จุดประสงค์ ของการโพสต์กระทู้ในครั้งนี้เพื่อแชร์ประสบกาณ์ที่ได้ตรวจพบก้อนเนื้อที่มดลูกและที่หน้าอก ก้อนเนื้อของแต่ละคนในร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม้ได้ต้องการให้ทำตามเรานะ ฟังคุณหมอแนะนำจะดีกว่าค่า จุดประสงค์หลักและจุดประสงค์เดียวคือเผื่อจะช่วยผู้ที่กำลังรอนัดพบคุณหมอหรือรอผลตรวจ ให้สบายใจขึ้นได้บ้าง เพราะจากประสบการณ์โดยตรงที่เกิดขึ้นกับตัวเองเข้าใจว่าในระหว่างรอ เครียด และวิตกกังวลมาก
ประสบการณ์ที่เล่านี้ อาจผิดเพี้ยนไปบ้างเนื่องจากเหตุการณ์เกิดมาพอนานพอสมควร แต่ใจความจะประมาณนี้ค่า
วันที่ตรวจพบอายุ 31 ปีค่ะ
ปรกติ ประจำเดือนของเราจะมาทุก 28 วัน +/- 1 วัน
และจะมาประมาณ 5-7 วัน
เริ่มตรวจสุขภาพประจำปีที่ทุกปี ตั้งแต่ปี 2557 ที่โรงพยาบาลรัฐ รวมถึงตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วย
ก็ไม่มีอะไรผิดปรกติ
ปี 2560
เดือนเมษายน 14 วัน หลังจากประจำเดือนมาวันแรก (ซึ่งประจำเดือนมา 7 วัน แล้วก็หมดไปแล้ว) มีเลือดซึมเปือนกางเกงในออกมาอีก 1-2 วัน
เดือนมิถุนายน เลือกก็ซึมเปื่อนกางเกงในอีกครั้ง หลังจากประจำเดือนมาวันแรก 12 วัน ซึมเปื่อนกางเกงใน 1-2 วัน
ทั้ง 2 ครั้งไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าน่าจะเป็นเพราะนอนกับแฟน
แต่หลังจากนั้นเย็นวันที่ 13 ธันวาคม มีเลือดออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้เจอแฟนตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้ว จึงคิดว่าไม่น่าจะปรกติแล้ว เลยตัดสินใจไปพบคุณหมอที่คลีนิค เพราะไม่สบายใจ แล้วอยากทราบว่าเป็นเพราะอะไร น้องที่รู้จักกันแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่อำเภอใกล้เคียง เพราะคลีนิคยังเปิดอยู่ เมื่อไปพบแพทย์ คุณหมอใช้เครื่องอัลตราซาวด์ที่เป็นแท่งสอดเข้าตรวจข้างใน (ปรกติเคยตรวจแต่แบบอัลตราซาวด์ข้างนอกที่ทำบนท้องน้อย) หลังจากนั้นคุณหมดแจ้งว่า พบก้อนเนื้อที่มดลูกด้านขวา ขนาด 4 ซม. มีก้อนที่รังไข่ และ มีติ่งยื่นออกมาจากผนังมดลูกด้านใน คุณหมอ ถามเราว่ามีประกันไหม ไปพบคุณหมอที่โรงพยายาลเพื่อตรวจให้ละเอียดวกว่านี้ และ เพื่อนัดทำการรักษาต่อไปนะ โอ๊ย ที่นี้ละใจหายมาก หมอพูดมาหัวคิดไปแล้วว่าตายล่ะ ถ้าเป็นมะเร็งจะเงินที่ไหนรักษา ถามคุณหมอประจำอยู่โรงพยาบาลอะไรค่า คุณหมอบอกซื้อโรงพยาบาลมานี้ ไม่ไหวๆ แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าไม่มีเงินพอแน่
กลับถึงบ้านเลยโทรหาพี่สาวเพื่อปรึกษาเรื่องพบหมอที่ไหนดี (พอดีพี่สาวทำงานในวงการแพทย์เลยน่าจะแนะนำที่ที่คิดว่าดีสำหรับเราได้เมื่อเปรียบเทียบกับความรู้เรื่องนี้ของตัวเองพี่สาวน่าจะรู้มากกว่า)
พี่สาวแนะนำว่าไปตรวจที่โรงพยาบาลที่เรามีสิทธิประกันสังคมก่อน ก็ได้จะได้ทราบว่าก้อนเนื้อเป็นก้อนเนื้ออะไร ถ้าต้องผ่าก็ใช้สิทธิที่นั้นได้เลย จะได้ไม่ต้องเสียเงินเยอะ
วันรุ่งขึ้นไปพบแพทย์ คุณหมอท่านค่อนข้างจะมีอายุแล้วค่า ก็ตรวจภายในปรกติ คือเราไม้ได้แจ้งว่าไปคลีนิคมา อยากขอดูว่าคุณหมอจะพูดเหมือนกันไหม แจ้งว่าเรามีเลือดออกคุณหมอใช้คีมที่ใช้สำหรับตรวจภายในและใช้ไฟร่วมกับแว่นขยายส่องดู ปรากฏว่า คุณหมอเจอติ่งเนื่อยื่นออกมาจากผนังมดลูกประมาณ 1 ซม คุณหมอแจ้งว่า เลือดที่ซึมออกมาเพราะติ่งเนื้อชิ้นนี้แหละ หมอจะตัดออกให้เลยนะ หลังจากเราตอบตกลงคุณหมอก็ตัดออกเลยค่า แล้วแจ้งเราว่าอาจจะมีเลือดซึมออกอีกประมาณ 1-2 วันเล็กน้อย พร้อมกับเก็บตัวอย่างเพื่อเอาไปตรวจหาเชื้อมะเร็ง
คุณหมอตรวจเพิ่มเติมโดยใช้นิ่วสอดเค้าไปบวกใช้มืออีกข้างกดท้องน้อยเราลง และถามว่าเราเจ็บอะไรไหมเวลามีประจำเดือน มีเลือดออกเยอะไหม เราก็ตอบไปว่าปวดท้อง แต่ไม่มากแค่วันเดียววันแรกที่มีประจำเดือนแล้วก็หายปวด ประจำเดือนจะมามากแค่ประมาณ 3 วันแรก คุณหมอก็บอกว่ามดลูกไม่บวมนะ และไม่ได้พูดอะไรอีก บอกให้เรามาตรวจทุกปี พร้อมกับตรวจหาเขื้อมะเร็งด้วยนะทุกปี
เราก็เลยถามคุณหมอว่า คุณหมอมีอะไรในมดลูกอีกไหมค่า หนูไปตรวจคลีนิคมาคุณหมอบอกว่า เจอก้อนเนื้อ 4 ซม. ขอตรวจอัลตราซาว์ดเพิ่มได้ไหม จะได้สบายใจ คุณหมอแจ้งว่า ก็คุณไม่เจ็บไม่ปวดอะไรจะไปตรวจทำไมเสียเวลาค่าใช่จ่ายเปล่าๆ เลือดก็จะไม่ออกแล้ว ผมตัดติ่งที่ยื่นออกให้แล้ว พอถึงตอนนี้ ก็ไม่อยากนั่งอยู่ในห้องแล้วค่า เลยไม่ได้พูดอะไรอีก ในใจเลยอยากไปตรวจที่อื่นแล้ว
คุณหมอแจ้งให้ทราบว่ามารับผลตรวจมะเร็ง อีก 2 อาทิตย์ (วันที่ 28 ธันวาคม 2560)
วันที่ 14 ธันวาคม หลังจากคุยกับพี่สาว พี่แนะนำไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลรัฐที่กรุงเทพ เลยต้องไปกรุงเทพเพื่อไปพักก่อน 1 คืนจะได้ไปเข้าคิวทัน เปิดจองคิวตั้งแต่ 6.40-7.30 น.
วันที่ 15 ธันวาคม ไปเข้าคิวตั้งแต่ 6 โมงเช้าได้พบคุณหมอประมาณ 11 โมงเช้า คุณหมอและพยาบาลที่นี้พูดดีมากแอบประทับใจ
ตอนพบคุณหมอก็แจ้งอาการและแจ้งคุณหมอว่าไปคลีนิคและโรงพยาบาลหัวหินมา คุณหมอแจ้งว่ายังไงบ้าง คุณหมอทำอะไรกับเราไปแล้วบ้าง
คุณหมอก็ขออัลตราซาว์ด โดยเป็นเครื่องแบบสอดเข้ามดลูก
ผลคือพบ 1. เนื้องงอกในมดลูกขนาดประมาณ 4 ซม. 1 ซม. อีก 2 ก้อน
2. รังไข่ปรกติไม่พบถุงน้ำอะไร
3. พบฝ้าในมดลูก
สรุปตอนท้ายคุณหมอหมอนั่งอธิบาย พร้อมวาดรูปให้ฟังว่า
1. ก้อนเนื่องอกที่เรามีไม่ใช่มะเร็ง โอกาสที่จะเป็นมะเร็งคือ 1/หมื่น จะผ่าเลยไหม ถ้าไม่ผ่าจะนัดมาตรวจอีกที่ 1 เดือน
ถ้าครบ 1 เดือนไม่โตหรือโตช้า นัดอีก 3 เดือน 6 เดือน และทุกๆ 12 เดือน
2. ถุงน้ำที่พบว่า ปรกติถ้าถุงน้ำจะใหญ่หรือเล็กลง
3. ฝ้าในมดลูก หมอถามว่าเราเคยทำแท้งมาไหม ซึ่งเราไม่เคยทำแท้งไม่เคยมีลูก หมอเลยสันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะเอาชิ้นเนื้ออก
