เรื่องสยองเก่ายังติดตา งานใหม่ก็ต้องทำ จะร้ายหรือดี ก็ต้องลองดู
ฉันคงเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดเท่าที่คนๆนึงจะมีมา ฉันโชคดีที่หางานได้อย่างรวดเร็ว จากที่ฉันพื้นขึ้นมาในโรงพยาบาลอย่างมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตึกกลิ่นการเวกที่น่าสะพรึง ถึงตอนนี้ฉันยังหาคำตอบไม่ได้ว่ามันเป็นฝันหรือความจริงแต่ที่แน่ ๆ ฉันทำงานอยู่นั่นสักพักก็ลาออก ภาพวันนั้นถึงหาคำตอบไม่ได้แต่ก็ติดตา เวลาผ่านไปหลายเดือนที่ฉันหางานทำ โชคชะตาก็เข้าข้างหรือไม่แน่ก็ซ้ำเติมคนดวงซวย ขณะที่ฉันเปิดเว็บหางาน ฉันก็ไปสะดุดตากับงานๆหนึ่งที่น่าจะเข้ากับฉันได้ดี นั้นคือคนดูแลบ้าน (อีกแล้ว) ก็นะการศึกษาระดับฉันจะยอมไปเป็นสาวโรงงานก็เสียดายความสวย ถึงการศึกษาจะไม่ขี้เหล่และมันก็สูงพอที่จะไปเดินสวยๆอยู่ในห้องแอร์ แต่ฉันก็พอใจที่จะทำงานที่ฉันคิดว่ามันเหมาะกับฉัน แต่บ้านหลังนี้มีคนอยู่นะคะ และแล้วก็ถึงวันเริ่มงานงานที่ได้มาอย่างง่ายดายเหมือนไร้ผู้เข้าแข่งขัน โทรปั๊บ นัดสัมภาษณ์ปุ๊บ รับปั๊บ ยายนี้ก็ลิงโลดเลยละค่ะ ก็นะเป็นชะนีมีค่านิคะ ค่าเช่าห้อง ค่าบุพการี ค่ากิน ค่าอยู่ และงานนี้เมื่อทำงานแล้วก็จะตัดค่าห้อง กินอยู่ ได้เลย เพราะฉันจะต้องย้ายไปอยู่ประจำในบ้าน ดูแลพวกคนงาน ที่มีไม่เยอะหลอกค่ะ มีแม่บ้าน คนสวน คนขับรถ ที่ตำแหน่งอย่างละ 5 คน เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในอาณาบริเวณบ้าน ก็มีแม่บ้านคนนึงมาต้อนรับและพาไปทำความรู้จักกับทุกคนในบ้าน เธอแนะนำตัวว่าชื่อ จิก ฉันจะเรียนกว่าป้าจิกนะคะ เธอพาไปทำความรู้จักกับทุกคนซึ่งทุกคนเป็นมิตรมากเลย และพาไปเดินดูอาณาจักรแห่งนี้ ในรั้วอันกว้างขวาง มีบ้านหลังใหญ่อยู่ทั้งหมด 4 หลัง หลังแรกเป็นบ้านตึกทรงยุโรป เห็นแล้วก็คิดถึงบ้านกลิ่นผีนั้นซะจริง ๆ ผู้ที่พำนักอยู่ในตึกนี้คือ คุณหญิงแย้มปราง ธิดาคนโตของบ้านหลังนี้และ คุณศักดิ์ชาย สามีของเธอ ทั้งสองไม่มีบุตรหรือธิดา ทั้งสองเป็นผู้ดูแลทุกอย่างในอาณาจักรนี้ นอกจากประมุขทั้งสองแล้วยังมี คุณแย้มผกา ธิดาคนเล็กและคุณแสง สามีของเธอ ทั้งสองมีทายาทตัวน้อย ๆ กำลังน่ารักชื่อ คุณหนูเล็ก บ้านหลังที่ 2 เป็นบ้านทรงสมัยใหม่สวยงาม เป็นที่พำนักของ คุณบุญพงษ์ บุตรคนรอง ผู้พำนักตามลำพัง บ้านหลังที่ 3 เรือนพักของพวกเราทุกคน บ้านทรงสมัยใหม่ชั้นเดียวแบ่งเป็นห้องๆ เป็นสัดส่วน ส่วนหลังสุดท้ายเป็นเรือนไทยโบราณ ผู้ที่พำนักที่เรือนนั้น คือ ประมุขสูงสุดที่แท้จริง คือคุณนายแย้มกลิ่น มารดาผู้เป็นหม้ายของคุณๆทุกคน นี่คือที่ทำงานและต้องอาศัยอยู่ที่นี่ หน้าที่คือ คอยควบคุมเหล่าคนงานในบ้าน เรามีแม่ครัว 2 คน ทำอาหารให้บ้านทุกหลัง ครัวอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ แม่บ้าน 2 คน และป้าจิกทำหน้าที่เหมือนเลขาของฉัน การทำงานของฉันก็เป็นไปได้ด้วยดี หลายวันที่ฉันอยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ห้องที่ฉันอยู่ก็สะดวกสบาย บ้านเรามี 6 ห้อง ฉันกะป้าจิกที่ไม่ได้พักกับคนอื่นคือมีห้องส่วนตัว ผู้ชายนอนรวมกันห้องละ 4 คน บ้านคุณพงษ์มี คนขับรถและคนสวนไปพักด้วยที่นั้นเพื่อง่ายต่อการใช้งาน เจ้านายทุกคนไม่ได้ทำงานอะไรแต่ก็ไม่เชิง เหมือนว่าท่านๆ จะลงทุนในตลาดหุ้น และน่าจะร่ำรวยจากบุญเก่า ที่ดินที่ปล่อยเช่าอะไรประมาณนี้ ทุกวันป้าจิกจะมีหน้าที่ไปดูแลคุณนายแย้มด้วย ฉันไม่เคยเห็นเธอออกมาจากเรือนเลยตั้งแต่มาอยู่จะที่เคหะสถานแห่งนี้ วันหนึ่งฉันไปตามป้าจิกที่ห้อง สังเกตว่าที่ปฏิทินของเธอจะมีรอยกาทับวันที่ ฉันไม่กล้าถามว่ามันคืออะไร คงจะเป็นการนับวันอะไรสักอย่างละมั้ง แต่ที่เห็นได้ชัดคือ วันที่กำหนดกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า ดูจากวงกลมใหญ่ที่นั้น แรม 15 ค่ำ นี้ ทำไมฉันรู้ก็ต่อมเผือกมันกำเริบจำวันที่มาดูปฏิทินที่ห้องค่ะ ความปกติที่ไม่ปกติก็เริ่มขึ้นเมื่อ ฉันอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ฉันเริ่มฝันแปลกๆ เสียงผู้หญิงแว่วๆ ในฝันฟังได้ประมาณว่า ไป ไปจากที่นี่ ไป ไป ไป ฝันบ่อย ๆ มากขึ้น ชัดขึ้น ช่วงแรกฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่นำวันยิ่งหนักข้อขึ้น ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในฝัน แต่มันแว่วมาตามลม เสียงอยากโกรธเกรี้ยว เวลา อาบน้ำ กลางดึก หรือบางที่ก็ เวลาทำงานจนฉันสะดุ้ง คนรอบตัวก็เริ่มถามว่าเป็นอะไร ฉันก็ไม่กล้าบอกกลัวเค้าว่าเป็นบ้า นี่มันอะไรกัน ใครกัน เสียงใคร คืนนึงฉันฝันว่า เห็นผู้หญิงคนนึงมานั่งร้องไห้อยู่หน้าเรือนไทย พอฉันเดินเข้าไปหาเธอผู้นั้นก็พุ่งมาหาฉันตะโกนว่า ไป!!!!!!!!!!!! ฉันสะดุ้งตื่นจากภวังค์ฝัน ฉันเริ่มที่จะกลัวที่นี่ แต่จะทำไงได้ก็มันจำเป็นงานไม่ได้หาง่ายเหมือน ฝุ่นตามถนน ชีวิตที่นี่ไม่ได้อยู่ตามลำพังแต่กลับน่าขนลุกเข้าทุกวัน นี่ฉันหนีมาจากบ้านผีสิงมาเจ้าบ้านผีสิงอีกหรือนี่หรือแค่แปลกที่ หรือเป็นอาการหลอนจากกลิ่นการเวกที่ยังไม่หายดี ยอมรับเลยว่าฉันยังต้องกินยาเพื่อระงับอาการบางอย่าง เหตุการณ์นั้นมันส่งผลกระทบกับฉันมากเหลือเกิน ฉันโดยเรียกพบจากผู้ที่ฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน คุณนายแย้มกลิ่นเธอให้เหตุผลว่า อยากทำความรู้จักกันคนที่มาทำงานใหม่ หญิงสูงอายุที่มีสง่าราศี ดวงตาที่เป็นสีเทา ผมที่ขาว และรอยย่นตามผิวหนัง บอกอายุของเธอ ทำให้ฉันเริ่มสงสัยว่า อายุเธอน่าจะเป็น ยายหรือทวดของ คุณผู้หญิงด้วยซ้ำ ไม่น่าเป็นแม่ อีกทั้งคุณนายเล็กและคุณพงษ์อีกล่ะ สวยมาก เสียงยานคางของประมุขของบ้านชมฉัน ทำให้ฉันงงนิดนึง แต่ก็นะคนมันสวยจริง ๆละ บรรยายกาศในเรือนแห่งนี้ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ดอกไม้สวยงาม พันธุ์ไม้ไทยหลายชนิดทั้งพุ่ม ยืนต้นและเถา ออกดอกชูใบสวยงาม ต่างจากตึกใหญ่ที่จัดสวนแบบตะวันตก ในเรือนเป็นเรือนไม้เก่าแก่ ใหญ่โต ขณะนี้ฉันนั้นอยู่ที่หอกลางและคุณนายท่านนั่งอยู่บนเก้าอี้เอนหลังที่ป้าจิกบอกว่าท่านจะออกมานั่งตรงนี้ทุกวัน ท่านก็ถามสรทุกข์สุขดิบต่าง ๆ ถ้าดูเผิน ๆ แล้วท่านดูอบอุ่น แต่ในความอบอุ่นนั้นมันซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ ไม่นานนักท่านก็ขอตัวไปพักผ่อน ก่อนจะบอกว่าให้ฉันเดินชมบ้านได้ตามสบาย ไหน ๆ ก็จะมาดูแลที่นี่ต้องรู้จักทุกที่ในบริเวณบ้าน ป้าจิกเล่าว่าบ้านหลังนี้ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ต้นตระกูลนี้เป็นคหบดีใหญ่ แล้วป้าจิกก็ชี้ให้ดูรูปที่ติดอยู่ที่ผนัง และแนะนำว่า นั้นคือต้นตระกูล ท่านเจ้าสัวบุญและคุณแย้ม ฉันคิดในใจว่าคนในตระกูลนี้ชื่อคล้ายกันไปหมดเลย
เรือนนางแย้ม (กลิ่นการเวก ภาค 2)
ฉันคงเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดเท่าที่คนๆนึงจะมีมา ฉันโชคดีที่หางานได้อย่างรวดเร็ว จากที่ฉันพื้นขึ้นมาในโรงพยาบาลอย่างมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตึกกลิ่นการเวกที่น่าสะพรึง ถึงตอนนี้ฉันยังหาคำตอบไม่ได้ว่ามันเป็นฝันหรือความจริงแต่ที่แน่ ๆ ฉันทำงานอยู่นั่นสักพักก็ลาออก ภาพวันนั้นถึงหาคำตอบไม่ได้แต่ก็ติดตา เวลาผ่านไปหลายเดือนที่ฉันหางานทำ โชคชะตาก็เข้าข้างหรือไม่แน่ก็ซ้ำเติมคนดวงซวย ขณะที่ฉันเปิดเว็บหางาน ฉันก็ไปสะดุดตากับงานๆหนึ่งที่น่าจะเข้ากับฉันได้ดี นั้นคือคนดูแลบ้าน (อีกแล้ว) ก็นะการศึกษาระดับฉันจะยอมไปเป็นสาวโรงงานก็เสียดายความสวย ถึงการศึกษาจะไม่ขี้เหล่และมันก็สูงพอที่จะไปเดินสวยๆอยู่ในห้องแอร์ แต่ฉันก็พอใจที่จะทำงานที่ฉันคิดว่ามันเหมาะกับฉัน แต่บ้านหลังนี้มีคนอยู่นะคะ และแล้วก็ถึงวันเริ่มงานงานที่ได้มาอย่างง่ายดายเหมือนไร้ผู้เข้าแข่งขัน โทรปั๊บ นัดสัมภาษณ์ปุ๊บ รับปั๊บ ยายนี้ก็ลิงโลดเลยละค่ะ ก็นะเป็นชะนีมีค่านิคะ ค่าเช่าห้อง ค่าบุพการี ค่ากิน ค่าอยู่ และงานนี้เมื่อทำงานแล้วก็จะตัดค่าห้อง กินอยู่ ได้เลย เพราะฉันจะต้องย้ายไปอยู่ประจำในบ้าน ดูแลพวกคนงาน ที่มีไม่เยอะหลอกค่ะ มีแม่บ้าน คนสวน คนขับรถ ที่ตำแหน่งอย่างละ 5 คน เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในอาณาบริเวณบ้าน ก็มีแม่บ้านคนนึงมาต้อนรับและพาไปทำความรู้จักกับทุกคนในบ้าน เธอแนะนำตัวว่าชื่อ จิก ฉันจะเรียนกว่าป้าจิกนะคะ เธอพาไปทำความรู้จักกับทุกคนซึ่งทุกคนเป็นมิตรมากเลย และพาไปเดินดูอาณาจักรแห่งนี้ ในรั้วอันกว้างขวาง มีบ้านหลังใหญ่อยู่ทั้งหมด 4 หลัง หลังแรกเป็นบ้านตึกทรงยุโรป เห็นแล้วก็คิดถึงบ้านกลิ่นผีนั้นซะจริง ๆ ผู้ที่พำนักอยู่ในตึกนี้คือ คุณหญิงแย้มปราง ธิดาคนโตของบ้านหลังนี้และ คุณศักดิ์ชาย สามีของเธอ ทั้งสองไม่มีบุตรหรือธิดา ทั้งสองเป็นผู้ดูแลทุกอย่างในอาณาจักรนี้ นอกจากประมุขทั้งสองแล้วยังมี คุณแย้มผกา ธิดาคนเล็กและคุณแสง สามีของเธอ ทั้งสองมีทายาทตัวน้อย ๆ กำลังน่ารักชื่อ คุณหนูเล็ก บ้านหลังที่ 2 เป็นบ้านทรงสมัยใหม่สวยงาม เป็นที่พำนักของ คุณบุญพงษ์ บุตรคนรอง ผู้พำนักตามลำพัง บ้านหลังที่ 3 เรือนพักของพวกเราทุกคน บ้านทรงสมัยใหม่ชั้นเดียวแบ่งเป็นห้องๆ เป็นสัดส่วน ส่วนหลังสุดท้ายเป็นเรือนไทยโบราณ ผู้ที่พำนักที่เรือนนั้น คือ ประมุขสูงสุดที่แท้จริง คือคุณนายแย้มกลิ่น มารดาผู้เป็นหม้ายของคุณๆทุกคน นี่คือที่ทำงานและต้องอาศัยอยู่ที่นี่ หน้าที่คือ คอยควบคุมเหล่าคนงานในบ้าน เรามีแม่ครัว 2 คน ทำอาหารให้บ้านทุกหลัง ครัวอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ แม่บ้าน 2 คน และป้าจิกทำหน้าที่เหมือนเลขาของฉัน การทำงานของฉันก็เป็นไปได้ด้วยดี หลายวันที่ฉันอยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ห้องที่ฉันอยู่ก็สะดวกสบาย บ้านเรามี 6 ห้อง ฉันกะป้าจิกที่ไม่ได้พักกับคนอื่นคือมีห้องส่วนตัว ผู้ชายนอนรวมกันห้องละ 4 คน บ้านคุณพงษ์มี คนขับรถและคนสวนไปพักด้วยที่นั้นเพื่อง่ายต่อการใช้งาน เจ้านายทุกคนไม่ได้ทำงานอะไรแต่ก็ไม่เชิง เหมือนว่าท่านๆ จะลงทุนในตลาดหุ้น และน่าจะร่ำรวยจากบุญเก่า ที่ดินที่ปล่อยเช่าอะไรประมาณนี้ ทุกวันป้าจิกจะมีหน้าที่ไปดูแลคุณนายแย้มด้วย ฉันไม่เคยเห็นเธอออกมาจากเรือนเลยตั้งแต่มาอยู่จะที่เคหะสถานแห่งนี้ วันหนึ่งฉันไปตามป้าจิกที่ห้อง สังเกตว่าที่ปฏิทินของเธอจะมีรอยกาทับวันที่ ฉันไม่กล้าถามว่ามันคืออะไร คงจะเป็นการนับวันอะไรสักอย่างละมั้ง แต่ที่เห็นได้ชัดคือ วันที่กำหนดกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า ดูจากวงกลมใหญ่ที่นั้น แรม 15 ค่ำ นี้ ทำไมฉันรู้ก็ต่อมเผือกมันกำเริบจำวันที่มาดูปฏิทินที่ห้องค่ะ ความปกติที่ไม่ปกติก็เริ่มขึ้นเมื่อ ฉันอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ฉันเริ่มฝันแปลกๆ เสียงผู้หญิงแว่วๆ ในฝันฟังได้ประมาณว่า ไป ไปจากที่นี่ ไป ไป ไป ฝันบ่อย ๆ มากขึ้น ชัดขึ้น ช่วงแรกฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่นำวันยิ่งหนักข้อขึ้น ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในฝัน แต่มันแว่วมาตามลม เสียงอยากโกรธเกรี้ยว เวลา อาบน้ำ กลางดึก หรือบางที่ก็ เวลาทำงานจนฉันสะดุ้ง คนรอบตัวก็เริ่มถามว่าเป็นอะไร ฉันก็ไม่กล้าบอกกลัวเค้าว่าเป็นบ้า นี่มันอะไรกัน ใครกัน เสียงใคร คืนนึงฉันฝันว่า เห็นผู้หญิงคนนึงมานั่งร้องไห้อยู่หน้าเรือนไทย พอฉันเดินเข้าไปหาเธอผู้นั้นก็พุ่งมาหาฉันตะโกนว่า ไป!!!!!!!!!!!! ฉันสะดุ้งตื่นจากภวังค์ฝัน ฉันเริ่มที่จะกลัวที่นี่ แต่จะทำไงได้ก็มันจำเป็นงานไม่ได้หาง่ายเหมือน ฝุ่นตามถนน ชีวิตที่นี่ไม่ได้อยู่ตามลำพังแต่กลับน่าขนลุกเข้าทุกวัน นี่ฉันหนีมาจากบ้านผีสิงมาเจ้าบ้านผีสิงอีกหรือนี่หรือแค่แปลกที่ หรือเป็นอาการหลอนจากกลิ่นการเวกที่ยังไม่หายดี ยอมรับเลยว่าฉันยังต้องกินยาเพื่อระงับอาการบางอย่าง เหตุการณ์นั้นมันส่งผลกระทบกับฉันมากเหลือเกิน ฉันโดยเรียกพบจากผู้ที่ฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน คุณนายแย้มกลิ่นเธอให้เหตุผลว่า อยากทำความรู้จักกันคนที่มาทำงานใหม่ หญิงสูงอายุที่มีสง่าราศี ดวงตาที่เป็นสีเทา ผมที่ขาว และรอยย่นตามผิวหนัง บอกอายุของเธอ ทำให้ฉันเริ่มสงสัยว่า อายุเธอน่าจะเป็น ยายหรือทวดของ คุณผู้หญิงด้วยซ้ำ ไม่น่าเป็นแม่ อีกทั้งคุณนายเล็กและคุณพงษ์อีกล่ะ สวยมาก เสียงยานคางของประมุขของบ้านชมฉัน ทำให้ฉันงงนิดนึง แต่ก็นะคนมันสวยจริง ๆละ บรรยายกาศในเรือนแห่งนี้ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ดอกไม้สวยงาม พันธุ์ไม้ไทยหลายชนิดทั้งพุ่ม ยืนต้นและเถา ออกดอกชูใบสวยงาม ต่างจากตึกใหญ่ที่จัดสวนแบบตะวันตก ในเรือนเป็นเรือนไม้เก่าแก่ ใหญ่โต ขณะนี้ฉันนั้นอยู่ที่หอกลางและคุณนายท่านนั่งอยู่บนเก้าอี้เอนหลังที่ป้าจิกบอกว่าท่านจะออกมานั่งตรงนี้ทุกวัน ท่านก็ถามสรทุกข์สุขดิบต่าง ๆ ถ้าดูเผิน ๆ แล้วท่านดูอบอุ่น แต่ในความอบอุ่นนั้นมันซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ ไม่นานนักท่านก็ขอตัวไปพักผ่อน ก่อนจะบอกว่าให้ฉันเดินชมบ้านได้ตามสบาย ไหน ๆ ก็จะมาดูแลที่นี่ต้องรู้จักทุกที่ในบริเวณบ้าน ป้าจิกเล่าว่าบ้านหลังนี้ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ต้นตระกูลนี้เป็นคหบดีใหญ่ แล้วป้าจิกก็ชี้ให้ดูรูปที่ติดอยู่ที่ผนัง และแนะนำว่า นั้นคือต้นตระกูล ท่านเจ้าสัวบุญและคุณแย้ม ฉันคิดในใจว่าคนในตระกูลนี้ชื่อคล้ายกันไปหมดเลย