เรียนนักบินที่อเมริกา #ชีวิตที่อเมริกา Thai student pilot in the US

EP : 4 โง่ (อังกฤษ) ขนาดนี้ จะเรียนนักบินได้หรอ ?

***ในภาพนี้เป็นไฟล์ทบินครั้งแรกของเรากลับครูฝึกคนแรกในชีวิต ✈️🙏
ต้องบอกก่อนนะค่ะว่า ภาษาที่ใช้ในการเขียน อาจจะไม่สุภาพบ้าง ปะปนกันไปเพื่ออรรถรสในการจินตนาการตามนะคะ😂
ต่อกันเลยจ้าาาาา
เราเริ่มปี 2019 ที่ปานามา และมาอเมริกา อยู่ที่ปานามาเกือบ 6 เดือน เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ ได้เพื่อนใหม่ ได้เรียนภาษาสเปน ที่ได้มาแม้เพียงน้อยนิด 😅ตอนนั้นเพียงพอที่จะเป็นอับดุลได้บ้าง ถามได้ตอบได้ 😂 แต่ตอนนี้อย่ามาถามนะ คืนคนที่นั่นไปเกือบหมดแล้วค่ะ 🥴😔😴

โปรเจ็คที่เมืองไทยเริ่มจบทำให้ตอนนั้นไม่ค่อยยุ่งมากเท่าไหร่ เราเริ่มได้เข้ามาทำงานกับสายงานทางธุรกิจอย่างจริงจัง เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ Business อย่างเต็มตัว พอที่จะประชุมและติดต่องานได้อย่างไม่กังวล แต่ก็ยังคงจดคำศัพท์อยู่ใหม่ๆ ลงสมุดเสมอ 
***เรามักจะมีสมุดเล็กๆ ติดตัวเอาไว้จดคำศัพท์ใหม่ๆที่เจอในทุกๆวัน 📚📖
วันดีคืนดี ไม่รู้อะไรดลใจ โฆษณา เกี่ยวกับ Flight School ที่แคลิฟอเนียร์ดันเด้งขึ้นมา อาจจะเพราะตอนที่อยู่ที่ดูไบเคยส่งอีเมลล์ไปสอบถามรายละเอียด แล้วเราก็เงียบหายไป เพราะบอกตัวเองมาตลอดว่า ไกลตัว !!! แต่ดันเด้งมาเหมือนเตือนอะไรเราบางอย่าง ! 
แต่ครั้งนี้เราไม่ละเลย เหมือนทุกครั้ง เราส่งไปถามรายละเอียดอีกครั้ง และเริ่มหาข้อมูลจริงจัง เราเริ่มคุยกับแดร์เนียลเกี่ยวกับข้อมูลการเป็นนักบิน ทุนการศึกษา และรายละเอียดต่างๆ เพราะเค้าเคยเป็นผู้บริหารสายการบินมาก่อน และตอนนี้ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับสายการบินหนึ่งที่อเมริกา  เค้าดูเข้าใจตรงนี้มากกว่าเรา 
วันนึงแดร์เนียลถามเรา ว่า อยากบิน เฮลิคอร์ปเตอร์ หรือ อยากเป็นนักบิน Commercial ที่ทำงานกับสายการบิน  
เอ้า มีให้เลือกอีก 555 นึกในใจ เพิ่มงานกรูส์อี๊ก 555
ต้องมานั่งและหารายละเอียด เกี่ยวกับข้อดี ข้อเสีย ทั้งสองแบบ

 เราเริ่มคุยกับเพื่อนนักบิน ถามถึงประสบการณ์ตรงของพวกเขา ชอบอะไรไม่ชอบอะไร ? ถ้าเลือกได้อีกครั้งอยากเปลี่ยนอะไร ? เราเริ่มเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของคนอื่น เพื่อเป็นแนวทาง
และเอามาเปรียบเทียบว่าอะไรคือตัวเรา ตอนนั้นบอกกับตัวเองว่า การที่ชอบความพาดโผนของเรา คงสนุกกับการขับเฮลิคอร์ปเตอร์มากกว่า และบอกตัวเองว่าไม่อยากรับผิดชอบผู้โดยสายเป็นร้อยชีวิต ด้านหลังค๊อกพิท 
วันนึงเราเลยตอบแดร์เนียลไปว่า เราอยากเป็นนักบินเฮลิคอร์ปเตอร์ 

