สวัสดีชาวพันทิพย์ทุกท่าน
เนื่องจากเดือน 9 ปี 2019 ผมได้มีโอกาสเช่า Nissan Note E-Power ขับไปกางเตนท์ชมวิวฟูจิ
วันนี้จึงอยากมารีวิวเล็กๆ เกี่ยวกับอัตราสิ้นเปลืองและการขับขี่ของรถคันนี้
(เนื้อหาจะปนกันนิดๆระหว่าง เรื่องเที่ยว กับ เรื่องรถ นะครับ)
หนึ่งในวัตถุประสงค์ของทริปคือไปเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่ญี่ปุ่น ตอนนี้อยู่เมกาแต่กลับมาช่วงนี้พอดี
ไปถึงโตเกียว คุณเพื่อนก็มารับ แล้วพาผมกลับห้อง
ทีนี้ ผมเคยบ่นว่าอยากขับโกคาร์ท ก็เลยมีโอกาสได้ขับจริงๆเพราะเพื่อนจองให้เรียบร้อย
เช้าวันถัดมา
เราเดินทางไปยังสถานีรถเช่า เพื่อรับรถ Nissan Note E-Power ที่จองไว้
สนนราคาวันละ 8500 เยน รวม ETC (Easy Pass) ไม่รวมค่าทางด่วนและน้ำมัน
Note เวอร์ชั่นญี่ปุ่นจะมี 3 รุ่นหลักๆ (ราคาเริ่ม ล้านเยน)
S 1.9 X 2.1 4WD 2.6
ไม่นับรุ่นพิเศษ เช่น Nismo, Nismo S, NISMO Black Limited 2, MEDALIST, X V, AUTECH
ตรงนี้ขอไม่ลงรายละเอียด แต่ตามไปดูกันได้ทีนี่เลย
ใช้ International Driving License เช่ารถขับที่ญี่ปุ่นได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเคารพกฏจราจร
อธิบายแบบรวบรัด
E-Power ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหมุนล้อ ได้ไฟฟ้ามาจากแบต
ใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟ เมื่อแบตใกล้หมด หรือแบตจ่ายไฟไม่ทัน(ตอนเหยียบหนักๆ หรือความเร็วสูง)
เราออกเดินทางจากโตเกียว
ใช้ GPS ติดรถ เซตปลายทางง่ายๆ แค่ใส่เบอร์โทร
ขับสบาย เพราะรถมี Adaptive Cruise Control ที่เลือกใส่เพิ่มได้ในราคา 55,000 เยน และมีในรถเช่าคันนี้
รถปรับความเร็วให้อัตโนมัติ เร่งและเบรกเอง โดยไม่เกินความเร็วที่เราตั้งไว้
ระบบสามารถเหยียบเบรกได้จนรถหยุดนิ่ง คือมันสบายโคตรๆ เวลาขึ้นทางด่วนแล้วรถติด
ถ้าเมืองไทยอาจจะเอ๋อนิดๆตอนเจอพวกวิ่งเส้นทึบมาปาด
อัตราเร่ง 0-100 รถคันนี้ทำได้ใน 9.5 วิ+- เกินกว่านั้นไม่ได้ลองเพราะเกรงใจเพื่อนคนญี่ปุ่น
คันเร่งตอบสนองดีมาก กดเป็นมา ถือเป็นฟังก์ชั่นเบาะดูด
เกียร์ D มีโหมด B, Normal, Eco และ S
คันเกียร์ทรงแปลกๆ แต่พอชินแล้วใช้ง่าย ดึงเข้าตัว ดันไปหน้าR ดันไปหลังD(ทำซ้ำจะเป็นB) กดตรงกลางจะเป็น P
เครดิตรูปภาพ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.nissan-global.com/EN/DESIGN/NISSAN/DESIGNWORKS/PRODUCTIONCAR/NOTE_E-POWER/
