รีวิวเรียนต่อฉบับตัวคนเดียวที่ Chandigarh University

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
          อยากมาเล่าแชร์ประสบการณ์มาเรียนปริญญาตรีต่างประเทศ(อินเดีย)คนเดียวครั้งแรกในชีวิตค่ะ ขอเกริ่นก่อนว่าใช้เวลาในการเตรียมตัวสั้นมากไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนมาเรียน เริ่มจากช่วงเดือนมีนาคมเราเปลี่ยนใจจากเรียนที่ไทยออกไปเปิดประสบการณ์ จริงๆคือสอบไม่ติดคณะที่อยากเรียนเลยไปตามหาความฝันที่2ของตัวเองคือการไปเรียนเมืองนอก ฉะนั้นด้วยความที่งบประมาณจำกัดครอบครัวเลยคิดว่าอินเดียคือตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วทำให้เราเริ่มหาที่เรียนใหม่โดยความจำกัดคือเราไม่มีคะแนนสอบIELTS หรือ TOEFLเลย จนเรามาเจอ Chandigarh University เป็นมหาลัยเอกชนอันดับต้นๆของอินเดียที่มีการให้Scholarshipsกับนักศึกษาต่างชาติด้วย บางคนได้100%เลยก็มีซึ่งถ้าเทียบแล้วค่าใช้จ่ายคือพอๆกับมหาลัยที่ไทยเลย ตอนนั้นก็ลังเลนะความอินเดียเท่าที่รู้จักมาก็คือมีแต่ข่าวรุนแรงทั้งนั้นเลย555 แต่ความฮึบตอนนั้นมาจากไหนก็ไม่รู้เลยบอกแม่เลยว่าจะไปที่นี่แหละค่ะ ส่วนตัวเรามาเรียนคณะเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งที่นี่มีคณะหลากหลายมากกว่าที่คิดหลังจากลงทะเบียนเราก็ได้รับทุน40%ทางครอบครัวก็พึงพอใจกับค่าเทอมเป็นอย่างมาก555

          หลังจากนั้นเราก็ดำเนินการเดินเอกสารไปทำพาสปอร์ต, แปลเอกสารที่จำเป็น, ขอใบเกรดกับทางโรงเรียน(ภาษาอังกฤษ), ขอวีซ่าต่างๆนาๆซึ่งเรารอTranscriptจากทางโรงเรียนนานมาก วีซ่าด้วยประมาณ2อาทิตย์เลยทำให้บินช้ากว่าเวลาที่กำหนด เค้าเปิดเทอมกันไปแล้วTT ประมาณกลางเดือนกรกฎาคมของทุกปี ตอนนั้นเราบินเกือบๆกลางเดือนสิงหาคมซึ่งตอนนั้นก็มีอาการอ๊องๆหน่อย เพราะต้องtransitด้วย จากเมืองNew Delhi มาสนามบิน Chandigarh airport ซึ่งพอมาถึงก็ได้พี่ที่รู้จัก(เคยเรียนที่อินเดีย)บอกให้download แอพเรียกแท็กซี่ก็จะมี uber or Ola พอเรียกรถมามหาลัยปุ๊ปก็ตรงไปที่ Block 9 ยืนยันตัวตน+เข้าหอในเป็นการชั่วคราว ซึ่งบอกเลยว่าตอนนั้นยังช็อคอยู่คนเยอะมากๆมหาลัยใหญ่สุดๆมีตึกเรียนประมาณ18ตึก มีหอหญิง3ที่, หอชายประมาณ2ที่
ในส่วนของหอในนั้น(ประมาณ1700-2000usd/ปี)