**** เราเชื่อคำพูดนึงที่ใครหลายคนบอกว่า อยู่กับใครก็จะเป็นแบบนั้น 
แดร์เนียลจบด๊อกเตอร์ (หลังจากเราเลิกกับกัปตันอิมิเรสเพราะความที่นิสัยเหมือนกันเกินไป 555 เราก็พบรักกับหนุ่มตาสีฟ้าอีกครั้ง แดร์เนียลเป็นชาวอเมริกันที่เราเคยร่วมงานด้วย ) นางเคยเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารของสายการบินหนึ่งในอเมริกามาก่อน เป็นคนใฝ่เรียน ใจเย็น เค้าทำให้เรารู้เหมือนว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ ทุกๆอย่างจริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องเรียน แต่ทุกอย่างที่เราอยากทำ นางช่วยเราหาข้อมูลการเรียนนักบินและเข้าใจสังคมของ Aviation เป็นอย่างดี และเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดที่ทำให้เราก้าวมาเรียนนักบินอย่างเต็มตัว

ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราต้องช่วยงานที่บริษัทเรือใบ และงาน Consult ในส่วนของเราเริ่มใกล้จบโปรเจ็ค ได้มีเวลาทำอย่างอื่นมากขึ้น
เราเริ่มออกเดินทาง หาที่ดำน้ำ ขับรถไปเรื่อยๆ พร้อมกับทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต ที่ปานามา สนุกมาก ได้ไปอยู่บนเกาะ เป็นดือนๆ เล่นเซิร์ฟ ดำน้ำ ตกปลา ขึ้นไปอยู่บนเขา ขี่ม้า เดินป่า 

และเรามีเวลาที่จะเริ่มต้นอีกครั้ง เราหาข้อมูลเกี่ยวกับ โรงเรียนสอนบินมากขึ้น แดร์เนียล แนะนำว่าเราควรเริ่มเรียนออนไลน์ไปก่อน เพื่อถึงเวลาที่ต้องกลับไปอเมริกาจะได้คุ้นชินกับคำศัพท์ และได้ตรงไป Flight School ได้เลย  
และนี่เป็นเหตุผลให้เรา ใช้เวลาวันละ 3 ชั่วโมง ทุกวัน จันทร์ ถึงศุกร์  เพื่อเริ่มต้นเรียน นักบิน แบบออนไลน์ 
Aviation English (ภาษาอังกฤษที่ใช้ในการบิน) ไม่ง่าย !!!!! 🤯🤢🤐 แต่ก็ไม่ยากเกินความตั้งใจ และพยายาม 
บางครั้งถ้าไม่ใช่คนในแวดวงนี้ แม้แต่เจ้าของภาษาเอง ก็ไม่รู้ความหมายของคำศัพท์ที่ใช้ในสังคมการบินเช่นกัน
ลองจินตนาการตาม 
เราไม่ใช่เจ้าของภาษาอังกฤษ มาเรียนนักบิน คือ คุณเอ๊ยยยยยยยย แรกๆ นี่เปิดดิสชันนารี่แทบทุกคำเลย โอ้ยยย  วิ้งค์ๆๆๆ อีกเช่นเคย🤓🥴😂นึกว่าทำงานแปลเอกสาร  🤢
แต่จากที่เคยคิดว่ากรูส์จะรอดหรอวะ กลับกลายเป็นว่า เห้ยยย สนุก พอเริ่มชินกับคำศัพท์ ต่างๆแบบไม่ต้องแปลไทย เริ่มดูวีดีโอ เริ่มเข้าใจ เริ่มอ่านเริ่มสนุก ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นทุกวัน เริ่มอยากรู้มากขึ้นไปอีกว่า ถ้าลมแบบนี้ ต้องทำยังไง ต้องปรับเปลี่ยน Blade ในทิศทางไหน คำถามเกิดขึ้นมากมาย ทำให้อยากรู้สึกหาคำตอบไปเรื่อยๆ 
แต่มันไม่ง่าย อย่างที่บอกว่าเคยบอกมาตลอดว่า นักบินมันไกลตัว แล้วมาเริ่มที่เฮลิคอร์ปเตอร์ด้วย ยากกว่าการเรียน Fixed wing หรือ Aircraft หลายเท่า ✈️🚁
วันนึงเคยนอนร้องไห้ ไม่รู้ดราม่าอะไร นึกใจใน กรูส์จะทำได้หรอวะ ?? กลัวจะผิดหวังแบบที่ผ่านมาอีก ? กลัวจะเรียนไม่รอด ? สงสัยตอนนั้นใกล้ประจำเดือนจะมาาาาาา 😂😅ร้องไห้แบบ ดราม่า ทั้งที่ทุกวันก็นั่งเรียนเองทุกเช้า 🤓ไม่รู้วันนั้นเกิดบ่อน้ำตาตื้นอะไรขึ้นมา 😅

