สวัสดีครับวันนี้ผมก็จะมาพูดสปอย ความรู้สึกของผมหลังดูเรื่องนี้จบนะครับ เป็นกระทู้เเรกนะครับ ฝากตัวด้วยนะครับ
ตัวละครในเรื่อง
Shinohara Akari(ในที่นี้ผมขอเรียกว่านางเอกนะครับ)
Tono Takaki(ขอเรียกว่าพระเอกนะครับ)
Kanae Sumida(เรียกว่าสาวโต้คลื่น)
น้องเเว่น
บทที่1 เสี้ยวดอกซากุระ
พระเอกกับนางเอกตอนเป็นเด็กประถมเป็นเพื่อนสนิทกันอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าตัวติดกันตลอด เช่นหมกในห้องสมุด จนมักโดนเพื่อนเเซว ล้อบ้าง ที่ไม่ออกไปเล่นข้างนอกเเบบเด็กธรรมดาเพราะว่าเเพ้อากาศ ทั้งสองเรียกกันด้วยชื่อคือทาคากิกับอาคาริ เเต่เติมคุณตลอด(เติมซัง) ทั้งสองเคยสัญญากันว่าจะอยู่ดูซากุระด้วยกันตลอดไป ตอนฉากข้ามรางรถไฟเเล้วมีรถไฟตัดผ่าน ตอนนั้นอาคิริยังรอทาคากิอยู่
ทาคากิคิดว่าถ้าเป็นเเบบนี้ตลอดก็คงจะดี เเต่อย่างว่าชีวิตย่อมไม่เป็นเเบบที่หวังไว้ อาคาริต้องย้ายบ้านไปกับครอบครัว ตอนเเรกระยะห่างเนี่ยก็ไปหากันได้เเบบนั่งรถไฟก็ถึงอะครับ ประมาณ เชียงใหม่ไปพิษณุโลก(ประมาณๆๆ) เเต่หลังจากนั้นทาคากิก็ต้องย้ายบ้านคราวนี้ไกลหนักประมาณเชียงใหม่-ปัตตานีเลยทีเดียว เลยตัดสินใจเดินทางไปหาอาคาริเพราะหลังจากนี้อาจไม่ได้เจอกันอีก ระหว่างนั่งรถไฟไปเนี่ยก็มีหิมะตก+กับจดหมายหายอีก พระเอกเลยท้อมาก
ตอนผมดูอึดอัดมากๆ คือเเบบอยากทำอะไรเเต่มันทำไม่ได้
นัดไว้1ทุ่มกว่าจะถึง5ทุ่ม ติดหิมะ4ชั่วโมง
พระเอกภาวนาขอให้นางเอกกลับไป อย่ารอ เเต่นางเอกรออยู่ตรงที่นั่งพักรอผู้โดยสารในขณะอากาศหนาว หลังจากนั้นก็เดินทางกันไปตรงต้นซากุระที่คุยในจดหมาย เเล้วก็จูบกอดกัน หลังจากนั้นก็ไปนอนด้วยกันในกระท่อมเเถวนา
ต่อมาอาคาริก็มาส่งทาคากิกลับ ทาคากิไม่ได้บอกเรื่องจดหมาย อาคาริก็ไม่ได้เอาจดหมายความในใจให้ คือสรุปง่ายๆครับตอนนี้ความรู้สึกของสองคนตรงกัน
จบบทเเรก
บทที่2 นักบินอวกาศ
บทนี้ส่วนใหญ่เล่ามุมมองของคานาเอะ คานาเอะอยากเป็นนักโต้คลื่น
นางชอบพระเอกตั้งเเต่ตอน ม.4(ตอนเจอครั้งเเรก)กลับบ้านด้วยกันทุกวัน
