นิยาย ย้อนรอยรัก ตอนที่ 1 งานเลี้ยงคืนนั้น

คุณเคยนึกอยากจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่คุณคิดว่า ได้ทำผิดพลาดบ้างไหม แล้วถ้าวันหนึ่ง คุณสามารถกลับไปได้ คุณจะแก้ไขมันไหม ถ้ารู้ว่าอนาคตมันต้องเปลี่ยน??







เดรสสีแดงถูกทาบลองบนร่างของหญิงสาวเพื่อหาชุดที่ดีที่สุดให้เหมาะกับงานเลี้ยงในคืนนี้...นานมากแล้วที่เธอแทบไม่เคยสังสรรค์กับเพื่อน

หรือใครๆ นอกจากเพื่อนสาวคนสนิท “ทับทิม”ที่สนิทกันตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ที่ยังไปมาหาสู่เธออยู่เป็นประจำ ไม่ใช่ว่าเจ้าหล่อนไม่เบื่อกับ

การอยู่บ้านตลอดแบบนี้ แต่ด้วยหน้าที่การงานของเธอเองก็ทำให้เธอไม่ได้ออกไปพบปะผู้คนด้วย หญิงสาวเลือกเสื้ออยู่นานจนในที่สุดก็

ลงตัวที่เสื้อเดรสแดงตัวยาวที่ช่วยขับสีผิวที่ขาวผ่องของเธอให้ดูงดงามยิ่งขึ้น เจ้าหล่อนมองตัวเองในกระจกอย่างมีความสุข หล่อนค่อยๆก้าว

ไปที่กระจกบานใหญ่ช้าๆคล้ายต้องมนต์ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำลายทั้งความเงียบภายในบ้านและจิตใจ หญิงสาวหันรีหันขวางหา

โทรศัพท์ เมื่อหยิบขึ้นก็รู้ว่าใครโทรมา

“แมน พียังติดงานอยู่คงจะไปถึงที่งานช้า ยังไงแมนเข้างานไปก่อนเลยถ้างานเสร็จทัน เดี๋ยวพีจะตามไป” 

“ได้จ๊ะ งั้นพีรีบตามมานะ”

“โอเคจ๊ะ”
 
 
          ห้องจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่ในโรงแรมสุดหรูที่บรรจุคนได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยกว่าคน บัดนี้แออัดไปด้วยคนภายในงานมากหน้าหลายตา ทั้งชายและหญิงแต่งกายด้วยชุดสวยงามในการหวนกลับมาเจอกันในระยะเวลาหลายปี เพื่อนร่วมรุ่นรวมคณะทุกคนต่างก็แต่งตัวประชันความหล่อความสวยและความหรูหราที่พอที่จะทำกันได้และบอกเล่าเรื่องราวใน ชีวิตของฉันแต่ละคนนั้นประสบความสำเร็จมากแค่ไหน โต๊ะกลมตัวใหญ่มีมีคนนั่งล้อมแน่นแทบทุกโต๊ะ กำลังคุยถึงชีวิตกันแต่ละคนว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ใครเปลี่ยนไปแบบไหนกันอย่างครึกครื้น  หน้าประตูทางเข้าปรากฏร่างหญิงสาวร่างเล็กสวมชุดเดรสสั้นสีขาวทันสมัยยืนชะเง้อคล้ายรอคนอยู่ที่โถงทางเดินหน้าประตูลิฟต์หวังว่าจะเจอร่างใครสักคนที่เจ้าหล่อนรออยู่

เมื่อประตูลิฟต์เปิดขึ้น หญิงสาวร่างเล็กผิวขาวผ่องเดินออกจากลิฟต์ด้วยชุดเดรสยาวสีแดง ฝ่ายที่เฝ้าคอยมองเห็นเธอจากระยะไกลจำได้ทันทีก่อนโบกมือโบกไม้ให้เจ้าของชุดเดรสแดงเดินมาทางเธอ ต้องมนต์ยิ้มอ่อนมองตรงไปที่หญิงสาวร่างเล็กก่อนที่จะเดินตรงไปหาเธอ

