สวัสดีค่ะ มีเรื่องไม่สบายใจ
อยากฟังความคิดเห็นจากหลายๆคน ว่าถ้าเกิดแบบนี้ขึ้นกับตัวเอง
จะรับมือและแก้ไขปัญหาอย่างไรกันคะ
เกริ่นก่อนว่า ตัวเราเป็นลูกคนเดียว อายุ 20 ปลายๆ ปลายแบบปีหน้าเข้าเลข3 แล้วค่ะ :-l
โดยพื้นฐาน เป็นคนชอบไปไหนมาไหนคนเดียว ชอบเดินดูของ เดินเล่น ซื้อของ ดูหนัง คนเดียว
ชอบความอิสระ อยากทำอะไรก็จะต้องทำให้ได้ ชอบอยู่กับตัวเอง
บางครั้งมีสังคมบ้างค่ะ แต่จะเป็นเพื่อนกลุ่มเดิมๆคนเดิมๆ ที่มักจะไปกินข้าว กินกาแฟ เที่ยวกลางคืนด้วยกัน
ตามประสาวัยรุ่น-วัยรุ่นตอนปลายทั่วไปค่ะ
ครอบครัว ก็พ่อแม่แยกกันอยู่ ตั้งแต่เด็กๆ
เค้าแค่เลิกเป็นแฟนกันแหละ ตอนนี้เค้าก็ยังเป็นพ่อ เป็นแม่ ที่เจอกันสามคนได้
ไปกินข้าวตามโอกาสพิเศษต่างๆ เจอกันได้ปกติค่ะ
เราค่อนข้างผ่านช่วงวัยเด็กมาได้อย่างไม่นอกลู่นอกทางค่ะ มีช่วงที่ได้อยู่กับยายและลุงป้า
แล้วค่อยย้ายมาอยู่กับแม่ ก็ช่วงประถมปลายค่ะ
ตอนนั้นทางแม่ก็มีแฟนใหม่ ซึ่งเค้าเป็นคนดี ดูแลเราและแม่ดีมาก เหมือนเราเป็นลูกแท้ๆของเค้าเลย
เราอยู่ด้วยกันสามคนค่ะ เรา-แม่-พ่อเลี้ยง (จริงๆไม่เคยเรียกเค้าว่าพ่อค่ะ เรียกว่าอา ตลอด)
เราสามคนก็อยู่กันมามีความสุขดีนะคะ แม่กับอาเค้าก็มีทะเลาะเสียงดังกันบ้าง แต่ก็ไม่เคยโกรธกันข้ามวัน
จนประมาณช่วงปลายปีที่แล้ว แม่กับอาก็ทะเลาะกันหนักมาก จนวันนึงอาเค้าก็ออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียว
โดยที่ตัวเราเองก็ไม่รู้เหตุผลที่แท้จริง แม่ก็ถามเค้าตลอดในระยะเวลาที่เค้าทะเลาะกัน เพราะรู้สึกว่าอาเปลี่ยนไป
จากการถามซ้ำๆ และไม่เคยได้คำตอบ ทำให้เราและแม่คิดหาเหตุผลไปต่างๆนานา ว่าอามีผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่า
แต่ด้วยความที่เราอยู่ด้วยกันมาก็นาน เราก็พอจะรู้นิสัยอาดีว่าเค้าไม่ใช่คนเจ้าชู้ และเค้าเป็นคนรักครอบครัวมาก
ก็เลยไม่ได้ข้อสรุป ว่าเค้าออกไปอยู่คนเดียวเพราะมีคนอื่น หรือเหตุผลอะไรกันแน่
ตอนที่แม่และอาทะเลาะกัน ช่วงนั้นเราเครียดมาก แม่เครียด แม่เสียใจแค่ไหน เรามากกว่าเค้า 2 เท่า
เป็นห่วงเค้ามาก แทบไม่ได้เป็นอันทำอะไร จะไปไหนมาไหนก็เป็นห่วงต้องรีบกลับ กลัวเค้าจะคิดสั้น
รู้สึกว่าตัวเองต้องเป็นที่พึ่งพิงให้เค้า เราสตรอง เราจะอ่อนแอไม่ได้ เราต้องเข้มแข็งที่สุด
จนสุดท้ายเป็นตัวเราเองที่ไม่ไหว รู้สึกอยากตาย อยากนอนแล้วไม่ต้องตื่นมาอีกเลย
ไม่ใช่อารมณ์อยากฆ่าตัวตายนะคะ แต่เป็นอารมณ์ที่แบบ ถ้าตายไปคงสบายกว่านี้
