ช่วงนี้น้ำประปาเริ่มจะกร่อย(เค็มนิดๆ) สืบเนื่องจากหน้าแล้ง(น้ำเหนือลงมาเติมน้อย)
และน้ำทะเลหนุนสูง(อันนี้ผมคิดว่าเกี่ยวกับระดับน้ำทะเลที่ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้น จากภาวะโลกร้อน น้ำแข็งละลาย)
องค์การนาซาบอกว่าระดับน้ำทะเลเพิ่มเฉลี่ยขึ้นปีละ 3.3 มิลลิเมตร
ถ้าดูข้อมูลย้อนหลังเป็น 100 ปี จะเห็นว่ามันเพิ่มขึ้นแบบอัตราก้าวหน้า
ซึ่งอนาคต ปัญหาน้ำประปากร่อย คงจะหนักขึ้นไปอีก
บ้านใครอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา และใช้เครื่องกรองน้ำธรรมดา
ที่ไม่ใช่ RO (Reverse Osmosis) น่าจะสัมผัสได้ถึงความเค็มของน้ำประปา
รวมถึงบ้านผมด้วย รู้สึกได้ว่าน้ำรสชาติเปลี่ยนตั้งแต่ต้นเดือน จึงเอาเครื่องวัด TDS มาลองวัดได้ค่าการนำไฟฟ้า 1359 μs/cm. (ตอนเที่ยงของวันที่ 3/5/2563 อ.เมือง จ.สมุทรปราการ แต่ละช่วงของวันค่าไม่เท่ากัน ค่านี้น่าจะสูงสุดของวันนั้น)
ปกติช่วงที่ไม่มีปัญหา ค่าจะอยู่ที่ 300 - 400
รูปนี้ค่าของน้ำกลั่น แค่ 6 μs/cm.
ถ้าเป็นน้ำฝน เคยวัดได้ในช่วง 40 - 60 น้ำฝนในเมืองแบบนี้คงไม่สะอาดเท่าไหร่ ทั้งฝุ่นทั้งมลพิษ
ในเฟสบุ๊คของการประปานครหลวง
https://www.facebook.com/MWAthailand/
จะอัพเดทสถานการณ์ภาพรวมน้ำประปาของแต่ละพื้นที่ครับ ลองติดตามดู
ซึ่งช่วงนี้การประปาแนะนำให้หลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำประปาบางช่วงเวลา
กลุ่มเสี่ยง (เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย) ควรหลีกเลี่ยงการบริโภค
ผมจึงออกไปหาซื้อน้ำดื่มจากตู้กดน้ำ มาลองเทสดู ไม่เคยซื้อน้ำจากตู้กดน้ำมาก่อน
ตู้กดน้ำใกล้บ้านตู้แรก หัวตู้พิมพ์ว่า Reverse Osmosis หยอด 1 บาท ได้น้ำ 1.5 ลิตร
หัวจ่ายน้ำขึ้นสนิมเขรอะ มีสาหร่ายอยู่ข้างในรูจ่ายน้ำ ตอนน้ำพ่นออกมา สาหร่ายสีเขียวจะโพล่ออกมาเยอะ แต่ยังไม่หลุดออกมา
ค่าการนำไฟฟ้าลดลงครึ่งนึงเหลือ 678 μs/cm. นี่มัน RO ปลอมหรือว่าเขาไม่เปลี่ยนไส้กรองก็ไม่รู้
ไม่กล้าชิม เอาน้ำไปรดต้นไม้
ตู้ที่สอง ห่างจากตู้แรกไม่ถึง 100 เมตร ดูสะอาดดีแต่หัวตู้พิมพ์ว่า "พลังงานแม่เหล็ก น้ำสะอาดดุจธรรมชาติ" 1 บาทได้ 1.5 ลิตรเหมือนกัน
ชิมแล้วรสชาติใช้ได้ แต่ค่าการนำไฟฟ้าลดไปนิดเดียว
ตู้ที่สาม ต้องปั่นจักรยานออกจากซอยหมู่บ้านไปไกลกว่าเดิมมาก ตู้บอกลิตรละ 1 บาท แต่กดจริงได้มากกว่านั้น
ผมเอาถังน้ำ 6 ลิตรมา ล้วงกระเป๋าดันไม่เจอเหรียญบาท มีแต่เหรียญ 5 จึงหยอดไป 5 บาท
น้ำล้นถังมาก คิดว่าปริมาณน้ำที่จ่ายออกมาน่าจะ 7.5 ลิตร หรือ 1 บาท/1.5 ลิตร
หิ้วน้ำ ปั่นจักรยานกลับบ้านแบบทุลักทุเล ไม่ได้เอาจักรยานที่มีกระเป๋ามา
เอาเครื่องมาวัดก็ชื่นใจ ตู้กรองน้ำได้มาตรฐานจริง ค่าลดลงไปกว่า 95% เหลือ 59 μs/cm.
