[CR] เขาค้อ ฉบับไม่ง้อคาเฟ่

ด้วยความที่เราอยากจะเที่ยวแต่เที่ยวไม่ได้เพราะพิษโควิด ดังนั้นขอใช้ช่วงเวลานี้ในการพาเที่ยวไทยออนไลน์กันนะคะ ยิ้ม



ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 ช่วงปลายปี  ลมหนาวเริ่มเข้ามา ซึ่งหนาวทั้งทีแน่นอนว่าจุดหมายปลายทางที่อยากจะไปย่อมต้องเป็นที่ๆอากาศเย็นสบาย
วันนี้จึงอยากจะมานำเสนอสถานที่ที่ควรค่าแก่การเดินทาง ..

ออกเดินทางจากกรุงเทพไปเขาค้อใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 
โรงแรมที่เราพักคือ De Capoc Resort 
De Capoc Resort ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งสมอ  ตัวโรงแรมเข้าลึกไปจากถนนใหญ่พอสมควร
มีความเงียบสงบเหมาะกับคนที่ต้องการพักผ่อน
ซึ่งเหตุผลที่เราเลือกที่นี่เป็นเพราะ ชอบการตกแต่งของโรงแรมดูเรียบๆดี
และชอบลักษณะห้อง Villa ตรงที่ห้องจะมีด้านเปิดโล่งมีตาข่ายให้นอนชมวิว


เช้าวันต่อมาหลังทางอาหารเช้าและนอนชิวๆที่ห้อง
เราก็ออกเดินทางไปที่ "วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว" 
ซึ่งกว่าจะออกกันก็ค่อนข้างสายแล้วเหมือนกัน 


หลังจากนั้นเราก็ไปขับรถ ชมวิวและกลับเข้าที่พัก 



เข้าสู่เช้าวัน 2 ที่เขาค้อ ทานอาหารเสร็จเราก็เริ่มค้นข้อมูลว่าจะไปเที่ยวไหนดี แต่ค้นไปก็เจอแต่คาเฟ่
ซึ่งเราไม่ค่อยชอบเที่ยวสายนั้น
ดังนั้นเราจึงค้นต่อไปจนเจอกับที่แรก นั่นก็คือ "อ่างเก็บน้ำรัตนัย"

ตอนแรกยอมรับเลยว่าเลือกไปที่นี่เพราะเป็นทางกลับกรุงเทพพอดี แต่เมื่อมาแล้ว รู้สึกประทับใจจนอยากจะหยุดเวลานั้นไว้เลย

ขอเกริ่นความเป็นมาเล็กน้อย 
“อ่างเก็บน้ำรัตนัย” เป็นโครงการชลประทานขนาดเล็กตามพระราชดำริ 
ก่อสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2530 
ซึ่งอ่างเก็บน้ำจะมีลักษณะคล้ายกับทะเลสาบ ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของอำเภอเขาค้อเลยทีเดียว


ทั้งๆที่วันที่ไปเป็นวันอาทิตย์ช่วงสายแต่กลับมีรถจอดแค่ 2 คัน 
ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมาก อากาศเย็นๆ แดดอ่อนๆ ได้ยินเพียงเสียงลำน้ำกระทบฝั่ง ภูเขา ต้นไม้ 
ทุกสิ่งทุกอย่างมีความลงตัวทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยมาตลอดทั้งสัปดาห์ได้เป็นอย่างดี 
ถ้ามีเสื่อสักผืนคงนอนรับลมได้ทั้งวัน แต่เนื่องด้วยเวลามีจำกัดจึงทำให้อยู่ได้ไม่นานนัก.. 

