นักการเมืองหลายคน แห่โพสต์ข้อความ แฮชแท็ก #saveวันเฉลิม หลังถูกอุ้มลักพาตัว
https://www.matichon.co.th/politics/news_2216317
นักการเมืองจำนวนมาก แห่โพสต์ข้อความ แฮชแท็ก #saveวันเฉลิม หลังถูกอุ้มลักพาตัว ชี้ ไม่ควรมีใครถูกอุ้มหาย เพราะความเห็นทางการเมือง
กรณีนาย
วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมทางการเมือง ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยที่อาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ถูกกลุ่มคนร้ายอุ้มหายไปหน้าคอนโด เมื่อเวลาประมาณ 17.45 น. ของวันที่ 4 มิ.ย. 2563 ขณะเดินลงมาซื้ออาหารหน้าคอนโด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของ
วันเฉลิม “Wanchalearm Satsaksit” ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งหยุดเคลื่อนไหวไปเมื่อช่วงตี 1 ของวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดย
วันเฉลิมมักจะโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองของประเทศไทยอยู่เสมอ โดยหนึ่งในโพสต์ก่อนหน้าที่วันเฉลิมจะหายตัวไป เป็นการแชร์บทความเรื่อง
“ทุกคนเท่ากัน” ที่ระบุว่า หากทุกคนใส่ใจกับประเด็นการตายของ
จอร์จ ฟลอยด์ พร้อมติดแฮชแท็ก #BlackLivesMatter ก็ไม่ควรจะละเลยกรณีของคนอีกมากมายที่ถูกสังหาร หรืออุ้มหาย อาทิกรณี การสลายผู้ชุมนุมเสื้อแดง 94 รายในปี 53, กรณี
ชัยภูมิ ป่าแส, กรณี
บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ, กรณีทนาย
สมชาย นีละไพจิตร รวมถึงกรณี
อับดุลเลาะ อีซอมูซอ
หลังกรณีการการถูกอุ้มลักพาตัวนั้น นักการเมืองไทย ทั้งอดีตรัฐมนตรีและส.ส.หลายคน ต่างโพสต์ข้อความไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว
นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และแกนนำคณะก้าวหน้า แชร์ข่าวดังกล่าว พร้อมคำพูดสุดท้ายของนาย
วันเฉลิมก่อนหายตัวไปว่า
“โอ๊ย หายใจไม่ออก” #saveวันเฉลิม
นาย
ปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า แชร์ข่าวดังกล่าว พร้อมข้อความ ระบุว่า “วิธีการนี้ไม่ใช่ทางออก วิธีการนี้ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง”
นาย
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความว่า คำพูดสุดท้ายของนายวันเฉิมก่อนหายตัวไปว่า “
หายใจไม่ออก” และว่า “
ไม่ควรมีใครถูกอุ้มหาย เพราะความเห็นทางการเมือง”
นาย
พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แชร์ภาพพร้อมข้อความผ่านทวิตเตอร์ @Pichailive ติดแฮชแท็ก “#saveวันเฉลิม”
นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร สังกัดพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความ ว่า “
ไม่ควรมีใครถูกอุ้มหาย เพราะความเห็นทางการเมือง#saveวันเฉลิม”
นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความ ทวิตเตอร์ ระบุว่า
“รัฐบาลต้องรีบหาทางช่วยเหลือคุณวันเฉลิมอย่างเร่งด่วน ควรประสานงานกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แม้ว่าคุณวันเฉลิมจะเป็นผู้ลี้ภัย แต่รัฐบาลก็มีพันธกรณีในการดูแลคนไทยทุกคนทั่วโลก การปล่อยปะละเลยเรื่องนี้จะเป็นตัวชี้วัดถึงความล้มเหลวของรัฐบาลนะครับ #saveวันเฉลิม”
นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความว่า
การบังคับสูญหาย โดยที่รัฐนิ่งเฉย สะท้อนว่า นิติรัฐของประเทศมีปัญหา กฎหมายมีข้อจำกัดในการปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ต่อให้เป็นผู้กระทำผิด ก็ต้องได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย ให้กระบวนการพิจารณาคดีเป็นไปตามกฎหมาย ถ้ามีโทษ ก็ต้องรับโทษตามที่กฎหมายระบุเท่านั้น
“โอ๊ย! หายใจไม่ออก เป็นวลีที่สะท้อนอีกนัยหนึ่งว่า อย่าว่าแต่สิทธิเสรีภาพในการพูด หรือคิดต่างเลย แม้แต่สิทธิในการหายใจ บางครั้งก็อาจจะยังไม่มี สภาพที่ประชาชนจำนวนไม่น้อย ต้องออกมาเรียกร้องให้รัฐคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่ใช่เรื่องดี เพราะเท่ากับว่า ระบบกฎหมายของประเทศ กำลังเดินหน้าสู่การเป็นรัฐล้มเหลว อนาคต ก็จะทำให้การเรียกร้องของประชาชนมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะประชาชนไม่มั่นใจในรัฐอีกต่อไป” นาย
วิโรจน์ กล่าว
ขณะที่ นาง
วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความว่า
ประเทศที่พล่ามแต่ศีลธรรม แต่อาชญากรรมสูงกว่าไอเฟล ไม่ควรมีใครถูกอุ้มหาย ไม่ควรมีใครต้องรับความรุนแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงคดีที่ไม่เป็นธรรม
#saveวันเฉลิม
ด้าน นาย
สมบัติ บุญงามอนงค์ หัวหน้าพรรคเกียน โพสต์ข้อความว่า
ความเป็น NGOs เราถูกสอนให้ทำงานกับคนที่เดือดร้อน และต้องวิเคราะห์ปัญหาเชิงโครงสร้างให้ได้ว่า ปัญหาชาวบ้านนั้นอยู่บนโครงสร้างอะไร และเมื่อทำงาน NGOs ไปสักระยะหนึ่งก็จะค่อยๆมองเห็นโครงสร้างสังคม ขุดลงไปให้ลึกก็จะเห็นโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ลงลึกไปกว่านั้นก็จะเห็นโครงสร้างทางการเมือง
ในรอบ 10 กว่าปี ผมเห็น NGOs ส่วนใหญ่มุดหัวอยู่ใน Safe Zone บ้างเกาะกินพึ่งพากับผู้มีอำนาจหวังการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการ ไม่กล้าแม้แต่วิจารณ์แหล่งทุน วิจารณ์โครงสร้างทางอำนาจที่เชื่อมโยงกับผลประโยชน์ของตน บ้างสุมหัวกันทำลายระบอบประชาธิปไตยในนามของประชาธิปไตยที่สมบูรณ์กว่า แต่พอประเทศดักดานอยู่ทุกวันนี้ คนเหล่านี้เงียบกริบไม่กล้ายอมรับความผิดพลาดของตนเอง ผมพูดได้เต็มปากว่า คนพวกนี้ขี้ขลาด บางคนแย่กว่านั้นคือ ทรยศอุดมการณ์
ต้า เป็น NGOs รุ่นน้องที่มาจากสายงานเยาวชน เป็นเด็กฉลาด อารมณ์ดี จิตอาสา เปี่ยมไปด้วยความฝันและเขากล้าหาญ
เขาลี้ภัยการเมืองหลัง คสช ยึดอำนาจ และถูกอุ้มหายเมื่อเย็นวานนี้ที่หน้าคอนโดในกรุงพนมเปญ ด้วยชาย 4-5 คนพร้อมอาวุธ
ถ้านักกิจกรรมคนไหนที่กำลังเป็นเดือดเป็นแค้นเรื่อง จอร์จ ฟลอยด์ แต่นิ่งเฉยในกรณีอุ้มต้า พวกคุณไป.....ซะ ไม่ต้องมาเดินเฉียดผม ผมรังเกียจคนแบบพวกคุณ
'ส.อ.ณรงค์ชัย' ผิดหวัง 'ทบ.' - 'วีระ' ซัดอ้างวินัย ปิดปากผู้เปิดโปง
https://voicetv.co.th/read/eFAvy_oiy
"หมู่อาร์ม" ยันคอลล์เซ็นเตอร์ "สายตรง ทบ." แค่ส่งเสริมการกดขี่ผู้ใต้บังคับบัญชา ลงทัณฑ์ไม่เป็นธรรม "วีระ สมความคิด" ชี้ การทุจริตทำกองทัพเสียหาย ไม่ใช่คนเปิดโปง
กลุ่มพลังมดร่วมกับคณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ จัดแถลงข่าว กรณี ส.อ.
ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ "
หมู่อาร์ม" ถูกข่มขู่จากผู้บังคับบัญชา ภายหลังการออกมาเปิดโปงการทุจริตในกรมสรรพาวุธ กองทัพบก โดนนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) กล่าวว่า หลัง "
หมู่อาร์ม" ออกมาเปิดเผยการทุจริต กองทัพบกก็สร้างความสับสนด้วยการบิดเบือนว่า ทำให้กองทัพทำเสียหาย ทั้งที่กองทัพเสียหายเพราะมีการทุจริต ไม่ใช่จากหมู่อาร์มที่มีความกล้าหาญออกมาเปิดเผย และนอกจากไม่ได้รับการเอาใส่จากกองทัพแล้ว ยังถูกข่มขู่คุกคามและกลั่นแกล้ง ทำให้ไม่กล้ากลับเข้ากรมกอง จนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่าหนีราชการ
ส่วนกรณีที่ "
หมู่อาร์ม" ร้องเรียนหน่วยงานภายในกองทัพนั้น ล่าสุด "
จเรทหาร" สรุปผลสอบสวนส่งให้ ผบ.ทบ.ตรวจสอบแล้วพบว่า มีมูล ตามที่หมู่อาร์มออกมาร้องเรียนทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกกองทัพ เตรียมส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ต่อไป ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพราะที่ผ่านมากองทัพไม่เคยยอมรับผิด แต่น่าเสียใจที่ไม่รับผิดชอบต่อหมู่อาร์ม ซ้ำยังถือโอกาสปิดปาก ตามที่ ผบ.ทบ.ออกมาพูดว่า จะมีการเอาผิดหมู่อาร์ม ทั้งปลดออกจากราชการฐานหนีทหารและมีโทษจำคุก 7 ปี ซึ่งอาจกลายเป็นว่าผู้ร้องเรียนจะถูกลงโทษก่อนทันที ส่วนผู้กระทำผิดอาจรอกระบวนการของ ป.ป.ช.อีกเป็นปี
ด้าน
หมู่อาร์ม กล่าวว่า ทางกองทัพเพิ่งยอมรับว่าตนได้ยื่นเรื่องร้องเรียน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธมาตลอด แต่ต้องยอมรับหลังจากที่ตนแสดงเอกสารยืนยัน ซึ่งสะท้อนว่ากองทัพไม่จริงใจที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ พร้อมยืนยันว่า ตนเป็นผู้เสียหายตั้งแต่ปี 2554 เหมือนกับเพื่อนทหารอีกหลายคนที่ถูกนำชื่อไปเสียบใส่ชุดโครงการต่างๆที่มีการทุจริต หากไม่ยอมให้นำชื่อไปก็จะถูกลงโทษข้อหาขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา โดยปี 2560 ตนขอผู้บังคับบัญชาอย่านำชื่อไปใส่ในการทุจริตอีก แต่ถูกกลั่นแกล้งทางวินัยตลอดมา ทั้งกักบริเวณ ไม่ยอมเซ็นใบอนุญาตลา แต่ให้เป็นการขาดราชการ และได้ร้องเรียนตามขั้นตอนภายในกองทัพบก แต่ผลไม่คืบหน้าแต่ถูกข่มขู่หนักซึ่งตนจึงร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดินและองค์กรภายนอกอื่นๆและถูกสั่งสอบวินัย
ส.อ.ณรงค์ชัย ระบุว่า คอลล์เซ็นเตอร์ สายตรง ทบ.เรื่องการทุจริตและผลที่ตนไม่เอาด้วยกับการทุจริต ส่งผลต่อการกดขี่ข่มเหงผู้ใต้บังคับบัญชาและลงทัณฑ์ที่ไม่เป็นธรรม นั่นคือสิ่งที่ตนได้รับและสิ่งที่ตนร้องเรียนไปคือเรื่องจริงไม่ใช่ที่โฆษกหรือ ผบ.ทบ. ออกมาพูดแต่อย่างใด หากกระบวนการสอบสวนภายในแก้ปัญหาได้ ตนก็คงไม่หนีทหารพร้อมกับเรียกร้องให้ ป.ป.ช. เร่งดำเนินการตามที่ตนขอย้ายหน่วยงานต้นสังกัดตามโครงการคุ้มครองพยานด้วย
ทั้งนี้หมู่อาร์มได้ออกแถลงการณ์ ที่มีไทม์ไลน์การร้องเรียนถึงการเปิดโปง โดยมีเนื้อหาดังนี้
JJNY : แห่โพสต์#saveวันเฉลิม/ส.อ.ณรงค์ชัยผิดหวังทบ./กมธ.โอนงบอึมครึม!/แกนนำสวนยางขู่ เคลื่อนไหว/7พรรครุมจีบบุ๋ม
https://www.matichon.co.th/politics/news_2216317
นักการเมืองจำนวนมาก แห่โพสต์ข้อความ แฮชแท็ก #saveวันเฉลิม หลังถูกอุ้มลักพาตัว ชี้ ไม่ควรมีใครถูกอุ้มหาย เพราะความเห็นทางการเมือง
กรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมทางการเมือง ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยที่อาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ถูกกลุ่มคนร้ายอุ้มหายไปหน้าคอนโด เมื่อเวลาประมาณ 17.45 น. ของวันที่ 4 มิ.ย. 2563 ขณะเดินลงมาซื้ออาหารหน้าคอนโด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของวันเฉลิม “Wanchalearm Satsaksit” ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งหยุดเคลื่อนไหวไปเมื่อช่วงตี 1 ของวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยวันเฉลิมมักจะโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองของประเทศไทยอยู่เสมอ โดยหนึ่งในโพสต์ก่อนหน้าที่วันเฉลิมจะหายตัวไป เป็นการแชร์บทความเรื่อง “ทุกคนเท่ากัน” ที่ระบุว่า หากทุกคนใส่ใจกับประเด็นการตายของ จอร์จ ฟลอยด์ พร้อมติดแฮชแท็ก #BlackLivesMatter ก็ไม่ควรจะละเลยกรณีของคนอีกมากมายที่ถูกสังหาร หรืออุ้มหาย อาทิกรณี การสลายผู้ชุมนุมเสื้อแดง 94 รายในปี 53, กรณีชัยภูมิ ป่าแส, กรณี บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ, กรณีทนายสมชาย นีละไพจิตร รวมถึงกรณีอับดุลเลาะ อีซอมูซอ
หลังกรณีการการถูกอุ้มลักพาตัวนั้น นักการเมืองไทย ทั้งอดีตรัฐมนตรีและส.ส.หลายคน ต่างโพสต์ข้อความไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และแกนนำคณะก้าวหน้า แชร์ข่าวดังกล่าว พร้อมคำพูดสุดท้ายของนายวันเฉลิมก่อนหายตัวไปว่า
“โอ๊ย หายใจไม่ออก” #saveวันเฉลิม
นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า แชร์ข่าวดังกล่าว พร้อมข้อความ ระบุว่า “วิธีการนี้ไม่ใช่ทางออก วิธีการนี้ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง”
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความว่า คำพูดสุดท้ายของนายวันเฉิมก่อนหายตัวไปว่า “หายใจไม่ออก” และว่า “ไม่ควรมีใครถูกอุ้มหาย เพราะความเห็นทางการเมือง”
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แชร์ภาพพร้อมข้อความผ่านทวิตเตอร์ @Pichailive ติดแฮชแท็ก “#saveวันเฉลิม”
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร สังกัดพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความ ว่า “ไม่ควรมีใครถูกอุ้มหาย เพราะความเห็นทางการเมือง#saveวันเฉลิม”
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความ ทวิตเตอร์ ระบุว่า “รัฐบาลต้องรีบหาทางช่วยเหลือคุณวันเฉลิมอย่างเร่งด่วน ควรประสานงานกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แม้ว่าคุณวันเฉลิมจะเป็นผู้ลี้ภัย แต่รัฐบาลก็มีพันธกรณีในการดูแลคนไทยทุกคนทั่วโลก การปล่อยปะละเลยเรื่องนี้จะเป็นตัวชี้วัดถึงความล้มเหลวของรัฐบาลนะครับ #saveวันเฉลิม”
