สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
พูดถึงอาหาร ก็ลากกันยาว ตั้งแต่กรีก มายันโรมัน เครื่องเทศที่นิยม กานพลู ลูกจันทน์เทศ อบเชย พริกไทย ขิง ขมิ้น ยิ่งพริกไทยมีราคาแพงมาก
เพราะยุคนั้น การเก็บเนื้อสัตว์ มีหลักๆสองแบบ ก็คือ ตากแห้ง รมควัน หรือไม่ก็ หมกใต้ดินที่เย็นๆ เก็บเป็นแฮม สิ่งสำคัญนอกจากเกลือ
เครื่องเทศ คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะกลบกลิ่นสาบเนื้อ เนื้อที่นิยมกินกันสมัยก่อน ส่วนใหญ่ก็เป็นแพะ แกะ ที่มีกลิ่นสาบมาก
หากปรุงไม่เป็น แต่กลุ่มคนที่มีโอกาสได้กิน ก็แค่ชนชั้นสูง คนยุโรปส่วนใหญ่ ตอนนั้นไม่รู้จักหรอกอินเดีย
ของมีค่าพวกนี้ คาราวานพ่อค้าวานิสจากพวกอิสลาม เท่านั้นที่นำมาขาย แล้วจะปิดปากเรื่องเส้นทางการค้ากันเงียบ
หลังโรมันล่ม ยุโรป อดยากมาก อาหารการกินและวัฒนธรรมการกิน ก็ตกต่ำ จนมีวัฒนธรรม ไม่กินมื้อเช้า
จนเข้าสู่ยุค ครูเสทชาวยุโรปทุกชนชั้น ที่ไปรบ ก็ได้รู้จักอาหารที่มีเครื่องเทศ มากขึ้นจนเป็นที่นิยมมากขึ้น พ่อค้ายุโรป แบบ มาโค โปโล
ก็พยายามหาเส้นทางการค้า มาตลอด แต่ทว่า ชาวอิสลาม ผูกขาดเส้นทางการค้า ล่องเรือเรียบชายฝั่ง นี้มานาน เครื่องเทศมีราคา ดั่งทองคำ
จนเข้ายุค เรอนาซองค์ ราว คศ.15 ที่ยุโรปมีเทค การต่อเรือใหญ่ได้ จึงเริ่มออกสำรวจเพื่อหาเส้นทางการค้าเครื่องเทศและมหานครทองคำ จากบันทึกพ่อค้าอย่างมาโคโปโล ด้วยตัวเองทั่วโล ก แล้วจึงค่อยมาพบอินเดีย แต่จริงแหล่งปลูกใหญ่ของเครื่องเทศ อยู่แถบ หมู่เกาะโมลุกะ หรือแถบอินโดนีเซีย ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ปัจจุบัน เพราะฉนั้น ไม่ใช่แค่อินเดียหรอก ที่ยุโรปอยากครอบครอง ครับ
ระหว่างที่ อย่างโคลัมบัสที่คิดว่าอ้อมทะเล หวังจะจะไปเจอจีน แต่ ดันไปเจอ ทวีปอเมริกาแทน
ส่วนบ้านเรา มีความอุดมสมบุรณ์ในการเพราะปลูก มีเครื่องเทศให้กินกันเหลือเฟือ และคุ้นเคย คงอาจไม่แปลก ที่เข้าใจไปว่า ของแบบนี้คนยุโรป
ที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้กินสมัยก่อย เหดใดจึงเป็นที่นิยมมาก จะว่าไปคนที่เคยไปยุโรปมาแล้ว ก็จะรู้ว่าที่นั่นเค๊ากินกันรสชาติอย่างไร
คัลเจอร์ในการกินอาหาร เอเซียอาจ รุดหน้ากว่า ด้วยซ้ำ ครับ
เพราะยุคนั้น การเก็บเนื้อสัตว์ มีหลักๆสองแบบ ก็คือ ตากแห้ง รมควัน หรือไม่ก็ หมกใต้ดินที่เย็นๆ เก็บเป็นแฮม สิ่งสำคัญนอกจากเกลือ
เครื่องเทศ คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะกลบกลิ่นสาบเนื้อ เนื้อที่นิยมกินกันสมัยก่อน ส่วนใหญ่ก็เป็นแพะ แกะ ที่มีกลิ่นสาบมาก
หากปรุงไม่เป็น แต่กลุ่มคนที่มีโอกาสได้กิน ก็แค่ชนชั้นสูง คนยุโรปส่วนใหญ่ ตอนนั้นไม่รู้จักหรอกอินเดีย
ของมีค่าพวกนี้ คาราวานพ่อค้าวานิสจากพวกอิสลาม เท่านั้นที่นำมาขาย แล้วจะปิดปากเรื่องเส้นทางการค้ากันเงียบ
หลังโรมันล่ม ยุโรป อดยากมาก อาหารการกินและวัฒนธรรมการกิน ก็ตกต่ำ จนมีวัฒนธรรม ไม่กินมื้อเช้า
จนเข้าสู่ยุค ครูเสทชาวยุโรปทุกชนชั้น ที่ไปรบ ก็ได้รู้จักอาหารที่มีเครื่องเทศ มากขึ้นจนเป็นที่นิยมมากขึ้น พ่อค้ายุโรป แบบ มาโค โปโล
ก็พยายามหาเส้นทางการค้า มาตลอด แต่ทว่า ชาวอิสลาม ผูกขาดเส้นทางการค้า ล่องเรือเรียบชายฝั่ง นี้มานาน เครื่องเทศมีราคา ดั่งทองคำ
จนเข้ายุค เรอนาซองค์ ราว คศ.15 ที่ยุโรปมีเทค การต่อเรือใหญ่ได้ จึงเริ่มออกสำรวจเพื่อหาเส้นทางการค้าเครื่องเทศและมหานครทองคำ จากบันทึกพ่อค้าอย่างมาโคโปโล ด้วยตัวเองทั่วโล ก แล้วจึงค่อยมาพบอินเดีย แต่จริงแหล่งปลูกใหญ่ของเครื่องเทศ อยู่แถบ หมู่เกาะโมลุกะ หรือแถบอินโดนีเซีย ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ปัจจุบัน เพราะฉนั้น ไม่ใช่แค่อินเดียหรอก ที่ยุโรปอยากครอบครอง ครับ
ระหว่างที่ อย่างโคลัมบัสที่คิดว่าอ้อมทะเล หวังจะจะไปเจอจีน แต่ ดันไปเจอ ทวีปอเมริกาแทน
ส่วนบ้านเรา มีความอุดมสมบุรณ์ในการเพราะปลูก มีเครื่องเทศให้กินกันเหลือเฟือ และคุ้นเคย คงอาจไม่แปลก ที่เข้าใจไปว่า ของแบบนี้คนยุโรป
ที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้กินสมัยก่อย เหดใดจึงเป็นที่นิยมมาก จะว่าไปคนที่เคยไปยุโรปมาแล้ว ก็จะรู้ว่าที่นั่นเค๊ากินกันรสชาติอย่างไร
คัลเจอร์ในการกินอาหาร เอเซียอาจ รุดหน้ากว่า ด้วยซ้ำ ครับ
แสดงความคิดเห็น
อินเดียเป็นดินแดนเครื่องเทศที่คนยุโรปอยากครอบครอง อยากทราบว่าเครื่องเทศอะไรบ้างครับ ที่ยังมีใช้ในยุโรปและยังมีในปัจจุบัน