เราเริ่มเรียนได้ สามเดือนกว่าๆ เริ่มสอบเทสครั้งแรก 
เต็มร้อย ได้ 80 กว่า ก็เอาวะ เริ่มมีกำลังใจ ตอนนั้นจำได้ว่ายังไม่บอกใครทั้งนั้น ไม่อยากบอกแม่กลัวทำแม่ผิดหวังอีก กลัวบอกเพื่อนไป ถ้าไม่รอดเดี๋ยวก็โดนคนอื่นซ้ำเติมอีก เลยอยู่เฉยๆ ดีกว่า 😅 ลองทำอะไรคนเดียวเงียบๆ ดูบ้าง

ปลายปี 2019 เราคิดถึงบ้าน เริ่มคิดถึงแม่ เราขอกลับไทย ไปเกือบสองเดือน แถมต้องไปดีลกับวีซ่า เพื่อเตรียมเอกสารการเรียน 
ตอนที่บินกลับไทย เราได้เจอนักบินเก่าคนนึง ที่สนามบินที่แฟรงเฟิร์ท เยอรมันณี ก็ไม่พลาดที่จะถามเกี่ยวกับประสบการณ์บินของเค้า เพราะเค้าเคยทำงานให้กับสายการบิน เคยเป็นนักบินเฮลิคอร์ปเตอร์ และตอนนี้ออกมาทำงานส่วนตัวของตัวเอง และกำลังไปเรียนเกี่ยวกับ Flim Maker ที่อังกฤษ 
ตอนนั้นถามไปซะเยอะ 😅เค้าคงรำคาญ  แต่ปฏิเสธเราไม่ได้ 😂เราได้ฟังเรื่อวราวหลายอย่าง ได้แง่คิดหลายมุม 

ส่วนตัวทุกครั้งที่เดินทางคนเดียว เราจะชอบคุบกับคนที่พบเจอมากกว่าการใช้โทรศัพท์หรือนั่งเงียบอยู่คนเดียว เพราะเรารู้สึกว่าชอบฟังเรื่องราวของคนอื่นและถามเรื่องราวการเดินทางของเค้า ได้เพื่อนใหม่ เรารู้สึกมันน่าค้นหากว่า รู้สึกมันเป็นเสน่ห์ของการเดินทางคนเดียว

เรากลับเมืองไทยไป พร้อมกับแผนอะไรหลายอย่างที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จในระยะเวลา 7-8 สัปดาห์ ช่วงนั้นยุ่งมากกกกกกกกกก โอ้ยย งานเอย เอกสารเอย ดีลกับมหาลัยเก่าเอย ดีลกับสถานทูตเอยยย เตรียมวัคซีนเอย
คุณเอ้ยยยยยยย ความดันขึ้นนนนนแทบทุกวัน 🤢🤯

คำตอบหลายอย่างของนักบินที่เราได้เจอวันนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ทำให้เราเริ่มถามตัวเองอีกครั้งว่า ตกลง นี่จะบินเฮลิคอร์ปเตอร์จริงๆใช่มั้ย ตอนนั้น ยอมรับว่า เริ่มลังเล กลัวจะไปฮอร์ตกตาย กินซากสัตว์อยู่ในป่าอเมซอน 👹👺🤡 หยอกๆๆ 😂 
เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า จริงๆแล้ว อยากทำสายการบิน หรืออยากเป็นนักบินอิสระ  เพราะเราจำเป็นต้องเลือกและวางแผน เพราะไม่อยากเสียเวลาเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้แล้ว
ตอนนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจ บอกกับตัวเองว่า จัดการไปทีละเรื่องละกัน 