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความว่า การบังคับสูญหาย โดยที่รัฐนิ่งเฉย สะท้อนว่า นิติรัฐของประเทศมีปัญหา กฎหมายมีข้อจำกัดในการปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ต่อให้เป็นผู้กระทำผิด ก็ต้องได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย ให้กระบวนการพิจารณาคดีเป็นไปตามกฎหมาย ถ้ามีโทษ ก็ต้องรับโทษตามที่กฎหมายระบุเท่านั้น
“โอ๊ย! หายใจไม่ออก เป็นวลีที่สะท้อนอีกนัยหนึ่งว่า อย่าว่าแต่สิทธิเสรีภาพในการพูด หรือคิดต่างเลย แม้แต่สิทธิในการหายใจ บางครั้งก็อาจจะยังไม่มี สภาพที่ประชาชนจำนวนไม่น้อย ต้องออกมาเรียกร้องให้รัฐคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่ใช่เรื่องดี เพราะเท่ากับว่า ระบบกฎหมายของประเทศ กำลังเดินหน้าสู่การเป็นรัฐล้มเหลว อนาคต ก็จะทำให้การเรียกร้องของประชาชนมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะประชาชนไม่มั่นใจในรัฐอีกต่อไป” นาย วิโรจน์ กล่าว
ขณะที่ นางวรรณวิภา ไม้สน ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความว่า ประเทศที่พล่ามแต่ศีลธรรม แต่อาชญากรรมสูงกว่าไอเฟล ไม่ควรมีใครถูกอุ้มหาย ไม่ควรมีใครต้องรับความรุนแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงคดีที่ไม่เป็นธรรม
#saveวันเฉลิม
ด้าน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หัวหน้าพรรคเกียน โพสต์ข้อความว่า
ความเป็น NGOs เราถูกสอนให้ทำงานกับคนที่เดือดร้อน และต้องวิเคราะห์ปัญหาเชิงโครงสร้างให้ได้ว่า ปัญหาชาวบ้านนั้นอยู่บนโครงสร้างอะไร และเมื่อทำงาน NGOs ไปสักระยะหนึ่งก็จะค่อยๆมองเห็นโครงสร้างสังคม ขุดลงไปให้ลึกก็จะเห็นโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ลงลึกไปกว่านั้นก็จะเห็นโครงสร้างทางการเมือง
ในรอบ 10 กว่าปี ผมเห็น NGOs ส่วนใหญ่มุดหัวอยู่ใน Safe Zone บ้างเกาะกินพึ่งพากับผู้มีอำนาจหวังการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการ ไม่กล้าแม้แต่วิจารณ์แหล่งทุน วิจารณ์โครงสร้างทางอำนาจที่เชื่อมโยงกับผลประโยชน์ของตน บ้างสุมหัวกันทำลายระบอบประชาธิปไตยในนามของประชาธิปไตยที่สมบูรณ์กว่า แต่พอประเทศดักดานอยู่ทุกวันนี้ คนเหล่านี้เงียบกริบไม่กล้ายอมรับความผิดพลาดของตนเอง ผมพูดได้เต็มปากว่า คนพวกนี้ขี้ขลาด บางคนแย่กว่านั้นคือ ทรยศอุดมการณ์
ต้า เป็น NGOs รุ่นน้องที่มาจากสายงานเยาวชน เป็นเด็กฉลาด อารมณ์ดี จิตอาสา เปี่ยมไปด้วยความฝันและเขากล้าหาญ
เขาลี้ภัยการเมืองหลัง คสช ยึดอำนาจ และถูกอุ้มหายเมื่อเย็นวานนี้ที่หน้าคอนโดในกรุงพนมเปญ ด้วยชาย 4-5 คนพร้อมอาวุธ
ถ้านักกิจกรรมคนไหนที่กำลังเป็นเดือดเป็นแค้นเรื่อง จอร์จ ฟลอยด์ แต่นิ่งเฉยในกรณีอุ้มต้า พวกคุณไป.....ซะ ไม่ต้องมาเดินเฉียดผม ผมรังเกียจคนแบบพวกคุณ
'ส.อ.ณรงค์ชัย' ผิดหวัง 'ทบ.' - 'วีระ' ซัดอ้างวินัย ปิดปากผู้เปิดโปง
https://voicetv.co.th/read/eFAvy_oiy
"หมู่อาร์ม" ยันคอลล์เซ็นเตอร์ "สายตรง ทบ." แค่ส่งเสริมการกดขี่ผู้ใต้บังคับบัญชา ลงทัณฑ์ไม่เป็นธรรม "วีระ สมความคิด" ชี้ การทุจริตทำกองทัพเสียหาย ไม่ใช่คนเปิดโปง