คันเร่งแบบ E-Pedal ต้องทำความคุ้นเคยซักพัก แต่ถ้าชินแล้วจะรักเลย
โหมด Normal ให้อารมณ์เหมือนรถเกียร์ CVT ทั่วๆไป ไม่มีอาการเย่อ
ส่วน Eco และ Sport เมื่อเรายกเท้าออก รถจะหน่วงความเร็วให้โดยอัตโนมัติ เป็นการชาร์จแบตเตอรี่ การขับในเมืองก็ใช้เบรกน้อยมาก
ถ้าโหมด B ก็จะหน่วงมากเป็นพิเศษ เวลาลงเขาจะฟินสุดๆ แทบไม่ต้องแตะเบรก คันเร่งอย่างเดียวคุมรถได้ทุกจังหวะ
โหมด Sport คันเร่งตอบสนองดี แตะนิดเดียวแต่พุ่งแบบเวอร์มาก เรียกเล่นใหญ่คงไม่ผิด
แต่ถ้ากดคันเร่งจนมิด โหมดไหนอัตราเร่งไม่ต่างกัน
ช่วงที่ขับในเมือง
รถคันนี้พิสูจน์ตัวเองได้ดี ชอบที่สุดคือคันเร่ง แทบไม่ต้องโยกขาไปแป้นเบรกเลย
เหยียบ ยก 2 ท่ามาตรฐานก็เพียงพอ กับเมืองที่แยกไฟแดงถี่ๆแบบญี่ปุ่น
ถ้าได้ขับแล้วจะเข้าใจเลยว่ารถมันถูกออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ช่วงขึ้นทางด่วน ต่างจังหวัด
คันเร่ง E-Pedal ก็ตอบโจทย์ได้ดี แค่ขับนานๆอาจจะเกร็งเพราะต้องคุมน้ำหนักตอนถอนเท้าออกมาด้วย
แต่พอมี Adaptive Cruise Control เข้ามาทำงาน เท้าขวาก็ได้พักผ่อน
มีเตือนออกนอกเลน เตือนเบรกฉุกเฉิน แต่ทริปนี้ไม่ค่อยได้ใช้
จากระบบที่กล่าวมา ทำให้การเดินทางไกลสบายมากสำหรับคันนี้
แต่เสียงเครื่องยนต์ รู้สึกหงุดหงิดบางครั้ง เพราะบางช่วงทำงานเสียงดังมาก คิดว่าน่าจะประมาณ 3000-4000 รอบในเครื่องเบนซินทั่วไป บางจัวหวะก็เหมือนจะ 1000-1500 แต่ติดๆดับๆบ่อย
ทั้งนี้ ผมถามเพื่อนว่ารู้สึกยังไง เพื่อนบอกไม่รู้สึกรำคาญอะไร เรื่องนี้จึงขอไม่สรุปดีกว่า
(เหมือนผมคอยสังเกตเลยรำคาญ ส่วนเพื่อนนั้นไม่ได้สนใจเลยไม่รู้สึก)
มาถึงสถานที่ตั้งแคมป์ Koan Camping Ground ต้องเข้าไปชำระค่าธรรมเนียมก่อน
ผู้ใหญ่ คนละ 600 เยน
รถ 1 คัน 1000 เยน
เตนท์ 1000 เยน
เสร็จแล้วก็ขับรถลงไป
และนี่คือวิวที่ปรากฏตรงหน้า
พอหาที่ว่างได้ ก็ลงมือกางเตนท์จองที่ไว้
ของทั้งหมดที่นำมา ได้มาจากบริการ "เช่าผ่านเว็บ" ใช้เสร็จก็ส่งคืน
เนื่องจากต้องรีบเดินทางมาจองที่กางเตนท์ไม่ได้แวะไหน เลยต้องลงไปซื้อเนื้อมาย่าง
ขับไปซื้อเนื้อด้วยระยะทางไปกลับ 60 กิโลเมตร ผ่านถนนคดเคี้ยวไปมาแบบนี้
ช่วงการขับขี่ขึ้นลงเขา พวงมาลัยเอาไป 5 เต็มสิบ คันเร่ง 10 เต็มสิบ
เพราะคันเร่ง E-Pedal กับโหมด B ทำให้ผมประคองคันเร่งในโค้งได้ดีมาก ขับสนุก
