สวัสดีค่ะ วันนี้ จขกท ขอมาแชร์ประสบการณ์การขอทุนICCR จนได้ไปเรียนต่อปริญญาโททุนรัฐบาลอินเดีย จนตอนนี้กลับมาเรียบร้อยแล้ว
หากไม่มีเวลาอ่าน จขกท.ทำเป็นแบบคลิปไว้ด้วยนะคะ ตามลิ้งเลยค่ะ
เรียนโทฟรี ๆ ที่อินเดียด้วยทุน ICCR | ประสบการณ์การเตรียมตัวสอบและสัมภาษณ์
จขกท.มีความตั้งใจอยากเรียนต่อที่อินเดียเป็นทุนเดิมตั้งแต่ยังเด็กแล้ว เนื่องจากที่บ้านและญาติๆเรียนต่ออินเดียกันหลายคน จขกท.ก็ปล่อยเวลาล่วงเลยมาจนทำงานมาได้3ปีกว่าๆ ก็เริ่มคิดว่าต้องทำอะไรกับชีวิตบ้างแล้ว แล้วหากยังทำงานต่อไปเรื่อยๆมันจะกลายเป็นcomfort zoneสำหรับตัวเอง
ปลายปี2015จขกท.ไปเที่ยวอินเดียพร้อมเยี่ยมน้องสาวที่ไปเรียนต่อป.โทที่นั่น(น้องสาวไม่ได้ขอทุน) ระหว่างเที่ยวๆอยู่สถานทูตอินเดียก็ประกาศเปิดรับสมัคร ตัวจขกท.เตรียมเอกสารล่วงหน้าไว้บ้างแล้ว กลับมาจากอินเดีย ก็รีบไปตรวจสุขภาพ รีบยื่นใบสมัคร
หลังจากยื่นเอกสารได้ไม่กี่สัปดาห์ก็ได้รับอีเมล์แจ้งให้ไปสอบข้อเขียน ณ ตอนนั้นกะด้วยสายตา มีคนมาสอบ 100-120คนได้ ข้อสอบมีชุดเดียวสำหรับผู้สมัครทุกปริญญา ตรีโทเอก แต่คิดว่าเกณฑ์วัดผลต่างกันไป ใช้เวลาสอบไม่ถึงชม.ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ ข้อสอบไม่ยาก มีให้เขียนเรียงความ2หัวข้อ คือ ให้เขียนใบลาป่วยถึงอาจารย์ และเขียนว่าทำไมถึงอยากไปเรียนอินเดีย พอจขกท.ได้ไปอินเดียแล้ว ก็เข้าใจว่าทำไมต้องมีสอบเขียนเรียงความนี้ เพราะอยู่อินเดียเขียนจม.หรือ applicationต่างๆเยอะมาก เป็นเรื่องปกติมากๆ (ข้อสอบ Toeicยากกว่านะคะในความรู้สึกจขกท)
จากนั้น1-2สัปดาห์ก็ได้รับอีเมล์ผ่านเข้ารอบต่อไป มีผ่านเข้าสัมภาษณ์ประมาณ 50คนได้ค่ะ วันสัมภาษณ์ใช้เวลาไม่เกิน10นาทีต่อคนค่ะ เป็นเจ้าหน้าที่อินเดียที่สถานฑูต2ท่านค่ะ คำถามในรอบนี้ก็ประมาณว่า ตอนนี้ทำอะไรอยู่ ทำไมถึงเลือกคณะนี้ แล้ววางแผนจะทำอะไรต่อหากเรียนจบจากอินเดีย ทำไมถึงอยากไปเรียนต่ออินเดีย