และคุณหมอแจ้งค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดว่า ถ้าผ่าแบบเปิดหน้าท้องราคาประมาณ 30,000 บาท ถ้าส่องกล่องราคาประมาณ 30,000-60,000 บาท (หมอนัดอีกที่วันที่ 10 มกราคม 2561)
วันที่ 28 ธันวาคม 2560
ไปรับผลตรวจมะเร็ง ที่โรงพยาบาลรัฐแถวบ้าน พบว่าไม่ได้เป็นเนื้อร้ายทั้งติ่งที่ตัดไป และไม่มีเชื้อมะเร็งปากมดลูก
วันที่ 10 มกราคม 2561
ไปพบคุณหมอที่โรงบาลรัฐที่กรุงเทพตามนัด ตรวจขนาดก้อนเนื้อพร้อมเอาผลมะเร็งจากโรงพยาบาลแถวบ้านไปให้ดูด้วย
เมื่อเข้าตรวจไม่ได้พบแพทย์ท่านเดิม แต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไร จริงๆ แล้วอยากฟังความคิดเห็นจากแพทย์หลายๆท่านมากกว่า ว่ามีความเห็นเหมือนกันไหม
เราก็เล่าประวัติเหมือนเดิมเลยตั้งแต่ไปตรวจคลีนิคจนถึงตรวงครั้งล่าสุด
เอาผลมะเร็งให้คุณหมอดู และคุณหมอขอคตวจภายใน
ผลคือ
1.ขนาดของก้อนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เป็น 4.3 ซม และ อีก 2 ก้อน ขนาด เท่า เดิม 1 ซม. คุณหมอแจ้งว่าก้อนอาจจะใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ไม่ถือว่าโตเร็ว และอาจเป็นผลจากการวัดขนาดของก้อนเนื้ออีกด้าน ซึ่งต้องเข้าใจว่าก้อนเนื้อนี้อาจจะไม่ใช้ลูกกลมก็ได้ ด้านที่วัดครั้งนี้อาจเป็นด้านที่ยาวกว่าครั้งที่แล้ว
คุณหมอแจ้งว่าถ้ายังไม่มีแผลนจะมีลูก ก็ยังไม่ต้องผ่าก็ได้ถ้าไม่ปวดมากหรือเลือดไม่ได้ออกเยอะ
(ส่วนนี้เราถามเพิ่มว่า ปวดมากและเลือดออกเยอะคือขนาดไหนค่า คุณหมอว่าคุณต้องจะเป็นลม ตัวซีด นั้นคือเรียกว่ามาก) ถ้าจะผ่าออกตอนนี้มันไม่มีเหตุ ซึ่งตอนนี้คุณดูแข็งแรงดี แต่ถ้าทำการผ่าตัด อะไรที่ตัดออก ต่อให้เย็บกลับ มันอาจจะไม่ดีไปกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ แล้วถ้าตัดออกก็มีโอกาสกลับมาเป็นอีกครั้งได้ แล้วถึงตอนนั้นคุณอยากมีลูก คุณก็อาจจะต้องมาผ่าอีกก่อนตั้งครรภ์ เราจึงตัดสินใจยังไม่ผ่าและติดตามผลไปเรื่อยๆ
2.รังไข่ปรกติ
3.ยังคงเห็นฝ้า ซึ่งหมอบอกไม่ได้ว่าคืออะไร เราบอกเราอยากรู้ คุณหมอแจ้งว่าต้องสอดกล้องเข้าไปดูค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 - 3,500 บาท จำตัวเลขแป๊ะๆ ไม่ได้ค่า โดยต้องทำวันที่ 10 หลังจากประจำเดือนมาวันแรก
วันที่นัดส่องกล่อง
ซึ่งไม่ใช่คุณหมอคนเดิมกับสองครั้งแรก กล่องเป็นแท่งขนาดเล็กน่าจะเล็กกว่าด้ามปากกา คือไม่กล้ามอง เห็บแว๊ปเดียว คุณหมอใช้คีมเปิดปากมดลูกแล้วใช้กล้องนี้สอดเข้าไป เราว่าบางคนไม่น่าจะเจ็บมาก และของเราเจ็บเพราะมดลูกเราพับเป็นรอนเหมือนหลังคาบ้านที่เป็นรอนๆค่ะ นึกออกไหมค่ะ แล้วฝ้านั้นอยู่ข้างในสุด คุณหมอต้องใช้แท่งนั้นหรืออะไรสักอย่างดันหรือเปิดทางให้กล้องผ่านผนังมดลูกที่พับไปมาเผื่อเข้าไปถึงข้างในสุด คือเรารู้สึกได้ว่ากล้องมันเย็น และเจ็บ(อาจเป็นเพราะมันแข็ง) เมื่อถึงข้างในสุดพบส่วนที่เป็นฝ้า คุณหมอแจ้งว่าผนังมดลูกส่วนนี้ไม่เรียบ งั้นเอาชิ้นเนื้อไปตรวจ คุณหมอแจ้งว่าเจ็บนิดหนึ่งนะคะ แล้วทำอะไรซักอย่างกับคุณพยาบาล เหมือนจะสอดเครื่องมือบางอย่างเข้าไปอีก คือเจ็บค่ะ แต่ไม่ถึงกับทนไม่ได้ คุณหมอถามตลอดเวลาว่าไหวไหม เราก็บอกวายังไหว แล้วก็รู้สึกเจ็บมาก จนต้องถามคุณหมอว่า คุณหมอทำอะไรค่า คุณหมอแจ้งว่าเสร็จแล้ว
