สรุปเกี่ยวกับยารักษาสิวที่ชื่อ Retin-A และ Differin (แบบเข้าใจง่ายค่ะ)

กระทู้สนทนา


Retin A และ Differin เป็นกรดวิตามินเอ ชนิดทา ซึ่งคนส่วนใหญ่รู้จักกันดีว่าเป็นยาทารักษาสิว 
แต่ส่วนใหญ่มักจะทาผิดวิธีทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งแดงแสบลอก และเข้าใจว่าแพ้ยาสิว!!

+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
เริ่มกันที่ Retin A ก่อน 
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+

1. Retin A คือชื่อการค้า หรือยี่ห้อนึงของ Tretinoin (ชื่อสามัญ) ซึ่งเลิกผลิตมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังพอมีขายอยู่บ้าง สำหรับร้านหรือรพ ที่ยังมีสต็อกอยู่
2. ถ้าเป็นยาที่ได้จากโรงพยาบาลบางที่อาจจะใช้ชื่อยาว่า VAA แต่มักจะมี (Tretinoin) บอกไว้ด้วย ซึ่งก็หมายถึงตัวยาเดียวกัน
3. ความเข้มข้นของตัวยาจะมี 3 ระดับ คือ 0.025%, 0.05%, 0.1% แต่ส่วนใหญ่นิยมใช้ 0.025% และ 0.05% ตัวยาเป็นเนื้อครีม
4. ยานี้ห้ามใช้ในคนท้องและคนที่กำลังให้นมลูก อันนี้สำคัญมากๆ
5. ใช้รักษาสิวได้ดี block ทุกกลไกสิว ทั้งปรับเรื่องผลัดเซลล์ผิว ลดความมันบนใบหน้า ลดการอัดตุน ลดภาวะการอักเสบ และยับยั้งเชื้อสิว จึงใช้รักษาได้ทั้งสิวอุดตัน และสิวอักเสบ เริ่มเห็นผลเมื่อทาต่อเนื่อง 4-6 wk สามารถใช้ตัวเดียวได้ (monotherapy) แต่ถ้าใช้ร่วมกับยาทาสิวตัวอื่นๆ เช่น BP, clindamycin, skinoren จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพ
6. ใช้รักษาผิวเสื่อมชราจากแสงแดด (Photoaging) เช่น ริ้วรอยเหี่ยวย่นเล็กๆตื้นๆ ตรงผิวที่ถูกแสงแดดบ่อยๆ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอจากการโดนแดด เห็นผลเมื่อทาต่อเนื่องทุกคืนนาน 3-6 เดือน
7. ช่วยลดรอยแตกลายได้ (Striae) แต่เห็นผลไม่ค่อยเยอะ อย่าคาดหวังมาก
8. ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นและรูขุมขุนดูเล็กลงได้ แต่เห็นผลไม่มากเช่นกัน เน้น 
laser ได้ผลดีกว่า
9. ช่วยให้รอยดำหรือฝ้าจางลงได้ (ยาฝ้า เช่น Kligman formula หรือ Triluma จะมี tretinoin ผสมอยู่ด้วย) อย่าซื้อมาใช้เองนะคะ
10. เนื่องจากจัดเป็นตัวยา และมีกฎหมายกำหนดว่าห้ามผสมในเครื่องสำอางหรือครีมทั่วๆไป และเนื่องจากยามีผลข้างเคียงมาก หากใช้ไม่ถูกต้อง ดังนั้นจึงควรใช้โดยมีคุณหมอแนะนำเสมอ
11. วิธีทา Tretinoin แบบเทคนิค short contact 
สำหรับคนที่เริ่มต้นใช้ใหม่ๆ แนะนำเริ่มจากความเข้มข้นต่ำๆก่อน ทาปริมาณน้อยๆก่อน เช่น เท่า 1 เมล็ดถั่วเขียวผสมกับครีมบำรุง สำหรับทาทั่วหน้า เริ่มแรกอาจจะทาแบบคืนเว้นคืนก่อน แล้วค่อยๆปรับเป็นทาทุกคืน
12. เน้นว่าต้องทาก่อนนอนเท่านั้น เพราะยาจะสลายไปหากถูกแสง UV ซึ่งทำให้ยาไม่ได้ผล และเนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่ใช้ยานี้ในตอนแรกๆมักมีอาการผิวแห้งแดงแสบลอกคัน เกิดจากการระคายเคือง (มักเกิดในช่วง 2-4 wk แรก เรียกว่า Retinoin dermatitis) จากนั้นจะค่อยๆดีขึ้นเอง ผิวหน้าเริ่มปรับตัวได้
13. ถ้ามีอาการแบบข้อ 10 แต่ไม่มาก ให้ลดปริมาณยาที่ทา ลดความถี่ แต่เพิ่มปริมาณ moisterizer ที่ทาให้มากขึ้น ส่วนถ้ามีอาการมากให้หยุดใช้ยาและกลับไปปรึกษาหมอ
14. สำหรับคนที่ทายา tretinoin แล้ว ไม่ต้องทา Differin (Adapalene), Epiduo (BP + adapalene) อีก เพราะจะซ้ำซ้อน เนื่องจากเป็นยากลุ่มกรดวิตามินเช่นเดียวกัน แต่คนละ generation
15. ไม่ควรทาพร้อมกันสกินแคร์ที่ทำให้เกิดความระคายเคือง เพราะหน้าอาจจะแห้งแดงแสบลอกมากขึ้น