ส่วนตัวจขกท.ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าได้เปรียบไหม แต่ด้วยความที่จขกท.ได้ไปทำงานที่อินเดียเป็นครั้งคราวก่อนที่จะขอทุน พร้อมทั้งมีน้องสาวเรียนอยู่ที่นั่น และเคยไปเที่ยวมา จขกท.ก็ได้แชร์ประสบการณ์ต่างๆที่มีกับอินเดียมาช่วยในตอนสัมภาษณ์เช่นกัน สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษหมดนะคะ ก่อนที่การสัมภาษณ์จะเริ่มขึ้นตอนแรก เจ้าหน้าที่ได้มากล่าวอะไรเล็กน้อยกับพวกเราทุกคนค่ะ คือเค้ามองหาคนที่พอจะสื่อสารได้เข้าใจ ดิฉันก็เข้าใจเจ้าหน้าที่นะคะ เพราะเมื่อตอนถึงอินเดียแล้ว คุณต้องพร้อมที่จะสื่อสารกับเพื่อน กับอาจารย์ทั้งนั้นค่ะ มันจะไม่ค่อยมีเวลาให้ปรับตัวสำหรับเรื่องภาษาเท่าไหร่ แค่ปรับตัวให้ใช้ชีวิตในอินเดียได้ก็ยากแล้ว5555
หลังจากสัมภาษณ์ผ่านไปประมาณ 1เดือน ต้นมีนาเลยโทรไปสอบถามว่าผลเป็นอย่างไรบ้าง สรุปว่าได้ค่ะ ไม่มีเมล์แจ้งนะคะ พอรู้ว่าได้ ได้ที่นี้คือ ผ่านเกณฑ์ที่เค้าจะส่งใบสมัครเราไปมหาลัยต่างๆที่เราเลือกเท่านั้นนะคะ ไม่ได้การันตีว่ามหาลัยที่คุณเลือกจะรับคุณไหม ขั้นตอนนี้คือรอนานมากค่ะ
ตอนปีที่จขกท.สมัครยังเป็นระบบกระดาษอยู่นะคะ แต่ตอนนี้เป็นออนไลน์หมดแล้ว แต่คิดว่า เอกสารและขั้นตอนต่างยังเหมหือนกันอยู่ค่ะ
ประมาณกลางสิงหาถึงได้รับการติดต่อจากสถานทูตค่ะว่าได้แล้ว ได้มหาลัยลำดับ3ที่เลือกไปค่ะ จริงๆเลือกมหาลัยเดียวกับน้องสาวและใกล้ๆน้องสาว สรุปลงเอยที่ University of Lucknow ค่ะ ลัคเนาคือเมืองหลวงของรัฐอุตรประเทศ แต่คนไทยไม่ค่อยรู้จักหรอกค่ะ เพราะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวเลย อยู่ห่างอัครา ทัชมาฮาล4ชม.ค่ะ
หลังจากที่จขกท.ได้รับการคอนเฟิร์ม ก็ทำวีซ่า ซึ่งใช้เวลาอนุมัติแค่1วันเท่านั้น555 รวดเร็วมาก แล้วอีก4วันก็บินเลยค่ะ!