ระหว่างทางขากลับก็เจอเกี่ยวกับการปล่อยจรวดเเล้วก็พูดกันเรื่องความเร็ว คานาเอะบอกว่าจรวดเร็วตั้ง 5KM/HR พูดงี้ทาคากิหันมองเลย (คงนึกถึงอาคาริ) ต่อมาพระเอกก็เพ้อถึงอาคาริ
ต่อมาอีก พระเอกก็เริ่มทำดีกับคานาเอะมากขึ้น จนคานาเอะเริ่มคิดไปเองมากกว่าเดิม เช่นตอนรถเสียก็บอกเดินกลับด้วยกันก็ได้
คือวันนั้นเนี่ยนางจะมาสารภาพรัก เเต่รู้ว่าพยายามให้ตายพระเอกก็ไม่มองมาที่ตัวเองเเล้ว เพราะสนใจเเต่อาคาริ
จบบทที่2
บทที่3 ห้าเซนติเมตรต่อวินาที
บทนี้เล่าถึงอาคาริกับทาคากิตอนโต ทาคากิเนี่ยเหมือนจะมีเเฟนเป็นน้องเเว่น(คบเเก้เหงาระหว่างรออาคาริ)
ทาคากิเหมือนจะทำงานเกี่ยวกับพวกCode ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ เหล้าบุหรี่เเน่นอนว่าต้องมา
พระเอกคิดว่า "ถึงเราจะส่งเมลหากันไปร้อยเป็นพันครั้งเเต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หัวใจใกล้กันเเม้เเต่เซนเดียว"อันนี้น่าจะพูดในใจกับน้องเเว่น
ทาคากิก็บอกเมื่อคืนฝัน นึกถึงเรื่องราวในอดีตกับอาคาริ ตอนจูบกันใต้ต้นซากุระ อยากจะดูซากุระด้วยกันอีก
ตัดมาฝั่งอาคาริก็บอกพ่อเเม่ว่าเนี่ยอีก1เดือนจะเเต่งงานกับคู่หมั้น เเล้วก็พูดถึงความฝันตอนจูบกันใต้ต้นซากุระ อาคาริก็คิดว่าอยากจะดูซากุระพร้อมกันกับทาคากิมาโดยตลอด
เเล้วก็ตัดเข้าเพลงOne more time One more Chance เเปลตรงๆก็คือ ขอโอกาสอีกครั้ง
ระหว่างMVก็มีการเล่าเกี่ยวกับช่วง ม.ปลาย ตอนนั้นอาคาริส่งจดหมายหาทาคากิอยู่ ส่งหาฝ่ายเดียว เเต่ทาคากิไม่ตอบกลับเลย จนอาคาริเลิกส่ง เเต่ในใจก็หวังอยู่ไม่น้อยว่าจะได้การตอบกลับ
เเม้เเต่ตอนอาคาริเดินกับ ผช. ก็ยังมองจดหมาย ทาคากิก็เหมือนกัน
ทั้งสองเคยมีโอกาสเจอกันหลายครั้ง เเต่น่าจะไม่มีใครไปทักกันเลย
จนมาถึงฉากทางรถไฟในตำนาน ทาคากิกับอาคาริเดินสวนกันบนทางรถไฟที่เคยสัญญากันไว้ตอนเด็กที่บอกว่าจะดูซากุระด้วยกัน ตอนเดินสวนทั้งคู่รู้เเน่ๆว่าเเต่ละคนเป็นใคร อาคาริกำลังจะหัน รถไฟมาตัดก่อน ทาคากิหันไปมองอาคาริขณะรถไฟกำลังตัด พอรถไฟผ่านไปเเล้ว ทาคากิไม่เห็นอาคาริก็เลยยิ้มเเล้วก้าวต่อไป
จบ
ความรู้สึกหลังดูจบ
