[CR] ขอแชร์ประสบการณ์จริง จากการใช้บริการของ 2 ร้านเพชรชื่อดังในห้างมาบุญครองครับ

เมื่อประมาณต้นปี 2559 ผมอยากได้แหวนเพชรใส่ติดมือสักวง ผมจึงได้ค้นหาข้อมูลร้านเพชร อ่านคอมเม้นท์ต่างๆ จากอินเตอร์เน็ต พบว่ามีร้านดังๆอยู่หลายร้านที่อยู่ใน “มาบุญครอง” หนึ่งในนั้นคือร้านเพชรที่ตั้งอยู่ชั้น G ใกล้กับทางเชื่อมที่จะเดินไป รร. ปทุมวันปร็นเซส ซึ่งพบว่าร้านนี้ได้รับการพูดถึงเยอะมากๆ ในด้านการบริการที่ดี ผมเลยตัดสินใจที่จะเลือกซื้อ และใช้บริการที่ร้านนี้ คนขายเป็นพนักงานขายนะครับไม่ใช่เจ้าของร้าน พนักงานบริการดี ใจเย็น ให้ข้อมูลดี สรุปวันนั้นผมตัดสินใจสั่งทำแหวนแถว เพชร 5 เม็ด เม็ดละ 20 ตังส์ (ไม่ได้เป็นเพชรที่มีใบเซอร์นะครับ เป็นเพชร เกรด AAA, D Color, H&A ของทางร้าน) สั่งทำเป็นทองคำ 90% (8.6 กรัม) ราคา 78,200 บาท พนักงานขายบริการดีมากครับ เอาใจใส่ส่งรูปอัพเดทชิ้นงานทาง line ที่เป็นตัวเรือนก่อนฝั่งเพชรมาให้ตู พอถึงวันนัดรับแหวน รูปแบบออกมาดีครับ เพชรสวย แต่ตัวเรือนไม่เนียบเท่าที่ควรครับ อาจเป็นเพราะทอง 90% ด้วยหรือเปล่าไม่แน่ใจ คือตัวเรือนปัดไม่เรียบร้อย มีแป๋วเล็กๆ (เป็นคลื่น) ตรงด้านข้างของตัวเรือน อาจจะแจ๊คพ๊อตที่ผมก็ได้ เจองานไม่เรียบร้อยเข้า ผมมาเจอตอนเอาแหวนกลับมาถึงบ้านแล้ว อาจเป็นหนึ่งในพัน เพราะทางร้านเครมว่างานของทางร้านฝีมือปราณีต


ใส่ได้ 4-5 วัน มีความรู้สึกว่าหน้าเพชรของแหวนใส่แล้วไม่เต็มนิ้ว เลยลองติดต่อสอบถามร้านผ่านทาง line ว่าอยากขอเพิ่มเพชร อีก 2 เม็ด รวมเป็น 7 เม็ด พนักงานขายคนเดิมบอกให้เข้ามาคุยที่ร้านจะคิดราคาพิเศษให้ พอไปถึงที่ร้าน พนักงานคนเดิมที่เคยขายให้ผมในวันแรกนั้นได้เดินไปสอบถามกับพนักงานผู้หญิงรุ่นพี่ที่ดูมีอายุหน่อย ผิวเข้ม ชอบนั่งอยู่ด้านในของหลังร้าน ผมไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องเป็นอะไรกับทางร้านนะครับ จากนั้นพนักงานขายก็เดินมาบอกว่าแหวนต้องทำใหม่ ใช้เพชรใหม่ ที่ร้านไม่มีการแกะเพชรจากตัวเรือนเก่ามาทำให้ใหม่เพราะกลัวว่าเพชรเดิมจะเสียหาย โดยผมต้องขายวงเก่าคืนให้กับทางร้านโดยขอหักจากราคาซื้อที่ 10 % ซึ่งโดยปกติถ้าขายคืนร้านจะหักที่ 15% แต่เห็นว่าเอาแหวนไปแค่ 4-5 วัน เลยหักที่ 10% เขาบอกเช่นนั้น