คณะที่จขกท.เรียนคือ Master of Tourism and Travel Management, University of Lucknow คณะนี้เรียนกันชิวๆค่ะ เนื่องจากเราเป็นคณะท่องเที่ยว คาแรกเตอร์ของคณะเลยชิวๆ attendance ไม่มีค่ะ ส่งงานกับเข้าสอบพอค่ะ แต่มีคลาสตามปกตินะคะ จขกท.ก็เข้าบ้างไม่เข้าบ้าง เบื่ออาจารย์ที่ไม่ค่อยจะตรงเวลา บางวันก็มีคลาส บางวันก็ไม่มี เสียเวลาไปมหาลัยมากค่ะ การเรียนการสอนส่วนใหญ่ก็ภาษาอังกฤษค่ะ จขกท.เรียน2ปี ทั้งหมด4เทอม มีให้ฝึกงานด้วย จขกท.ก็ฝึกงานนtravel agency ในเมืองที่อยู่แหละค่ะ เทอมสุดท้ายก็มีProjectจบ จขกท. ทำหัวข้อ Comparing Foreign Tourist Expectations And Perceptions Of Indian Tourism ทำให้เทอม4แทบไม่ได้ไปเรียน เที่ยวทั่วอินเดีย พร้อมพกแบบสอบถามถามนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พบเจอตามbackpacker hostelที่พักค่ะ เรื่องการเรียนของคณะของจขกท.ไม่มีอะไรต้องกังวลค่ะ เรียนไปเที่ยวไปชิลๆ จบด้วย first division
พูดถึงการอยู่หอ หอที่อยู่เป็นหอหญิงล้วน มีประมาณ 160คนค่ะ อยุ่ห้องละ2คน ปีแรกจขกท.อยู่กับเพื่อนจากประเทศเลโซโท(Lesotho) แอฟริกาค่ะ อยู่กันด้วยความสงบเรียบร้อยดีค่ะ เพื่อนเป็นคนนิ่งๆไม่ค่อยพูดคุยนอนเร็ว ณ ปีแรกทั้งหอมีต่างชาติ 8-9คนค่ะ ชาติไม่ซ้ำกันทั้งนั้นค่ะ555 ไทย อียิปต์ มอริเชียส เลโซโท สเปน มาดากัสกา นามิเบีย สวาซิแลนด์ ทาจิกิซสถาน
พอปีที่2 จขกท.ได้รูมเมทมาใหม่จากโมรอคโค เมทเก่าย้ายไปอยู่กับเพื่อนประเทศตัวเองที่มาใหม่ แล้วก็มีสาวจากศรีลังกาและมาลาวีมาเพิ่ม ส่วนตอนที่จขกท.เรียนจบกำลังกลับไทย นศ.ชุดใหม่มากันแล้ว ปีล่าสุดมาเยอะมากค่ะ 20กว่าคน มาจาก อินโดนีเซีย เวียดนาม นามิเบีย เลโซโท แอฟริกาใต้ โมรอคโค บังกลาเทศ เนปาล อัฟกานิซสถาน ทาจิกิซสถาน อุซเบกิซสถาน ศรีลังกา ถ้าจขกท.ต้องเรียนต่อ คงได้เพื่อนเพิ่มอีกเยอะแน่ๆ555
การมีเพื่อนหลากหลายชาติแบบนี้ ก็ต้องมีการปรับตัวกันบ้างเพื่อความอยู่ร่วมอย่างมีความสุข แต่จขกท.ก็ไม่เคยมีปัญหากับเพื่อนคนไหนเลยนะคะ รักกันดี พากันไปเที่ยวอยู่เรื่อยๆ555 จขกท.ก็ได้เรียนรู้วัฒนธรรมแบบinternationalอยู่เยอะนะคะ ปกติจขกท.ไม่ค่อยทักทายใครเท่าไหร่ แต่การอยู่ร่วมกันแบบนี้ก็ทำให้จขกท.