"ช่วงนี้อาจจะคุยด้วยน้อยลงนะ" มันหมายความว่าอะไรครับ?

ผมไม่เคยมีแฟนครับ เคยจีบผู้หญิงอยู่บ้างแต่ทุกคนก็ไม่ได้เป็นแฟน เสียใจทุกครั้งครับแต่ก็ทำใจได้ตลอดมา เป็นกระทู้แรกอาจจะสักหน่อยนะครับ

ประเด็นของกระทู้มันเริ่มจากตรงนี้ครับ ผมคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งรู้จักกันตอนมัธยมปลาย เราทั้งสองความสัมพันธ์ค่อนข้างไปได้ด้วย ซึ่งผมก็ชอบเธอและเธอก็ชอบผมเช่นกัน ถึงแม้เรายังไม่ได้เป็นแฟนกันแต่ทั้งการกระทำและคำพูด ประโยคที่สนทนากันมันเหมือนกับคนเป็นแฟนกันแทบเลย ทั้งใช้คำพูดน่ารักๆ ประโยคหวานๆ บอกฝันดี บอกรัก วิดีโอคอลคุยกัน หรือไปดูหนังด้วยกันก็เคย ซึ่งเพื่อนของเธอรู้ แต่สำหรับผมไม่ยังไม่กล้าบอกเพื่อนของผมเพราะว่าผมยังเขินอายอยู่ และความสัมพันธ์ของเราก็เป็นอยู่แบบนี้

เมื่อถึงตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยผมเจอสภาพแวดล้อมใหม่ มีเรื่องของที่บ้านและความกดดันจากครอบครัว ทำให้ผมโฟกัสกับชีวิตเเละอนาคตของผมมากขึ้น จนคิดว่า "ตอนนี้เรายังไม่ต้องมีแฟนก็ได้หรือไม่ต้องมีผู้หญิงคนไหน คู่ชีวิตมันเป็นเรื่องของอนาคตอะไรผมต้องมีอนาคตมาากว่านี้" อะไรทำนองนี้ ทำให้ผมติดต่อเธอน้อยลง ซึ่งในตอนนั้นเธอจะทักมาหาผมก่อนเสมอมีบางครั้งที่ผมจะทักเธอไปก่อน และผมก็ไม่ยอมรับเลยว่าผมมองผู้หญิงอื่นผมมีความกล้ามากขึ้นแต่ผมก็ไม่ได้จีบใครอยู่ดี บวกกับตอนนั้นกิจกรรมค่อนข้างเยอะ ซึ่งผมชอบทำกิจกรรมอยู่เลยโฟกัสกับการทำกิจกรรมด้วย เธอก็ยังแชทหาผมอยู่เพราะเห็นสตอรี่ของผมที่ผมไปทำโน้นนี่ แต่เราไม่ได้คอลหรือได้ยินเสียงกันเลย และไม่ได้นัดเจอกันเลยด้วยตั้งเเต่เข้ามหาวิทยาลัย 

เวลาผ่านผมโฟกัสกับกิจกรรมน้อยลง และสูญเสียเป้าหมายในชีวิตไปนิดหน่อยเนื่องจากความเครียดจากการทำกิจกรรมนี่แหละ มันทำให้ผมมองเห็นเธอมากขึ้นเหมือนตอนแรกที่คุยกัน เรื่องนี้จริงๆแล้วทำให้ผมทะเลาะกับเธออยู่เหมือนกัน ทั้งการที่ทำเหมือนเธอเป็นเซเว่นนึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป พอในช่วงทำกิจกรรมหรือทำอะไรก็ไม่เคยบอกเธอ เธอก็โกรธที่ผมทำแบบนี้ แต่สุดท้ายเราสองคนก็เข้าใจกันซึ่งผมยอมรับว่าผมผิดและก็คุยกันได้ปกติ