แล้วนัดเพื่อมาพังผลอีกทีวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561
เป็นคุณหมอคคนใหม่อีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่คุณหมอคนเดิมกับสามครั้งแรก แจ้งผลว่าไม่ใช่เนื้อร้าย และแนะนำเหมือนกับคุณหมอทั้ง 3 ว่าไม่ต้องผ่า
หลังจากนั้นคุณหมอนักอีก 3 เดือน ตรงกับวันที่ 16 พฤษภาคม 2561
วันที่ 16 พฤษภาคม 2561
เราไปไม่ทันนัดคุณหมอนัดช่วงเช้า 09.00 - 12.00 เราไปถึง 12.30
คุณพยาบาลไม่รับคิวแล้ว
และไม่สามารถนัดคิดได้ใหม่เลย ต้องไปเข้าคิวตอนเช้าใหม่เองอีกครั้ง
วันที่ 11 กรกฎาคม 2561
ไปเข้าคิวแต่เช้า เป็นคุณหมอคคนใหม่อีกแล้ว ผลตรวจพบว่า
ขนาดของก้อนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เป็น 3.8 ซม และ อีก 2 ก้อน ขนาด เท่า เดิม 1 ซม. และดล็กลง 0.8 ซม.
ไม่ได้ถามเรื่องฝ้าเลย มัวแต่คุยเรื่องฉีดวัคฉีคป้องกันมะเร็จ HPV ที่ต้องฉีด 3 เข็ม เข็มละประมาณ 2,000 บาท จริงๆ แล้ววัคฉีนนี้เหมาะกับคนที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน เพราะจะไม่เคยได้รับเชื้อนี้มาก่อนอย่างแน่นอน
แต่กับคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์แต่ไม่เคยรับเชื้อนี้ก็ช่วยได้ เราไม่รู้ว่าเราเคยได้รับเชื้อนี้มาก่อนไหม แต่ฉีดไปเผื่อช่วยได้
แล้วคุณหมอก็นัดตรวจอีกที่ 6 เดือน
เรามาตรวจ 6 เดือนรอบนี้
ขนาดก้อนก็ยังเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย คุณหมอเลยจะนัดอีกที่ 1 ปี แต่เราบอกว่าขอตรวจอีกครั้ง 6 เดือนได้ไหมค่า เผื่อความสบายใจ คุณหมอก็นัดให้นะ เราก็มาตามนัดเพื่อมาตรวจทุกครั้ง และจะครบกำหนดอีกครั้งวันที่ 19 สิงหาคม 2563 ที่จะถึงนี้
สิ่งที่เราสังเกตุเห็นได้คือ ถ้าช่วงไหนเราอารมณ์ดี คือดีจริงๆ สบายใจ ขนาดก้อนเนื้อจะเล็กลง ไม่ได้ถึงกับมากมายอะไรแต่ก็คือเล็กลงแหละ อย่างน้อยก็ทำให้เรามีกำลังใจค่ะ
ไม่รู้คิดไปเองรึป่าว แต่ผลตรวจมันออกมาแบบนั้นเราเลยมานั่งดูว่าทำไม
อ่อเป็นช่วงที่อยู่กับแฟน เราคงสบายใจแหละ ซึ่งมันก็มีความสุขจริงๆ ช่วงนั้น
ก็อยากให้ทุกคนที่กำลังรอพบคุณหมอ พยายามไม่วิตกกังวลกับเรื่องนี้มาก พยายามไม่คิดไปไกล ใช่ค่ะว่าจะไม่ให้คิดเลยก็เป็นไปไม่ได้ คิดแค่ว่าถ้าผลออกมาแบบนี้ จะทำแบบไหนไว้ก็ได้ค่า จะรับมือยังไง
คือเราอยากให้เห็นว่าไม่ใช่ว่าผลมันจะออกมาในทางร้ายเสมอไป เราเคยได้ยินคุณหมอพูดว่าก้อนเนื้อพบในผู้หญิงบ่อยจนถือว่าเป็นเรื่องปรกติแล้ว แต่เราต้องคอยติดตามเค้านะ ว่าเค้าจะเปลี่ยนไปรึป่าว ถ้าเราติดตามตลอดๆ แบบนี้ ต่อให้เค้าเปลี่ยนเป็นเนื้อร้าย เรากว่าก็รักษาทันค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