คุ้นเคยกับการ say hi, Hello, morning ทุกเช้าที่เจอหน้ากัน กอดกันเป็นเรื่องปกติ อยู่กันเหมือนพี่น้อง บางทีก็ปรับทุกข์ร้องไห้กับเพื่อนบ้างแบบว่าอกหักอะไรงี้5555 ทำอาหารเลี้ยงเพื่อนบ้าง ชงชาไทยแจกเพื่อนบ้าง ไปเที่ยวก็มีของฝากมาให้ อีกนิสัยที่จขกท.ได้มาคือ มีอะไรพูด อย่าเก็บเอาไว้ ไม่พูดออกมาใครจะรู้จะเข้าใจ บางทีคนไทยชอบเก็บไม่พูด
ส่วนเรื่องทุนที่ได้รวมค่าเครื่องบินขาไป และขากลับหลังเรียนจบ ค่าวีซ่า ค่าเทอม ค่าหอ และค่ากินอยู่ ค่าเทอมทางICCRจ่ายโดยตรงกับมหาลัย จขกท.อยู่หอมหาลัย ทางiccrจ่ายทางหอโดยตรง ปีแรกที่จขกท.ไป เงินเดือนทุนยังแค่6000รูปีต่อเดือนเท่านั้น ได้เป็นรายเดือน บางเดือนก็โอนเข้าบัญชีช้ามาก กินแกลบกันไป แต่พอปีที่2 ปรับนโยบาย ได้เดือนละ 20000รูปี ใช่ค่ะ ขึ้นมากกว่า3เท่า ปีแรกที่เที่ยวใช้เงินตัวเอง แต่ปีที่2เที่ยวหนักกว่าเก่าค่ะ แต่บอกตามตรงจขกท.เที่ยวหนักมาก เงินเดือนทุนอย่างเดียวเที่ยวไม่พอค่ะ ใช้เงินตัวเองเที่ยว
แต่ปีที่2ได้เงินเป็นไตรมาสค่ะ ก็ต้องบริหารจัดการกันให้พอ หอที่จขกท.อยู่ทำอาหารได้ หรือจะเลือกกินจากโรงอาหาหรหอก็ได้ แต่ก็จะเป็นอาหารเวจเท่านั้น เดือนละ2พันกว่ารู อาหารเช้ากลางวัน อาหารว่างและอาหารเย็น ถือว่าไม่แพงเลยค่ะ ค่าโทรศัพท์และเน็ตก็ถูกมากกก 84วัน500กว่ารูปี ได้เน็ตวันละ3GBเที่ยงคืนเริ่มใหม่ โทรฟรีไม่อั้น นอกนั้นก็ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไรเลย เหลือเที่ยวและช้อปปปิ้งเต็มที่ค่ะ
แนะนำเพิ่มเติมแอปสำหรับช้อป Amazon India, Myntra, Club factory, Nykaa, Jabong และ flipkart
แอปที่ควรมีสำหรับสายเที่ยว booking.com, Make my trip,Goibibo, OYO, Redbus จริงๆมีมากกว่านี้ แต่จขกท.ใช้ประจำคือเท่านี้
แอปอยากสั่งอาหารแบบไลน์แมนฟู้ดแพนด้าบ้านเราคือ Swiggy, Zomato, Ubereat
แอปUber, Ola ต้องมีติดโทรศัพท์ไว้เรียกแท็กซี่, ตุ๊กๆ หรือมอไซ
ซิมการ์ด จขกท.ใช้มาทั้ง Jio, Airtel และ โวดาโฟน ส่วนตัวแล้วแอร์เทลคือดีสุดเสถียรสุด แต่ละเจ้าราคาพอๆกันค่ะ เติมเงินถูกมากกกกก ประเทศไทยเรียกว่าแพงไปเลย แพ้คเกจเติมเงินที่อินเดีย 3GBต่อวัน เที่ยงคืนเริ่มนับหนึ่งใหม่ แพ้คเกจ84วันราคาเกือบๆ3ร้อยบาทเท่านั้นแถมโทรไม่จำกัด เน็ตเร็ว เล่นpubgเสถียร ดูเน้ตฟลิกคล่อง
