ความเสี่ยง
อันดับแรก : รู้ๆกัน ได้ขอผ่อนผันส่งงบ 1/2563 และ ตลท ได้ประกาศใน "ราชกิจจานุเบกษา" ซึ่งไม่เคยเห็นมากก่อน จะรอด sp ฐานไม่ส่งงบ
หรือไม่ ไม่แล้วจะโดน sp เริ่ม 18/5/2563 ถึงแม้ตามหลักเกณฑ์จะกลับมาซื้อขายต่อเมื่อได้ส่งบครบถ้วนตามกำหนดเวลา จะเอาอะไร
แน่นอนไม่ได้ ตัวอย่าง เช่น earth, ifec ฯลฯ เป็นต้น ถึงขณะนี้ยังไม่สามารถกลับมาซื้อขายได้; หรือ
ไม่ว่าจะโดน sp หรือไม่ ก็ต้องเตรียมตัวรับคาามเสี่ยง
อันดับสอง : แผนฟื้นฟูการเงินไม่ต้องพึ่ง "ศาลล้มละล้าวกลาง" โดนกระทรวงการคลังจะเข้ามาอุ้น คำประกันเงินกู้ 50,000.00 ลานบาท ซึ่งตาม
ข่าวสามารถต่ออายุได้เพียง 2 - 3 เดือน ซึ่งต้องดำเนินเรื่องเพิ่มทุน 80,000.00 ล้านบาท ให้ผู้ถือหุ้นเดิม
กระทรวงการคลังถือหุ้น 51% ต้องใช้เงิน "80,000*0.51 = 40,800 ล้านบาท" ในสถานะการณ์ COVID-19 กระทรวงการคลังได้
กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทแจกประชาชนได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แล้วจะมีปัญญามาอุ้มซื้อหุ้นใหม่หรือ แล้ว ใครเขาจะเอาเงิน
"สึ่มื่นกว่าล้านบาท" มาเสี่ยงกับบริษัทที่ "ส่วนผู้ถือหุ้น" เป็น "สูญ" ยกเว้นต้องมีการฟื้นฟูลดทุนจดทะเบียนปัจจุบันให้มากที่สุด
เท่าที่จะมากได้ ย่อมจะมีผลกระทบผู้ถือหุ้นเดิมจะเหลือเท่าไร และ ต้องหาเงินมาร่วมด้วยช่วยกันต่อลมหายใจ thai; หรือ
อ้นดับสาม : กระทรวงการคลังจะอุ้น "ค้ำเงินกู้ 50,000 ล้านบาท" ต่อเมื่อได้รับอนุมติจาก "ศาลล้มละลายกลาง" รับแผนฟื้นฟู้ ซึ่งจะต้องได้รับ
เห็นดีเห็นชอบจากเจ้าหนี้ ซึ่งจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ งโดานนี้หนีไม่พ้น "ลดทุนจดทะเบียนโดยลดจำนวนหุ้น" เช่น ssi เป็นต้น และ
เพิ่มทุน กรรมของผู้รายย่อย(ผู้ถือหุ้น) ต้องเตรียมหาเงินมาช่วย thai โดนเต็มๆ
ท้ายสุดไม่ว่าจะออกมาวิธีไหน ผู้ถือหุ้นทั้งรายใหญ่และรายย่อย ได้รบผลกระทบอย่างรุนแรงแน่นอน ถึงกระนั้นไม่มีอะไรมากีดกั้นเล่นเก็ง (จนตัวเกร็ง) ตามความพอใจแต่ละท่าน ขอเพียงให้เล่นทันจ้าว เล่นและทำกำไรตามจ้าว อย่าเล่นเพลินถึงต้องไป "ร่วมด้วยช่วยกัน" ต่อชีวิต thai
ขอให้โชคดี อยู่รอดปลอดภัย
ด้วยความปรารถนาดี