วันหลังจะมาเล่าที่ตรวจพบก้อนเนื้อและซีสที่หน้าอกนะคะ ชีวิตอ่ะนะคะ มันต้องมีอะไรๆ เข้ามาอยู่เรื่อยเลย เฮ้อ! ไม่เป็นไรค่า สู้ๆค่า
แชร์ประสบการร์ตรวจพบ-ก้อนเนื้อที่มดลูกและที่หน้าอก
ประสบการณ์ที่เล่านี้ อาจผิดเพี้ยนไปบ้างเนื่องจากเหตุการณ์เกิดมาพอนานพอสมควร แต่ใจความจะประมาณนี้ค่า
วันที่ตรวจพบอายุ 31 ปีค่ะ
ปรกติ ประจำเดือนของเราจะมาทุก 28 วัน +/- 1 วัน
และจะมาประมาณ 5-7 วัน
เริ่มตรวจสุขภาพประจำปีที่ทุกปี ตั้งแต่ปี 2557 ที่โรงพยาบาลรัฐ รวมถึงตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วย
ก็ไม่มีอะไรผิดปรกติ
ปี 2560
เดือนเมษายน 14 วัน หลังจากประจำเดือนมาวันแรก (ซึ่งประจำเดือนมา 7 วัน แล้วก็หมดไปแล้ว) มีเลือดซึมเปือนกางเกงในออกมาอีก 1-2 วัน
เดือนมิถุนายน เลือกก็ซึมเปื่อนกางเกงในอีกครั้ง หลังจากประจำเดือนมาวันแรก 12 วัน ซึมเปื่อนกางเกงใน 1-2 วัน
ทั้ง 2 ครั้งไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าน่าจะเป็นเพราะนอนกับแฟน
แต่หลังจากนั้นเย็นวันที่ 13 ธันวาคม มีเลือดออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้เจอแฟนตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้ว จึงคิดว่าไม่น่าจะปรกติแล้ว เลยตัดสินใจไปพบคุณหมอที่คลีนิค เพราะไม่สบายใจ แล้วอยากทราบว่าเป็นเพราะอะไร น้องที่รู้จักกันแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่อำเภอใกล้เคียง เพราะคลีนิคยังเปิดอยู่ เมื่อไปพบแพทย์ คุณหมอใช้เครื่องอัลตราซาวด์ที่เป็นแท่งสอดเข้าตรวจข้างใน (ปรกติเคยตรวจแต่แบบอัลตราซาวด์ข้างนอกที่ทำบนท้องน้อย) หลังจากนั้นคุณหมดแจ้งว่า พบก้อนเนื้อที่มดลูกด้านขวา ขนาด 4 ซม. มีก้อนที่รังไข่ และ มีติ่งยื่นออกมาจากผนังมดลูกด้านใน คุณหมอ ถามเราว่ามีประกันไหม ไปพบคุณหมอที่โรงพยายาลเพื่อตรวจให้ละเอียดวกว่านี้ และ เพื่อนัดทำการรักษาต่อไปนะ โอ๊ย ที่นี้ละใจหายมาก หมอพูดมาหัวคิดไปแล้วว่าตายล่ะ ถ้าเป็นมะเร็งจะเงินที่ไหนรักษา ถามคุณหมอประจำอยู่โรงพยาบาลอะไรค่า คุณหมอบอกซื้อโรงพยาบาลมานี้ ไม่ไหวๆ แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าไม่มีเงินพอแน่
กลับถึงบ้านเลยโทรหาพี่สาวเพื่อปรึกษาเรื่องพบหมอที่ไหนดี (พอดีพี่สาวทำงานในวงการแพทย์เลยน่าจะแนะนำที่ที่คิดว่าดีสำหรับเราได้เมื่อเปรียบเทียบกับความรู้เรื่องนี้ของตัวเองพี่สาวน่าจะรู้มากกว่า)
พี่สาวแนะนำว่าไปตรวจที่โรงพยาบาลที่เรามีสิทธิประกันสังคมก่อน ก็ได้จะได้ทราบว่าก้อนเนื้อเป็นก้อนเนื้ออะไร ถ้าต้องผ่าก็ใช้สิทธิที่นั้นได้เลย จะได้ไม่ต้องเสียเงินเยอะ
