ผมอายุประมาณสามสิบปี ได้รับอิทธิพลแนวคิดการสงวนน้ำอสุจิมาจากหนังสือเรื่อง "เต๋าแห่งรักและกามารมณ์" (THE TAO OF LOVE AND SEX) ด้วยความเผอิญว่าช่วงหนึ่งผมทำงานหนักหักโหม จนไม่มีเวลาพักผ่อนทำกิจกรรมเอาน้ำรักออกเลย แต่ช่วงนั้นผมกลับรู้สึกกระฉับกระเฉงมาก และด้วยรูปแบบอาชีพผม เมื่อจบงานไปหนึ่งโปรเจค ผมสามารถทำรายได้และใช้ชีวิตแบบว่างๆ ได้อย่างสบายๆ โดยไม่ต้องคิดเรื่องงานให้กังวลใจ ในช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นเอง ผมอิ่มเอมเปรมใจไปกับการมีเซ็กส์แบบสนุกสุดขีด ชนิดที่เรียกว่า ยิงกระสุนออกไปวันละหลายๆๆๆๆรอบ โดยเข้าใจว่าการถึงจุดสุดยอดทุกๆรอบจะสามารถตอบโจทก์ความมันส์และบันเทิงให้ชีวิตได้ แต่เปล่าเลย ผมกลับเบื่อหน่าย ขี้หงุดหงิด และใจร้อนง่าย ถึงขั้นขนาดหมดอารมณ์ทางเพศไปเลย แม้มีสิ่งเร้ามาเย้ายวนก็ปลุกไม่ขึ้น หลังๆมาพาลจะเบื่อโลกไปด้วย
จากนั้น ด้วยความที่ผมชอบศึกษาประวัติศาสตร์จีน จึงสงสัยว่า ทำไมฮ่องเต้มีมเหสีรวมทั้งสนมนางในเป็นพัน เป็นหมื่นคน สามารถทรหดอดทนทำรักโดยไม่เบื่อหน่ายได้อย่างไร เริ่มแรกผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะจีนมีสมุนไพรยาโด๊ป ผมก็จัดสิครับ! สรรหาสารพัดของดีเท่าที่จะมีปัญญาจะหามาบำรุงบำเรอร่างกาย สุดท้ายก็เหมือนเดิม หลังจากผมยิงน้ำรักทิ้งไปมากๆเข้า ผมก็กลับมาเศร้าเบื่อหน่ายกับชีวิตอีก
จนกระทั่ง ผมไปอ่านเจอตำรากาลามสูตร หนึ่งในนั้นคือหนังสือที่ผมได้จั่วชื่อไปในตอนต้น จึงค้นพบว่า ผมเดินมาในวิถีแห่งการมีเซ็กส์ที่ผิดพลาดมาโดยตลอด เพราะที่ผ่านมาเท่ากับว่าผมสูญเสียพลังชีวิตจากการยิงน้ำรักแห่งสวรรค์ทิ้งขว้างไปอย่างไม่น่าให้อภัย! ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่า การสงวนน้ำอสุจิไว้โดยการทำรักแบบไม่หลั่ง จะสามารถทำรักได้วันละหลายสิบครั้ง ที่สำคัญคือ เมื่อฝึกฝนไปในระดับหนึ่ง เราสามารถไปถึงจุดสุดยอดได้โดยไม่ต้องหลั่งเลย!!! และภายหลังไปถึงจุดสุดยอดแล้ว ยังสามารถทำรักได้ต่อเนื่องไปได้อีกนับครั้งไม่ถ้วน จนกว่าอีกฝ่ายจะพ่ายไปเอง ซึ่งภาวะการไม่หลั่งนี้ไม่ใช่เป็นโรคไม่หลั่ง เพียงแต่เราใช้พลังลมปราณไปกดทับไม่ให้มันหลัง เพราะเราจะรู้ตัวได้ทันท่วงทีว่าน้ำกำลังจะเคลื่อน
