เนื่องจาก จขกท.เป็นคนที่ชื่นชอบการดูหนังมากๆ จึงอยากจะมาขอแชร์
ภาพยนตร์ 50 เรื่อง ที่จขกท.ชื่นชอบมากที่สุดเท่าที่เคยดูมา
แต่จะเป็นการแนะนำวันละเรื่อง กระทู้ของเราอาจไม่ใช่การวิเคราะห์
หรือวิจารณ์แบบกูรูเก่งๆ แต่เป็นการพูดเล่าต่อจากความรู้สึกส่วนตัว
ที่ได้ดูเท่านั้น เผื่อถ้าใครยังไม่ได้ดู ก็อยากแนะนำให้ดูในช่วงวิกฤตแบบนี้
จะไม่มีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญใดๆทั้งสิ้น วันนี้จะเป็นการนำเสนอหนังเรื่องที่ 13
13.PULP FICTION เขย่าชีพจรเกินเดือด ( 1994 )
โหมดหนัง : ภาพยนตร์อาชญากรรม / เรื่องตลก
ความชอบส่วนตัว : 10/10
Pulp Fiction หรือ เขย่าชีพจรเกินเดือด เป็นหนังลำดับที่ 2 ของ Quentin Tarantino เจ้าพ่อหนังอาชญากรรม Pulp Fiction คือเรื่องที่สร้างชื่อให้เขาอย่างแท้จริง เพราะกวาดรางวัลไปมากมายหลายสถาบัน เด่นสุดก็น่าจะเป็นในสาขาบทภาพยนตร์ เพราะมันแปลกแหวกแนวไม่มีใครทำมาก่อนในยุคนั้น หนังเล่าเรื่องแบบฉีกบทเดิมๆ จากที่ภาพยนตร์เมื่อก่อนจะเล่าเรื่องแบบ 1 2 3 4 แต่เรื่องนี้เล่าแบบ 3 2 4 1 ตัวหนังดังและฮิตถล่มทะลาย เข้าชิงออสการ์ 7 สาขา คว้ามาได้ 1 สาขา ( ในปีที่มีแต่หนังเจ๋งๆด้วยนะ ยังกวาดรางวัลมาได้ ) นั่นคือ Best Original Screenplay
ภาพยนต์เรื่องนี้สร้างอารมณ์ร่วมให้แก่ผู้ชมได้ดี ทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกลุ้นตื่นเต้นตลอดเวลา และเกิดคำถามอยู่เสมอว่า จะเป็นยังไงต่อน๊าา จะเกิดอะไรขึ้น เอ๊ะ มันยังไง ? ในเรื่องอาจจะมีฉากรุนแรงบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับรับไม่ได้ขนาดนั้น อีกทั้งหนังยังแฝงความตลกร้ายและโรแมนติกไว้ด้วย เรื่องนี้ให้หลากอารมณ์เยอะมากกับผู้ชม ทั้ง ความโกรธ ความดุร้าย ความเกลียดชัง ความกลัว ความกล้า ความขบขันสนุกสนาน และสุดท้ายความอัศจรรย์ใจ
สามเรื่องราวความบังเอิญของคนที่กำลังจะซวยแบบที่ใครก็ช่วยไม่ได้กำลังจะเกิด และเหตุการณ์ทั้งหมดกลับเกี่ยวพันกันอีกต่างหาก เริ่มจาก 2 มือปืนสุดเห่ย วินเซนต์ (จอห์น ทราโวลต้า) และ จูลส์ (ซามูเอล แอล แจ็คสัน) ได้รับมอบหมายให้ดูแล มีอา (อูม่า เธอร์แมน) ภรรยาเจ้านายเป็นอย่างดีเพียง 1 คืน แต่เรื่องร้ายก็เกิดจนได้เมื่อพวกเขาทั้งหมดดันไปเจ๊อะกับโจรกระจอกผัวเมียที่ซ่าส์ปล้นร้านอาหารที่ตัวเองเพิ่งเข้ามารับประทานไปเมื่อกี๊ โดยหารู้ไม่ว่าวันกาลากิณีวันนี้เป็นวันที่ วอลเลซ (วิง ราเมส) เจ้านายของมือปืนคู่หูอารมณ์เดือดพล่าน เพราะแผนล้มมวยที่วางไว้ถูก บุตช์ คอลลิดจ์ (บรูซ วิลลิส) หักหลัง หวังรับเงินรางวัลก้อนใหญ่กว่า ไม่เพียงแต่ชกชนะแต่บุตช์ดันปล่อยหมัดน็อกคู่ต่อสู้จนวิญญาณไปสู่ยมโลกอีกด้วย มีแต่เรื่องให้เจ้าพ่อขัดใจ งานนี้ไม่ใครก็ใครต้องโดนสำเร็จโทษแน่นอน!