+-+-+-+-+-+
ต่อที่ Differin 
+-+-+-+-+-+
1. ส่วน Differin ชื่อการค้า (ยี่ห้อ) ของยา Adapalene (ชื่อสามัญ) อยู่ในรูปแบบเจล ในไทยมีความเข้มข้นเดียวคือ 0.1% ใช้เป็นยารักษาสิว ไม่ช่วยเรื่องริ้วรอย/หลุมสิว/ผิวแตกลาย
2. ประสิทธิภาพเรื่องการรักษาสิว ใกล้เคียงกับ Retin A แต่ว่าผลข้างเคียงเรื่องการระคายเคืองน้อยกว่า Retin-A
3. ห้ามใช้ในรักษาสิวในคนท้องหรือให้นมลูกเช่นกัน ถ้ากำลังท้องอยู่แล้วต้องการยาทาสิวให้ใช้ Skinoren (Azelaic acid) แทน
4. วิธีการเริ่มทา แบบ short contact เช่นเดียวกัน Retin A แต่ไม่ต้องผสมกับครีมบำรุงเพราะ texture ต่างกัน ตัวนี้เป็นเจล
5. ถ้าทา Epiduo แล้ว ไม่ต้องทา Differin อีก จะซ้ำ
6. เน้นว่าต้องทาก่อนนอนเท่านั้น เพราะยาจะสลายไปหากถูกแสง UV ซึ่งทำให้ยาไม่ได้ผล และเนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่ใช้ยานี้ในตอนแรกๆมักมีอาการผิวแห้งแดงแสบลอกคัน เกิดจากการระคายเคือง (มักเกิดในช่วง 2-4 wk แรก เรียกว่า Retinoin dermatitis) จากนั้นจะค่อยๆดีขึ้นเอง ผิวหน้าเริ่มปรับตัวได้
7. ถ้ามีอาการแบบข้อ 6 แต่ไม่มาก ให้ลดปริมาณยาที่ทา ลดความถี่ แต่เพิ่มปริมาณ moisterizer ที่ทาให้มากขึ้น ส่วนถ้ามีอาการมากให้หยุดใช้ยาและกลับไปปรึกษาหมอ

+-+-+
สรุป 
+-+-+

🌸 เนื่องจาก Retin A และ Differin จัดเป็นยา ดังนั้นประสิทธิภาพจึงดีกว่า อนุพันธ์ของวิตามินเอ ที่ผสมใน skin care หรือ OTC product ทั่วไป เช่น Retinol, Retinaldehyde
🌸 สำหรับการทารักษาสิว อย่าเพิ่งใจร้อน ต้องทาต่อเนื่อง 4-6 wk ถึงจะเห็นผลที่ชัดเจน สิวไม่ได้ดีขึ้นในเวลาไม่กี่วัน​ และในช่วงแรกที่ทายาอาจจะมีสิวดันขึ้นมาอีกเล็กน้อยถือว่าเป็นอาการปกติค่ะ
🌸 ตอนเช้า ควรทากันแดด และหลีกเลี่ยงแสงแดดด้วย เพื่อลดอาการแสบผิวจากแสงแดด (ในบางคนมี photosensitivity เพิ่มขึ้น)
🌸 ช่วงที่ทา Retin A หรือ Differin ไม่ควรขัดหรือ scrub ผิว เพราะจะยิ่งระคายเคือง
🌸 คนที่ทายา 2 ตัวนี้ สามารถกิน Isotretinoin ได้ แต่ควรอยู่ในความดูแลของหมอผิวหนัง
🌸 Retin A ลดริ้วรอยจากแดดได้​ (Photo aging) แต่ไม่ช่วย​ริ้วรอย​ร่องแก้ม​ รอยตีนกา​ รอยเลิกหน้าผาก​ รอยขมวดคิ้ว​ รอยพวกนี้ต้องพึ่งโบท็อกซ์​/ฟิลเลอร์นะคะ​

หลายคนอ่านจบแล้วคงอยากถามว่า
Q: Retin A ไม่มีขายแล้วจะใช้อะไรแทนได้บ้าง? 
A: สามารถใช้ยาที่มีชื่อสามัญว่า Tretinoin แทนได้ (ยาเดียวกันแต่คนละยี่ห้อ คนละบริษัทกัน) สามารถเข้าไปดูได้ว่ามียี่ห้ออะไรบ้าง ที่เว็บไซต์นี้นะคะ
http://ndi.fda.moph.go.th/drug_info/index?name=Tretinoin&brand&rctype&drugno&fbclid=IwAR3-F_EIriRud-fwQJtj1jb0lU8eZIfmUvrkH0CEaAKI2X5jF9V_0w8L6sE

ใครชอบ​ Retin A โหวต​ 1
ชอบ​ Differin​ โหวต​ 2 นะคะ

หมอยุ้ย เพจ Dr.Yui คุยทุกเรื่องผิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่