ทางผมจึงได้สอบถามเพิ่มเติมว่า ไม่สามารถใช้เพชรเดิม ทองเดิม (หลอมใหม่) โดยเพิ่มแต่ค่าเพชร อีก 2 เม็ด และค่าทองที่เพิ่มขึ้น บวกค่าแรงไม่ได้หรือครับ ทางร้านยืนยันว่าต้องขายคืนแล้วทำให้ใหม่เท่านั้น ซึ่งในตอนนั้นผมก็งงเหมือนกันว่า ถ้าแกะตัวเรือนแล้วจะทำให้เพชรเสียหาย แล้วคนอื่นๆที่นำเพชรจากตัวเรือนเดิมมาเปลี่ยนรูปแบบใหม่จะทำยังงั๊ย ใช่..มันก็อาจจะมีโอกาสที่เป็นไปได้ครับ แต่ส่วนใหญ่ร้านที่มีช่างเก่งๆเป็นของตนเองก็รับเอาเครื่องประดับเก่า มาแกะเพชรแล้วขึ้นตัวเรือนใหม่ให้ได้ ยิ่งถ้าเป็นชิ้นงานของจากทางร้านเองด้วยแล้วยิ่งไม่น่าจะมีปัญหา ตอนนั้นคิดว่าไม่อยากมีปัญหากับทางร้านเอาว่ะ เอาให้ถูกใจ เสียตังส์แล้วเกือบ 8 หมื่น ตั้งใจทำแหวนใส่ติดมือเอาที่ตัวเองชอบ จะได้อยากใส่ติดนิ้วไปตลอด

สรุปทำใหม่ โดยหักไป 7,820 บาท ทั้งที่ใส่มาแค่ 4-5 วัน แถมยังต้องเสียค่าแรงสำหรับทำตัวเรือนใหม่ (ตอนนี้คิดว่าตัวเองโง่เหมือนกัน 555 แต่ในตอนนั้นผมคิดว่าซื้อความพึงพอใจ) แต่ที่ Surprise กว่านั้นคือ ในช่วงเวลานั้นทางร้านได้มีโปรโมชั่นเพชรของทางร้านเอง (เฉพาะเพชรที่ไม่มีใบเซอร์) โดยการ Upgrade เพชรให้ เช่น ซื้อเพชรเกรด AAA แต่จ่ายราคาเพชรเกรด AA อะไรประมาณนี้ครับ ซึ่งโปรโมชั่นนี้มีมาตั้งแต่ผมสั่งทำแหวนวงแรกแล้ว (เพชร 5 เม็ด) แต่พนักงานขายเองไม่ทราบข้อมูลโปรโมชั่นของร้านตัวเอง เลยไม่ได้ลดราคาให้ และคิดราคาเพชรของแหวนวงแรกให้ผมเต็มราคา ผมก็อ้าว...งั๊ยเป็นอย่างนั้น แต่ก็ขอบคุณนะครับที่ซื่อสัตย์ในตอนคิดราคาแหวนวงใหม่ (เพชร 7 เม็ด) โดยลดราคาให้ (ในใจก็แอบเสียความรู้สึกเหมือนกันครับ ว่ามันเป็นความผิดพลาดของทางร้านแท้ๆ อย่างนี้ทางร้านก็ไม่มีมีมาตรฐานในการคำนวนราคาเลย ถ้าผมซื้อกับพนักงานท่านอื่นที่ทราบโปรโมชั่นนี้ หรือกับทางเจ้าของร้านเองผมคงได้ลดราคาเพชรของแหวนวงแรกไปแล้ว ใครซื้อกับพนักงานถูกคน ก็โชคดีไปครับ ผมตั้งใจมาซื้อที่ร้านนี้เพราะเชื่อใจในชื่อเสียงและความมีมาตรฐานแท้ๆ) 
 
*** ถ้าวันนั้นผมซื้อแหวนวงแรกโดยซื้อในราคาโปรโมชั่น ผมจะได้ราคาลดลง ถึง 8,000 บาท ครับ ถามว่าเยอะมั๊ย…ก็เยอะอยู่นะครับ !!!