เรื่องนี้เนี่ยเรียกได้ว่าเป็นเหมือนตัวเเทนของใครหลายคน คือหลายๆคนตอนเด็กเนี่ยก็มีความทรงจำดีๆเเบบนี้เเหละ คล้ายพระนางคู่นี้เลย ณ.เวลาตอนอายุ13ทั้งสองรักกันเเน่นอน
เเต่ด้วยความไม่กล้าความสัมพันธ์เลยไม่ไปต่อ เเต่ใช่ว่าอาคาริหยุดไหม เธอไม่หยุด ส่งจดหมายหาพระเอกไปหลายฉบับ เเต่พระเอกไม่ตอบมาเลย จนนางเอกตัดใจmove onไปหา ผช. คนอื่นละ คือที่เป็นงี้เพราะพระเอกไม่กล้าอาจเป็นเพราะรักทางไกลอาจไปไม่รอด หรือว่าไม่กล้า กลัว อื่นๆมากมายเหตุผล เเต่ว่าอาคาริตอนเเรกไม่คิดงั้นเลย
พระเอกมีโอกาสมาหลายรอบเเต่ไม่ไขว่คว้าอะไรมาเชย เลยสมควรได้รับเเบบนี้เเหละ ที่พระเอกmove onไม่ได้เพราะว่าคิดว่านางเอกยังรอตัวเองเหมือนตอนรถไฟหิมะตกอยู่ เเต่นางไม่รอ นางmove on มีเเต่พระเอกที่ยึดติดกับอดีต พอรู้ว่านางเอกไม่ได้รอตัวเองเเล้วคือฉากรถไฟ ก็ยิ้มเเละก้าวต่อไปเพราะไม่มีอะไรคาใจเเล้ว ที่ดูเเล้วอินอาจจะเพราะนึกถึงตัวเองที่เคยมีโอกาสเเต่ไม่ไขว่คว้าก็จะเป็นเหมือนพระเอกที่ว่าเสียคนที่รักเเท้จริงไปเลย ส่วนถามว่าที่ไม่อินอาจเพราะสมัยนี้มีfacebook line ไม่ใช่นะครับ คือถึงเป็นงั้นสะดวกส่งเเต่ไม่ตอบก็จบ เป็นเเบบพระเอกเลย ถ้าตอนนั้นส่งจดหมายตอบกลับก็ได้ไปต่อเเล้ว รักเเท้เเพ้ระยะทางไม่จริงเลย มันเเพ้ระยะเวลามากกว่า ทนรักเขามานาน ไม่ไหวก็move on เพราะงั้นคนเเบบพระเอกไม่มีสิทธิ์เสียใจหรอกมีโอกาสเเต่ไม่คว้า ก็ควรได้เเบบนี้ ที่นางเอกไม่รอส่วนนึงก็ทำเพื่อพระเอก ถ้ายังรอเเบบเมื่อก่อนก็เหมือนให้ความหวัง สู้ไม่รอไปเลยดีกว่า ถือซะว่าทำเพื่อพระเอกครั้งสุดท้าย คนเราถ้ามีโอกาสให้คว้าไหว้ เดี๋ยวจะเสียใจภายหลัง คนเราถ้าได้โอกาสมากไปก็จะไม่เห็นค่า นี่เเหละคือเหตุผลที่คนเเบบพระเอกไม่ควรได้โอกาสจากนางเอกอีกเเล้ว อีกข้อเพิ่มเติมถ้าเปลี่ยนบท2เล่ามุมมองตอน ม.ปลายพระนางจะดีกว่านี้เยอะ อันนี้เล่ามุมมองน้องโต้คลื่นมันตัดจากบทเเรกเลยไม่ค่อยอิน คือเอาง่ายๆทั้งบท2มันจะบอกว่าถึงพยายามเท่าไหร่พระเอกก็มองเเต่อาคาริ ถ้าเอาฉากMV5นาทีมาใส่บท2 น่าจะอินกว่านี้นะ เรื่องนี้7/10 เสียบท2สำหรับผมนะ
เสริมเพิ่มเติมเเต่ละตัวละคร
อาคาริสามารถก้าวเดินต่อไปได้ เก็บเรื่องราวความรักในวัยเด็กเป็นความทรงจำดีๆ ที่คิดก็อดหวนคิดถึงไม่ได้
ทาคากืไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้เพราะเขายึดติดกับความทรงจำดีๆในอดีตที่ตัวเองไม่สานต่อ ถึงมีชีวิตอยู่ต่อก็มีเเต่หัวใจที่เย็นชา ช่องว่างหรือก็คือคนข้างๆของพระเอกนั้นต้องไม่ใช่ใครก็ได้เเต่ต้องเป็นอาคาริเท่านั้น เพราะงั้นเลยก้าวต่อไปไม่ได้ เเต่สักวันหนึ่งถ้าทาคากิเลิกติดอยู่กับอดีตเเละก้าวเดินต่อไปตามหาความสุข เมื่อนั้นเขาก็จะพบกับความสุขที่จะมาเเทนที่อาคาริด้วยตัวของเขาเอง
ฉากยิงจรวดบท2 ถ้าคนธรรมดาก็จะมองไปที่จรวดถูกปล่อยขึ้นไป เป้าหมายปลายทางคือดาวดวงใหม่หรือก็คืออนาคต เเต่ทาคากิกับบอกว่า "ควันสีดำที่ถูกปล่อยกลับทำให้ท้องฟ้าดูเศร้าหมองยิ่งนัก"สื่อว่าทาคากิไม่ได้มองไปที่อนาคต กลับมองไปที่อดีตก็เหมือนควันสีดำนั่นเอง สุดท้ายเเล้วทาคากิ
กับอาคาริก็ได้ดูซากุระเหมือนกันเเต่ไม่พร้อมกัน
"เพราะเรามองท้องฟ้า ในองศาที่ต่างกัน"
เลยทำให้ความรู้สึกคนเราต่างกัน
สปอย 5 Centimeters Per Second (ยามซากุระร่วงโรย)เเบบคนมาดูในปี2020+ความรู้สึกตอนดูจบ
สวัสดีครับวันนี้ผมก็จะมาพูดสปอย ความรู้สึกของผมหลังดูเรื่องนี้จบนะครับ เป็นกระทู้เเรกนะครับ ฝากตัวด้วยนะครับ
ตัวละครในเรื่อง
Shinohara Akari(ในที่นี้ผมขอเรียกว่านางเอกนะครับ)
Tono Takaki(ขอเรียกว่าพระเอกนะครับ)
Kanae Sumida(เรียกว่าสาวโต้คลื่น)
น้องเเว่น
บทที่1 เสี้ยวดอกซากุระ
พระเอกกับนางเอกตอนเป็นเด็กประถมเป็นเพื่อนสนิทกันอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าตัวติดกันตลอด เช่นหมกในห้องสมุด จนมักโดนเพื่อนเเซว ล้อบ้าง ที่ไม่ออกไปเล่นข้างนอกเเบบเด็กธรรมดาเพราะว่าเเพ้อากาศ ทั้งสองเรียกกันด้วยชื่อคือทาคากิกับอาคาริ เเต่เติมคุณตลอด(เติมซัง) ทั้งสองเคยสัญญากันว่าจะอยู่ดูซากุระด้วยกันตลอดไป ตอนฉากข้ามรางรถไฟเเล้วมีรถไฟตัดผ่าน ตอนนั้นอาคิริยังรอทาคากิอยู่