วันรุ่งขึ้นไปพบแพทย์ คุณหมอท่านค่อนข้างจะมีอายุแล้วค่า ก็ตรวจภายในปรกติ คือเราไม้ได้แจ้งว่าไปคลีนิคมา อยากขอดูว่าคุณหมอจะพูดเหมือนกันไหม แจ้งว่าเรามีเลือดออกคุณหมอใช้คีมที่ใช้สำหรับตรวจภายในและใช้ไฟร่วมกับแว่นขยายส่องดู ปรากฏว่า คุณหมอเจอติ่งเนื่อยื่นออกมาจากผนังมดลูกประมาณ 1 ซม คุณหมอแจ้งว่า เลือดที่ซึมออกมาเพราะติ่งเนื้อชิ้นนี้แหละ หมอจะตัดออกให้เลยนะ หลังจากเราตอบตกลงคุณหมอก็ตัดออกเลยค่า แล้วแจ้งเราว่าอาจจะมีเลือดซึมออกอีกประมาณ 1-2 วันเล็กน้อย พร้อมกับเก็บตัวอย่างเพื่อเอาไปตรวจหาเชื้อมะเร็ง
คุณหมอตรวจเพิ่มเติมโดยใช้นิ่วสอดเค้าไปบวกใช้มืออีกข้างกดท้องน้อยเราลง และถามว่าเราเจ็บอะไรไหมเวลามีประจำเดือน มีเลือดออกเยอะไหม เราก็ตอบไปว่าปวดท้อง แต่ไม่มากแค่วันเดียววันแรกที่มีประจำเดือนแล้วก็หายปวด ประจำเดือนจะมามากแค่ประมาณ 3 วันแรก คุณหมอก็บอกว่ามดลูกไม่บวมนะ และไม่ได้พูดอะไรอีก บอกให้เรามาตรวจทุกปี พร้อมกับตรวจหาเขื้อมะเร็งด้วยนะทุกปี
เราก็เลยถามคุณหมอว่า คุณหมอมีอะไรในมดลูกอีกไหมค่า หนูไปตรวจคลีนิคมาคุณหมอบอกว่า เจอก้อนเนื้อ 4 ซม. ขอตรวจอัลตราซาว์ดเพิ่มได้ไหม จะได้สบายใจ คุณหมอแจ้งว่า ก็คุณไม่เจ็บไม่ปวดอะไรจะไปตรวจทำไมเสียเวลาค่าใช่จ่ายเปล่าๆ เลือดก็จะไม่ออกแล้ว ผมตัดติ่งที่ยื่นออกให้แล้ว พอถึงตอนนี้ ก็ไม่อยากนั่งอยู่ในห้องแล้วค่า เลยไม่ได้พูดอะไรอีก ในใจเลยอยากไปตรวจที่อื่นแล้ว
คุณหมอแจ้งให้ทราบว่ามารับผลตรวจมะเร็ง อีก 2 อาทิตย์ (วันที่ 28 ธันวาคม 2560)
วันที่ 14 ธันวาคม หลังจากคุยกับพี่สาว พี่แนะนำไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลรัฐที่กรุงเทพ เลยต้องไปกรุงเทพเพื่อไปพักก่อน 1 คืนจะได้ไปเข้าคิวทัน เปิดจองคิวตั้งแต่ 6.40-7.30 น.
วันที่ 15 ธันวาคม ไปเข้าคิวตั้งแต่ 6 โมงเช้าได้พบคุณหมอประมาณ 11 โมงเช้า คุณหมอและพยาบาลที่นี้พูดดีมากแอบประทับใจ
ตอนพบคุณหมอก็แจ้งอาการและแจ้งคุณหมอว่าไปคลีนิคและโรงพยาบาลหัวหินมา คุณหมอแจ้งว่ายังไงบ้าง คุณหมอทำอะไรกับเราไปแล้วบ้าง
คุณหมอก็ขออัลตราซาว์ด โดยเป็นเครื่องแบบสอดเข้ามดลูก
ผลคือพบ 1. เนื้องงอกในมดลูกขนาดประมาณ 4 ซม. 1 ซม. อีก 2 ก้อน
2. รังไข่ปรกติไม่พบถุงน้ำอะไร
3. พบฝ้าในมดลูก
สรุปตอนท้ายคุณหมอหมอนั่งอธิบาย พร้อมวาดรูปให้ฟังว่า
1. ก้อนเนื่องอกที่เรามีไม่ใช่มะเร็ง โอกาสที่จะเป็นมะเร็งคือ 1/หมื่น จะผ่าเลยไหม ถ้าไม่ผ่าจะนัดมาตรวจอีกที่ 1 เดือน
ถ้าครบ 1 เดือนไม่โตหรือโตช้า นัดอีก 3 เดือน 6 เดือน และทุกๆ 12 เดือน
2. ถุงน้ำที่พบว่า ปรกติถ้าถุงน้ำจะใหญ่หรือเล็กลง
3. ฝ้าในมดลูก หมอถามว่าเราเคยทำแท้งมาไหม ซึ่งเราไม่เคยทำแท้งไม่เคยมีลูก หมอเลยสันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะเอาชิ้นเนื้ออก
และคุณหมอแจ้งค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดว่า ถ้าผ่าแบบเปิดหน้าท้องราคาประมาณ 30,000 บาท ถ้าส่องกล่องราคาประมาณ 30,000-60,000 บาท (หมอนัดอีกที่วันที่ 10 มกราคม 2561)
วันที่ 28 ธันวาคม 2560