นั่นแหละค่ะประสบการณ์การสมัคร ยันไปเรียนต่อ และการใช้ชีวิต หากใครมีคำถามก็ถามมากันได้เลยนะคะยินดีช่วยเหลือและตอบคำถามค่ะ หรือจะหลหังไมค์มาก็ได้
จขกท. ขอฝากชาแนลยูทูปไว้หน่อยนะคะ จำแชร์เรื่องราวประสบการณ์การใช้ชีวิตท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในอินเดียและต่างประเทศค่ะ
ฝากกดsubscibe ชาแนลของจขกท.ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
หรือติดตามภาพถ่ายท่องเที่ยวของงจขกท.ในอินสตาแกรมกันได้นะคะ (@nttn.m)
Instagram ของจขกท.ค่ะ
ทุนรัฐบาลอินเดีย ICCR ใกล้เปิดรับสมัครแล้ว | ขอแชร์ประสบการณ์การสมัครจนถึงไปเรียน และใช้ชีวิตที่อินเดีย
หากไม่มีเวลาอ่าน จขกท.ทำเป็นแบบคลิปไว้ด้วยนะคะ ตามลิ้งเลยค่ะ
เรียนโทฟรี ๆ ที่อินเดียด้วยทุน ICCR | ประสบการณ์การเตรียมตัวสอบและสัมภาษณ์
จขกท.มีความตั้งใจอยากเรียนต่อที่อินเดียเป็นทุนเดิมตั้งแต่ยังเด็กแล้ว เนื่องจากที่บ้านและญาติๆเรียนต่ออินเดียกันหลายคน จขกท.ก็ปล่อยเวลาล่วงเลยมาจนทำงานมาได้3ปีกว่าๆ ก็เริ่มคิดว่าต้องทำอะไรกับชีวิตบ้างแล้ว แล้วหากยังทำงานต่อไปเรื่อยๆมันจะกลายเป็นcomfort zoneสำหรับตัวเอง
ปลายปี2015จขกท.ไปเที่ยวอินเดียพร้อมเยี่ยมน้องสาวที่ไปเรียนต่อป.โทที่นั่น(น้องสาวไม่ได้ขอทุน) ระหว่างเที่ยวๆอยู่สถานทูตอินเดียก็ประกาศเปิดรับสมัคร ตัวจขกท.เตรียมเอกสารล่วงหน้าไว้บ้างแล้ว กลับมาจากอินเดีย ก็รีบไปตรวจสุขภาพ รีบยื่นใบสมัคร
หลังจากยื่นเอกสารได้ไม่กี่สัปดาห์ก็ได้รับอีเมล์แจ้งให้ไปสอบข้อเขียน ณ ตอนนั้นกะด้วยสายตา มีคนมาสอบ 100-120คนได้ ข้อสอบมีชุดเดียวสำหรับผู้สมัครทุกปริญญา ตรีโทเอก แต่คิดว่าเกณฑ์วัดผลต่างกันไป ใช้เวลาสอบไม่ถึงชม.ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ ข้อสอบไม่ยาก มีให้เขียนเรียงความ2หัวข้อ คือ ให้เขียนใบลาป่วยถึงอาจารย์ และเขียนว่าทำไมถึงอยากไปเรียนอินเดีย พอจขกท.ได้ไปอินเดียแล้ว ก็เข้าใจว่าทำไมต้องมีสอบเขียนเรียงความนี้ เพราะอยู่อินเดียเขียนจม.หรือ applicationต่างๆเยอะมาก เป็นเรื่องปกติมากๆ (ข้อสอบ Toeicยากกว่านะคะในความรู้สึกจขกท)
