ดีหรือไม่ดีต่อศาสนา จากข่าววัดสร้างกระแสดึงเรื่องดารา การเมือง โซเชียลมาให้คนเข้าวัด รู้จักวัดมากยิ่งขึ้น

กระทู้คำถาม
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
อันตรธานธรรม
https://ppantip.com/topic/36793681/comment12

ธาตุอันตรธานปริวัตต์
คำว่า อัตรธาน คือ ความเสื่อมสูญเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา มี ๕ ประการ คือ
๑.ปริยัติอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งพระปริยัติ
๒.ปฏิบัติอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งการปฏิบัติ
๓.ปฏิเวธอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งการสำเร็จมรรคผลนิพพาน
๔.ลิงคอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งเพศสมณะ
๕.ธาตุอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งพระบรมธาตุ

ปริยัติอันตรธาน

พระปริยัติ ได้แก่พระไตรปิฏกทั้ง ๓ คือ พระวินัยปิฏก พระสุตตันตปิฏก และพระอภิธรรมปิฏก ตราบใดที่พระไตรปิฏกยังดำรงอยู่ พระพุทธศาสนาก็ชื่อว่าดำรงอยู่ตราบนั้น เพราะบุคคลจะบรรลุมรรคผลนิพพานได้ ก็ด้วยอาศัยการศึกษาเล่าเรียนพระไตรปิฏก เมื่อพระปริยัติเสื่อมถอยหาบุคคลที่จะศึกษาเล่าเรียนน้อย ศาสนาก็เสื่อมถอยตามไปด้วย การเสื่อมถอยแห่งพระปริยัตินั้นจะมีสิ่งบอกเหตุให้ทราบเป็นลำดับคือ
เมื่อถึงกลียุคสมัย พระราชามหากษัตริย์มิได้ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมประเพณี อีกทั้งหมู่อำมาตย์ราชเสนาบดี รวมทั้งอาณาประชาราษฏร์ทั้งในเมืองและชนบท ต่างพากันงดเว้นจากการประพฤติธรรม พากันหาความสุขสำราญตามอัธยาศัย ข่มเหงเบียดเบียนผู้ที่อ่อนแอกว่าให้เดือดร้อน เมื่อเป็นเช่นนี้ ดินฟ้าอากาศก็วิปริต ผิดปกติฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล พืชพันธุ์ธัญญาก็หายาก หมู่มนุษย์และสัตว์พากันลำบากเดือดร้อนขาดแคลนอาหารทั้งทรัพย์สินเงินทอง เมื่อมนุษย์ทั้งหลายต่างพากันอดอยากยากเข็ญแล้ว จตุปัจจัยไทยทานที่จะถวายแก่พระภิกษุสงฆ์ให้อยู่ดีมีสุขก็หายาก ภิกษุสงฆ์ก็พลอยได้รับความลำบากไปด้วย เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ ก็ไม่สามารถสงเคราะห์กุลบุตรให้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติได้ ครั้นเมื่อพระปริยัติขาดผู้เล่าเรียนแล้วก็เสื่อมทรุดลงตามลำดับ ภิกษุทั้งหลายจะไม่รู้ความหมายแห่งพระปริยัติ จะเหลือแต่บาลีอย่างเดียวแต่ขาดผู้รู้ความหมาย
ในการเสื่อมสูญแห่งพระไตรปิฏกนั้น พระอภิธรรมปิฏกจะเสื่อมก่อน พระอภิธรรมนั้นมี ๗ คัมภีร์ ได้แก่
๑.พระสังคิณี
๒.พระวิภังค์
๓.พระธาตุกถา
๔.พระปุคคลบัญญัติ
๕.พระกถาวัตถุ
๖.พระยมก
๗.พระมหาปัฏฐาน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


การพิทักษ์พระพุทธศาสนา จากหลวงพ่อเสือ
http://www.abhidhamonline.org/Ajan/book.htm

พุทธศาสนา อยู่ที่วัดวาอารามหรือ? ก็ไม่ใช่ อยู่ในพระไตรปิฏกหรือ? ก็ไม่ใช่, หรืออยู่ที่ภิกษุ – สามเณร ต้องหาให้เจอ และต้องตั้งคำถามต่อไปว่า

พระพุทธศาสนา เจริญรุ่งเรือง อะไรเจริญ? วัดวาอารามมีมากหรือ? มีโบสถ์วิหารการเปรียญที่สวยงามมากนักหรือ สร้างพระไตรปิฏกได้เป็นพันๆ ชุด หรือ? หรือแต่งหน้าธรรมกันมากๆ หรือมีภิกษุสามเณรกันมากๆ มีการแสดงธรรมมากทางวิทยุ โทรทัศน์ ทางInternet หรือมีการประชุมมีการปฏิบัติธรรมเป็นแสนๆ ต้องหาคำตอบให้ได้
และการที่เราจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เราจะต้องบำรุงอะไร? วัดวาอาราม โบสถ์วิหารศาลาการเปรียญหรือ? หรือให้กุฏิ หรือให้การอุปสมบทพระภิกษุสามเณร เราต้องเข้าใจอีก
ถ้าไม่เข้าใจแล้ว จะไม่รู้ว่าพระพุทธศาสนาอยู่ที่ไหน อะไรเจริญ บำรุงอย่างไร นี่แหละเป็นจุดเสื่อมเลย การศึกษาและการเล่าเรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นความสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะตีวงของชีวิตให้แคบลงมา

