Lavaux + Gruyères (Switzerland) 4 วัน ฉบับพาคนแก่อายุ 70+ ไปได้

สวัสดีครับ วันนี้จะมารีวิวทริปเที่ยวที่เพิ่งกลับมา พร้อมกับแจกแผนการเดินทางที่เพิ่งใช้ไป
เป็นแผนที่ออกแบบมาสำหรับพาผู้ใหญ่อายุ 74 และ 68 ไปเที่ยวครับ
โดยผู้ใหญ่อายุ 74 มีปัญหาเส้นประสาทที่หลัง ทำให้เดินๆไปแล้วขาอ่อนแรง ต้องนั่งพักขาเป็นพักๆ ต้องทายาคลายกล้ามเนื้อทุกเช้า
และผู้ใหญ่อายุ 68 เดินได้ค่อนข้างช้าและเหนื่อยง่ายครับ แต่เดินติดต่อกันได้มากกว่าคนแรก
แต่ต้องมีคนพาผู้ใหญ่ไปนะครับ ไปกันเองไม่ได้ เพราะต้องมีคนช่วยขนย้ายกระเป๋า เนื่องจากย้ายโรงแรมบ่อย และแผนเที่ยวต้องการความคล่องตัวในการหาเส้นทางพอสมควรครับ

โดยทริปนี้เที่ยวอยู่สวิสเซอร์แลนด์ 4 วัน ตามด้วยปราก เดรสเดน และโปแลนด์อีกรวม 7 วันครับ
แต่ที่จะนำมาเล่าและรีวิวจะเป็นส่วนของสวิสเซอร์แลนด์เท่านั้น เนื่องจากแผนช่วงหลังไม่มีอะไรพิเศษครับ แต่แผนช่วงแรกนี่วางมาอย่างละเอียด
แผนที่วางมา จะทำได้เป๊ะๆต้องไปเที่ยวปลายเดือนพฤษภาคมเท่านั้นครับ เนื่องจากมีการเที่ยวงานเทศกาล
แต่ถ้าจะเอาไปปรับใช้ ก็เที่ยวได้ตลอดปลายฤดูใบไม้ผลิ ถึงกลางฤดูใบไม้ร่วงครับ (ถ้านอกฤดูที่ว่า ไร่องุ่นใน Lavaux จะไม่สวยครับ)

หลังจากกระทู้นี้ จะทำการรีวิวอาหารตามร้านดังและไม่ดังที่บันทึกไว้ทั้งหมดทั้งทริป แยกเป็นอีกกระทู้นึงภายหลังครับ

ขออนุญาตแปะแผนที่บันทึกไว้อ่านเองเป็นภาษาอังกฤษก่อนครับ เดี๋ยวจะอธิบายแนวคิด ขั้นตอน จุดตายในแต่ละวัน ประกอบกับรีวิวที่ไปมาเป็นภาษาไทยตามหลังครับ

Fri 24 May - Lunch at Geneva, cross to Yvoire, then go to sleep at Evian-les-bains
10:05 land in Geneva
then train to city, leave bags, walk to Paquis and cross to Eaux-Vives
next walk across old town back to Paquis
lunch Auberge de Savièse (malakoffs, raclette)
then Geneve -> Nyon Gare, walk Nyon Gare to Nyon Lac
16:50-17:10 latest option for Nyon Lac -> Yvoire ferry
18:38 latest 152 bus to Thonon-les-bains (Place des Arts)
later bus or train Thonon to Evian
(sleep in Evian-les-Bains)

Sat 25 May - Get to Chardonne market before it closes, stopping at Lausanne market and seeing Evian along the way.
morning see Evian water source
10:05-10:40 Evian -> Lausanne Ouchy (buy Ouchy to Riponne ticket, 3.70 CHF)
then see Saturday market at Riponne and Palud, walk back to station
13:17-13:30 Lausanne -> Vevey (latest train, should leave earlier)
15:00 Chardonne market closes
(sleep in Vevey)

Sun 26 May - Hike Lavaux vineyards at leisurely pace. See Château de Chillon.
Leave bags at Vevey, train to Cully, visit market, bus to Grandvaux, hike until arrive at Epesse, then train to pick up bags at Vevey, then train to check in at Montreux, train to Chillon castle, see castle, then train back to Montreux.
(sleep in Montreux)