จากนั้น1-2สัปดาห์ก็ได้รับอีเมล์ผ่านเข้ารอบต่อไป มีผ่านเข้าสัมภาษณ์ประมาณ 50คนได้ค่ะ วันสัมภาษณ์ใช้เวลาไม่เกิน10นาทีต่อคนค่ะ เป็นเจ้าหน้าที่อินเดียที่สถานฑูต2ท่านค่ะ คำถามในรอบนี้ก็ประมาณว่า ตอนนี้ทำอะไรอยู่ ทำไมถึงเลือกคณะนี้ แล้ววางแผนจะทำอะไรต่อหากเรียนจบจากอินเดีย ทำไมถึงอยากไปเรียนต่ออินเดีย
ส่วนตัวจขกท.ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าได้เปรียบไหม แต่ด้วยความที่จขกท.ได้ไปทำงานที่อินเดียเป็นครั้งคราวก่อนที่จะขอทุน พร้อมทั้งมีน้องสาวเรียนอยู่ที่นั่น และเคยไปเที่ยวมา จขกท.ก็ได้แชร์ประสบการณ์ต่างๆที่มีกับอินเดียมาช่วยในตอนสัมภาษณ์เช่นกัน สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษหมดนะคะ ก่อนที่การสัมภาษณ์จะเริ่มขึ้นตอนแรก เจ้าหน้าที่ได้มากล่าวอะไรเล็กน้อยกับพวกเราทุกคนค่ะ คือเค้ามองหาคนที่พอจะสื่อสารได้เข้าใจ ดิฉันก็เข้าใจเจ้าหน้าที่นะคะ เพราะเมื่อตอนถึงอินเดียแล้ว คุณต้องพร้อมที่จะสื่อสารกับเพื่อน กับอาจารย์ทั้งนั้นค่ะ มันจะไม่ค่อยมีเวลาให้ปรับตัวสำหรับเรื่องภาษาเท่าไหร่ แค่ปรับตัวให้ใช้ชีวิตในอินเดียได้ก็ยากแล้ว5555
หลังจากสัมภาษณ์ผ่านไปประมาณ 1เดือน ต้นมีนาเลยโทรไปสอบถามว่าผลเป็นอย่างไรบ้าง สรุปว่าได้ค่ะ ไม่มีเมล์แจ้งนะคะ พอรู้ว่าได้ ได้ที่นี้คือ ผ่านเกณฑ์ที่เค้าจะส่งใบสมัครเราไปมหาลัยต่างๆที่เราเลือกเท่านั้นนะคะ ไม่ได้การันตีว่ามหาลัยที่คุณเลือกจะรับคุณไหม ขั้นตอนนี้คือรอนานมากค่ะ
ตอนปีที่จขกท.สมัครยังเป็นระบบกระดาษอยู่นะคะ แต่ตอนนี้เป็นออนไลน์หมดแล้ว แต่คิดว่า เอกสารและขั้นตอนต่างยังเหมหือนกันอยู่ค่ะ
ประมาณกลางสิงหาถึงได้รับการติดต่อจากสถานทูตค่ะว่าได้แล้ว ได้มหาลัยลำดับ3ที่เลือกไปค่ะ จริงๆเลือกมหาลัยเดียวกับน้องสาวและใกล้ๆน้องสาว สรุปลงเอยที่ University of Lucknow ค่ะ ลัคเนาคือเมืองหลวงของรัฐอุตรประเทศ แต่คนไทยไม่ค่อยรู้จักหรอกค่ะ เพราะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวเลย อยู่ห่างอัครา ทัชมาฮาล4ชม.ค่ะ
หลังจากที่จขกท.ได้รับการคอนเฟิร์ม ก็ทำวีซ่า ซึ่งใช้เวลาอนุมัติแค่1วันเท่านั้น555 รวดเร็วมาก แล้วอีก4วันก็บินเลยค่ะ!