กลุ่มพลังมดร่วมกับคณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ จัดแถลงข่าว กรณี ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ "หมู่อาร์ม" ถูกข่มขู่จากผู้บังคับบัญชา ภายหลังการออกมาเปิดโปงการทุจริตในกรมสรรพาวุธ กองทัพบก โดนนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) กล่าวว่า หลัง "หมู่อาร์ม" ออกมาเปิดเผยการทุจริต กองทัพบกก็สร้างความสับสนด้วยการบิดเบือนว่า ทำให้กองทัพทำเสียหาย ทั้งที่กองทัพเสียหายเพราะมีการทุจริต ไม่ใช่จากหมู่อาร์มที่มีความกล้าหาญออกมาเปิดเผย และนอกจากไม่ได้รับการเอาใส่จากกองทัพแล้ว ยังถูกข่มขู่คุกคามและกลั่นแกล้ง ทำให้ไม่กล้ากลับเข้ากรมกอง จนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่าหนีราชการ
ส่วนกรณีที่ "หมู่อาร์ม" ร้องเรียนหน่วยงานภายในกองทัพนั้น ล่าสุด "จเรทหาร" สรุปผลสอบสวนส่งให้ ผบ.ทบ.ตรวจสอบแล้วพบว่า มีมูล ตามที่หมู่อาร์มออกมาร้องเรียนทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกกองทัพ เตรียมส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ต่อไป ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพราะที่ผ่านมากองทัพไม่เคยยอมรับผิด แต่น่าเสียใจที่ไม่รับผิดชอบต่อหมู่อาร์ม ซ้ำยังถือโอกาสปิดปาก ตามที่ ผบ.ทบ.ออกมาพูดว่า จะมีการเอาผิดหมู่อาร์ม ทั้งปลดออกจากราชการฐานหนีทหารและมีโทษจำคุก 7 ปี ซึ่งอาจกลายเป็นว่าผู้ร้องเรียนจะถูกลงโทษก่อนทันที ส่วนผู้กระทำผิดอาจรอกระบวนการของ ป.ป.ช.อีกเป็นปี
ด้าน หมู่อาร์ม กล่าวว่า ทางกองทัพเพิ่งยอมรับว่าตนได้ยื่นเรื่องร้องเรียน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธมาตลอด แต่ต้องยอมรับหลังจากที่ตนแสดงเอกสารยืนยัน ซึ่งสะท้อนว่ากองทัพไม่จริงใจที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ พร้อมยืนยันว่า ตนเป็นผู้เสียหายตั้งแต่ปี 2554 เหมือนกับเพื่อนทหารอีกหลายคนที่ถูกนำชื่อไปเสียบใส่ชุดโครงการต่างๆที่มีการทุจริต หากไม่ยอมให้นำชื่อไปก็จะถูกลงโทษข้อหาขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา โดยปี 2560 ตนขอผู้บังคับบัญชาอย่านำชื่อไปใส่ในการทุจริตอีก แต่ถูกกลั่นแกล้งทางวินัยตลอดมา ทั้งกักบริเวณ ไม่ยอมเซ็นใบอนุญาตลา แต่ให้เป็นการขาดราชการ และได้ร้องเรียนตามขั้นตอนภายในกองทัพบก แต่ผลไม่คืบหน้าแต่ถูกข่มขู่หนักซึ่งตนจึงร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดินและองค์กรภายนอกอื่นๆและถูกสั่งสอบวินัย
ส.อ.ณรงค์ชัย ระบุว่า คอลล์เซ็นเตอร์ สายตรง ทบ.เรื่องการทุจริตและผลที่ตนไม่เอาด้วยกับการทุจริต ส่งผลต่อการกดขี่ข่มเหงผู้ใต้บังคับบัญชาและลงทัณฑ์ที่ไม่เป็นธรรม นั่นคือสิ่งที่ตนได้รับและสิ่งที่ตนร้องเรียนไปคือเรื่องจริงไม่ใช่ที่โฆษกหรือ ผบ.ทบ. ออกมาพูดแต่อย่างใด หากกระบวนการสอบสวนภายในแก้ปัญหาได้ ตนก็คงไม่หนีทหารพร้อมกับเรียกร้องให้ ป.ป.ช. เร่งดำเนินการตามที่ตนขอย้ายหน่วยงานต้นสังกัดตามโครงการคุ้มครองพยานด้วย
ทั้งนี้หมู่อาร์มได้ออกแถลงการณ์ ที่มีไทม์ไลน์การร้องเรียนถึงการเปิดโปง โดยมีเนื้อหาดังนี้