ผมเลยลองถามว่า งั้นขอเอาส่วนต่างโปรโมชั่นของแหวนวงเก่าที่ไม่ได้ลดให้ผมในครั้งที่แล้ว มาลดราคาแหวนวงใหม่ได้หรือไม่ พนักงานแจ้งว่า “ไม่ได้ค่ะ” เขาแจ้งผมว่ามันเป็นราคาที่ผมพอใจตกลงจะซื้อแล้วในตอนนั้น... ไม่เป็นไรมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็สั่งทำใหม่แหละ แหวนแถว 7 เม็ด เม็ดละ 20 ตังส์ ทอง 11.1 กรัม ราคา 94,300 บาท



แต่ความที่ซวย หรือเคราะห์ร้ายก็ไม่รู้ ผมใส่แหวนวงนี้ได้ยังไม่ถึงปี ผมถูกขโมยแหวนที่ฟิตเนส ซึ่งได้เก็บไว้ใน locker ตอนออกกำลังกาย สรุปว่าหายไม่ได้คืนครับ แจ้งความไปแล้ว ไม่มีความคืบหน้า

หลังจากนั้นไม่ถึงปี (ประมาณ ต.ค. 2559) ผมก็กลับไปที่ร้านนี้อีกครั้ง เพื่อจะสั่งทำแหวนวงใหม่ คราวนี้กะว่าเอาใหญ่กว่าเดิมอีก เอาเพชรขนาดเม็ดละ 30 ตังส์ แบบมีใบเซอร์ไปเลย มุ่งมั่นเข้าร้าน คนเยอะเหมือนเคย พนักงานคนเก่าทักทายจำผมได้ แต่ติดบริการลูกค้าท่านอื่นอยู่ เลยให้พนักงานอีกท่านมาดูแลแทน ผมแจ้งความจำนงว่าผมอยากทำแหวนแถวโดยใช้เพชรที่มีใบเซอร์ขนาด 30 ตังส์ จำนวน 6 เม็ด ทางร้านบอกว่าตอนนี้เพชรขนาดดังกล่าวมีจำนวนไม่พอใน stock ถ้าใช้เยอะจะต้องสั่ง หรือให้โทรเข้ามาสอบถามเองอยู่บ่อยๆ เพราะเพชรล็อดหน้า ที่จะเข้ามาอาจใช้เวลาอีก 2-3 สัปดาห์ ผมเลยบอกขอบคุณพนักงานคนนั้นแล้วเดินออกไป ในตอนนั้นถ้าทางร้านมีเพชรอยู่ใน stock ผมคงตัดสินใจทำแหวนวงใหม่กับร้านแรกนี้ไปแล้ว