ผมเรียกวิชาที่ฝึกฝนนี้ว่า "วิชาสงวนน้ำลายมังกร" ผมค้นพบกระบวนการถึงจุดสุดยอดของผู้ชายแบบชัดๆ มี 3 ขั้นตอน ด้วยกัน นั่นคือ "เสียว - หลั่ง - สะท้าน" ปัญหาว่า จะเสียวแล้วข้ามมาสะท้านเลยได้อย่างไร "โดยไม่หลั่ง" เพื่อสงวนพลังงานแห่งน้ำลายมังกรไว้ได้ คำตอบคือ ต้องฝึกฝนครับ ขั้นตอนของการฝึกมีตั้งแต่ การฝึกขมิบรูทวารวันละร้อยครั้งเป็นอย่างน้อย และค่อยๆฝึกไปจนได้วันละพันครั้ง ฝึกกำหนดควบคุมลมหายใจให้รู้เท่าทันก่อนน้ำจะเคลื่อน เพราะตามธรรมชาติเมื่อน้ำเคลื่อนแล้วจะย้อนกลับไม่ได้ การบีบสกัดกั้นไว้ไม่ให้น้ำออก (เมื่อน้ำเคลื่อนตัวแล้ว) เป็นวิธีที่ฝืนธรรมชาติ ไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าน้ำเคลื่อนออกมาแล้ว ต้องปล่อยให้ไหลไป เท่ากับว่า เราผ่านด่านไปไม่ได้ การฝึกฝนครั้งนั้นจึงล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
การจะฝึกให้สำเร็จ ต้องกำหนดจิตให้นิ่งว่า เมื่อน้ำจะเคลื่อนแล้ว 1) ให้ขมิบรูทวารอย่างแรงตามที่ฝึกมาแล้วอย่างดี 2) ให้ดึงสมาธิมาอยู่ที่ลมหายใจโดยเร็ว และรู้ตัวทั่วพร้อมตลอดเวลา 3) ดึงความสนใจไปทางอื่น เพื่อผ่อนอารมณ์อย่างรวดเร็ว วิธีที่ผมใช้คือ ใช้เล็บมือหัวแม่โป้งข้างขวาจิกเข้าที่ปลายนิ้วกลางและนิ้วชี้ขวาลึกๆอย่างแรง ค่อยๆจิกเล็บสลับนิ้วกัน 4) ผ่อนแรงสอดใส่ในกรณีร่วมรัก แล้วให้เล้าโลมอีกฝ่ายบนเรือนร่างแทน (หรือ ในกรณีที่ฝึกโดยการช่วยตัวเอง ให้ผ่อนจากการใช้มือชัก แล้วดึงมังกรให้ตึงจนสุดโคน) จากนั้น ให้เกร็ง ขมิบ และกระตุก จนเสียวสั่นสะท้านไปทั้งตัว
การฝึกฝนเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน ผลลัพธ์ก็รู้ได้เฉพาะตน จึงอยากทราบว่า มีใครฝึกฝนวิชาแนวนี้บ้างครับ สิ่งที่ผมได้รับจากการฝึกฝนคือ 1) ความคิดแจ่มใส กระชุ่มกระชวย พร้อมเสพย์ความสุขบนเรือนร่างสวยๆตามที่ใจปรารถนาได้ตลอดเวลา 2) นอนน้อยแต่หลับลึกมาก ผมเข้านอนก่อนสี่ทุ่ม และสามารถตื่นตีสาม ตีสี่ ได้อย่างสบายๆ โดยไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกแต่อย่างใด มีความตื่นตัวตลอด สามารถตื่นนอนแล้วร่วมรักได้ทันที ถ้าอีกฝ่ายต้องการ 3) ชีวิตมีเรื่องตื่นเต้นขึ้นเยอะมาก แค่ผมเดินบนท้องถนนเฉียดสายตาไปเจอสิ่งเย้ายวนหน่อยเดียวเข้าให้ ใจผมก็เต้นระรัวแล้ว เอาเป็นว่า เพียงแค่เห็นโคนขาอ่อนหรือเนินอกหน่อยเดียว เลือดผมก็สูบฉีดพุ่งพล่าน นั่นคือผลพลอยได้ข้อ 4) เลือดฝาดบนใบหน้าเปล่งปลั่งมาก บางครั้งถึงขั้นหน้าแดงระเรื่อ จนเลือดมันอยู่ตัวทำให้ใบหน้าผ่องใส 5) ข้อนี้อธิบายยากมาก ฝึกแรกๆ จะมีความต้องการทางเพศไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ อยากยิงน้ำทิ้งอย่างเดียว แต่ถ้าผ่านด่านนั้นมาได้ จะแปลกใจกับตัวเองอย่างยิ่งว่า ยิ่งสะสมน้ำมาก จิตจะยิ่งนิ่งอย่างบอกไม่ถูก จิตจะนิ่งแบบใสๆ ถึงขนาดผมสามารถสูดดมกลิ่นกายคนที่ผมพึงพอใจได้อย่างสุขสบายอารมณ์ไม่รู้จบ เชื่อหรือไม่ครับว่า เพียงแค่ผมคุยกับคนที่ผมพบแล้วสบอารมณ์ในระยะห่าง (ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือคนที่ผมได้พบปะ หรือแม้แต่พนักงานห้างร้านต่างๆ) ผมยังได้กลิ่นกายลึกลงไปภายในตัวพวกเขา โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลย ในวันๆหนึ่ง ที่ผมต้องติดต่องาน หรือออกไปพบปะผู้คนมากมาย หรือออกไปเที่ยวเล่น ช็อปปิ้ง ออกกำลังกาย หรือแม้แต่กระทั่งนั่งดื่มกาแฟในร้านนิ่งๆคนเดียว เพียงผมได้มองและสัมผัสกลิ่นกายคนที่ผมเสน่หา แม้จะเดินผ่านไปมา ผมสามารถดื่มด่ำเสพย์อารมณ์เสียวซ่านลึกๆได้โดยไม่รู้เบื่อ ทำให้ผมตื่นตัว และมีความกระตือรือร้นที่จะประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในชีวิตตลอดเวลา เพราะความสำเร็จจะนำมาซึ่งทุกสิ่งที่ผมปรารถนาจะเชยชมให้จงได้
กฎเหล็กสั้นๆ ของวิชานี้ คือ... ห้ามทำน้ำแตกครับ! ทั้งนี้ อาจผ่อนผันได้ หากทำรักร้อยครั้ง จะเสียน้ำรักสักครั้งหนึ่ง สำหรับผมมองว่า พลังเพศผู้ชายอุปมาเหมือนผึ้งตัวผู้ หากในช่วงชีวิตของมันได้ผสมพันธุ์กับนางพญาเพียงครั้งเดียว มันก็จะตายไปอย่างน่าเวทนา นั่นเพราะ... มันหมดพลังชีวิต! ยังมีสัตว์เพศผู้อีกเป็นจำนวนมากที่ต้องตายภายหลังผสมพันธุ์ ดังนั้น เมื่อการฝึกฝนของผมมาถึงขั้นนี้แล้ว จึงไม่อยากสูญเสียพลังน้ำรักแห่งสรวงสวรรค์ไปสักหยดเดียว!
จึงอยากได้รับการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์จากเพื่อนๆ ว่าท่านใดฝึกวิชานี้บ้าง และผลลัพธ์เป็นอย่างไรกันบ้าง หรือใครที่นำไปฝึกฝน เอาผลลัพธ์มารีวิวให้ฟังบ้างน่ะครับ😊
ขอให้ทุกท่านเสพย์สมอารมณ์หมาย.
ใครฝึกวิชาสงวนน้ำอสุจิบ้างครับ (ร่วมรักร้อยครั้งโดยไม่หลั่ง) ร่วมแบ่งปันประสบการณ์กันครับ
จากนั้น ด้วยความที่ผมชอบศึกษาประวัติศาสตร์จีน จึงสงสัยว่า ทำไมฮ่องเต้มีมเหสีรวมทั้งสนมนางในเป็นพัน เป็นหมื่นคน สามารถทรหดอดทนทำรักโดยไม่เบื่อหน่ายได้อย่างไร เริ่มแรกผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะจีนมีสมุนไพรยาโด๊ป ผมก็จัดสิครับ! สรรหาสารพัดของดีเท่าที่จะมีปัญญาจะหามาบำรุงบำเรอร่างกาย สุดท้ายก็เหมือนเดิม หลังจากผมยิงน้ำรักทิ้งไปมากๆเข้า ผมก็กลับมาเศร้าเบื่อหน่ายกับชีวิตอีก