มันรับอารมณ์ตัวเองไม่ได้จริงๆ จนต้องไปหาจิตแพทย์ ไปเอง ไปคนเดียว
ไม่ได้บอกแม่ เพราะกลัวเค้าเป็นห่วงและคิด negative ว่าตัวเองเป็นสาเหตุแล้วจะทำให้เค้าเครียดกว่าเดิม
ก็ไปพบคุณหมอ เค้าก็ให้คำปรึกษา แนะนำว่าให้พาแม่มาด้วย และก็ให้ยามาทานนั่นนี่
(ขอข้ามพาร์ทวินิจฉัยไปก่อนนะคะ รายละเอียดมันค่อนข้างเยอะ)
เราก็ใช้ชีวิตโดยการพึ่งยา(ที่ได้รับจากจิตแพทย์)มาตลอด วันไหนเครียดมากๆ ดิ่งมากๆ ก็คือกินยาแล้วรีบให้มันหลับๆไป
เพื่อจะได้ไม่ต้องมาคิดถึงมันอีกค่ะ เหมือนเป็นการหนีปัญหาแหละ 5555555
ปัญหาที่เราพบ หลังจากที่อยู่กับแม่แค่ 2 คน คือ
1. เค้าไม่ให้อิสระเรา
- เค้าจะมีอาการงอน/ ไม่พอใจ ประชดประชัน เราทุกครั้งที่เราจะต้องออกไปข้างนอก ไปเที่ยว ไปเจอเพื่อน
อาการไม่พอใจของเค้า มันส่งผลให้เราเครียดและจะเป็นบ้าค่ะ
เค้าจะไม่ยอมง้อก่อน จะออกอาการไม่พอใจ ไม่พูดด้วย ทำเสียงดัง ตึงตังใส่ ปิดประตูดังๆ
โวยวายหมาดังๆ ทำอะไรก็หงุดหงิด ในบ้านมีแต่ Toxic อ่ะค่ะ
- ปกติ วันธรรมดาเราทำงาน เลิกงาน กลับบ้านเลย ไม่ค่อยไปไหนต่อ
เพราะว่าทั้งวันเหนื่อยมากแล้ว อยากกลับบ้านนอนอืดๆ เล่นกับหมา
แต่คืนวันศุกร์ หรือทั้งวันวันเสาร์ หรือแค่ศุกร์ไม่ก็เสาร์
จะเป็นวันที่เรานัดกับเพื่อนๆ ออกไปเที่ยว ดูหนัง กินข้าว เป็นช่วงเวลาผ่อนคลายที่สุดของเรา
และวันอาทิตย์ จะให้เป็นแฟมมิลี่เดย์ คือจะเซฟไว้ไม่นัดใคร จะอยู่บ้าน ทำนู่นทำนี่ เตรียมตัวสำหรับไปทำงานวันจันทร์
เพราะฉะนั้นโดยสรุป เราอยู่บ้าน ให้เวลาที่บ้าน 80% และเราขอเวลาและพื้นที่ส่วนตัวแค่ 20% เราก็พอใจแล้วค่ะ
2. เวลาที่เค้าโมโห หรือหงุดหงิด เค้าจะไม่แคร์ใครเลย
ฉันจะระบายอารมณ์แบบนี้ ฉันจะโวยวายแบบนี้ ฉันจะเสียงดังแบบนี้ จะทำไมล่ะ เค้าไม่เคยแคร์ความรู้สึกเราเลย
ไม่ง้อ ไม่ยอมอ่อนให้ ไม่พูดก่อน ถ้าจะไม่คุยก็คือไม่คุยตลอดไปจนกว่าเราจะเป็นคนง้อ (ทั้งๆที่ไม่ผิด?)
เราเป็นคนที่จะไม่เอาอารมณ์โกรธหรืออารมณ์โมโห มาทิ้งใส่คนที่บ้านเด็ดขาด
เราต้องการให้บ้านเป็น comfort zone เป็นที่พักใจ เป็นที่ที่จะ Heal เราจากปัญหาอื่นๆภายนอก
แต่กลับมาบ้านแล้วเจอแบบนี้ เราจะตายเลยค่ะ 5555 มันเครียด มันแบบโอ้ยยยย ชั้นไม่ไหวว่ะ
- เค้าพูดดี กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนเค้า เพื่อนร่วมงาน แต่ยกเว้นคนในบ้าน
กลับเข้าบ้านมาทีไร ต้องหาเรื่องฟาดงวง ฟาดงาได้ตลอด หมาอึไม่ลงกระบะก็ด่าลั่นบ้านค่ะ ...
