ที่มา:
http://www.matichon.co.th/news/310695
พระมหาขวัญชัย กิตติเมธี พระวิทยากรกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ เปิดเผยกรณีที่ประชุมใหญ่ขององค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเร็วๆ นี้ ได้สะท้อนถึงปัญหาว่าทั่วโลกมีผู้นับถือศาสนาพุทธลดลง เนื่องจากวิธีการเผยแผ่ศาสนาล้าหลัง ว่า สาเหตุที่คนทั่วโลกนับถือศาสนาพุทธลดลง มาจากนักเผยแผ่ศาสนาขาดความรู้เรื่องเทคโนโลยี โดยเฉพาะพุทธศาสนานิกายเถรวาทในประเทศไทย ชาวพุทธมักมองพระสงค์ด้วยอุดมคติแบบเดิม คือพระสงฆ์ต้องมีจารวัตรที่น่าเลื่อมใสตามกรอบพระธรรมวินัย หากพระสงฆ์มีพฤติกรรมแบบอื่น เช่น เล่นโซเชียลจะมองว่าไม่เหมาะสม ทั้งที่ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว
“ส่วนวิธีการที่จะดึงให้ชาวพุทธกลับมาศรัทธาพุทธศาสนานั้น หน่วยงาน หรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง ต้องสร้างนักวิชาการที่มีความรู้มีความเชี่ยวชาญในการเผยแผ่ศาสนา ที่สำคัญต้องมีงานวิจัยของตนเองมารองรับ เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยในการเผยแผ่ เนื่องจากการเผยแผ่ศาสนาระดับนานาชาติ ประชาชนจะให้ความสำคัญกับงานวิจัยมาก” พระมหาขวัญชัยกล่าว
พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักคิดนักเขียน วัดสร้อยทอง กล่าวว่า บางประเทศที่มีประชาชนนับถือศาสนาพุทธเป็นจำนวนมาก เกิดความนิ่งนอนใจ ไม่ตื่นตัวในการเผยแผ่ศาสนา เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปจึงทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาขึ้น เนื่องจากชาวพุทธบางคนไม่มีหลักในการนับถือศาสนาพุทธอย่างแท้จริง ยังเอนเอียงไปไหว้ผีไหว้เทพ ส่วนรูปแบบวิธีการเผยแผ่ศาสนาที่มีผู้มองว่าไม่พัฒนานั้น เป็นเรื่องจริง เพราะพระสงฆ์ยังใช้วิธีเผยแผ่เชิงพิธีกรรม เช่น การเทศน์สอนชาวบ้าน ซึ่งเป็นวิธีที่เป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้ ดังนั้น พระสงฆ์ควรจะหันมาเผยแผ่ศาสนาให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ด้วยการลงพื้นที่ไปช่วยเหลือสังคม เพื่อให้ชาวบ้านมองว่าการเผยแผ่ศาสนาไม่ใช่เรื่องไกลตัว และเป็นหน้าที่ของชาวพุทธทุกคนที่ต้องช่วยกัน ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระสงฆ์บางกลุ่มเท่านั้น
คาดนับถือ ‘พุทธ’ ลดเหตุนักเผยแผ่อ่อนโซเชียล ‘พระมหาไพรวัลย์’ แนะสงฆ์ลงพื้นที่ช่วยสังคมแทนเทศน์อย่างเดียว
พระมหาขวัญชัย กิตติเมธี พระวิทยากรกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ เปิดเผยกรณีที่ประชุมใหญ่ขององค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเร็วๆ นี้ ได้สะท้อนถึงปัญหาว่าทั่วโลกมีผู้นับถือศาสนาพุทธลดลง เนื่องจากวิธีการเผยแผ่ศาสนาล้าหลัง ว่า สาเหตุที่คนทั่วโลกนับถือศาสนาพุทธลดลง มาจากนักเผยแผ่ศาสนาขาดความรู้เรื่องเทคโนโลยี โดยเฉพาะพุทธศาสนานิกายเถรวาทในประเทศไทย ชาวพุทธมักมองพระสงค์ด้วยอุดมคติแบบเดิม คือพระสงฆ์ต้องมีจารวัตรที่น่าเลื่อมใสตามกรอบพระธรรมวินัย หากพระสงฆ์มีพฤติกรรมแบบอื่น เช่น เล่นโซเชียลจะมองว่าไม่เหมาะสม ทั้งที่ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว
“ส่วนวิธีการที่จะดึงให้ชาวพุทธกลับมาศรัทธาพุทธศาสนานั้น หน่วยงาน หรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง ต้องสร้างนักวิชาการที่มีความรู้มีความเชี่ยวชาญในการเผยแผ่ศาสนา ที่สำคัญต้องมีงานวิจัยของตนเองมารองรับ เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยในการเผยแผ่ เนื่องจากการเผยแผ่ศาสนาระดับนานาชาติ ประชาชนจะให้ความสำคัญกับงานวิจัยมาก” พระมหาขวัญชัยกล่าว
พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักคิดนักเขียน วัดสร้อยทอง กล่าวว่า บางประเทศที่มีประชาชนนับถือศาสนาพุทธเป็นจำนวนมาก เกิดความนิ่งนอนใจ ไม่ตื่นตัวในการเผยแผ่ศาสนา เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปจึงทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาขึ้น เนื่องจากชาวพุทธบางคนไม่มีหลักในการนับถือศาสนาพุทธอย่างแท้จริง ยังเอนเอียงไปไหว้ผีไหว้เทพ ส่วนรูปแบบวิธีการเผยแผ่ศาสนาที่มีผู้มองว่าไม่พัฒนานั้น เป็นเรื่องจริง เพราะพระสงฆ์ยังใช้วิธีเผยแผ่เชิงพิธีกรรม เช่น การเทศน์สอนชาวบ้าน ซึ่งเป็นวิธีที่เป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้ ดังนั้น พระสงฆ์ควรจะหันมาเผยแผ่ศาสนาให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ด้วยการลงพื้นที่ไปช่วยเหลือสังคม เพื่อให้ชาวบ้านมองว่าการเผยแผ่ศาสนาไม่ใช่เรื่องไกลตัว และเป็นหน้าที่ของชาวพุทธทุกคนที่ต้องช่วยกัน ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระสงฆ์บางกลุ่มเท่านั้น