เร่งและเบรกได้ด้วยแป้นเดียว รถก็ไม่ค่อยถูกกระชากเหมือนรถยนต์ที่ใช้เกียร์อัตโนมัติทั่วไป
การเปลี่ยนจังหวะของรถทั่วไป [[ เร่ง > ถอน(เอ็นจิ้นเบรก) > แตะเบรก > ลดเกียร์ > ปล่อยเบรก(ยังมีเอ็นจิ้นเบรก) > เร่ง > เพิ่มเกียร์]]
ทำให้เกิดการกระตุกของรถ ที่คนขับต้องพยายามขับให้นิ่มที่สุดเพื่อไม่ให้คนนั่งเมาอ้วก
แต่กับ E-Pedal โหมด B ทำให้ทุกอย่างสมูทและเนียนมาก ยก เหยียบ เท่านั้น พอ นานๆทีแตะเบรก
ส่วนพวงมาลัย เบาเกิน รู้สึกไม่มั่นใจอย่างมาก (แต่ดีในเมือง)
กลับขึ้นมาข้างบน
อันนี้คือบรรยากาศตอนปิ้งย่างยามเย็น
พามาดูที่อาบน้ำ
2 นาที 100 เยน นับเฉพาะตอนที่น้ำไหล กดหยุดได้
บรรยากาศตอนมืด กับ ISO 102,400 ฟังเสียงน้ำสบายๆทั้งคืน
ตื่นเช้ามาเมฆหมอกลง ลาก่อนฟูจิ วันนี้อดเจอ
ฝนตกถ่านเปียก แต่เราก็ไม่หยุดย่าง
การอาบน้ำตอนเช้า แนะนำให้ขึ้นมาที่โรงแรมด้านบน 500 เยน แชมพูสบู่ฟรี แช่น้ำร้อนได้อีก
(แต่ต้องแก้ผ้านะ)
เสร็จแล้วก็ขับกลับกรุงเทพ เอ้ย โตเกียว เส้นทางเดิม แวะเที่ยวนิดนึง
รถติดโซนโตเกียวเหมือนเดิม
อัตราสิ้นเปลือง
เราเดินทางไปทั้งหมด 350.8 กิโลเมตร
ผมขอแบ่งระยะทางเป็น
10% ในเมือง (รถไม่ติด แต่ไฟแดงวิบวับถี่ๆ)
50% ทางด่วนที่รถไม่ติด
20% ขึ้นเขา ลงเขา ชันๆ
20% ทางด่วนที่รถติด และทางต่างจังหวัดในเขตเมือง
Note E-Power กินน้ำมันไป 20.22 ลิตร
350.8 / 20.88
17.3 กิโลเมตรต่อลิตร
ถือว่าไม่เลว เพราะเส้นทางขาไปก็รถติด แถมขึ้นเขาลงเขา
แต่ถ้าถามใจผม ซัก 20โลลิตร น่าจะกำลังดีสำหรับทริปนี้
สรุป
ชอบ : ขับดี แรง ความเป็น E-Pedal ทำให้ขับง่าย ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในเมือง
ไม่ชอบ : แบตเล็กเกินไป เครื่องยนต์ติดขึ้นมาทำงานบ่อย และพวงมาลัยที่ไม่ค่อยคม
หวังว่าประสบการณ์ของผมจะมีประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านหลายๆท่าน
ถ้าสนใจอยากไปดูทริปเต็ม สามารถติดตามได้ที่คลิปนี้นะครับ
ครั้งหน้า ผมตั้งใจจะรีวิวรถทรงกล่อง Suzuki Solio แบบขับไปทำธุระในญี่ปุ่น และเช่ารถบ้านขับไปตั้งแคมป์ชมวิวฟูจิ ฝากติดตามด้วยนะครับ ขอบคุณผู้อ่านทักท่านครับ
[CR] ++รีวิว Nissan Note E-Power จากการขับไปกางเตนท์ชมฟูจิที่ญี่ปุ่น [การใช้งาน+อัตราสิ้นเปลือง]++
ถ้าสนใจอยากไปดูทริปเต็ม สามารถติดตามได้ที่คลิปนี้นะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้