ผมเดินวนไปวนมาอยู่นาน คิดว่าจะขึ้นไปดูเพชรอีกร้าน ซึ่งเป็นร้านชื่อดังเช่นกันในเวปไซค์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ตรงข้ามวัตสัน เดินเผ่านหน้าร้านโฉบไปมาอยู่หลายรอบ ดูท่าทีคนขาย และดีไซน์แหวนในตู้โชว์ สุดท้ายผมตัดสินใจเดินเข้าร้าน ซึ่งตอนแรกผมคิดเพียงว่าจะเข้าไปสอบถามข้อมูลเอาไว้ก่อน ยังไม่ตัดสินใจจะซื้อ พนักงานขายทักทายดีไม่แพ้กันกับร้านแรก แต่คนขายครั้งนี้ไม่ใช่พนักงานขายทั่วไป แต่เป็นเจ้าของร้านรุ่นคุณแม่ เอาใจใส่พูดจาดีหยิบแหวนให้ดูโดยไม่รู้สึกรำคาญ ผมมีแบบแหวนในใจอยู่แล้ว คืออยากได้แหวนแถว แต่อยากลองเปลี่ยนแบบจากแหวนแถวสอด มาเป็นหนามเตยเตี้ย ใจจริงก็ลุ้นครับว่าแหวนหนามเตยส่วนมากผู้หญิงใส่ แต่ก็เอาว่ะลองดู ไม่ชอบก็ทำใหม่ เลยแจ้งคนขายไปว่าอยากได้ เพชร 30 ตังส์เซอร์ GIA, E color, VVS2, 3EX H&A เป็นหนามเตย 6 เม็ด ซึ่งทางร้านก็หยิบแบบที่มีลักษณะใกล้เคียงกันกับที่อยากได้มาให้ดู และบอกว่าจะดูหาคัดเพชรสวยๆให้ ผมเลยตกลงตัดสินใจสั่งทำแหวนกับร้านนี้ คราวนี้เป็นทองขาว 18K ราคาประมาณ 1.5 แสนกว่าๆ ใช้เวลาทำประมาณ 2-3 สัปดาห์เนื่องจากมีงานที่ลูกค้าสั่งทำเยอะคิวค่อนข้างแน่น ไม่เป็นไรผมไม่รีบครับ รอได้ 55
 


พอได้แหวนมาใส่ สวยนะครับแต่มันเหมือนผู้หญิงไป ไม่มั่นใจครับ ใส่ได้ 2-3 วัน ก็เลย Line ไปถามกับทางร้านบอกว่าอยากเปลี่ยนแบบ เป็นแหวนแถวสอดเหมือนเดิมที่เคยทำกับร้านแรก และจะขอเพิ่มเพชร 30 ตังส์ด้วยอีก 1 เม็ด รวมทั้งหมดเป็น 7 เม็ด และจะเปลี่ยนตัวเรือนจากทองขาว เป็นทองคำสีเหลือง แต่ด้วยที่เคยมีประสบการณ์จากร้านแรก ว่าถ้าปลี่ยนแบบจะถูกหักเงินเพิ่ม ซึ่งนโยบายของร้านที่สองนี้ ก็เช่นกัน ในกรณีเปลี่ยนแบบหักที่ 15% ****แต่คำตอบที่ได้.... มันเหนือสิ่งที่ผมคาดหวังครับ คือ ผู้ตอบ Line แจ้งว่า 

"ไม่มี charge เพิ่มค่ะ อาจต้องเพิ่มเงินที่น้ำหนักทอง กับเพชรที่เพิ่มขึ้น โดยจะแกะเพชรเดิมจากตัวเรือนเดิม หักน้ำหนักทองของแหวนวงเก่าไป" 

ซึ่งเป็นคำตอบที่ผมรู้สึกดีมากๆ แอบประทับใจเล็กๆ และคนตอบนั้นใช้ชื่อเรียกตัวเองว่า "หมวย" ซึ่งผมก็พอจะรู้ว่า “คุณหมวย” คือเจ้าของร้านอีกคน แต่เป็นรุ่นลูกครับ  ผมนำแหวนกลับมาที่ร้านโดยพบกับคุณแม่ซึ่งเป็นคนที่ผมสั่งทำแหวนด้วยในตอนแรก และแจ้งความประสงค์ว่าจะนำแหวนกลับมาทำใหม่ โดยเบื้องต้นได้คุยกับคุณหมวยไว้แล้ว ซึ่งคุณแม่เองก็ไม่อิดออด รับแหวนไว้ แล้วพูดกับผมว่า “ทางร้านจะต้องทำแหวนให้ลูกค้าใส่จนกว่าจะพอใจค่ะ เราถึงจะมีความสุข...”  มันเป็นคำพูดที่ดูไม่มีอะไร แต่ถ้าคนฟังไม่ได้ผ่านประสบการณ์การเปลี่ยนแบบแหวนในครั้งแรกแบบถูกหัก 10% อย่างผม ซึ่งผมได้ฟังแล้วรู้สึกประทับใจมากในความเอาใจใส่ ให้ความสำคัญต่อความรู้สึก และความพึงพอใจของลูกค้า 