สิ่งที่เด่นที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็คือ บทภาพยนตร์นั่นเอง รวมถึง ตัวนักแสดง การลำดับเหตุการณ์ บทสนทนาพูดกันน้ำไหลไฟดับ รวมไปถึงโปสเตอร์หนัง ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของยุค90 สัญลักษณ์ของฮอลลีวู้ด และ สัญลักษณ์ของโลกภาพยนตร์ จะมีหนังสักกี่เรื่องบนโลก ที่ทำให้ตัวละคร10กว่าตัวมีลวดลายเซ็นต์เป็นของตัวเองได้ขนาดนี้ ก็ขอยกความดีความชอบให้ผู้กำกับสุดเก๋า เควนติน ทาเรนติโน่ ต้องขอบอกเป็นภาษาแบบวัยรุ่นว่า เฮียสร้างหนังได้โครตเฟี้ยวเลย 555555 การเล่าเรื่องมีชั้นเชิงโครตๆ นี่จึงเป็นคำตอบว่า หนังของเควนติน และ บทพูดในหนังของเขา ทำไมถึงกลายเป็นสิ่งที่อมตะ ต่อให้ใครทำเลียนแบบ ก็ไม่มีทางทำได้แบบเควนติน
พูดถึงนักแสดงหลักของเรื่องทุกๆคน ( นักแสดงเพียบ )
ตัวละครในเรื่องนี้เยอะๆมาก ไม่น่าเชื่อว่านักแสดงในเรื่องนี้ ปัจจุบันกลายเป็นนักแสดงระดับตำนานของฮอลลีวู้ดกันแทบทุกคนเลย เป็นการแคสท์มาที่ลงตัวที่สุดในบรรดาหนังของเควนติน นักแสดงทุกคนในเรื่องมีลายเซ็นต์ที่เป็นเอกลักษณ์หมด ชอบนักแสดงหลักทุกคนในเรื่องเลย ไม่ว่าจะเป็น จอร์น ทราโวลตา / ซามูเอล แอลแจ็คสัน / อูม่า เธอแมน / บรูซ วิลลิส / มาเรีย เมเตรอส / ทิม รอท / คริสโตเฟอร์ วอลเคน / ฮาร์วี่ คเทล ฯ แต่ละคนแสดงบทบาทที่ตัวเองได้รับออกมาได้ยอดเยี่ยม บางตัวแสดงโผล่ออกมาแค่นิดเดียว ไม่กี่ฉาก แต่ก็เป็นการออกมาแค่ไม่กี่ฉากที่น่าจดจำสุดๆ
อ่อ แล้วฉากเต้น ของ จอร์น ทราโวลตา กับ อูม่า เธอแมน ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของโลกภาพยนตร์ไปเรียบร้อยแล้ว
ใช่วันที่ฉันลืมไปแล้วและวันที่ฉันจำได้เพิ่งเริ่มต้นขึ้น
( The 50 best movies of all time ) ## แนะนำหนังวันละเรื่อง ## " Pulp Fiction " เคยดูกันหรือยัง ?
ภาพยนตร์ 50 เรื่อง ที่จขกท.ชื่นชอบมากที่สุดเท่าที่เคยดูมา
แต่จะเป็นการแนะนำวันละเรื่อง กระทู้ของเราอาจไม่ใช่การวิเคราะห์
หรือวิจารณ์แบบกูรูเก่งๆ แต่เป็นการพูดเล่าต่อจากความรู้สึกส่วนตัว
ที่ได้ดูเท่านั้น เผื่อถ้าใครยังไม่ได้ดู ก็อยากแนะนำให้ดูในช่วงวิกฤตแบบนี้
จะไม่มีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญใดๆทั้งสิ้น วันนี้จะเป็นการนำเสนอหนังเรื่องที่ 13