Forrest Gump หรือ ฟอเรสท์ กัมพ์ อัจฉริยะปัญญานิ่ม หนังอยู่ภายใต้การดูแลของ

Robert Zemckis (ผู้สร้างตำนาน Back To The Future ทั้ง 3 ภาค) สุดยอดหนังอมตะตลอดกาลในดวงใจของใครหลายๆคน เป็นหนังที่มีแทบทุกอย่างที่หนังเรื่องนึงควรจะมี ทั้ง ความรัก ตลก ดราม่า ชีวิต หนังถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านั้นมาได้อย่าง "เรียบง่าย" และ "เข้าใจได้ไม่ยาก" กวาดรายได้ทั่วโลกไปย่างมหาศาลกว่า 600 กว่าล้านเหรียญ และเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 13 สาขา และคว้ารางวัลไปถึง 6 สาขาด้วย ได้แก่ Best Picture , Best Actor , Best Director , Best Visual Effects , Best Adapted Screenplay , Best Film Editing

Forrest Gump เป็นหนังชีวิต เสียดสีสังคมอเมริกันสมัยนั้น และซ่อนปรัชญาในการใช้ชีวิตไว้มากมาย "อัจฉริยะ" คือคำที่มอบให้กับผู้ที่มีสติปัญญาล้ำเลิศ ใช่หรือเปล่า ? หรือเป็นผู้ที่มี IQ สูง กว่าระดับคนปกติ หรือจะต้องเป็นคนที่มีร่างกายที่แข็งแรง เรื่องนี้ใครเป็นคนกำหนดล่ะ ? หากมีใครสักคนมาให้เราแนะนำหนังดีๆ สักเรื่อง แน่นอนว่า Forrest Gump จะเป็นหนึ่งในหนังที่เราจะต้องแนะนำให้คนๆ นั้นได้ดูสักครั้งก่อนตาย จริงๆ

เปิดเรื่องด้วยบรรยากาศ โดยที่ตัวละครนั่งอยู่บริเวณป้ายรถประจำทางและได้ทำการเล่าเรื่องในอดีตของตัวเองให้กับผู้คนที่นั่งอยู่บริเวณเดียวกัน โดยเรื่องราวที่เล่าเป็นชีวิตที่ผ่านมาของเขาในอดีตที่ได้ประสบพบเจอมาในแต่ละช่วงอายุของเขา

ตั้งแต่เกิดมาไม่สมประกอบ มีแม่ที่คอยดูแลเข้าใจและเอาใจใส่ หรือ โดนเพื่อนๆรังแก ชีวิตมหาวิทยาลัย อาชีพการงาน เพื่อนในชีวิตของเขา ทั้งช่วงตอนสงคราม ที่ต้องสูญเสียเพื่อนอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับมา

หรือรักแรกตอนสมัยยังเป็นเด็ก ความรักของเขากับคนรักสมัยเด็ก ที่มีอันต้องคลาดกันเสมอ แต่เขาก็ยังรอคอยและยังคงรักเธอเสมอมา จนในที่สุดเขาก็ได้ใช้ชีวิตกับหญิงคนรัก แต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆเพราะไม่นานเธอก็เสียชีวิตโดยเธอกับเขาได้มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน

หนังยังแสดงให้เห็นถึง แนวความคิดในการใช้ชีวิตที่ แตกต่างกัน จากตัวกัมพ์ นั้นคือ ตัวละครอย่าง หมวดแดน และ เจนนี่ ที่เป็นตัวแทนของการยึดติดกับสิ่งที่ยังเอื้อมหรือคว้ามาไม่ถึงมากจนเกินไป เมื่อเขาทำตามสิ่งที่ตัวเองปรารถนาไม่สำเร็จ ก็จมปลักอยู่กับการโทษตัวเอง ไม่ให้โอกาสตัวเอง และพยายามกดตัวเองให้อยู่ต่ำอยู่เสมอ

My name's Forrest, Forrest Gump ... นี้คือประโยคแนะนำตัวที่แฝงไปด้วยความใสซื่อและบริสุทธิ์ สิ่งที่ทำให้หนังมีเสน่ห์อย่างมาก ก็คือตัวละครนี้ รับบทโดย ทอม แฮงค์ นักแสดงชายคนนี้เล่นบทนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ตลอดทั้งเรื่องเขาดึงคนดูไว้อยู่หมัด และต้องยอมรับเลยว่าเขาแบกหนังไว้ทั้งเรื่องจริงๆ ทั้งการแสดง และการเล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงที่บริสุทธิ ทำให้ Forrest Gump กลายเป็นชายที่เราอยากจะเอาใจช่วยและเต็มเปี่ยมด้วยความหวังให้กับคนดู จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้รางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเรื่องนี้

ชีวิตของเจนนี่ สำหรับเราน่าสงสารและหดหู่มากที่สุดในเรื่องนี้ อย่างน้อยฟอเรสท์ยังมีคนที่รักเขาอยู่รอบกาย แต่เจนนี่นั้นทั้งชีวิตเหมือนเธอโดดเดี่ยว อ้างว้าง ไม่มีแม้แต่บุพการีคอยยึดเหนี่ยวใจ ตัวละครของเธอหลงผิด เพราะสภาพแวดล้อมสังคมที่เธอคบ คนเราจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับสังคมที่เราอยู่ ตัวนักแสดงหญิงเองเล่นออกมาได้อ้างว้าง ทำให้เราเชื่อได้ว่าเธอโดดเดี่ยว ไม่มีใคร ชีวิตของเธอมันเหมือนขนนก ที่ปลิวลอยอยู่กลางอากาศ ไม่รู้ว่าร่วงหล่นไปอยู่มุมไหนของโลก

บทบาทของชายผู้เกลียดชังพระเจ้า ด่าทอโชคชะตา โทษแต่ชะตาฟ้าลิขิต เขาแสดงออกมาได้ไต่ระดับมิติของตัวละคร ตั้งแต่ช่วงที่เขายึดติดกับสังขารร่างกายและชื่อเสียเงินทอง จนมาถึงช่วงชีวิตที่เขารู้จักปล่อยวาง เรียนรู้การมีชีวิตอยู่ในแต่ละวัน ว่าอยู่ไปเพื่ออะไร ? เหมือนเป็นตัวละครแทนความรู้สึกของคนที่ผิดหวัง เริ่มเข้าใจชีวิต เลิกยึดติด และดำเนินชีวิตต่อแบบที่มันควรจะเป็น

" แม่มีวิธีอธิบายเรื่องยากๆให้ผมเข้าใจเสมอ " บทแม่ของฟอเรสท์กัมพ์ออกมาแค่ไม่กี่ฉาก แต่สร้างความประทับใจให้คนดูได้ ไม่แพ้บทเด่นๆอีก 3 ท่าน ด้านบน เธอแสดงออกถึงความเป็นแม่ในหัวใจอย่างเต็มเปี่ยม ลูกจะถูกคนรังแกอย่างไร แต่เธอจะโอบกอดลูกเอาไว้แม้ในยามปั้นปลายชีวิต สอนลูกแนะนำลูกในสิ่งที่ดีแบบที่แม่คนนึงควรจะทำ ไม่ยากที่บทนี้จะเข้าไปอยู่ในใจคนดูเหมือนกัน