จากเรื่องที่เราได้พบหลังจากอาออกไปอยู่คนเดียวข้างนอก เราพอจะเข้าใจและเห็นภาพแล้วค่ะ
ว่าที่ผ่านมา อาต้องเจออะไรมาบ้าง เค้าต้องอดทนมากแค่ไหน ประมาณ 20 ปีที่เค้าอยู่ด้วยกัน
แม่เคยพูด เคยระบายให้ฟังว่า ..
- แม่สำนึกผิด ที่เคยทำกับอาไปแบบนั้น ไม่ให้อิสระเค้าเลย เค้าจะไปกับเพื่อน แม่ก็ต้องไปด้วย
แต่ถ้าแม่จะไปกับเพื่อน ก็คือไปโดยไม่ได้สนใจครอบครัวค่ะ ฉันจะทำ ฉันจะไป
ซึ่งเราไม่อะไร เราไม่ติดแม่ ใครอยากทำอะไรทำ ใครอยากไปไหนไป ตามสบายเลย
- แม่รู้สึกผิดที่พูดจาไม่ดีใส่เค้า พูดกันไม่กี่ประโยคแล้วก็ทะเลาะ ด่าเค้าไล่เค้า
เพราะคิดว่าสุดท้ายเค้าก็ไม่ไปไหนหรอก เค้าไม่ทิ้งไปไหนหรอก
- แม่ไม่อยากอยู่คนเดียวตอนแก่ แม่อยากให้เค้าแก่ไปด้วยกัน
ถ้าเค้ากลับมา แม่จะดีกับเค้าให้มากกว่านี้ และจะรักษาน้ำใจเค้า
เราฟังแล้วก็ โอเค ... แม่คิดแบบนี้ก็ดีแล้ว แม่เข้าใจและรู้สึกผิดก็ดีแล้ว
แต่แม่คะ แม่กำลังทำแบบนั้นใส่หนูอยู่ รู้ตัวมั้ย ... /คิดในใจเบาๆ
เราเคยเปิดใจ คุยกับเค้าดีดี คุยแบบพยายามเรียบเรียงกับตัวเองก่อนด้วยซ้ำ
พูดยังไงให้เค้าเข้าใจเรา และเห็นใจเราบ้าง โดยไม่ทำร้ายจิตใจเค้า
แต่เค้าต้องรู้ ต้องรู้ว่าตัวเองเป็นยังไง
ผลคือ แย่กว่าเดิมค่ะ เค้ากลับตอกกลับเราว่า "ขอโทษนะที่เป็นภาระ ขอโทษที่อยู่คนเดียวไม่ได้"
มันไม่ใช่วัตถุประสงค์ของเราที่เราเปิดใจคุยกับเค้าเลย
เป็นครั้งเดียวที่เราจะพูดกับเค้าค่ะ เพราะไม่มีความเปลี่ยนแปลงที่ดีเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิด
เราทั้งเหนื่อยใจ ท้อใจ ทุกอารมณ์ไหลมารวมกัน
สิ่งที่เราเป็น เราเป็นคนยังไง เราขออธิบายตามต่อไปนี้นะคะ
- เราไม่ใช่เด็กที่เชื่อว่า พ่อแม่ให้กำเนิดมาเราต้องทดแทนบุญคุณ
มันไม่ใช่บุญคุณ ที่เค้าทำให้เราเกิดมา แต่เป็นความรัก ความรับผิดชอบที่เลี้ยงดูเราค่ะ
เราเชื่อแบบนี้ ขอโทษนะคะถ้ามันไปขัดกับความคิดใคร
เราดูแลพ่อแม่เราอยู่เสมอ และไม่คิดว่าเป็นการตอบแทน หรือทดแทนอะไรทั้งนั้น
เราแค่อยากทำให้ อยากให้เค้าอยู่สบาย เค้าอยากได้อะไรเราจะหาให้
อยากกินอะไรเราจะพาไป เงินเดือนเราได้มาเราก็ให้เค้าทุกเดือน
(ให้แค่ทางแม่นะคะ พ่อบอกว่าไม่เอา ให้เราเอาไว้เลี้ยงตัวเอง เอาตัวให้รอดก็พอ)
เราทำให้เพราะเราอยากเห็นแม่มีความสุข อยากได้อยากซื้ออะไรก็ตามใจเลย
อยากให้เค้ามีสุขภาพจิตใจแจ่มใสเบิกบานค่ะ
แต่ยิ่งเราทำดีแค่ไหน ก็รู้สึกว่ามันไม่พอ มันเป็นท้อ ._.