-แยกเด็กต่างชาติชั้น1-3เท่านั้นส่วนมากเป็นห้องแอร์+ห้องน้ำในตัว สูงสุด3คน/ห้อง(มี6ชั้น)
-มีโรงอาหารแยกเด็กต่างชาติ(มีเมนูไก่ทอด)ที่โรงอาหารเด็กอินเดียจะเป็นอาหารมังฯทั้งหมด
-มีสนามหญ้าในส่วนตรงกลางและม้านั่ง
-มีsecurityซึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ได้อยู่TT และคุมหอที่พูดได้ชัดแจ๋ว
-มีcurfewต้องกลับหอก่อน1ทุ่ม
-มีร้านขายของชำและยิม
          ภายในมหาลัยจะมีร้านอาหารประมาณ10ร้านในmain campus ช่วงสนามหญ้าอีกฝั่งด้านในก็จะมีfood court ซึ่งจะมีร้านfast food เช่น subway ล่าสุดมีร้าน Domino's pizzaด้วยจ้า และก็มีอาหารอินเดีย ราคาต่อมื้อก็อยู่ที่บุคคลนะคะส่วนตัวเราจะจ่ายประมาณ120-200รูปี(60-100บาท)หลังจาก2วัน เราก็เริ่มได้เข้าคลาสแล้วคณะเราจะอยู่ทางsouth campusซึ่งห่างจากmain campus ประมาณ2km ไกลมากตอนเดินแรกๆคือบ่นอุบ5555แต่ทางมหาลัยก็จะมีรถบัสวิ่งภายในตามเวลา บางที่ก็ซิ่งเหลือเกินไม่กลัวชนนศ.หรือไง!!บีบแตรเก่งมากนี่มหาลัยหรือสี่แยกไฟแดง ในคลาสของเราจะมีแค่30+คน ซึ่ง!!เราเป็นเด็กต่างชาติคนเดียวจ้าปกตินศใต่างชาติที่นี่จะมีตั้งแต่ อินโด,ไทย,เนปาล,อัฟกัน,ภูฏาน,ดูไบ,บังคลาเทศ ไปจนถึงประเทศกลุ่มแอฟริกาใต้ก็เยอะประมาณนึง วันแรกก็มีแค่ผู้หญิงที่กล้าเข้ามาคุยกับเรา ปัญหาที่ตามมาก็คือบางครั้งอาจารย์พูดภาษาฮินดี!!!ชั้นไม่เข้าใจว้อยยยยต้องคอยกระตือรือร้นตามพูดตามอธิบายว่าชั้นไม่เข้าใจ าอจารย์แกก็จะเอ้าหรอ โอเคๆชั้นจะอธิบายภาษาอังกฤษอีกทีนะTT คือจารย์คะหน้าหนูเหมือนเกิดที่อินเดียหรอคะถามจริงงจนเวลาสอบก็มาถึงพึ่งเรียนได้อาทิตย์กว่าๆเองตกใจมากจ้า สอบแค่2-3ชม.เพื่อนเขียนกันเป็น10-20หน้า พระเจ้าาาชั้นซึ่งนั่งกระอักกระอ่วนก็ไม่รู้จะทำไงท่องไว้สอบได้เป็นเรื่องตลก สอบตกเป็นเรื่องธรรมดาจ้า55//หัวเราะทั้งน้ำตา ซึ่งในส่วนของภาคทฤษฎีเป็นการเขียนล้วนๆเลย ภาคปฏิบัติจะเป็นงานและการทดลองมากกว่า เช่น สอบพูดหน้าชั้นหรือการทดลองวิทยาศาสตร์ก็แล้วแต่คณะไป แต่ส่วนมากคือเน้นเขียน100%จ้าไม่ต้องกังวลไปอิอิ
