กระทู้นี้จะเล่าถึงการลัดเลาะเที่ยวเมืองรอบทะเลสาบในหน้าเกือบร้อน ซึ่งสวิสเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีทะเลสาบใหญ่ๆ เยอะมาก แต่เนื่องจากที่พักเราอยู่ที่ Nuchatel ทะเลสาบใกล้ๆ ก็จะเป็นฝั่งของ Geneva เราจึงทำการจัด one day trip สำหรับการเที่ยวไปตามเมืองริมทะเลสาบ
เริ่มต้นจับรถไฟมาที่ Montreux ซึ่งเพื่อนชาวสวิสแนะนำว่า ยูว์ไม่ควรพลาดการขึ้นยอดเขาที่ Rochers de Naye สูง 2,042 เมตร มองเห็นวิวทะเลสาบ Geneva ได้ด้วยนะ
พอมาถึง Montreux ก็ต้องมาซื้อตั๋วรถไฟขึ้นเขาก่อน นั่งประมาณหนึ่งชั่วโมง รถไฟลายตะมุ้งตะมิ้งมาก
จังหวะรถไฟวิ่งขึ้นเขานี่ชันมาก แต่วิวก็สวยมากเช่นกัน ช่วงที่เราไปคนไม่เยอะ ถ่ายรูปได้ นั่งแป๊บๆ ถึงยอดเขาล่ะ และเราจะมองเห็นวิวทะเลสาบ Geneva ตลอดการนั่งรถไฟ
ถึงแล้วยอดเขา Rochers de Naye นี่คือการอยู่สูงเหนือเมฆที่แท้ทรู เดินขึ้นมาเหนื่อยเลยทีเดียว พอเรามาอยู่สูงมากๆ อย่างหนึ่งที่เห็นคือ การมาการไปของเมฆนี่เร็วมาก แดดออกสลับกับฟ้าปิดนี่เป็นไปอย่างราดเร็ว
สูดอากาศจนฉ่ำปอด ก็ลงมาเดินเรื่อยเปื่อย รอบๆ ทะเลสาบในเมือง Montreux เมืองนี้มีร้านอาหารจีนอร่อยราคาย่อมเยาว์นะ ใครเบื่อชีสแบบเรา นี่คือทางสว่างเลย พอเป็นหน้าร้อน เราจะเห็นคนพื้นที่ ออกมานั่งเล่นกันข้างนอกเยอะมาก เพราะอากาศกำลังดี
จาก Montreux เรานั่งรถบัสต่อไป Vevey เพราะอยากได้อารมณ์นั่งรถรอบทะเลสาบ เป็นทางเลือกที่ไม่เลวนะ ไม่ได้เสียเวลาด้วย เพราะบ้านเค้า ไม่มีคำว่า รถติด
ทะเลสาบที่เมือง Vevey ดี๊ดี คิดถึงคุณชายรุจเลย
มุมส้อมในตำนาน
และ Vevey คือเมืองของ ชาร์ลี แชปลิน
จากนั้นก็นั่งรถไฟต่อมา Geneva ซึ่งเหมือนกับเราหลุดจากเมืองเล็กๆ สงบๆ บ้านๆ เข้ามาเจอสยาม ความวุ่นวาย ความคนเยอะ ความกิจกรรมข้างทางเยอะ มาเต็ม
Geneva คือเมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่ราชการสำคัญๆ ความเป็นเมืองชัดเจนขั้นสุด
และกิจกรรมที่เป็นแลนด์มาร์กของ Geneva ก็คือ การเล่นเรือใบ
จบ one day trip สำหรับคนที่อยู่ค่อนไปทางใต้หน่อย แล้วอยากเลาะเที่ยวริมทะเลสาบ ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ไม่เลวนะ ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนหรือใกล้ๆ หน้าร้อน อากาศจะดี ไม่ร้อนมาก สบายๆ แต่ถ้าเดินมากๆ ก็จะแอบจั๊กแร้เปียกอยู่