ชิมแล้วรสแปลกดี หรือว่าลิ้นผมชินกับน้ำกร่อยแล้ว
สงสัยคงจะได้ซื้อเครื่องกรองน้ำ RO เข้าสักวัน
ทดสอบความเค็มของน้ำดื่ม จากตู้กดน้ำแถวบ้าน
และน้ำทะเลหนุนสูง(อันนี้ผมคิดว่าเกี่ยวกับระดับน้ำทะเลที่ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้น จากภาวะโลกร้อน น้ำแข็งละลาย)
องค์การนาซาบอกว่าระดับน้ำทะเลเพิ่มเฉลี่ยขึ้นปีละ 3.3 มิลลิเมตร
ถ้าดูข้อมูลย้อนหลังเป็น 100 ปี จะเห็นว่ามันเพิ่มขึ้นแบบอัตราก้าวหน้า
ซึ่งอนาคต ปัญหาน้ำประปากร่อย คงจะหนักขึ้นไปอีก
บ้านใครอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา และใช้เครื่องกรองน้ำธรรมดา
ที่ไม่ใช่ RO (Reverse Osmosis) น่าจะสัมผัสได้ถึงความเค็มของน้ำประปา
รวมถึงบ้านผมด้วย รู้สึกได้ว่าน้ำรสชาติเปลี่ยนตั้งแต่ต้นเดือน จึงเอาเครื่องวัด TDS มาลองวัดได้ค่าการนำไฟฟ้า 1359 μs/cm. (ตอนเที่ยงของวันที่ 3/5/2563 อ.เมือง จ.สมุทรปราการ แต่ละช่วงของวันค่าไม่เท่ากัน ค่านี้น่าจะสูงสุดของวันนั้น)
ปกติช่วงที่ไม่มีปัญหา ค่าจะอยู่ที่ 300 - 400
รูปนี้ค่าของน้ำกลั่น แค่ 6 μs/cm.
ถ้าเป็นน้ำฝน เคยวัดได้ในช่วง 40 - 60 น้ำฝนในเมืองแบบนี้คงไม่สะอาดเท่าไหร่ ทั้งฝุ่นทั้งมลพิษ
ในเฟสบุ๊คของการประปานครหลวง https://www.facebook.com/MWAthailand/
จะอัพเดทสถานการณ์ภาพรวมน้ำประปาของแต่ละพื้นที่ครับ ลองติดตามดู
ซึ่งช่วงนี้การประปาแนะนำให้หลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำประปาบางช่วงเวลา
กลุ่มเสี่ยง (เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย) ควรหลีกเลี่ยงการบริโภค
ผมจึงออกไปหาซื้อน้ำดื่มจากตู้กดน้ำ มาลองเทสดู ไม่เคยซื้อน้ำจากตู้กดน้ำมาก่อน
ตู้กดน้ำใกล้บ้านตู้แรก หัวตู้พิมพ์ว่า Reverse Osmosis หยอด 1 บาท ได้น้ำ 1.5 ลิตร
หัวจ่ายน้ำขึ้นสนิมเขรอะ มีสาหร่ายอยู่ข้างในรูจ่ายน้ำ ตอนน้ำพ่นออกมา สาหร่ายสีเขียวจะโพล่ออกมาเยอะ แต่ยังไม่หลุดออกมา
ค่าการนำไฟฟ้าลดลงครึ่งนึงเหลือ 678 μs/cm. นี่มัน RO ปลอมหรือว่าเขาไม่เปลี่ยนไส้กรองก็ไม่รู้
ไม่กล้าชิม เอาน้ำไปรดต้นไม้
ตู้ที่สอง ห่างจากตู้แรกไม่ถึง 100 เมตร ดูสะอาดดีแต่หัวตู้พิมพ์ว่า "พลังงานแม่เหล็ก น้ำสะอาดดุจธรรมชาติ" 1 บาทได้ 1.5 ลิตรเหมือนกัน
ชิมแล้วรสชาติใช้ได้ แต่ค่าการนำไฟฟ้าลดไปนิดเดียว
ตู้ที่สาม ต้องปั่นจักรยานออกจากซอยหมู่บ้านไปไกลกว่าเดิมมาก ตู้บอกลิตรละ 1 บาท แต่กดจริงได้มากกว่านั้น
ผมเอาถังน้ำ 6 ลิตรมา ล้วงกระเป๋าดันไม่เจอเหรียญบาท มีแต่เหรียญ 5 จึงหยอดไป 5 บาท
น้ำล้นถังมาก คิดว่าปริมาณน้ำที่จ่ายออกมาน่าจะ 7.5 ลิตร หรือ 1 บาท/1.5 ลิตร
หิ้วน้ำ ปั่นจักรยานกลับบ้านแบบทุลักทุเล ไม่ได้เอาจักรยานที่มีกระเป๋ามา
เอาเครื่องมาวัดก็ชื่นใจ ตู้กรองน้ำได้มาตรฐานจริง ค่าลดลงไปกว่า 95% เหลือ 59 μs/cm.
ชิมแล้วรสแปลกดี หรือว่าลิ้นผมชินกับน้ำกร่อยแล้ว
สงสัยคงจะได้ซื้อเครื่องกรองน้ำ RO เข้าสักวัน