          การสอบจะแบ่งเป็น3ช่วง รอบแรกคือสอบMST-Iเป็นเหมือนเก็บคะแนนก่อนกลางภาค แล้วช่วงที่2คือMST-IIเป็นช่วงกลางๆภาคและสุดท้ายบอสใหญ่คิดเป็น60%ของเทอมเลยทีเดียวนั่นคือFinalนั่นเองจะสอบครั้งแรกช่วงเดือนพฤศจิกายน หลังจากนั้นก็ปิดเทอมเล็กประมาณๅเดอืนช่วงธันวาคม-มกราคม วิชาเน้นเอียดเหมือนเด็กมัธยมเลยเขียนโปรแกรมวนไปจ้าคณะชั้น surprise testกันเก่งมากที่นี่เค้าเรียนหนักจริงกลับไปบ้านก็อ่านหนังสือกันต่อ พวกที่ไม่อ่านก็คือยังสอบได้ งงมากแม่! พอหลังๆก็เริ่มปรับตัวกับเพื่อนๆได้แต่อย่ายอมมากsay noได้ ไม่งั้นบางทีพวกนี้ก็ชอบใช้นู่นนี่จุกจิกๆลำไย555 ทุกๆวันพุธก็จะมีuniformให้ใส่ ซึ่งคณะไหนที่อาจารย์ไม่เข้มงวดมากก็ไม่ใส่กันนะ เช่นclassอิชั้นเป็นต้นเป็นวันที่สามัคคีสุดๆ คนอินเดียส่วนมากพ่อแม่คาดหวัง+การแข่งขันสูงทำให้เค้าจชต้องทำเกรดให้ดีๆให้ได้ บางทีก็ทำให้เราซึมซับพาลเครียดไปด้วย ต้องพยายามปล่อยวางสุดท้ายแล้วเป้าหมายมันต่างกันแต่ละคนไป
         

          มาพูดในส่ววนบริเวณนอกมหาลัยกันบ้างดีกว่า สำหรับนศ.คนไหนที่อยากออกมาพักข้างนอกราคาห้องเช่าก็จะเริ่มตั้งแต่8,000-16,000รูปี(1-3ห้องนอน) ส่วนมากจะห่างจากมหาลัยตั้งแต่2-5km แล้วแต่เลือกเลยจ้า ตลาดที่ไว้ซื้อของทำอาหารสำหรับเด็กหอนอกก็คือ Kharar market มีตั้งแต่สากกะเบือกยันเรือรบจ้า ของราคาถูก-แพงขึ้นอยู่กับseasonด้วยอย่างพวกผักจะราคราถูกมากๆตั้งแต่มะเขือเทศ10-20บาท/kg กันเลยทีเดียวแล้วก็ทีเด็ดคือร้านขายเนื้อสัตว์ จะมีไก่ซึ่งแยกเป็นไม่มีกระดูก เครื่องใน น่อง มีแพะด้วย ปลาที่นี่จะแพงมากๆๆและไม่สดเท่าไหร่ มีอยู่2ร้านพ่อค้าคือแข่งกันเรียกมาก มีวันนึงปกติซื้อยู่ร้านแรกพออีกวันจะไปร้านที่2 อยู่ดีๆพ่อค้ามาลากเฉยเลยแล้วบอกว่าซื้อที่นี่ก็ต้องซื้อที่นี่ตลอด อย่าทำแบบนี้อีกไอเราก็งงๆไปแบบนี้ก็ได้เร้อะ555แต่ก็นะร้านไหนก็ได้ ขอลดสักหน่อยละกันแล้วจะภักดีอิอิ อยู่ที่เมืองนี้ฝึกภาษาฮินดีเบื้องต้นไว้ก็ดีนะคะเพราะคนที่นี่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้กัน จำเป็นมากตอนถามหรือต่อราคาบางทีความเค้านึกว่าเราเป็นนทท.ก็จะโก่งราคาขึ้นไปดื้อๆเลย ขนาดค่ารถauto(เหมือนรถตุ๊กๆบ้านเรา)ก็ต่อราคาจาก200เหลือ80รูปีมาแล้วว//ภูมิใจ ชั้นไม่โดน คนอินเดียคือตื้อเก่งมากยอเก่งเวอร์ต้องอย่าหลงกลง่ายๆนะคะ คนใจดีก็ดี๊ดีแต่ก็ต้องดูกันยาวๆค่ะ แล้วในส่วนของห้างแท่นแด้นนนที่ใกล้ที่สุดก็คือ VR punjab mallนั่นเอง ห่างออกไปประมาณ10kmจากมหาลัยนะคะ แต่ช่วงเย็นหลังเลิกงานก็คือรถติดมากอาจจะทำให้ดูนานกว่าปกติเป็นห้างใหญ่ประมาณนึงมี4+1ชั้นใต้ดิน ก็จะมีของแบรนด์เนมทั่วไปZARA, H&M, MINISOและแบรนด์อินเดียทั่วๆไป ของกินก็จะมีอาหารอินเดียซึ่งอย่างที่บอกส่วนมากจะเป็นมังฯและอาจจะมีรสเผ็ดซึ่งอาจจะไม่ชอบก็ได้ แต่ตอนนี้เริ่มชินแล้วค่ะ5555 KFC,Domino's pizza, Taco bell มีร้านบุฟเฟ่ต์ด้วยนะ ส่ววนมากเด็กCUทั้งนั้นไปกันทุกอาทิตย์เลยพักสมองกันไปเพราะเรียนหนักกันจนจะไม่ไหวกันแล้ว555

          ในส่วนของสถาพอากาศกันบ้างดีกว่าเพราะแต่ละสถานที่ในอินเดียก็จะแตกต่างกันออกไแปด้วยความที่ประเทศใหญ่มาก ในเมืองPunjabจะอยู่ค่อนมาทางเหนือของอินเดียซึ่งอากาศก็จะไบโพล่ามากเวอร์ช่วงต้นๆพ.ย.-ปลายม.ค.จะเป็นช่วงหน้าหนาวซึ่งเดือนธันวาจะหนาวมากๆที่เคยอยู่จะลงถึง4-5องศาเลยทีเดียวฟินมากกกแต่ก็หนาวจนเจ็บกระดูกเลย มันหนาวแบบไม่เหมือนหนาวแอร์อ่ะอธิบายไม่ถูก555 ช่วงนั้นแฟชั่นมาเต็มมากผ้าพันคอ+หมวกบันนี่+ถุงมือบ้าง บลาๆๆพอเข้าหน้าฝนเท่านั้นแหละผีบ้ามากบางทีก็นึกว่าพายุเข้าลมแรงมากๆๆๆบางทีก็มีอาการไฟดับบ่อยๆTT แต่ของจริงคือหน้าร้อนจ้าจะอยู่ที่ประมาณกลางเดือนพ.ค.จนถึงช่วงกลางๆตุลาคม ร้อนมากพีคมาก40+กันไปเลยจ้า กลางจะอยู่ที่ประมาณ33-35ในตอนกลางวันพีคสุดคงไปถึง45ที่เคยเช็คดูนะคะแนะนำให้พกmini fanมาเลยค่ะ ที่นี่ก็มีขายนะคะแต่เล็กมากๆตัวเลือกน้อยมากเลยใช้ไปเลยค่ะโดนมองก็ไม่ต้องสนใจ ตอนเรียนในclassเพื่อนขอยืมตลอดโอ้ยยยชั้นก็ร้อนไหมยืมละเพลินเลยนะมีส่งต่อไปอี้กกก

          และแล้วก็มาถึงช่วงสถานการณ์COVIDนั่นเอง อินเดียเริ่มปิดเมืองตั้งแต่ช่วงปลายเดือนม.ค. แต่มหาลัยให้หยุดตั้งแต่กลางเดือนแล้ว ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในคนที่ตั้งตัวไม่ทันไฟล์ทบินหมดกลับไทยไม่ได้ เลยทำให้ติดอยู่ที่นี่นั่นเองซึ่งร้านค้า, auto, uberปิดการให้บริการทั้งหมด ต้องรีบออกไปกักตุนของชุลมุนมากและออกจากบ้านแทบไม่ได้เลยในช่วงแรกมีการควบคุมที่เข้มงวด แต่ก็ส่งผลให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในรัฐPunjabไม่สูง อาจจะมีคนได้เห็นคลิปที่ตำรวจตีชาวบ้านที่ออกจากบ้านกันไปบ้างส่วนนึงก็มาจากรัฐนี้แหละค่ะ555แต่กับคนอินเดียบางส่วนถ้าไม่ทำแบบนี้เค้าก็ดื้อด้านไม่ฟังจริงๆ จนถึงตอนนี้เหยียบ1แสนแล้วทำให้ยังไม่สามารถเปิดประเทศได้แต่ก็มีการผ่อนคลายมากขึ้นร้านค้าเปิดได้ช่วง6โมงเช้า-1ทุ่มนั่นเอง จริงๆช่วงเวลา2เดือนที่ผ่านก็อยู่ได้นะคะ เพียงแต่อาจจะเดินทางออกนอกสถานที่ไม่ได้เพราะไม่มีรถวิ่งเลย แต่ร้านค้าภายในหมู่บ้านก็เปิดให้บริการอยู่ตามปกติมีการให้ซื้อของจากด้านนอก ลุงๆแกจะเป็นคนหยิบเองและออกจากบ้านก็ต้องใส่หน้ากากปิดปากให้เรียบร้อยที่นี่ก็จะหาซื้อยากประมาณนึงต้องใช้ผ้าพันปิดปากกันส่วนใหญ่ นายกอินเดียก็มีการระดมทุนช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจ ลดการนำเข้าสนับสนุนให้คนใช้ของในประเทศเพื่อธุรกิจรายเล็ก-กลาง ดารานักแสดงเองก็มีการบริจาคเป็นจำนวนมาก ทางมหาลัยเองก็เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ป่วยซัพพอร์ตทางรัฐอีกทีนึงและก็มีการบริจาคอาหารกับชาวบ้านอีกด้วย ปัญหาหลักๆตอนนี้จะเป็นเรื่องการตกงานทำให้แรงงานไม่มีรายได้นายกก็มีการประกาศให้บริษัทเริ่มเปิดได้แต่ต้องมีกฎที่เคร่งครัดและในเวลาที่จำกัดด้วยค่ะ
ก็ตอนนี้ขอพอก่อนเขียนมา1-2ชม.แล้ว ช่วงนี้มหาลัยกำลังเปิดรับสมัครน้าลองมายื่นขอทุนก่อนก็ได้ใช้แค่transciptยื่นขอทุน เทอมนี้อาจจะเปิดช้ากว่ากำหนดเนื่องจากสถานการณ์COVID-19นั่นเอง

          ตัวเลขในอินเดียก็ยังคงเพิ่มอย่างต่อเนื่องทำให้ไม่สามารถเปิดสนามบินเพื่อรับชาวต่างชาติเข้ามาได้แต่เมืองPUNJABถ้าเทียบแล้วยังมีผู้ติดเชื้อไม่เยอะ คนก็ให้ความร่วมมือดีประมาณนึงในการควบคุมสถานการณ์คาดว่าช่วงประมาณต้นเดือนสิงหาอาจจะเปิดประเทศได้(รออัพเดตข่าวสารน้า) มีคำถามถามได้เลยนะคะถ้าเราตอบช้าต้องขอโทษด้วย ยังไงก็ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะจริงๆเราอยากเก็บไว้เป็นเหมือนไดอารี่ด้วยแต่ก็อยากเป็นแรงบันดาลใจเผื่อเป็นตัวเลือกอื่นให้กับทุกๆคนได้ด้วย ใครที่คิดว่าชีวิตเบื่อๆชีวิตมันง่ายเกินไปแนะนำมาอินเดียเลยค่ะ55 สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆไม่หยอกอยู่นะขอบอกหน้าหนาวแนะนำขึ้นเหนือไปดูภูเขาหิมาลัยไปเล่นหิมะกันได้ จากมหาลัยขึ้นไป2-3ชม.เองไปถ่ายรูปโพสเกร๋ๆ เดี๋ยวถ้ามีอะไรอัพเดตจะมาบอกอีกทีนะคะ สวัสดีค่ะ  
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่