คณะที่จขกท.เรียนคือ Master of Tourism and Travel Management, University of Lucknow คณะนี้เรียนกันชิวๆค่ะ เนื่องจากเราเป็นคณะท่องเที่ยว คาแรกเตอร์ของคณะเลยชิวๆ attendance ไม่มีค่ะ ส่งงานกับเข้าสอบพอค่ะ แต่มีคลาสตามปกตินะคะ จขกท.ก็เข้าบ้างไม่เข้าบ้าง เบื่ออาจารย์ที่ไม่ค่อยจะตรงเวลา บางวันก็มีคลาส บางวันก็ไม่มี เสียเวลาไปมหาลัยมากค่ะ การเรียนการสอนส่วนใหญ่ก็ภาษาอังกฤษค่ะ จขกท.เรียน2ปี ทั้งหมด4เทอม มีให้ฝึกงานด้วย จขกท.ก็ฝึกงานนtravel agency ในเมืองที่อยู่แหละค่ะ เทอมสุดท้ายก็มีProjectจบ จขกท. ทำหัวข้อ Comparing Foreign Tourist Expectations And Perceptions Of Indian Tourism ทำให้เทอม4แทบไม่ได้ไปเรียน เที่ยวทั่วอินเดีย พร้อมพกแบบสอบถามถามนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พบเจอตามbackpacker hostelที่พักค่ะ เรื่องการเรียนของคณะของจขกท.ไม่มีอะไรต้องกังวลค่ะ เรียนไปเที่ยวไปชิลๆ จบด้วย first division
พูดถึงการอยู่หอ หอที่อยู่เป็นหอหญิงล้วน มีประมาณ 160คนค่ะ อยุ่ห้องละ2คน ปีแรกจขกท.อยู่กับเพื่อนจากประเทศเลโซโท(Lesotho) แอฟริกาค่ะ อยู่กันด้วยความสงบเรียบร้อยดีค่ะ เพื่อนเป็นคนนิ่งๆไม่ค่อยพูดคุยนอนเร็ว ณ ปีแรกทั้งหอมีต่างชาติ 8-9คนค่ะ ชาติไม่ซ้ำกันทั้งนั้นค่ะ555 ไทย อียิปต์ มอริเชียส เลโซโท สเปน มาดากัสกา นามิเบีย สวาซิแลนด์ ทาจิกิซสถาน
พอปีที่2 จขกท.ได้รูมเมทมาใหม่จากโมรอคโค เมทเก่าย้ายไปอยู่กับเพื่อนประเทศตัวเองที่มาใหม่ แล้วก็มีสาวจากศรีลังกาและมาลาวีมาเพิ่ม ส่วนตอนที่จขกท.เรียนจบกำลังกลับไทย นศ.ชุดใหม่มากันแล้ว ปีล่าสุดมาเยอะมากค่ะ 20กว่าคน มาจาก อินโดนีเซีย เวียดนาม นามิเบีย เลโซโท แอฟริกาใต้ โมรอคโค บังกลาเทศ เนปาล อัฟกานิซสถาน ทาจิกิซสถาน อุซเบกิซสถาน ศรีลังกา ถ้าจขกท.ต้องเรียนต่อ คงได้เพื่อนเพิ่มอีกเยอะแน่ๆ555
การมีเพื่อนหลากหลายชาติแบบนี้ ก็ต้องมีการปรับตัวกันบ้างเพื่อความอยู่ร่วมอย่างมีความสุข แต่จขกท.ก็ไม่เคยมีปัญหากับเพื่อนคนไหนเลยนะคะ รักกันดี พากันไปเที่ยวอยู่เรื่อยๆ555 จขกท.ก็ได้เรียนรู้วัฒนธรรมแบบinternationalอยู่เยอะนะคะ ปกติจขกท.ไม่ค่อยทักทายใครเท่าไหร่ แต่การอยู่ร่วมกันแบบนี้ก็ทำให้จขกท.คุ้นเคยกับการ say hi, Hello, morning ทุกเช้าที่เจอหน้ากัน กอดกันเป็นเรื่องปกติ อยู่กันเหมือนพี่น้อง บางทีก็ปรับทุกข์ร้องไห้กับเพื่อนบ้างแบบว่าอกหักอะไรงี้5555 ทำอาหารเลี้ยงเพื่อนบ้าง ชงชาไทยแจกเพื่อนบ้าง ไปเที่ยวก็มีของฝากมาให้ อีกนิสัยที่จขกท.ได้มาคือ มีอะไรพูด อย่าเก็บเอาไว้ ไม่พูดออกมาใครจะรู้จะเข้าใจ บางทีคนไทยชอบเก็บไม่พูด
ส่วนเรื่องทุนที่ได้รวมค่าเครื่องบินขาไป และขากลับหลังเรียนจบ ค่าวีซ่า ค่าเทอม ค่าหอ และค่ากินอยู่ ค่าเทอมทางICCRจ่ายโดยตรงกับมหาลัย จขกท.อยู่หอมหาลัย ทางiccrจ่ายทางหอโดยตรง ปีแรกที่จขกท.ไป เงินเดือนทุนยังแค่6000รูปีต่อเดือนเท่านั้น ได้เป็นรายเดือน บางเดือนก็โอนเข้าบัญชีช้ามาก กินแกลบกันไป แต่พอปีที่2 ปรับนโยบาย ได้เดือนละ 20000รูปี ใช่ค่ะ ขึ้นมากกว่า3เท่า ปีแรกที่เที่ยวใช้เงินตัวเอง แต่ปีที่2เที่ยวหนักกว่าเก่าค่ะ แต่บอกตามตรงจขกท.เที่ยวหนักมาก เงินเดือนทุนอย่างเดียวเที่ยวไม่พอค่ะ ใช้เงินตัวเองเที่ยว
แต่ปีที่2ได้เงินเป็นไตรมาสค่ะ ก็ต้องบริหารจัดการกันให้พอ หอที่จขกท.อยู่ทำอาหารได้ หรือจะเลือกกินจากโรงอาหาหรหอก็ได้ แต่ก็จะเป็นอาหารเวจเท่านั้น เดือนละ2พันกว่ารู อาหารเช้ากลางวัน อาหารว่างและอาหารเย็น ถือว่าไม่แพงเลยค่ะ ค่าโทรศัพท์และเน็ตก็ถูกมากกก 84วัน500กว่ารูปี ได้เน็ตวันละ3GBเที่ยงคืนเริ่มใหม่ โทรฟรีไม่อั้น นอกนั้นก็ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไรเลย เหลือเที่ยวและช้อปปปิ้งเต็มที่ค่ะ
แนะนำเพิ่มเติมแอปสำหรับช้อป Amazon India, Myntra, Club factory, Nykaa, Jabong และ flipkart
แอปที่ควรมีสำหรับสายเที่ยว booking.com, Make my trip,Goibibo, OYO, Redbus จริงๆมีมากกว่านี้ แต่จขกท.ใช้ประจำคือเท่านี้
แอปอยากสั่งอาหารแบบไลน์แมนฟู้ดแพนด้าบ้านเราคือ Swiggy, Zomato, Ubereat
แอปUber, Ola ต้องมีติดโทรศัพท์ไว้เรียกแท็กซี่, ตุ๊กๆ หรือมอไซ
ซิมการ์ด จขกท.ใช้มาทั้ง Jio, Airtel และ โวดาโฟน ส่วนตัวแล้วแอร์เทลคือดีสุดเสถียรสุด แต่ละเจ้าราคาพอๆกันค่ะ เติมเงินถูกมากกกกก ประเทศไทยเรียกว่าแพงไปเลย แพ้คเกจเติมเงินที่อินเดีย 3GBต่อวัน เที่ยงคืนเริ่มนับหนึ่งใหม่ แพ้คเกจ84วันราคาเกือบๆ3ร้อยบาทเท่านั้นแถมโทรไม่จำกัด เน็ตเร็ว เล่นpubgเสถียร ดูเน้ตฟลิกคล่อง
นั่นแหละค่ะประสบการณ์การสมัคร ยันไปเรียนต่อ และการใช้ชีวิต หากใครมีคำถามก็ถามมากันได้เลยนะคะยินดีช่วยเหลือและตอบคำถามค่ะ หรือจะหลหังไมค์มาก็ได้
จขกท. ขอฝากชาแนลยูทูปไว้หน่อยนะคะ จำแชร์เรื่องราวประสบการณ์การใช้ชีวิตท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในอินเดียและต่างประเทศค่ะ
ฝากกดsubscibe ชาแนลของจขกท.ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
หรือติดตามภาพถ่ายท่องเที่ยวของงจขกท.ในอินสตาแกรมกันได้นะคะ (@nttn.m)
Instagram ของจขกท.ค่ะ