“วันนี้แกสวยมาก แต่ฉันก็รอแกนานมาก  แล้วไอ้พีละ เอารถไปจอดเหรอ”

“ฉันมาก่อนพีนะ เค้าเพิ่งจะออกจากที่ทำงานเอง เดี๋ยวเราไปจองที่ด้านในก่อนดีกว่า” 

“จ๊ะ แม่คนรักแฟน” 

หญิงสาวร่างเล็กพยักหน้ารับคำ สายตามองด้วยความกึ่งแซวเพื่อนสาวตัวดี ที่ทำท่ารักแฟนหนุ่มออกนอกหน้านอกตา ก่อนกึ่งจูงกึ่งลากเพื่อนซี้เข้ามาในงาน และพาเธอไปนั่งที่เก้าอี้ที่สาวเจ้าเอากระเป๋าวางจองเอาไว้....
 
 
รถเก๋งคันเก่าวิ่งตรงมาทางเส้นทางที่ภรรยาของชายหนุ่มบอกเอาไว้...ในใจของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ งานใหญ่ที่ใครๆต่างแย่งชิง ตอนนี้มันอยู่ในมือของเขาแล้ว มือหนาวางมือบนแฟ้มเอกสารงาช้างสีดำ ในใจรู้สึกฮึกเหิม  ถึงเวลาเสียทีที่จะเรียกความภาคภูมิใจที่เคยหายไปกลับมา ในเวลาแบบนี้คนส่วนมากคงอยากจะแบ่งปันความรู้สึกกับใครซักคน แต่น่าแปลกในใจ  เรื่องน่ายินดีแบบนี้ เขากลับไปรู้สึกกระตือรือร้นที่จะเล่าให้ภรรยาสาวของตัวเองได้รับรู้ แม้เขาจะรู้ว่า เมื่อบอกเธอไป เจ้าหล่อนคงดีใจซะยิ่งกว่าเรื่องของตัวเองเสียอีก แต่ก็นั้นแหละ…ถึงเธอจะดีใจขนาดนั้น แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกภูมิใจที่ได้อวดให้เข้าหล่อนฟังซักนิด

“ งานเลี้ยงรุ่นเหรอ  ฮึ”

ไม่เคยนึกอยากไปซักนิด   แต่ก็นั้น...เพื่อตัดปัญหาที่จะตามมา ในเมื่อสาวเจ้าอยากมานักหนา ก็จะมาให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ชายหนุ่มไม่ยอมเลี้ยวรถเข้าไปจอดในโรงแรมที่จัดงาน แต่ขับตรงไปเพื่อหาสวนสาธารณะใกล้เพื่อจอดรถแทน เขานึกถึงในตอนที่เพื่อนๆสมัยเรียนมาเห็นรถเขาในสภาพแบบนี้แล้ว สู้แกล้งบอกว่ารถเสียไม่ได้เอามายังดีซักกว่า.ชายหนุ่มวนหาที่จอดรถซักพักในที่สุดก็หาได้...ก่อนที่จะลงรถ ชายหนุ่มดึงบานพับกระจกอันนิดที่อยู่เหนือที่นั่งในรถเพื่อจะจัดแต่งทรงผมให้ดูเข้าทีก่อนลงรถ เขามองตัวเองในกระจก

“ซักวันต้องเป็นวันของนาย  นายปฐพี”