Mon 27 May - to Gruyères via Montbovon for cheese lunch and museum, then onto Zürich. Zürich dinner.
8:44-9:27 Montreux -> Montbovon
9:40-10:00 Montbovon -> Gruyères, see Gruyères cheese museum
11:03-11:06 Gruyères gare -> Gruyères ville with bus
lunch Chalet de Gruyère (fondue and cheese)
later train from Gruyères to Zürich
dinner Zeughauskeller
(sleep in Zürich)

อธิบายก่อนว่า ตัวหนาข้างบน คือวันที่ และไอเดียของแผนในแต่ละวันครับ
ส่วนตัวขีดเส้นใต้ คือตารางเวลาที่ต้อง fix ครับ คืออาจจะเป็นรถเที่ยวสุดท้าย หรือถ้าสายกว่านี้จะทำตามแผนลำบากมากครับ
ส่วนบรรทัดอื่นๆ เป็นโปรแกรมที่แนะนำในแต่ละวันครับ สามารถปรับได้

ทำไมถึงไปเที่ยว Lavaux? มันคืออะไร?
- Lavaux คือภูมิภาคบนทะเลสาบเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องไร่องุ่นบนเนินเขาที่สวยงาม และอยู่ในมรดกโลกของ Unesco ครับ ที่รู้จักเพราะเพื่อนที่อาศัยอยู่เนเธอร์แลนด์ไปเที่ยวมา เห็นรูปเขาแล้วเลยอยากไปบ้างครับ

ทำไมต้องเจาะจงไปวันเสาร์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม?
- เพราะวันเสาร์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม คือวันจัดเทศกาลไวน์ที่เมือง Chardonne ใน Lavaux (marché des vins) ครับ สำหรับปี 2019 ที่ผ่านมาคือวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม ปีหน้า (2020) เข้าใจว่าน่าจะเป็นวันเสาร์ที่ 31 ครับ ยังไงลองเชคข้อมูลระหว่างวางแผนอีกทีครับ ผมเดาเอาเองว่ามันคือเสาร์สุดท้ายของเดือน เพราะปี 2018 เขาจัดวันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม

แน่นไปไหม?
- บอกเลยว่าวันแรก และวันที่สองจนถึงตลาดปิด แน่นครับ แต่ที่แน่นเป็นเพราะผู้สูงอายุบังคับมาว่าผ่านเมือง Geneva และ Lausanne แล้วก็อยากแวะด้วย ไม่อยากไปเปลี่ยนรถเฉยๆ แต่จุดหมายที่เที่ยวหลักไม่ใช่ Geneva และ Lausanne ครับ สามารถตัดการเที่ยวในเมืองเหล่านี้ทิ้งได้ครับ

จำเป็นต้องไปนอนตามเมืองที่กำหนดไว้?
วันที่ 3 และ 4 ไม่จำเป็นครับ วันที่ 3 สามารถนอน Vevey เหมือนเดิมได้ โดยไม่มีผลต่อค่ารถ (แต่ตอนผมไป ค่าโรงแรมมันถูกกว่ากันมาก เลยย้ายครับ) ส่วนวันที่ 4 สามารถไปนอนที่ไหนก็ได้ครับที่สะดวกต่อการเที่ยวที่อื่นต่อหรือบินกลับต่อไป วันที่ 1 และ 2 จริงๆก็ไม่จำเป็นครับ แต่กำหนดอย่างนี้เพราะจะประหยัดเวลาเดินทางและค่ารถได้มากกว่าครับ

เริ่มนะครับ วันแรก ศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม
เราบินด้วยสายการบิน Finnair ออกจากกรุงเทพตั้งแต่คืนวันที่ 23 พฤษภาคมครับ ซึ่งเป็น red-eye flight ถ้ากลัวผู้สูงอายุนอนไม่หลับแล้วเที่ยวไม่ไหว ให้เตรียม melatonin หรืออย่างอื่นไปกินเพื่อนอนบนเครื่องบินครับ เราบินถึง Geneva 10:05 น ถ้าจะนำแผนไปปรับ โดยเที่ยวให้ทันตามแผน สามารถไปถึง Geneva ก่อนเวลา 10:05 น ได้ครับ แต่ห้ามไปถึงทีหลังมากเกินครับ จะเสี่ยงมากเกินไป

