JJNY : นิสิตจุฬาประณามแรง! อุ้มหาย/พิชัยจี้ตู่ เร่งปรับครม.ศก./จาตุรนต์ชี้ศึกพปชร.ซ้ำเติมปท./ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย

เสาหลักไม่หักอีกต่อไป! นิสิตจุฬา ประณามแรง! อุ้มหายลึกลับ "วันเฉลิม"
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4264752
 

 
เสาหลักแผ่นดิน! นิสิตจุฬา ร่อนแถลง ประณามแรง! "วันเฉลิม" ถูกอุ้มหาย ชี้เป็นอาชญากรรมที่รุนแรง เป็นเครื่องมือกำจัดผู้เห็นต่างของรัฐ  [เผล่ะจัง]
 
จากกรณี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้ลี้ภัยชาวไทย หลังถูก คสช.เรียกรายงานตัวและดำเนินคดีพรบ.คอมพ์ เนื่องจากเป็นแอดมินเพจ "กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ" ซึ่งเป็นเพจเปิดโปงข้อเท็จจริงการเผาเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อปี 53 หายตัวไปอย่างลึกลับ ด้วยวิธีการถูกลักพาตัวขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคล เมื่อเย็นวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ต่อมา การหายตัวอย่างลึกลับของนายวันเฉลิม กลายเป็นกระแสสังคม ผู้คนจำนวนมากเรียกร้องด้วยความไม่พอใจ และต้องการตามหาความจริง
 
ล่าสุด วานนี้ (5 มิ.ย.) สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกแถลงกรณีอุ้มหาย นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ (ต้าร์) โดยเนื้อหาของแถลงการณ์บางตอน วิพากษ์รัฐไทยสร้างวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด จี้ช่วยติดตามผู้ถูกอุ้มหาย ออกกฎหมายคุ้มครอง และลงสัตยาบันรับรองอนุสัญญาระหว่างประเทศคุ้มครองบุคคลสูญหายโดยเร็ว
 
 
 


"พิชัย" จี้ "บิ๊กตู่" เร่งปรับ ครม.ศก. เหน็บ อย่าเป็นหัวหน้าทีมเอง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1862324
 
"พิชัย" อดีต รมว.พลังงาน จี้ "บิ๊กตู่" เร่งปรับเปลี่ยน ครม. เศรษฐกิจ ชี้ ปรับ ครม. เท่ากับยอมรับความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ แนะ ต้องไม่เป็นหัวหน้าทีมเองเพราะไม่เก่ง จี้ เปลี่ยนตัว รมว.ดีอีเอส ไร้ผลงาน ทั้งที่เป็น กระทรวงสำคัญในอนาคต 
 
วันที่ 6 มิ.ย. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน กล่าวว่า ตามกระแสข่าวที่จะมีการปรับ ครม. ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งควรทำมานานแล้ว เพราะล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจมาโดยตลอด และอยากให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้ศึกษาบทเรียนในการคัดเลือกบุคลากรเข้าบริหารเศรษฐกิจ ควรจะต้องเป็นคนทีมีความรู้ ความสามารถ อย่างแท้จริง ไม่ใช่มีแค่ภาพ เก่งแต่การตลาด แต่บริหารไม่เป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ พลเอกประยุทธ์ไม่เก่งเศรษฐกิจ ตามที่ยอมรับเอง และตามที่ได้แสดงออกมาให้เห็นโดยตลอด ก็ยิ่งจะต้องการคนเก่งมากขึ้น และอย่าถูกหลอกให้เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเองอีก เพราะหัวหน้าทีมต้องสามารถแยกแยะได้ว่า อะไรดีอะไรไม่ดีและตัดสินใจได้ในทันที ซึ่งพลเอกประยุทธ์อาจจะไม่มีความสามารถที่จะทำได้ หรือ อาจจะทำผิดๆ แบบที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี การปรับครม. เศรษฐกิจควรเร่งปรับโดยด่วน อย่าปล่อยคาราคาซังเพราะจะเกิดความไม่แน่นอนในแนวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัจจุบันที่ตัวเลขเศรษฐกิจ ออกมาย่ำแย่หนัก นอกจาก เศรษฐกิจไทยจะถดถอยมาก และจีดีพีจะติดลบหนักแล้ว รัฐบาลยังขาดดุลบัญชีเดินสะพัดกว่า 3 พันล้านเหรียญ ซึ่งสูงสุดในรอบ 20 ปี และเงินเฟ้อติดลบที่ -3.44% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี หรือ เรียกว่า เข้าสู่ภาวะเงินฝืดแล้ว เป็นต้น ซึ่งน่าห่วงมาก เพราะเศรษฐกิจที่ทรุดลงหนักแล้วจะฟื้นกลับมาได้ลำบากมาก
 
นายพิชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี การปรับ ครม. เศรษฐกิจ จะเท่ากับยอมรับอย่างเป็นทางการว่า รัฐบาลล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ ดังนั้น การปรับครม. เศรษฐกิจควรจะปรับรองนายกฯ ที่เคยคุมเศรษฐกิจออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับความล้มเหลว และกระทรวงการคลังที่ไม่ได้ผลงานในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจคิดได้แค่แจกเงินอย่างเดียว แถมแจกเงินยังถูกด่าเพราะล่าช้าและไม่ทั่วถึง ประชาชนเดือดร้อนจำนวนมากไม่ได้รับ และ รมว. คลังก็ยอมรับความผิดพลาดเอง อีกทั้งการเยียวยายังไม่เรียบร้อย แต่จะคิดแจกเงินเที่ยว แจกเงินช้อปปิ้ง กันอีกแล้ว ทั้งที่ในอดีตไม่เคยประสบความสำเร็จ และไม่ได้เป็นการฟื้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง นอกจากนี้ อาจจะรวมไปถึง ครม. เศรษฐกิจคนเดิมๆ ที่เปลี่ยนกระทรวง เช่น กระทรวงพลังงาน เพราะที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานมีการดำเนินงานอย่างสับสน จะเพิ่มสัดส่วนเอทานอลในน้ำมันทั้งที่เอทานอลแพงกว่าน้ำมันหลายเท่าตัว การออกใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าที่มีราคาซื้อไฟฟ้าสูง ทั้งที่มีการผลิตไฟฟ้าล้นเกินความต้องการใช้มาก รวมถึงการตรวจสอบการทุจริตซื้อหุ้นเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย ที่ขาดทุนอย่างมาก เป็นต้น ซึ่ง รมว.พลังงาน ไม่เคยอธิบายเรื่องเหล่านี้เลย ทั้งที่ได้มีการทักท้วงแล้วหลายหน แสดงถึงการยอมรับความผิดพลาดในการบริหารงาน
  
อดีตรมว.พลังงาน กล่าวว่า นอกจากนี้ ควรปรับเปลี่ยน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ด้วยเพราะกระทรวงนี้มีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศในอนาคต แต่กลับไม่มีผลงานอะไรแถมยังสับสนตลอด ตั้งแต่การตั้งหน่วยงานปราบเฟกนิวส์ แต่กลับถูกฟ้องเรื่องปล่อยเฟกนิวส์เอง จนถึงการจะทำไทยฟลิกซ์ เพื่อแข่งกับเน็ตฟลิกซ์ โดยที่ไม่ได้ดูศักยภาพของตัวเองเลย เป็นต้น ซึ่งทั้งสองเรื่องน่าจะมาจากความพยายามจะสร้างผลงานเพราะกลัวถูกปรับเปลี่ยนแต่ไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอมากกว่า
  
"ภาวะเศรษฐกิจต่อจากนี้ไป จะยิ่งหนักหนาสาหัสอย่างมาก ผู้ที่จะมารับผิดชอบทางเศรษฐกิจจะต้องมีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง จึงจะฝ่าฟันปัญหาไปได้ ดังนั้นพลเอกประยุทธ์จะต้องลาออกจากหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และหาทีมบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญทางเศรษฐกิจมาเป็นแทน อีกทั้งจะต้องสามารถแสดงให้ประชาชนได้เห็นแนวทางว่าประเทศไทยจะฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อไปได้อย่างไรหลังวิกฤติไวรัสโควิด-19 นี้ ที่ปัจจุบันยังดูมืดมนไม่เห็นทิศทาง" นายพิชัย กล่าว...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่