ชายหนุ่มก้าวลงจากรถ ค่อยๆเดินช้าๆไปที่โรงแรมหรู...เดินอย่างช้าๆแทบไม่อยากให้ถึงงาน เขาไม่อยากเจอเพื่อนฝูงเก่า..ไม่อยากเจอใคร..ไม่อยากให้ใครรับรู้ถึงความตกต่ำในชีวิตของเขา...แต่ก่อนเขาไม่ใช่แบบนี้และไม่ควรอยู่ตรงนี้.....ชายหนุ่มเดินทอดน่องถึงแม้ไม่อยากจะให้ถึงเท่าไหร่ แต่ระยะทางจากสวนสาธารณะไม่ได้ไกลจากโรงแรมนัก เขาใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ก็ถึงที่หมาย ชายหนุ่มกำลังจะก้าวเข้าโรงแรม ยังไม่ทันได้เข้าประตู เสียงที่เขาคุ้นหูก็ส่งเสียงทักเขาจากด้านหลัง...เสียงหวานแสนคุ้นหูดังไม่ไกลจากตัวเขา เขาจำเสียงนี้ได้..ไม่ต้องคิดอะไรมากอีก ชายหนุ่มกลั้นใจหันไปมองเจ้าของเสียงหวานคุ้นหู...ในสายตาของชายหนุ่ม...ร่างบอบบางผิวขาวผ่องหน้าทะนุถนอมเดินตรงมาอย่างช้าๆด้วยชุดเดรสเกาะอกสีขาวเหนือเข่า ใบหน้ารูปไข่พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ 

“สวัสดีค่ะ พี่พี ดีใจที่ได้พบกันอีกนะคะ” 

หญิงสาวเอ่ยปากทักทายก่อนเมื่อเดินมาถึงตัวเขา

“สวัสดีค่ะ ลินดา ”

 ชายหนุ่มยิ้มให้อย่างจริงใจ แม้ว่าเขาจะคาดไม่ถึงว่าจะได้เจอคนที่ไม่อยากเจอที่สุดที่นี้ แต่เขาก็ไม่ได้แสดงอาการจนเกินงาม
หญิงสาวตรงหน้ามองหน้าเค้านิ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน  

“พี่พียังพูดคะขาเหมือนเดิมเลยนะคะ”

เสียงปฐพีหัวเราะเบาๆ แม้ว่าเขาจะรู้สึกเกร็งเล็กน้อยที่อยู่ต่อหน้าสาวรุ่นน้อง แต่ก็ไม่แสดงอาการออกมาให้จับได้ เขามีมาดเสมอ

“พี่ก็นึกไม่ถึงว่า ลินจะจำเรื่องแบบนี้ได้นะคะ”

ทั้งสองพากันยิ้มขวยเขิน ไม่พูดอะไรต่อ  ต่างฝ่ายรู้สึกเก้อนิดๆ ที่มาเผชิญหน้ากัน หญิงสาวรีบทำลายรีบความเงียบที่เกิดขึ้น

“พี่พีสบายดีไหมคะ ”

“สบายดีคะ ลินก็เหมือนกัน..ใช่ไหม”

“ค่ะ ลินสบายดี และตอนนี้ลินก็ดีใจมากๆ ที่ได้เจอพี่พีที่นี้อีก ”

“พี่ก็เช่นกันคะ”

ปฐพียิ้มให้สาวเจ้าที่อยู่ตรงหน้าอย่างอ่อนโยน เธอคนนี้ไม่เปลี่ยนไปเลย ทั้งความสดใสและน่ารัก จะเปลี่ยนก็นิดเดียวตรงที่สวยขึ้นและดูสง่าขึ้นกว่าตอนสมัยก่อน  แม้เขาจะคุยกับเจ้าหล่อน แต่ก็พอสังเกตุได้ว่า บรรดาผู้ชายที่เดินเข้าออก ต่างก็มองสาวเจ้าแทบไม่ละสายตา ฮึ..ถ้าใครรู้ว่า สาวสวยคนนี้เคยหลงรักเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น  คงอิจฉากันน่าดู

“ลินว่า เราเข้าไปในงานกันเถอะนะคะ”

หญิงสาวพยักหน้า ชายหนุ่มยิ้มรับ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะเดินนำหน้าเขาเข้าไปก่อน  

        

อ่านต่อได้ในคอมเม้นท์นะคะ ตอนที่ 1
 
 
 
 
         
 
 

 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่