนใจนั้นจะเป็นระบบกุญแจตัวรถ แน่นอนว่าตัวกุญแจสามารถเดินเข้ามาใกล้ตัวรถ กระจกมองข้างจะเปิดออกมาพร้อมกับ กดที่มือจับเพื่อปลดล็อคได้ จะไม่มีระบบที่เงื้อมมือไปและเปิดได้เลยนะครับแอบน่าเสียดายนิดๆ แต่ที่ล้ำมากๆจะเป็นระบบเปิดประตูหลัง และประตูข้างได้แบบไม้ต้องแตะหรือเตะอะไรเลยนั้นเองครับใช้งาน Smart Power Sliding Door ประตูสไลด์เปิดอัตโนมัติ เมื่ออยู่ใกล้ตัวรถ และ ระบบ Away-Auto Close เปิด-ปิด ฝาท้ายอัตโนมัติ เมื่ออยู่ใกล้-ออกห่าง จากตัวรถ แค่พกกุญแจและเดินไปใกล้ๆได้เลยสะดวกมากๆ และ ตัวรีโมทเองยังสามารถกดเปิดแยกซ้าย ขวาได้ รวมถึงกดสตาร์ทตัวรถได้เปิดแอร์ทิ้งไว้ได้เลยก่อนเข้าตัวรถ และสามารถกด ปลดล็อคค้างไว้เพื่อเปิดประตูหลัง และ ประตูข้าง 2 บานพร้อมกันทั้งหมดได้







บรรยากาศภายในห้องโดยสารนั้นจะใช้งานโทนสีอบอุ่นซึ่งจะเป็นโทนสีทูโทนสีน้ำตาล Saddle Brown ตัดขอบสีดำนั้นเองมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วตรงกลาง และใช้งานเครื่องเสียง BOSE ทั้งหมด 12 ตำแหน่ง และมี Sub Woofer ในตัว อีกจุดนึงที่ค่อนข้างชอบในตัวนี้คือเรื่องของการออกแบบภายในการใช้งานวัสดุทุกอย่างพรีเมี่ยมขึ้นกว่าเดิมเท่าาตัวรวมถึงการใช้งานโทนสีดำ หรือ ว่าจะเป็นอลูมิเนียมด้านต่างๆเสริมเข้ามาทำให้ตัวรถนั้นดูดีขึ้นเยอะจริงๆครับรวมถึงการออกแบบดีเทลเส้นสายในแต่ละชิ้นงานด้วยเช่นกัน ปุ่มปรับแอร์ การเปลี่ยนโหมดต่างๆเป็นระบบสัมผัสทั้งหมดแล้ว รวมถึงการควบคุมเครื่องเสียงมีเดียทั้งหลายเช่นเดียวกัน และเราจะเห็นเส้นสีเงินลวดลายคล้ายกับข้างนอกตัวรถแทรกเข้ามาในตัวรถด้วยเช่นกันเป็นธีมการออกแบบที่ดี ในส่วนหน้าจอกลาง 12.3นิ้วรองรับการสัมผัสใช้งานได้สบายๆพร้อมกับมี เข็มทิศในตัวหน้าตา UI ดูหรูหราพรีเมี่ยมจัดเต็ม รองรับ Apple Carplay – Android Auto พร้อมใช้งานและเต็มสัดส่วนรวมถึงการสัมผัสตอบสนองทำได้ไวจุดนี้ยังคงไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก







พวงมาลัยทรงกลมโลโก้ใหม่แต่การออกแบบทั้งหมดเหมือนเดิมนะครับยังคงไม่ได้มีการปาดขอบอะไรใส่เข้ามาครับหุ้มหนังพร้อมกับการออกแบบปุ่มอะไรใหม่ทั้งหมดแน่นอนว่าใช้งานได้ง่ายและดีกว่าเดิมเยอะมากและมาพร้อมกับ Paddle Shift พร้อมใช้งาน +- สบายๆ และปุ่มควบคุมในด้านซ้ายจะเป็นการควบคุมเครื่องเสียงทั้งหมด ส่วนในด้านขวาจะเป็นการควบคุมระบบ Adaptive Cruise และแน่นอว่าเป็นการควบคุมระบบ Lane Following ต่างๆในด้านขวาทั้งหมด หรือจะเป็นการปรับระยะห่างต่างๆครับระหว่างรถข้างหน้ารวมถึง การเข้าเมนูเข้าตั้งค่าหน้าจอเรือนไมล์ทั้งหลายและเลขไมล์ต่างๆด้วยเช่นกันครับ และ ที่สำคัญคือการได้หน้าจอเรือนไมล์แบบ ดิจิตอล 100% เข้ามาพร้อมรองรับการใช้งานมากกว่าเดิมทั้งหน้าตา 3 โหมดการขับขี่ รวมถึงฟีเจอร์ความปลอดภัยและการใช้งาน Adaptive Cruise ที่เห็นเป็นรถเต็มๆคันสวยขึ้นแม้จะไม่ได้โชว์ 3 เลนถนนแต่ก็ถือว่าดีกว่ารุ่นก่อนหน้าที่เป็นแบบจอเล็กนั้นเองและการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้การใช้งานจริงก็ดีขึ้น ไม่ว่าจะเตือนเวลาเปิดประตู หรือ รถถอยตัดหลัง