ขั้นตอนการเที่ยวคือ ใช้ตั๋วรถฟรีที่ได้จากสนามบิน นั่งรถไฟไปสถานีรถไฟ Cornavin (คือสถานีกลางครับ) แล้วฝากกระเป๋า
จากนั้นไปแวะเจนีวานิดหน่อยครับ โดยแผนที่ทำคือ เดินจากสถานีรถไฟไปยังท่าเรือ Mouette ที่ชื่อท่า Paquis ซึ่งอยู่ริมทะเลสาบครับ
เพื่อขึ้นเรือ Mouette สาย M2 ไปลงที่ท่า Eaux-Vives ฝั่งตรงข้าม (ไอเดียคือจะดูวิวทะเลสาบและน้ำพุ jet d'eau ครับ)
ค่าเรือรวมอยู่ในตั๋วฟรีที่ได้จากสนามบินครับ ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม
เมื่อถึงท่า Eaux-Vives แล้ว ให้เดินยังไงก็ได้ให้ไปโผล่ที่ Place du bourg du four ซึ่งเปรียบเสมือนในกลางเมืองเก่าของเจนีวาครับ
จากนั้นเดินข้ามเมืองเก่า ด้วยเส้นทางไหนก็ได้ เพื่อข้ามสะพานกลับไปฝั่งสถานีรถไฟครับ เดินดูเมืองไปเรื่อยๆครับ
พอข้ามสะพานไปแล้ว สามารถไปกินร้านอาหารที่แนะนำ หรือที่อื่นก็ได้ครับ
ร้านที่แนะนำ (Auberge de Savièse) เป็นร้านราคากลางๆค่อนไปทางล่าง ที่ได้ certificate of excellence บนเวบ tripadvisor และมีเมนู Malakoff ของขึ้นชื่อของ Canton of Vaud และ Raclette ของขึ้นชื่อของ Canton of Valais ครับ แนะนำให้สั่ง Malakoff และถ้ากินไหว แนะนำให้สั่ง Raclette เพิ่มครับ ทั้งสองเมนูเป็นชีสครับ แนะนำสำหรับคออาหารท้องถิ่น ใครเกลียดชีสเกลียดอาหารฝรั่งแนะนำให้ไปกินที่อื่นครับ
หลังจากนั้น ให้ไปขึ้นรถจากสถานี Cornavin ไปยังเมือง Nyon (มาทุกราวๆ 15 นาที ใช้เวลาราวๆ 15 นาทีครับ) อย่าลืมเอากระเป๋าครับ
พอถึงเมือง Nyon แล้ว ให้ทำยังไงก็ได้ให้ไปโผล่ที่ท่าเรือของ CGN เพื่อนั่งเรือข้ามฟากไปเมือง Yvoire ประเทศฝรั่งเศส
เชครอบเรือได้บนเวบ www.cgn.ch ครับ และรอบเรือรอบสุดท้ายที่จะไปเที่ยวต่อทัน บอกไว้ด้านบนแล้วครับ
พวกผมเดินๆหลงๆกันนิดหน่อยครับ และไปถึงเวลาก็ไม่พอดี คือต้องรอราวๆ 56 นาทีเพื่อขึ้นเรือรอบต่อไป ไม่เป็นไรครับเพราะขั้นตอนก่อนหน้าพวกผมเสร็จเร็ว ได้ขึ้นเรือรอบ 15:55 น ครับ

รูป malakoff, ปราสาท Nyon, เมือง Yvoire จากบนเรือ และเมือง Yvoire ครับ

หลังจากเดินเที่ยวในเมือง Yvoire แล้ว (ต้องลากกระเป๋าไปด้วยแต่ตัวเมืองเล็กมากๆครับ แป๊บเดียวก็ทั่ว) พวกผมก็ขึ้นรถบัสสาย 152 รอบ 17:38 น ครับ ขึ้นจากแถวๆ tourist info center นอกกำแพงเมือง ขึ้นเพื่อไปยังเมือง Thonon-les-Bains ครับ รถ 152 เที่ยวสุดท้าย เขียนไว้ด้านบนแล้วนะครับ ห้ามพลาดนะครับไม่งั้นยุ่ง

พอถึง Thonon พวกผมก็เปลี่ยนเป็นรถไฟไปยังสถานี Evian-les-Bains ครับ เพื่อไปนอนที่เมือง Evian
ที่ต้องไปนอน Evian เนื่องจากค่า รร ที่ Yvoire แพงหูฉี่ครับ ครั้นจะย้อนกลับไปนอน Geneva ก็เปลืองค่ารถ เลยถือโอกาสไปเที่ยวเมือง Evian เมืองแห่งน้ำแร่ Evian ยี่ห้อดังซะเลย

เมือง Yvoire, สเต๊กที่เมือง Evian และชาวบ้านที่มากรอกน้ำที่แหล่งน้ำแร่ Evian ในตอนเช้าวันเสาร์ครับ

วันที่สอง วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม
เนื่องจากเหนื่อยจาก red-eye flight และการเดินวันแรก คืนแรกจึงหลับกันดีมากๆครับ และตื่นได้เช้าพอสมควร
ก็ค่อยๆเก็บของออกมาแบบสบายๆ เพื่อไปดูแหล่งน้ำแร่ Evian และนำขวดไปกรอกน้ำแร่ฟรีครับ และได้เห็นชาวบ้านนำขวดมากรอกน้ำเหมือนกัน ขับรถเอาขวดมากรอกกันเลย ตามรูปด้านบนครับ หลังจากเก็บของก็ไปแวะทานร้านอาหารเช้าแถวนั้น เพื่อรอขึ้นเรือข้ามฟากรอบ 10:05 น ครับ

จุดหมายของเรือคือเมือง Lausanne ครับ โดยจะไปโผล่ที่ท่าเรือ Lausanne-Ouchy
จากท่าเรือ จะไปสถานีรถไฟ หรือเมืองเก่า จะเป็นการขึ้นเนินครับ พวกผมจึงซื้อตั๋วรถใต้ดินจาก Lausanne-Ouchy ไปยัง Riponne-M.Béjart
โดยแวะลงที่ Lausanne, gare ก่อน เพื่อฝากกระเป๋า แล้วจึงขึ้นรถสายเดิมต่อไปยัง Place de la Riponne ครับ ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดวันเสาร์ของ Lausanne พอดีครับ พวกผมก็เดินดูของในตลาดไปเรื่อยๆ ผ่าน Place de la Palud หลังจากนั้นก็ เดินยังไงก็ได้ให้กลับไปโผล่ที่ Lausanne, gare ครับ ย้ำอีกครั้งว่าอย่าลืมกระเป๋าครับ
ซึ่งพวกผมไปถึงก่อนเวลารถเที่ยวสุดท้ายที่จะไปต่อทัน พอสมควร เลยพอมีเวลาที่ตลาดไวน์ Chardonne ครับ ถ้าให้ผมแนะนำ ก็ให้เผื่อเวลาสำหรับตลาดไวน์เยอะๆครับ เพราะปีนึงมีครั้งเดียว ตัวเมือง Lausanne มาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้
ข้าวกลางวัน พวกผมแวะร้านเบเกอรี่ในเมือง Lausanne ครับ ก่อนจะไปสถานี เพื่อเอากระเป๋า และขึ้นรถต่อไปยังเมือง Vevey ครับ
โดยให้กดซื้อตั๋วรถเป็นตั๋วเที่ยวเดียวจาก Lausanne, gare ไปถึง Chardonne-Jongny เลยครับ

หลังจากไปถึง Vevey ก็ให้ไปเชคอินหรือฝากกระเป๋าที่ รร แล้วกลับไปป้ายรถเมล์หน้า Vevey, gare เพื่อขึ้นรถเมล์สาย 201 ไปลง Vevey (Funi) ครับ
ซึ่งป้าย Funi จะอยู่หน้า funicular สำหรับขึ้นเขาไปเมือง Chardonne พอดี โดยลงสถานี Chardonne-Jongny ตามที่ซื้อตั๋วไว้ครับ
ตลาดไวน์ Chardonne ก็... เหมาะสำหรับคอไวน์ครับ ผมเองเป็นคนไม่ดื่ม แต่ผู้สูงอายุและสมาชิกอีกท่านหนึ่งชอบมาก
ค่าชิมไวน์ 20 CHF ต่อคนครับ ชิมได้ทั้งงานจนงานเลิกครับ (ฉะนั้นถ้ายิ่งไปถึงเร็วจะยิ่งคุ้มครับ)

เห็ด chantarelle และ white asparagus ที่ขายที่ตลาด Lausanne, บรรยากาศงานเมือง Chardonne, และรูปปั้น Charlie Chaplin ที่ Vevey ครับ

ขากลับจากงานก็ให้ซื้อตั๋วเที่ยวเดียวจาก Chardonne-Jongny ไป Vevey, gare ครับ

9400 ตัวอักษรแล้วครับ ต่อใน คห 1 นะครับ
ส่วนสรุปค่าเดินทาง อยู่ใน คห 3 นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่