ไปรับผลตรวจมะเร็ง ที่โรงพยาบาลรัฐแถวบ้าน พบว่าไม่ได้เป็นเนื้อร้ายทั้งติ่งที่ตัดไป และไม่มีเชื้อมะเร็งปากมดลูก
วันที่ 10 มกราคม 2561
ไปพบคุณหมอที่โรงบาลรัฐที่กรุงเทพตามนัด ตรวจขนาดก้อนเนื้อพร้อมเอาผลมะเร็งจากโรงพยาบาลแถวบ้านไปให้ดูด้วย
เมื่อเข้าตรวจไม่ได้พบแพทย์ท่านเดิม แต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไร จริงๆ แล้วอยากฟังความคิดเห็นจากแพทย์หลายๆท่านมากกว่า ว่ามีความเห็นเหมือนกันไหม
เราก็เล่าประวัติเหมือนเดิมเลยตั้งแต่ไปตรวจคลีนิคจนถึงตรวงครั้งล่าสุด
เอาผลมะเร็งให้คุณหมอดู และคุณหมอขอคตวจภายใน
ผลคือ
1.ขนาดของก้อนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เป็น 4.3 ซม และ อีก 2 ก้อน ขนาด เท่า เดิม 1 ซม. คุณหมอแจ้งว่าก้อนอาจจะใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ไม่ถือว่าโตเร็ว และอาจเป็นผลจากการวัดขนาดของก้อนเนื้ออีกด้าน ซึ่งต้องเข้าใจว่าก้อนเนื้อนี้อาจจะไม่ใช้ลูกกลมก็ได้ ด้านที่วัดครั้งนี้อาจเป็นด้านที่ยาวกว่าครั้งที่แล้ว
คุณหมอแจ้งว่าถ้ายังไม่มีแผลนจะมีลูก ก็ยังไม่ต้องผ่าก็ได้ถ้าไม่ปวดมากหรือเลือดไม่ได้ออกเยอะ
(ส่วนนี้เราถามเพิ่มว่า ปวดมากและเลือดออกเยอะคือขนาดไหนค่า คุณหมอว่าคุณต้องจะเป็นลม ตัวซีด นั้นคือเรียกว่ามาก) ถ้าจะผ่าออกตอนนี้มันไม่มีเหตุ ซึ่งตอนนี้คุณดูแข็งแรงดี แต่ถ้าทำการผ่าตัด อะไรที่ตัดออก ต่อให้เย็บกลับ มันอาจจะไม่ดีไปกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ แล้วถ้าตัดออกก็มีโอกาสกลับมาเป็นอีกครั้งได้ แล้วถึงตอนนั้นคุณอยากมีลูก คุณก็อาจจะต้องมาผ่าอีกก่อนตั้งครรภ์ เราจึงตัดสินใจยังไม่ผ่าและติดตามผลไปเรื่อยๆ
2.รังไข่ปรกติ
3.ยังคงเห็นฝ้า ซึ่งหมอบอกไม่ได้ว่าคืออะไร เราบอกเราอยากรู้ คุณหมอแจ้งว่าต้องสอดกล้องเข้าไปดูค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 - 3,500 บาท จำตัวเลขแป๊ะๆ ไม่ได้ค่า โดยต้องทำวันที่ 10 หลังจากประจำเดือนมาวันแรก
วันที่นัดส่องกล่อง
ซึ่งไม่ใช่คุณหมอคนเดิมกับสองครั้งแรก กล่องเป็นแท่งขนาดเล็กน่าจะเล็กกว่าด้ามปากกา คือไม่กล้ามอง เห็บแว๊ปเดียว คุณหมอใช้คีมเปิดปากมดลูกแล้วใช้กล้องนี้สอดเข้าไป เราว่าบางคนไม่น่าจะเจ็บมาก และของเราเจ็บเพราะมดลูกเราพับเป็นรอนเหมือนหลังคาบ้านที่เป็นรอนๆค่ะ นึกออกไหมค่ะ แล้วฝ้านั้นอยู่ข้างในสุด คุณหมอต้องใช้แท่งนั้นหรืออะไรสักอย่างดันหรือเปิดทางให้กล้องผ่านผนังมดลูกที่พับไปมาเผื่อเข้าไปถึงข้างในสุด คือเรารู้สึกได้ว่ากล้องมันเย็น และเจ็บ(อาจเป็นเพราะมันแข็ง) เมื่อถึงข้างในสุดพบส่วนที่เป็นฝ้า คุณหมอแจ้งว่าผนังมดลูกส่วนนี้ไม่เรียบ งั้นเอาชิ้นเนื้อไปตรวจ คุณหมอแจ้งว่าเจ็บนิดหนึ่งนะคะ แล้วทำอะไรซักอย่างกับคุณพยาบาล เหมือนจะสอดเครื่องมือบางอย่างเข้าไปอีก คือเจ็บค่ะ แต่ไม่ถึงกับทนไม่ได้ คุณหมอถามตลอดเวลาว่าไหวไหม เราก็บอกวายังไหว แล้วก็รู้สึกเจ็บมาก จนต้องถามคุณหมอว่า คุณหมอทำอะไรค่า คุณหมอแจ้งว่าเสร็จแล้ว