ช่วงเวลาต่อมาผมได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ผมกลับมาย้อนคิดกับตนเองว่าเธอคือคนที่อยู่ข้างเราไม่ว่าเราจะสนใจเธอหรือไม่ก็ตามและยังรอผมอยู่ตลอด เธอไม่ไปมีคนใหม่ทั้งที่เธอจะไปจากผมเมื่อไรก็ได้ มันทำให้ผมมองเธอไม่ใช่แค่คนคุยหรือว่าแฟน แต่ผมวาดเธอวาดไว้ในอนาคตของผม บางคนอาจจะมองว่าผมเพ้อฝัน ซึ่งผมก็ยอมรับว่าผมเป็นพวกชอบจินตาการอนาคตของตัวเอง ผมกลับมาคุยกับเธอมากขึ้นสนใจเธอมากขึ้น เธอดูมีความสุข ผมเองก็มีความสุขที่ได้คุยกับเธอหลังจากที่ผมเครียดหรือกดดันอะไรบางอย่าง(ซึ่งผมไม่เคยบอกเธอว่าผมเครียดเรื่องอะไร)เพียงคุยกับเธอก็ทำให้ลืมเรื่องพวกนั้นไป ไม่ต่างอะไรกับการได้คุยกับพ่อแม่ของผมเลย เราคอลคุยกันบ่อยเหมือนตอนแรก ซึ่งผมจะเป็นคนคอลหาตลอด แต่เราก็มีเวลาส่วนตัวให้กับเราทั้งคู่อยู่ 

ในตอนนี้ผมเริ่มมีความคิดที่กลัวจะเสียเธอไป ผมมีความรู้สึกว่าเธอตอบแชทดูช้าลงมากและพูดน้อยลงเวลาคอลคุยกัน ไม่ค่อยบอกคิดถึงหรือฝันดี และไม่ค่อยทักผมมาก่อนเหมือนตอนแรก ความรู้สึกนี้ทำให้ผมกังวล อาจจะเป็นเพราะผมกลัวเสียเธอมาเกินไปหรือผมทำตัวเยอะกับเธอมากเกินไปหรือเปล่า เธอรู้สึกอึดอัดหรือเปล่า เธอหมดความสนใจในตัวผมแล้วหรือเปล่า หรือว่าผมหมดเสน่ห์แล้ว(เพราะผมจะมีนิสัยขี้อ้อนเหมือนผู้หญิง และก็ขี้เล่นเวลาอยู่กับเธอ) ผมก็ได้แต่บอกกับตัวเองว่า "เราคาดหวังกับเธอมากเกินกว่าตอนคุยกันใหม่ๆหรือเปล่า จริงๆเธอปกติมีแต่เราต่างหากที่คิดไปเอง" แม้จะบอกกับตัวเองแบบนี้เเต่ก็หยุดกังวลไม่ได้อยู่ดี จนกระทั่งเธอบอกมาเองเลยว่า "ช่วงนี้อาจจะคุยด้วยน้อยลงนะ" ได้เห็นคำนี้ผมก็ตกใจครับ คิดว่ามันเป็นคำบอกเลิกหรือเปล่าแต่เราก็ไม่ได้เป็นแฟนกันนี่ แต่ผมก็บอกเธอกลับไปว่าโอเค โดยที่ผมไม่ได้ถามเธอว่าเธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า เพราะผมกลัวว่าจะยุ่งกับชีวิตของเธอเกินไปบวกกับความกังวลว่าเราอาจจะเสียเธอไปนะถ้าไปเยอะกับเธอ 

คำถามคือ "ช่วงนี้อาจจะคุยด้วยน้อยลงนะ" มันหมายความว่าอะไรกันแน่ครับ เป็นประโยคบอกเลิกหรือเปล่า เธอรำคาญเรา เธอกำลังเอาคืนในสิ่งที่ผมเคยทำกับเธอไว้หรือเปล่า หรือเธอกำลังทดสอบอะไรบางอย่างกับผม หรือว่าเธอมีปัญหาในชีวิตจริงๆ 
แล้วผมควรจะทำอย่างไรดีครับ ถามเธอไปตรงๆเลยว่าเธอมีปัญหาอะไร หรือว่าหาคนใหม่ หรือว่ารอเธอเหมือนที่เธอรอผม ตอนนี้เป็นกังวลมากครับถึงแม้ว่าผมจะเคยเสียใจเธอผู้หญิงแต่ก็ไม่ชินอยู่ดี เพื่อนๆคิดว่าอย่างไรช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่