THAI : วัดดวงจะโดน sp เริ่ม 18/5/2563 และ ความเสี่ยงที่จะตามมาแน่นอน
อันดับแรก : รู้ๆกัน ได้ขอผ่อนผันส่งงบ 1/2563 และ ตลท ได้ประกาศใน "ราชกิจจานุเบกษา" ซึ่งไม่เคยเห็นมากก่อน จะรอด sp ฐานไม่ส่งงบ
หรือไม่ ไม่แล้วจะโดน sp เริ่ม 18/5/2563 ถึงแม้ตามหลักเกณฑ์จะกลับมาซื้อขายต่อเมื่อได้ส่งบครบถ้วนตามกำหนดเวลา จะเอาอะไร
แน่นอนไม่ได้ ตัวอย่าง เช่น earth, ifec ฯลฯ เป็นต้น ถึงขณะนี้ยังไม่สามารถกลับมาซื้อขายได้; หรือ
ไม่ว่าจะโดน sp หรือไม่ ก็ต้องเตรียมตัวรับคาามเสี่ยง
อันดับสอง : แผนฟื้นฟูการเงินไม่ต้องพึ่ง "ศาลล้มละล้าวกลาง" โดนกระทรวงการคลังจะเข้ามาอุ้น คำประกันเงินกู้ 50,000.00 ลานบาท ซึ่งตาม
ข่าวสามารถต่ออายุได้เพียง 2 - 3 เดือน ซึ่งต้องดำเนินเรื่องเพิ่มทุน 80,000.00 ล้านบาท ให้ผู้ถือหุ้นเดิม
กระทรวงการคลังถือหุ้น 51% ต้องใช้เงิน "80,000*0.51 = 40,800 ล้านบาท" ในสถานะการณ์ COVID-19 กระทรวงการคลังได้
กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทแจกประชาชนได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แล้วจะมีปัญญามาอุ้มซื้อหุ้นใหม่หรือ แล้ว ใครเขาจะเอาเงิน
"สึ่มื่นกว่าล้านบาท" มาเสี่ยงกับบริษัทที่ "ส่วนผู้ถือหุ้น" เป็น "สูญ" ยกเว้นต้องมีการฟื้นฟูลดทุนจดทะเบียนปัจจุบันให้มากที่สุด
เท่าที่จะมากได้ ย่อมจะมีผลกระทบผู้ถือหุ้นเดิมจะเหลือเท่าไร และ ต้องหาเงินมาร่วมด้วยช่วยกันต่อลมหายใจ thai; หรือ
อ้นดับสาม : กระทรวงการคลังจะอุ้น "ค้ำเงินกู้ 50,000 ล้านบาท" ต่อเมื่อได้รับอนุมติจาก "ศาลล้มละลายกลาง" รับแผนฟื้นฟู้ ซึ่งจะต้องได้รับ
เห็นดีเห็นชอบจากเจ้าหนี้ ซึ่งจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ งโดานนี้หนีไม่พ้น "ลดทุนจดทะเบียนโดยลดจำนวนหุ้น" เช่น ssi เป็นต้น และ
เพิ่มทุน กรรมของผู้รายย่อย(ผู้ถือหุ้น) ต้องเตรียมหาเงินมาช่วย thai โดนเต็มๆ
ท้ายสุดไม่ว่าจะออกมาวิธีไหน ผู้ถือหุ้นทั้งรายใหญ่และรายย่อย ได้รบผลกระทบอย่างรุนแรงแน่นอน ถึงกระนั้นไม่มีอะไรมากีดกั้นเล่นเก็ง (จนตัวเกร็ง) ตามความพอใจแต่ละท่าน ขอเพียงให้เล่นทันจ้าว เล่นและทำกำไรตามจ้าว อย่าเล่นเพลินถึงต้องไป "ร่วมด้วยช่วยกัน" ต่อชีวิต thai
ขอให้โชคดี อยู่รอดปลอดภัย
ด้วยความปรารถนาดี