แล้วนัดเพื่อมาพังผลอีกทีวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561
เป็นคุณหมอคคนใหม่อีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่คุณหมอคนเดิมกับสามครั้งแรก แจ้งผลว่าไม่ใช่เนื้อร้าย และแนะนำเหมือนกับคุณหมอทั้ง 3 ว่าไม่ต้องผ่า
หลังจากนั้นคุณหมอนักอีก 3 เดือน ตรงกับวันที่ 16 พฤษภาคม 2561
วันที่ 16 พฤษภาคม 2561
เราไปไม่ทันนัดคุณหมอนัดช่วงเช้า 09.00 - 12.00 เราไปถึง 12.30
คุณพยาบาลไม่รับคิวแล้ว
และไม่สามารถนัดคิดได้ใหม่เลย ต้องไปเข้าคิวตอนเช้าใหม่เองอีกครั้ง
วันที่ 11 กรกฎาคม 2561
ไปเข้าคิวแต่เช้า เป็นคุณหมอคคนใหม่อีกแล้ว ผลตรวจพบว่า
ขนาดของก้อนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เป็น 3.8 ซม และ อีก 2 ก้อน ขนาด เท่า เดิม 1 ซม. และดล็กลง 0.8 ซม.
ไม่ได้ถามเรื่องฝ้าเลย มัวแต่คุยเรื่องฉีดวัคฉีคป้องกันมะเร็จ HPV ที่ต้องฉีด 3 เข็ม เข็มละประมาณ 2,000 บาท จริงๆ แล้ววัคฉีนนี้เหมาะกับคนที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน เพราะจะไม่เคยได้รับเชื้อนี้มาก่อนอย่างแน่นอน
แต่กับคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์แต่ไม่เคยรับเชื้อนี้ก็ช่วยได้ เราไม่รู้ว่าเราเคยได้รับเชื้อนี้มาก่อนไหม แต่ฉีดไปเผื่อช่วยได้
แล้วคุณหมอก็นัดตรวจอีกที่ 6 เดือน
เรามาตรวจ 6 เดือนรอบนี้
ขนาดก้อนก็ยังเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย คุณหมอเลยจะนัดอีกที่ 1 ปี แต่เราบอกว่าขอตรวจอีกครั้ง 6 เดือนได้ไหมค่า เผื่อความสบายใจ คุณหมอก็นัดให้นะ เราก็มาตามนัดเพื่อมาตรวจทุกครั้ง และจะครบกำหนดอีกครั้งวันที่ 19 สิงหาคม 2563 ที่จะถึงนี้
สิ่งที่เราสังเกตุเห็นได้คือ ถ้าช่วงไหนเราอารมณ์ดี คือดีจริงๆ สบายใจ ขนาดก้อนเนื้อจะเล็กลง ไม่ได้ถึงกับมากมายอะไรแต่ก็คือเล็กลงแหละ อย่างน้อยก็ทำให้เรามีกำลังใจค่ะ
ไม่รู้คิดไปเองรึป่าว แต่ผลตรวจมันออกมาแบบนั้นเราเลยมานั่งดูว่าทำไม
อ่อเป็นช่วงที่อยู่กับแฟน เราคงสบายใจแหละ ซึ่งมันก็มีความสุขจริงๆ ช่วงนั้น
ก็อยากให้ทุกคนที่กำลังรอพบคุณหมอ พยายามไม่วิตกกังวลกับเรื่องนี้มาก พยายามไม่คิดไปไกล ใช่ค่ะว่าจะไม่ให้คิดเลยก็เป็นไปไม่ได้ คิดแค่ว่าถ้าผลออกมาแบบนี้ จะทำแบบไหนไว้ก็ได้ค่า จะรับมือยังไง
คือเราอยากให้เห็นว่าไม่ใช่ว่าผลมันจะออกมาในทางร้ายเสมอไป เราเคยได้ยินคุณหมอพูดว่าก้อนเนื้อพบในผู้หญิงบ่อยจนถือว่าเป็นเรื่องปรกติแล้ว แต่เราต้องคอยติดตามเค้านะ ว่าเค้าจะเปลี่ยนไปรึป่าว ถ้าเราติดตามตลอดๆ แบบนี้ ต่อให้เค้าเปลี่ยนเป็นเนื้อร้าย เรากว่าก็รักษาทันค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
วันหลังจะมาเล่าที่ตรวจพบก้อนเนื้อและซีสที่หน้าอกนะคะ ชีวิตอ่ะนะคะ มันต้องมีอะไรๆ เข้ามาอยู่เรื่อยเลย เฮ้อ! ไม่เป็นไรค่า สู้ๆค่า