แถมอีกนิดกับวิวรอบ Lake Nuchatel เมืองเล็กๆ ที่น่ารักมากๆ อีกเมืองนึง
หลังเลิกงานมานั่งชิวดูเค้าปิกนิคกัน ก็เพลินดี
สวิสเซอร์แลนด์...ลัดเลาะเมืองรอบทะเลสาบ
เริ่มต้นจับรถไฟมาที่ Montreux ซึ่งเพื่อนชาวสวิสแนะนำว่า ยูว์ไม่ควรพลาดการขึ้นยอดเขาที่ Rochers de Naye สูง 2,042 เมตร มองเห็นวิวทะเลสาบ Geneva ได้ด้วยนะ
พอมาถึง Montreux ก็ต้องมาซื้อตั๋วรถไฟขึ้นเขาก่อน นั่งประมาณหนึ่งชั่วโมง รถไฟลายตะมุ้งตะมิ้งมาก
จังหวะรถไฟวิ่งขึ้นเขานี่ชันมาก แต่วิวก็สวยมากเช่นกัน ช่วงที่เราไปคนไม่เยอะ ถ่ายรูปได้ นั่งแป๊บๆ ถึงยอดเขาล่ะ และเราจะมองเห็นวิวทะเลสาบ Geneva ตลอดการนั่งรถไฟ
ถึงแล้วยอดเขา Rochers de Naye นี่คือการอยู่สูงเหนือเมฆที่แท้ทรู เดินขึ้นมาเหนื่อยเลยทีเดียว พอเรามาอยู่สูงมากๆ อย่างหนึ่งที่เห็นคือ การมาการไปของเมฆนี่เร็วมาก แดดออกสลับกับฟ้าปิดนี่เป็นไปอย่างราดเร็ว
สูดอากาศจนฉ่ำปอด ก็ลงมาเดินเรื่อยเปื่อย รอบๆ ทะเลสาบในเมือง Montreux เมืองนี้มีร้านอาหารจีนอร่อยราคาย่อมเยาว์นะ ใครเบื่อชีสแบบเรา นี่คือทางสว่างเลย พอเป็นหน้าร้อน เราจะเห็นคนพื้นที่ ออกมานั่งเล่นกันข้างนอกเยอะมาก เพราะอากาศกำลังดี
จาก Montreux เรานั่งรถบัสต่อไป Vevey เพราะอยากได้อารมณ์นั่งรถรอบทะเลสาบ เป็นทางเลือกที่ไม่เลวนะ ไม่ได้เสียเวลาด้วย เพราะบ้านเค้า ไม่มีคำว่า รถติด
ทะเลสาบที่เมือง Vevey ดี๊ดี คิดถึงคุณชายรุจเลย
มุมส้อมในตำนาน
และ Vevey คือเมืองของ ชาร์ลี แชปลิน
จากนั้นก็นั่งรถไฟต่อมา Geneva ซึ่งเหมือนกับเราหลุดจากเมืองเล็กๆ สงบๆ บ้านๆ เข้ามาเจอสยาม ความวุ่นวาย ความคนเยอะ ความกิจกรรมข้างทางเยอะ มาเต็ม
Geneva คือเมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่ราชการสำคัญๆ ความเป็นเมืองชัดเจนขั้นสุด
และกิจกรรมที่เป็นแลนด์มาร์กของ Geneva ก็คือ การเล่นเรือใบ
จบ one day trip สำหรับคนที่อยู่ค่อนไปทางใต้หน่อย แล้วอยากเลาะเที่ยวริมทะเลสาบ ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ไม่เลวนะ ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนหรือใกล้ๆ หน้าร้อน อากาศจะดี ไม่ร้อนมาก สบายๆ แต่ถ้าเดินมากๆ ก็จะแอบจั๊กแร้เปียกอยู่
แถมอีกนิดกับวิวรอบ Lake Nuchatel เมืองเล็กๆ ที่น่ารักมากๆ อีกเมืองนึง
หลังเลิกงานมานั่งชิวดูเค้าปิกนิคกัน ก็เพลินดี