พฤศจิกายน 2019 ต้องกลับมาอเมริกา ทั้งที่แพลนต่างๆที่อยากเที่ยวอยากดำน้ำ ที่เมืองไทยแทบไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง 
แต่รู้สึกโชคดีเพราะถ้าต้องเดินทางตอนนี้ ช่วงที่โควิดระบาด อาจจะแย่กว่านี้ 
กลับมา อเมริกาครั้งนี้ ได้โอกาสใหม่ๆ มากมาย
เราเริ่มติดต่อหาที่เรียน เริ่มเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายแต่ละที่ และที่ไหนที่จะทำให้เราทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยได้ 
วันหนึ่งบอสที่เราทำงานให้ เขาเป็นสาย Foodie เขาถามเราว่า ถ้าจัดการสถานที่ทุกอย่างให้ เราสามารถสอนทำอาหารไทยได้มั้ย จริงจังเลยนะ ขายตั๋ว เข้ามาเลย ได้เท่าไหร่เอาไปเลย ?! 
นี่ก็ตอบตกลงแบบให้ไวโดยไม่ได้คิดเลย อย่างเดียวคืองก 555555 คิดในใจมันจะไปยากอะไรอ่ะ 🎤🥳 มั่นหน้ามั่นโหนกตลอดดดด😂
หลักการเดียวที่มีคือเชื่อมั่นในตัวเอง 🥰

คลาสแรกจำได้ วันที่ 9 ธันวาคม 2019 
ก่อนหน้านั้น สองสามวัน เราต้องแพลนงาน เพราะดูเหมือนจะทำเล่นไม่ได้แล้ว คนซื้อบัตรเข้ามา เกือบ 50  คนเป็นอเมริกันทั้งหมด  ทุกคนในทีมมาประชุม ว่าเราจะดำเนินงานยังไง 
ตอนนั้นกลับบ้านมา เอ้า กรูส์คิดในใจ ตอนนั้นที่ตอบตกลง คิดว่า แค่ 10-15คนงี้ 555555 เอาไงละทีนี้ มา 50 คน 🥶ตื่นเต้นเป็นเจ้าเข้าเลย 😂😖
ถึงวันจริง เอาวะ มี Skill อะไร ก็งัดออกมาใช้ให้หมด ทุกคนฝากความหวังไว้ที่เราหมดแล้ว 😬พังไม่ได้ ขายหน้าไม่ได้ 
สมัยเรียน พรีเซ๊นท์หน้าห้องนี่กลุ่มเราได้ท๊อปตลอดนะทำเป็นเล่นไป ถามไอ้ล้านได้ (เพื่อนสมัยมัธยม)  😂🤣เอามาใช้จ้า ตบมุกมั่ง เต้นมั่ง จริงจังมั่ง สลับกันไป โอ้ยยยยย 5 นาทีแรกเท่านั้นที่เกร็ง นอกนั้นพูดหูดับตับไหม้ 😂 

จบวันนั้นรอดตัวไป ได้รับคำชมม ทุกคนสนุกสนาน เราก็แอบภูมิใจ ได้สอนอาหารไทยให้ชาวต่างชาติ อย่างที่เคยคิดมาตลอดไว้ว่าอยากทำ 🇹🇭
และแล้วก็ทำให้เกิด คลาส สอง สาม ตามมา 🙏🏽ต้องขอบคุณโอกาศและความกล้าบ้าบิ่นของตัวเองจริงๆ 😂🤣
แล้วที่มากไปกว่านั้น เช้า วันที่ 9 ธันวาคม วันเดียวกัน แดร์เนียล มีเซอไพรส์ 
หลังจากที่นางขอแต่งงานไปแล้วครั้งนึงที่ปานามา แบบไร้แหวนเพรช อะไรทั้งนั้น หยิบเงินมาให้ก้อนนึง แล้วบอกว่า แต่งงานกันนะ 😅อย่าว่าแต่คุณผู้อ่าน งง !!!!! กรูส์ก็งงค่ะ 55555  😂😂😂
เหตุผลนางคือ เขาอยากให้เราไปเลือกแหวนเอง แบบที่ชอบ นางกลัวเลือกไม่ถูกใจ เราก็ เอ้ออ ให้อภัยละกัน เอ็นดู๊ววววนาง  🥰
ตื่นเช้ามา นางบอกเราแต่งตัว ใส่ชุดสีขาวนะ เราก็ถามทำไม ด้วยท่าทางนิ่งๆ นางไม่ได้ตอบอะไร เพราะคิดในใจว่าอาจมีเจอผู้ใหญ่ หรือ แบบพาไปงานอีเวนท์ธีมขาว  
บอสจัดการเตรียมทุกอย่างไว้แล้วที่ City Hall 
หิมะตกโปรยๆ ขับรถจากบ้านห้านาทีไปถึง City Hall  พอเจอทุกคนแสดงความยินดี เราก็รู้ละ คุณขา หลอกเรามาจดทะเบียนสมรส 🤨😒😂
ไอ้เราก็ยืนหันหน้าหันหลัง เออ แต่งก็แต่งวะ สรุป แต่งไปแบบ แหวนเพรชชั้นก็ออกแบบเอง แหวนนางชั้นก็ออกแบบเอง(แต่นางจ่ายเงินนะ 😬😂) ชั่วโมงครึ่งกับการจดทะเบียน ที่เร่งรีบที่ City Hall ในวันที่มีคลาสสอนทำอาหารครั้งแรกในชีวิต ที่อเมริกา
แน่นอนค่ะ พี่ตื่นเต้นกับคลาสมากกว่า 5555555 😂 ลืมไปหมดละด้วย ตอนกล่าวสาบานตน นางสัญญาว่าอะไรบ้าง 🤭😑