โดยรายละเอียดใบสั่งทำแหวนวงใหม่นั้น ไม่ได้มีการบวกแม้กระทั่งค่าแรงของตัวเรือนใหม่ (คือ..ฟรีค่าแรง)คิดแต่ค่าเพชร 1 เม็ดที่เพิ่มขึ้นมา กับค่าน้ำหนักทองส่วนต่างโดยประมาณเท่านั้นจริงๆ ซึ่งตอนไปรับแหวนกับทางร้านจะชั่งน้ำหนักทองให้เราดูแล้วคิดราคาค่าทอง โดยหักส่วนต่างระหว่างน้ำหนักแหวนวงแรกที่นำมาเปลี่ยนแบบ กับแหวนใหม่เท่านั้น 

สุดท้ายผมก็ได้รับแหวนวงใหม่ที่เปลี่ยนแบบเป็นแหวนแถวสอด เพชร 7 เม็ดเป็นที่เรียบร้อย สวยครับ ทั้งเพชร และตัวเรือน วิบวับมากๆ ถูกใจมากๆครับ (แหวนทองที่นี้เป็นทอง 18K นะครับ ทางร้านไม่มีเป็นทอง 90%) 



และหลังจากนั้นอีกปีกว่าๆ ผมก็ได้กลับมาซื้อแหวนวงที่สองกับร้านที่สองนี้ สำหรับเป็นของขวัญวันเกิดให้แฟนผม และแน่นอนว่าวงต่อๆไป คงต้องเป็นร้านนี้ ซึ่งทุกครั้งที่กลับไปใช้บริการขัดชุบตัวเรือน ทุกคนก็ยังบริการดีเหมือนเดิม

ผมแค่อยากจะแชร์ประสบการณ์จากเรื่องจริงที่ผมได้เจอมาเท่านั้นครับ จริงๆแล้วเพชรทั้งสองร้านนี้สวยเหมือนกัน (Top Grade เหมือนกัน) พนักงานขายบริการดีเหมือนกัน ชื่อเสียงของร้าน ความน่าเชื่อถือ และความนิยม น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ราคาเพชร ราคาทอง และค่าแรงไม่แตกต่างกันเท่าไร แต่อาจมีจุดเล็กๆที่มันไม่เหมือนกัน ด้วยที่ร้านแรกมีพื้นที่ร้านที่ใหญ่กว่า มีจำนวนพนักงานขายที่มากกว่า เพื่อรองรับการให้บริการกับลูกค้าที่มีจำนวนมาก อาจทำให้ผู้เป็นเจ้าของร้านเข้ามาดูแลลูกค้าในแต่ละรายไม่ทั้วถึง หรืออาจไม่ได้เข้ามาอยู่ประจำที่ร้าน และอาจเป็นเพราะสถานะของคนขายที่ต่างกัน ระหว่างร้านที่ใช้พนักงานขาย กับร้านที่มีเจ้าของร้านอยู่ดูแล และคอยให้บริการลูกค้าด้วยตัวเองตลอดเวลา แม้กระทั้งการตอบคำถามผ่าน Line การตัดสินใจก็เลยอาจจะแตกต่างกัน หรืออาจเป็นเพราะนโยบายการขายที่วางไว้ต่างกันก็อาจเป็นได้ครับ 

แต่สำหรับผมแล้วกรณีนี้ ร้านที่สอง ได้ใจผมไปเต็มๆครับ ;)
ชื่อสินค้า:   เพชร แหวนเพชร แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน ร้านเพชร มาบุญครอง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่