สถานที่ต่อไปที่จะพาไปคือ “แก่งบางระจัน” 
ที่สนใจที่นี่เป็นเพราะจากที่ได้ค้นหาข้อมูลพบว่าที่นี่เป็นสถานที่เดียวในประเทศไทยที่จะได้พบกับแมงกระพรุนน้ำจืด! 
โดยการล่องแก่งเข้าไปในลำน้ำเข็กของแก่งบางระจัน


จุดมุ่งหมายคือการมาล่องแก่งดูแมงกระพรุนน้ำจืด แต่ในช่วงที่เราไปดันเป็นช่วงที่ไม่มีแมงกระพรุนน้ำจืด 
ช่วงที่สามารถพบแมงกระพรุนน้ำจืดได้จะเป็นช่วงฤดูร้อน (ประมาณเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม) 
เสียดายมากเลย เราจึงไปล่องแก่งดูผีเสือกันแทน ค่าบริการล่องแก่งตกคนละ 200 บาท 
มีเสื้อชูชีพและฝีพายประจำเรือ สามารถมาได้ช่วง 9.00-16.00 น. 
ถ้าวันธรรมดาอาจต้องโทรไปสอบถามก่อน ทริปนี้เราได้ฝีพายน้อยมาเป็นไกด์นำทางด้วย  ยิ้ม
ปล.เบอร์ติดต่อสอบถาม 087-889-3855 (กลุ่มชุมชนคนรักษ์ป่าตำบลหนองแม่นา)

ฝีพายน้อย "น้องปีเตอร์"

พื้นที่ลำน้ำเข็กนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง 
โดยฝั่งด้านซ้ายจะเป็นจังหวัดเพชรบูรณ์ ฝั่งด้านขวาเป็นจังหวัดพิษณุโลก 
น้ำที่นี่ค่อนข้างนิ่ง เงียบสงบ 
สอบถามชาวบ้านเรื่องสัตว์ป่าได้ความว่ามีนกเงือก หมี ลิง ชาวบ้านบอกอีกด้วยว่าบางทีจะมีช้างป่าลงมาว่ายน้ำเป็น 100 ตัว 
ทำให้น้ำขุ่นกันไปเลยทีเดียว ถึงแม้น้ำจะนิ่ง ชวนน่าลงไปว่ายน้ำ แต่บางจุดคือลึกมาก โดยลึกถึงประมาณ 8-9เมตรเลย


นั่งเพลินๆสักพักก็ถึง แก่ง2 ซึ่งเป็นจุดที่สามารถชมผีเสื้อได้ ที่แก่ง2 จะมีลักษณะเป็นหลุมน้ำขัง เสมือนเป็นที่ชุมนุมของเหล่าผีเสื้อ


ส่วนตัวไม่ค่อยรู้จักสายพันธุ์ผีเสื้อแต่เมื่อมาที่นี่กลับได้พบผีเสื้อที่มีลักษณะอื่นๆแตกต่างจากผีเสื้อที่พบตามปกติ หนึ่งในนั้นคือ “ผีเสื้อพันธุ์หางมังกร”


ระหว่างทางกลับมาที่จุดเริ่มต้น ฝีพายของเราได้แวะวัดเพื่อให้เราซื้ออาหารปลา 
โดยสามารถให้ได้เลยจากในเรือ และแล้วเราก็ได้พบความน่าทึ่งอีกหนึ่งอย่างคือความใสของน้ำ 
เราสามารถมองและจับปลาได้เลย ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ


ปลาตะเพียนหางแดง

และแล้วเราก็กลับมาสู่จุดเริ่มต้น แม้จะใช้เวลาเพียงประมาณ 1 ชม. แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่า 
ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติเต็มที่ ได้ชาร์ตแบตตัวเอง 
และได้สัญญาใจกับตัวเองว่าครั้งหน้าจะต้องกลับมาตามหาแมงกระพรุนน้ำจืดให้เจอจนได้ ... 


และแล้วก็ขอจบการพาเที่ยวในครั้งนี้นะคะ 

แล้วพบกันใหม่ในกระทู้หน้าๆนะค่า

ขอฝากเพจ FB : A Trip Like me

และขอฝากรีวิวการเที่ยวที่ผ่านมาด้วยนะค่าา

"New Zealand Road trip"


" Oslo "


เพี้ยนยิ้ม

ชื่อสินค้า:   เขาค้อ
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่