ทาคากิคิดว่าถ้าเป็นเเบบนี้ตลอดก็คงจะดี เเต่อย่างว่าชีวิตย่อมไม่เป็นเเบบที่หวังไว้ อาคาริต้องย้ายบ้านไปกับครอบครัว ตอนเเรกระยะห่างเนี่ยก็ไปหากันได้เเบบนั่งรถไฟก็ถึงอะครับ ประมาณ เชียงใหม่ไปพิษณุโลก(ประมาณๆๆ) เเต่หลังจากนั้นทาคากิก็ต้องย้ายบ้านคราวนี้ไกลหนักประมาณเชียงใหม่-ปัตตานีเลยทีเดียว เลยตัดสินใจเดินทางไปหาอาคาริเพราะหลังจากนี้อาจไม่ได้เจอกันอีก ระหว่างนั่งรถไฟไปเนี่ยก็มีหิมะตก+กับจดหมายหายอีก พระเอกเลยท้อมาก
ตอนผมดูอึดอัดมากๆ คือเเบบอยากทำอะไรเเต่มันทำไม่ได้
นัดไว้1ทุ่มกว่าจะถึง5ทุ่ม ติดหิมะ4ชั่วโมง
พระเอกภาวนาขอให้นางเอกกลับไป อย่ารอ เเต่นางเอกรออยู่ตรงที่นั่งพักรอผู้โดยสารในขณะอากาศหนาว หลังจากนั้นก็เดินทางกันไปตรงต้นซากุระที่คุยในจดหมาย เเล้วก็จูบกอดกัน หลังจากนั้นก็ไปนอนด้วยกันในกระท่อมเเถวนา
ต่อมาอาคาริก็มาส่งทาคากิกลับ ทาคากิไม่ได้บอกเรื่องจดหมาย อาคาริก็ไม่ได้เอาจดหมายความในใจให้ คือสรุปง่ายๆครับตอนนี้ความรู้สึกของสองคนตรงกัน
จบบทเเรก
บทที่2 นักบินอวกาศ
บทนี้ส่วนใหญ่เล่ามุมมองของคานาเอะ คานาเอะอยากเป็นนักโต้คลื่น
นางชอบพระเอกตั้งเเต่ตอน ม.4(ตอนเจอครั้งเเรก)กลับบ้านด้วยกันทุกวัน
ระหว่างทางขากลับก็เจอเกี่ยวกับการปล่อยจรวดเเล้วก็พูดกันเรื่องความเร็ว คานาเอะบอกว่าจรวดเร็วตั้ง 5KM/HR พูดงี้ทาคากิหันมองเลย (คงนึกถึงอาคาริ) ต่อมาพระเอกก็เพ้อถึงอาคาริ
ต่อมาอีก พระเอกก็เริ่มทำดีกับคานาเอะมากขึ้น จนคานาเอะเริ่มคิดไปเองมากกว่าเดิม เช่นตอนรถเสียก็บอกเดินกลับด้วยกันก็ได้
คือวันนั้นเนี่ยนางจะมาสารภาพรัก เเต่รู้ว่าพยายามให้ตายพระเอกก็ไม่มองมาที่ตัวเองเเล้ว เพราะสนใจเเต่อาคาริ
จบบทที่2
บทที่3 ห้าเซนติเมตรต่อวินาที
บทนี้เล่าถึงอาคาริกับทาคากิตอนโต ทาคากิเนี่ยเหมือนจะมีเเฟนเป็นน้องเเว่น(คบเเก้เหงาระหว่างรออาคาริ)
ทาคากิเหมือนจะทำงานเกี่ยวกับพวกCode ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ เหล้าบุหรี่เเน่นอนว่าต้องมา
พระเอกคิดว่า "ถึงเราจะส่งเมลหากันไปร้อยเป็นพันครั้งเเต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หัวใจใกล้กันเเม้เเต่เซนเดียว"อันนี้น่าจะพูดในใจกับน้องเเว่น
ทาคากิก็บอกเมื่อคืนฝัน นึกถึงเรื่องราวในอดีตกับอาคาริ ตอนจูบกันใต้ต้นซากุระ อยากจะดูซากุระด้วยกันอีก