เราไม่อยากให้เค้าหงุดหงิด ก็พยายามทำทุกวิธีที่คนอย่างเราสามารถทำได้
แต่เค้าก็ยังคงมีความฉุนเฉียวพอกลับมาบ้านอยู่ดี เป็นเส้า 55555
- เราเป็นคนไม่ค่อยบ่นหรือพูดกับใครเวลาเครียดๆ
มันเล่า มันพูดไม่ถูก ก็เลยเก็บเอาไว้ ง่ายดีค่ะ แต่มันก็จะอัดๆอยู่ในใจ 55555
ถ้าเราเครียด เราจะเงียบเลย แต่เวลาอยู่กับคนอื่นจะไม่แสดงออก จะร่าเริง ตลก บ้าๆบอๆ
ไม่ค่อยมีคนดูออกว่าเราเครียด แหะๆ
พอกลับมาอยู่กับตัวเอง อยู่คนเดียวล่ะก็ ว้าว รู้สึกเหนื่อยจังเลย 5555555
- เรารักครอบครัวเราในแบบฉบับของเราค่ะ
เราไม่ใช่คนที่ชอบบอกรัก กอดหรือหอมแก้มแม่อะไรแบบนั้น แต่เราแสดงออกโดยการดูแลเอาใจใส่
จัดเตรียมของกิน เค้าชอบอะไร สารพัดของกุ๊กกิ๊กก็หามาให้ เป็นเด็กดี เป็นคนดี ไม่เคยสร้างปัญหา
เราว่าเราทำดีมากแล้วค่ะ เราพูดชมตัวเองได้โดยไม่อาย มั่นใจเลย /มั่นหน้า
เล่ามาถึงขนาดนี้ พูดถึงแม่แบบนี้เหมือนเราเป็นเด็กอกตัญญูอ่ะค่ะ
ข้อดีของแม่ ในฐานะแม่คนนึงเค้าก็ดีนะคะ
แม่ดูแลเรา ทำงานบ้าน ขับรถพาไปนั่นนี่ ไม่ได้หวานเหมือนแม่คนอื่น
เราก็รู้ว่าเค้ารักเรานะคะ แต่พอเกิดเรื่องทีไรมันก็ทำให้เราไม่ค่อยแน่ใจ
เพราะถ้าเค้ารักเรา เค้าต้องไม่ทำให้เราไม่สบายใจสิน้า
มันเป็นปัญหาในชีวิตเราจริงๆ แก้ไม่ตก หาทางออกไม่ได้เลยค่ะ
เรากังวลไปถึงอนาคตว่า เราจะแต่งงานมีครอบครัวได้มั้ย
แล้วแม่จะอยู่กับเราได้มั้ย เราไม่มีทางให้เค้าอยู่คนเดียวได้ค่ะ
สามี (ในอนาคต) จะยอมรับให้แม่เราอยู่ด้วยได้มั้ย
หรือถ้ามันยากก็ไม่ต้องแต่งงาน ไม่ต้องครอบครัว งี้หรอ
เรายังไม่มีแฟนค่ะ เพราะปัญหาส่วนตัวเรานั่นนี่เยอะมาก ไม่อยากให้ว่าที่แฟนมาเหนื่อยด้วย 555
เรารักแม่ของเรา แต่เราก็อยากมีชีวิตของเราด้วยค่ะ แต่เราไม่รู้ต้องทำอย่างไรแล้วจริงๆ
ใครมีความเห็นดีดี ช่วยแนะนำเราหน่อยนะคะ เผื่อมีวิธีที่เรายังไม่ได้ลองทำ
หรือถ้าไม่มี เป็นกำลังใจก็ช่วยได้ค่ะ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ /ไหว้แบบถอนสายบัว
ควรรับมือ/แก้ไขปัญหาอย่างไรกับการอยู่กับแม่ที่ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้