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
(๑) พุทธทำนาย ๑๖ ข้อ จากพระสุบินนิมิตร ของพระเจ้าปเสนทิโกศล
http://www.m-culture.go.th/young/ewt_news.php?nid=324&filename=index

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พุทธทำนาย 16 ประการ
https://ppantip.com/topic/39835074/comment2

๑. โคอุสุภราช (เกิดทุกขภัยทุกทิศทาง)
๒. ดอกไม้ออกผลที่เยาว์ (เยาวชนมีเพศสัมพันธ์ มีครอบครัวแต่แรกรุ่น)
๓. แม่โคดูดนมลูกโค (คนไม่เคารพพ่อแม่ พ่อแม่ต้องอ้อนวอนลูกหลาน)
๔. โครุ่นเทียมแอก (เอาคนรุ่นใหม่มาปกครองประเทศ ทำให้ประเทศเสียหาย)
๕. ม้าสองปากคน (ผู้ตัดสินคดีความรับสินบนทั้ง สองทาง)
๖. ถาดทองรองฉี่หมา (คนชั่วเป็นใหญ่)
๗. สุนัขจิ้งจอกฝั่นเชือก (หญิงคบชู้นำเงินสามีไปบำเรอชู้โดยสามีไม่รู้)
๘. น้ำเต็มอยู่ตุ่มเดียว (คนรวย นายทุนเปรียบ พระราชา รวยแต่ฝ่ายเดียว)
๙. สระน้ำใสริม กลางสระขุ่น (ในเมืองจะถูกขูดรีด คนอพยพไปอยู่ในชนบท)
๑๐. ข้าวไม่สุก (เทวดายังไม่เท่าเทียมให้นำฝนไม่พอดีทำให้น้ำท่วม)
๑๑. แก่นจันทร์แลกเปรียง (ศาสนาเสื่อมภิกษุนำสิ่งที่มีค่า พระธรรม แลกกับปัจจัย)
๑๒. น้ำเต้าจม (คนโกหกจะมีคนเชื่อ คนพากันเชื่อพระผู้ทุศีล)
๑๓. ศิลาลอย (คนพูดความจริงคนจะไม่ฟัง พระผู้มีศีล ไม่ได้รับการเคารพ)
๑๔. เขียดขยองงู (เมียอ่อนวัยจะด่าว่าสามีด้วยอำนาจ ไม่ยำเกรง)
๑๕ หงส์ทองล้อมกา (คนชั่วได้รับอำนาจ ได้เป็นใหญ่ คนดีต้องยำเกรง)
๑๖ เสือ-กลัวแพะ (คนดี ถูกคนชั่วที่ได้รับอำนาจประทุษร้าย)

สัมมาทิฏฐิ ๖
http://nab.or.th/%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%8F%E0%B8%90%E0%B8%B4-%E0%B9%96

       เพื่อจะทำความเข้าใจ เรื่องของปัญญาในพระพุทธศาสนาที่เจริญขึ้นได้โดยลำดับ จะได้ขอนำเอาปัญญาหรือสัมมาทิฏฐิมาแสดงในวันนี้ ดิฉันจะพูดเรื่องของสัมมาทิฏฐิ เพราะว่าเรื่องการเห็นถูก ๖ อย่าง เมื่อคราวที่แล้วมาพูดเรื่องสัจจะความจริงมี ๖ อย่าง มาวันนี้พูดถึงเรื่อง ความเห็นถูก ๖ อย่างนะคะ แต่ว่าผู้ที่จะเข้าถึงพระพุทธศาสนาที่แท้จริงแล้ว จะต้องมีความเห็นถูกทั้ง ๖ อย่างนี้ อย่างบริบูรณ์นะคะ เห็นถูก ๖ อย่างนี้ คือสัมมาทิฏฐิ ๖ อย่างนี้ล้วนแต่เป็นญาณทั้งหมดนะคะ ที่มีมาจากสัมมาทิฏฐิสูตร ดิฉันจะได้กล่าวไปตามลำดับ  ดังนี้

          ๑.กัมมัสสกตาสัมมาทิฏฐิ คือว่ากัมมัสสกตาญาณ หรือกัมมัสสกตาสัมมาทิฏฐิก็ได้ คือสัมมาทิฏฐินี้ เป็นชื่อของปัญญา คำว่าญาณ ก็เป็นชื่อของปัญญา ฉะนั้นก็เป็นอันเดียวกันค่ะ ในข้อที่ชื่อว่ากัมมัสสกตาสัมมาทิฏฐิ หมายถึงความเห็นถูกในกรรมและในผลของกรรม เห็นว่ากรรมนี้ต้องมีการกระทำด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ถ้าทำกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม ย่อมมีผล ไม่ใช่ไม่มีผล แปลว่า ความเห็นประกอบด้วยเหตุและผล และก็ถูกต้องด้วยนะคะ ถ้าหากว่า มิจฉาทิฏฐิก็เห็นตรงข้ามอย่างนี้ ความเห็นอันนี้ก็ชื่อว่า เป็นความเห็นถูกอันหนึ่ง พระพุทธศาสนาก็รับรองว่าเป็นความเห็นถูก ชื่อว่า สัมมาทิฏฐิ เป็นความเห็นถูกตามกรรมบถ


ดีหรือไม่ดีต่อศาสนา จากข่าววัดสร้างกระแสดึงเรื่องดารา การเมือง โซเชียลมาให้คนเข้าวัด รู้จักวัดมากยิ่งขึ้น

จะดีต้องสร้างสัมมาทิฏฐิ ให้กับพุทธบริษัท  แต่หากใช้ โลภะ โทสะ โมหะ มาสร้างกระแส ก็ไม่ดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่