จริงๆเราก็มีคุยกันไว้บ้างแล้วว่าจะมีธีมงานยังไง เมื่อไหร่ ด้วยความที่ต่างคนต่างยุ่งเรื่องงาน เราเลยไม่ได้เร่งอะไร แต่ไม่คิดว่านางจะรีบอะไรขนาดนั้น 😂
จนทุกวันนี้ยังนึกในใจ เอ๊า แล้วยังไงต่อวะเนี่ย 😴🙄😂555555

อยากที่ใครหลายคนบอก มันไม่ใช่แค่โชคช่วยหรือดวงดี ถ้าเราไม่พร้อม ไม่ว่าโอกาสจะมาดีแค่ไหน เราก็รับไว้ไม่ได้ 
ดังนั้นจงเดินเข้าไปหาโอกาส อย่าเพียงแค่ให้โอกาสมาหาเรา 
คิดทบทวนกลับไป ถ้าวันนั้นไม่อยากเป็นแอร์ ไม่ตกไฟนอลคงไม่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนภาษาอังกฤษขนาดนี้ ไม่อ่านหนังสือวันละสามสี่ชั่วโมง ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างในชีวิต
และในอีกมุม ในแง่ดี ถ้าวันนั้น ตัดสินใจรอผลจากอิมิเรส ลงไปทำงานเรือ หรือท้อ หยุดล้มเลิก กลางทาง ชีวิตคงเปลี่ยนไป คงมีเรื่องเล่าอีกมุม 
และที่สำคัญวันนี้ก็คงไม่ได้เรียนนักบิน และไม่คิดจะไปต่อความฝันของตัวเองที่แสนริปหรี่ 
ดังนั้นเชื่อเถอะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันมีเหตุและผลของมัน everything happens for a reason 
จงเชื่อมั่นในพระเจ้า  หรือสิ่งที่คุณนับถือ และสำคัญที่สุดจงเชื่อมั่นในตัวเอง 
มาต่อค่ะ 
ทำไมเราเลือกเรียน โรงเรียนสอนนักบินที่ฟลอริด้า ?? แล้วทำไมเปลี่ยนจากนักบินเฮลิคอร์ปเตอร์ 🚁มาบิน Aircraft ? ไฟล์มแรกรู้สึกอย่างไรบ้าง✈️และต่างกันอย่างไง ? อยากเรียนนักบินที่อเมริกาทีต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ?
เดี๋ยวมาบอกเหตุผล EP ต่อไปนะจ๊ะ
 ตอนนี้ที่ฟลอริด้า ตีหนึ่งแล้ว ขอตัวไปนอนก่อน 
วันนี้ไม่ได้เขียนตอนกลางวัน เพราะมัวแต่ตะเวนขับรถ ดูนกแก้วมาคอร์ โอ้ยย นั่งหาข้อมูลมาทั้งวัน อยากได้ 😅😂เลยไม่มีเวลาได้เขียนตอนกลางวัน 
อยากรู้ว่าจะมีคนรออ่าน EP ต่อไปมั้ย ยังรอดู อีโมจิ๊ อยู่เด้ออออออ🚀🛰❤️🙏🏽😊
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่