จนกระทั่ง ผมไปอ่านเจอตำรากาลามสูตร หนึ่งในนั้นคือหนังสือที่ผมได้จั่วชื่อไปในตอนต้น จึงค้นพบว่า ผมเดินมาในวิถีแห่งการมีเซ็กส์ที่ผิดพลาดมาโดยตลอด เพราะที่ผ่านมาเท่ากับว่าผมสูญเสียพลังชีวิตจากการยิงน้ำรักแห่งสวรรค์ทิ้งขว้างไปอย่างไม่น่าให้อภัย! ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่า การสงวนน้ำอสุจิไว้โดยการทำรักแบบไม่หลั่ง จะสามารถทำรักได้วันละหลายสิบครั้ง ที่สำคัญคือ เมื่อฝึกฝนไปในระดับหนึ่ง เราสามารถไปถึงจุดสุดยอดได้โดยไม่ต้องหลั่งเลย!!! และภายหลังไปถึงจุดสุดยอดแล้ว ยังสามารถทำรักได้ต่อเนื่องไปได้อีกนับครั้งไม่ถ้วน จนกว่าอีกฝ่ายจะพ่ายไปเอง ซึ่งภาวะการไม่หลั่งนี้ไม่ใช่เป็นโรคไม่หลั่ง เพียงแต่เราใช้พลังลมปราณไปกดทับไม่ให้มันหลัง เพราะเราจะรู้ตัวได้ทันท่วงทีว่าน้ำกำลังจะเคลื่อน
ผมเรียกวิชาที่ฝึกฝนนี้ว่า "วิชาสงวนน้ำลายมังกร" ผมค้นพบกระบวนการถึงจุดสุดยอดของผู้ชายแบบชัดๆ มี 3 ขั้นตอน ด้วยกัน นั่นคือ "เสียว - หลั่ง - สะท้าน" ปัญหาว่า จะเสียวแล้วข้ามมาสะท้านเลยได้อย่างไร "โดยไม่หลั่ง" เพื่อสงวนพลังงานแห่งน้ำลายมังกรไว้ได้ คำตอบคือ ต้องฝึกฝนครับ ขั้นตอนของการฝึกมีตั้งแต่ การฝึกขมิบรูทวารวันละร้อยครั้งเป็นอย่างน้อย และค่อยๆฝึกไปจนได้วันละพันครั้ง ฝึกกำหนดควบคุมลมหายใจให้รู้เท่าทันก่อนน้ำจะเคลื่อน เพราะตามธรรมชาติเมื่อน้ำเคลื่อนแล้วจะย้อนกลับไม่ได้ การบีบสกัดกั้นไว้ไม่ให้น้ำออก (เมื่อน้ำเคลื่อนตัวแล้ว) เป็นวิธีที่ฝืนธรรมชาติ ไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าน้ำเคลื่อนออกมาแล้ว ต้องปล่อยให้ไหลไป เท่ากับว่า เราผ่านด่านไปไม่ได้ การฝึกฝนครั้งนั้นจึงล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
การจะฝึกให้สำเร็จ ต้องกำหนดจิตให้นิ่งว่า เมื่อน้ำจะเคลื่อนแล้ว 1) ให้ขมิบรูทวารอย่างแรงตามที่ฝึกมาแล้วอย่างดี 2) ให้ดึงสมาธิมาอยู่ที่ลมหายใจโดยเร็ว และรู้ตัวทั่วพร้อมตลอดเวลา 3) ดึงความสนใจไปทางอื่น เพื่อผ่อนอารมณ์อย่างรวดเร็ว วิธีที่ผมใช้คือ ใช้เล็บมือหัวแม่โป้งข้างขวาจิกเข้าที่ปลายนิ้วกลางและนิ้วชี้ขวาลึกๆอย่างแรง ค่อยๆจิกเล็บสลับนิ้วกัน 4) ผ่อนแรงสอดใส่ในกรณีร่วมรัก แล้วให้เล้าโลมอีกฝ่ายบนเรือนร่างแทน (หรือ ในกรณีที่ฝึกโดยการช่วยตัวเอง ให้ผ่อนจากการใช้มือชัก แล้วดึงมังกรให้ตึงจนสุดโคน) จากนั้น ให้เกร็ง ขมิบ และกระตุก จนเสียวสั่นสะท้านไปทั้งตัว
การฝึกฝนเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน ผลลัพธ์ก็รู้ได้เฉพาะตน จึงอยากทราบว่า มีใครฝึกฝนวิชาแนวนี้บ้างครับ สิ่งที่ผมได้รับจากการฝึกฝนคือ 1) ความคิดแจ่มใส กระชุ่มกระชวย พร้อมเสพย์ความสุขบนเรือนร่างสวยๆตามที่ใจปรารถนาได้ตลอดเวลา 2) นอนน้อยแต่หลับลึกมาก ผมเข้านอนก่อนสี่ทุ่ม และสามารถตื่นตีสาม ตีสี่ ได้อย่างสบายๆ โดยไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกแต่อย่างใด มีความตื่นตัวตลอด สามารถตื่นนอนแล้วร่วมรักได้ทันที ถ้าอีกฝ่ายต้องการ 3) ชีวิตมีเรื่องตื่นเต้นขึ้นเยอะมาก แค่ผมเดินบนท้องถนนเฉียดสายตาไปเจอสิ่งเย้ายวนหน่อยเดียวเข้าให้ ใจผมก็เต้นระรัวแล้ว เอาเป็นว่า เพียงแค่เห็นโคนขาอ่อนหรือเนินอกหน่อยเดียว เลือดผมก็สูบฉีดพุ่งพล่าน นั่นคือผลพลอยได้ข้อ 4) เลือดฝาดบนใบหน้าเปล่งปลั่งมาก บางครั้งถึงขั้นหน้าแดงระเรื่อ จนเลือดมันอยู่ตัวทำให้ใบหน้าผ่องใส 5) ข้อนี้อธิบายยากมาก ฝึกแรกๆ จะมีความต้องการทางเพศไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ อยากยิงน้ำทิ้งอย่างเดียว แต่ถ้าผ่านด่านนั้นมาได้ จะแปลกใจกับตัวเองอย่างยิ่งว่า ยิ่งสะสมน้ำมาก จิตจะยิ่งนิ่งอย่างบอกไม่ถูก จิตจะนิ่งแบบใสๆ ถึงขนาดผมสามารถสูดดมกลิ่นกายคนที่ผมพึงพอใจได้อย่างสุขสบายอารมณ์ไม่รู้จบ เชื่อหรือไม่ครับว่า เพียงแค่ผมคุยกับคนที่ผมพบแล้วสบอารมณ์ในระยะห่าง (ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือคนที่ผมได้พบปะ หรือแม้แต่พนักงานห้างร้านต่างๆ) ผมยังได้กลิ่นกายลึกลงไปภายในตัวพวกเขา โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลย ในวันๆหนึ่ง ที่ผมต้องติดต่องาน หรือออกไปพบปะผู้คนมากมาย หรือออกไปเที่ยวเล่น ช็อปปิ้ง ออกกำลังกาย หรือแม้แต่กระทั่งนั่งดื่มกาแฟในร้านนิ่งๆคนเดียว เพียงผมได้มองและสัมผัสกลิ่นกายคนที่ผมเสน่หา แม้จะเดินผ่านไปมา ผมสามารถดื่มด่ำเสพย์อารมณ์เสียวซ่านลึกๆได้โดยไม่รู้เบื่อ ทำให้ผมตื่นตัว และมีความกระตือรือร้นที่จะประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในชีวิตตลอดเวลา เพราะความสำเร็จจะนำมาซึ่งทุกสิ่งที่ผมปรารถนาจะเชยชมให้จงได้
กฎเหล็กสั้นๆ ของวิชานี้ คือ... ห้ามทำน้ำแตกครับ! ทั้งนี้ อาจผ่อนผันได้ หากทำรักร้อยครั้ง จะเสียน้ำรักสักครั้งหนึ่ง สำหรับผมมองว่า พลังเพศผู้ชายอุปมาเหมือนผึ้งตัวผู้ หากในช่วงชีวิตของมันได้ผสมพันธุ์กับนางพญาเพียงครั้งเดียว มันก็จะตายไปอย่างน่าเวทนา นั่นเพราะ... มันหมดพลังชีวิต! ยังมีสัตว์เพศผู้อีกเป็นจำนวนมากที่ต้องตายภายหลังผสมพันธุ์ ดังนั้น เมื่อการฝึกฝนของผมมาถึงขั้นนี้แล้ว จึงไม่อยากสูญเสียพลังน้ำรักแห่งสรวงสวรรค์ไปสักหยดเดียว!
จึงอยากได้รับการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์จากเพื่อนๆ ว่าท่านใดฝึกวิชานี้บ้าง และผลลัพธ์เป็นอย่างไรกันบ้าง หรือใครที่นำไปฝึกฝน เอาผลลัพธ์มารีวิวให้ฟังบ้างน่ะครับ😊
ขอให้ทุกท่านเสพย์สมอารมณ์หมาย.