ตัดมาฝั่งอาคาริก็บอกพ่อเเม่ว่าเนี่ยอีก1เดือนจะเเต่งงานกับคู่หมั้น เเล้วก็พูดถึงความฝันตอนจูบกันใต้ต้นซากุระ อาคาริก็คิดว่าอยากจะดูซากุระพร้อมกันกับทาคากิมาโดยตลอด
เเล้วก็ตัดเข้าเพลงOne more time One more Chance เเปลตรงๆก็คือ ขอโอกาสอีกครั้ง
ระหว่างMVก็มีการเล่าเกี่ยวกับช่วง ม.ปลาย ตอนนั้นอาคาริส่งจดหมายหาทาคากิอยู่ ส่งหาฝ่ายเดียว เเต่ทาคากิไม่ตอบกลับเลย จนอาคาริเลิกส่ง เเต่ในใจก็หวังอยู่ไม่น้อยว่าจะได้การตอบกลับ
เเม้เเต่ตอนอาคาริเดินกับ ผช. ก็ยังมองจดหมาย ทาคากิก็เหมือนกัน
ทั้งสองเคยมีโอกาสเจอกันหลายครั้ง เเต่น่าจะไม่มีใครไปทักกันเลย
จนมาถึงฉากทางรถไฟในตำนาน ทาคากิกับอาคาริเดินสวนกันบนทางรถไฟที่เคยสัญญากันไว้ตอนเด็กที่บอกว่าจะดูซากุระด้วยกัน ตอนเดินสวนทั้งคู่รู้เเน่ๆว่าเเต่ละคนเป็นใคร อาคาริกำลังจะหัน รถไฟมาตัดก่อน ทาคากิหันไปมองอาคาริขณะรถไฟกำลังตัด พอรถไฟผ่านไปเเล้ว ทาคากิไม่เห็นอาคาริก็เลยยิ้มเเล้วก้าวต่อไป
จบ
ความรู้สึกหลังดูจบ
เรื่องนี้เนี่ยเรียกได้ว่าเป็นเหมือนตัวเเทนของใครหลายคน คือหลายๆคนตอนเด็กเนี่ยก็มีความทรงจำดีๆเเบบนี้เเหละ คล้ายพระนางคู่นี้เลย ณ.เวลาตอนอายุ13ทั้งสองรักกันเเน่นอน
เเต่ด้วยความไม่กล้าความสัมพันธ์เลยไม่ไปต่อ เเต่ใช่ว่าอาคาริหยุดไหม เธอไม่หยุด ส่งจดหมายหาพระเอกไปหลายฉบับ เเต่พระเอกไม่ตอบมาเลย จนนางเอกตัดใจmove onไปหา ผช. คนอื่นละ คือที่เป็นงี้เพราะพระเอกไม่กล้าอาจเป็นเพราะรักทางไกลอาจไปไม่รอด หรือว่าไม่กล้า กลัว อื่นๆมากมายเหตุผล เเต่ว่าอาคาริตอนเเรกไม่คิดงั้นเลย
พระเอกมีโอกาสมาหลายรอบเเต่ไม่ไขว่คว้าอะไรมาเชย เลยสมควรได้รับเเบบนี้เเหละ ที่พระเอกmove onไม่ได้เพราะว่าคิดว่านางเอกยังรอตัวเองเหมือนตอนรถไฟหิมะตกอยู่ เเต่นางไม่รอ นางmove on มีเเต่พระเอกที่ยึดติดกับอดีต พอรู้ว่านางเอกไม่ได้รอตัวเองเเล้วคือฉากรถไฟ ก็ยิ้มเเละก้าวต่อไปเพราะไม่มีอะไรคาใจเเล้ว ที่ดูเเล้วอินอาจจะเพราะนึกถึงตัวเองที่เคยมีโอกาสเเต่ไม่ไขว่คว้าก็จะเป็นเหมือนพระเอกที่ว่าเสียคนที่รักเเท้จริงไปเลย ส่วนถามว่าที่ไม่อินอาจเพราะสมัยนี้มีfacebook line ไม่ใช่นะครับ คือถึงเป็นงั้นสะดวกส่งเเต่ไม่ตอบก็จบ เป็นเเบบพระเอกเลย ถ้าตอนนั้นส่งจดหมายตอบกลับก็ได้ไปต่อเเล้ว รักเเท้เเพ้ระยะทางไม่จริงเลย มันเเพ้ระยะเวลามากกว่า ทนรักเขามานาน ไม่ไหวก็move on เพราะงั้นคนเเบบพระเอกไม่มีสิทธิ์เสียใจหรอกมีโอกาสเเต่ไม่คว้า ก็ควรได้เเบบนี้ ที่นางเอกไม่รอส่วนนึงก็ทำเพื่อพระเอก ถ้ายังรอเเบบเมื่อก่อนก็เหมือนให้ความหวัง สู้ไม่รอไปเลยดีกว่า ถือซะว่าทำเพื่อพระเอกครั้งสุดท้าย คนเราถ้ามีโอกาสให้คว้าไหว้ เดี๋ยวจะเสียใจภายหลัง คนเราถ้าได้โอกาสมากไปก็จะไม่เห็นค่า นี่เเหละคือเหตุผลที่คนเเบบพระเอกไม่ควรได้โอกาสจากนางเอกอีกเเล้ว อีกข้อเพิ่มเติมถ้าเปลี่ยนบท2เล่ามุมมองตอน ม.ปลายพระนางจะดีกว่านี้เยอะ อันนี้เล่ามุมมองน้องโต้คลื่นมันตัดจากบทเเรกเลยไม่ค่อยอิน คือเอาง่ายๆทั้งบท2มันจะบอกว่าถึงพยายามเท่าไหร่พระเอกก็มองเเต่อาคาริ ถ้าเอาฉากMV5นาทีมาใส่บท2 น่าจะอินกว่านี้นะ เรื่องนี้7/10 เสียบท2สำหรับผมนะ
เสริมเพิ่มเติมเเต่ละตัวละคร
อาคาริสามารถก้าวเดินต่อไปได้ เก็บเรื่องราวความรักในวัยเด็กเป็นความทรงจำดีๆ ที่คิดก็อดหวนคิดถึงไม่ได้
ทาคากืไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้เพราะเขายึดติดกับความทรงจำดีๆในอดีตที่ตัวเองไม่สานต่อ ถึงมีชีวิตอยู่ต่อก็มีเเต่หัวใจที่เย็นชา ช่องว่างหรือก็คือคนข้างๆของพระเอกนั้นต้องไม่ใช่ใครก็ได้เเต่ต้องเป็นอาคาริเท่านั้น เพราะงั้นเลยก้าวต่อไปไม่ได้ เเต่สักวันหนึ่งถ้าทาคากิเลิกติดอยู่กับอดีตเเละก้าวเดินต่อไปตามหาความสุข เมื่อนั้นเขาก็จะพบกับความสุขที่จะมาเเทนที่อาคาริด้วยตัวของเขาเอง
ฉากยิงจรวดบท2 ถ้าคนธรรมดาก็จะมองไปที่จรวดถูกปล่อยขึ้นไป เป้าหมายปลายทางคือดาวดวงใหม่หรือก็คืออนาคต เเต่ทาคากิกับบอกว่า "ควันสีดำที่ถูกปล่อยกลับทำให้ท้องฟ้าดูเศร้าหมองยิ่งนัก"สื่อว่าทาคากิไม่ได้มองไปที่อนาคต กลับมองไปที่อดีตก็เหมือนควันสีดำนั่นเอง สุดท้ายเเล้วทาคากิ
กับอาคาริก็ได้ดูซากุระเหมือนกันเเต่ไม่พร้อมกัน
"เพราะเรามองท้องฟ้า ในองศาที่ต่างกัน"
เลยทำให้ความรู้สึกคนเราต่างกัน