'
บิ๊กแป๊ะ'เรียกประชุมคดียิงเลเซอร์ รอง'สุวัฒน์'เตือนอย่าทำให้เกิดความขัดแย้งของคนในชาติ
12 พ.ค.63- พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าจากกรณีปรากฎมีการฉายข้อความปริศนาด้วยลำแสงเลเซอร์ในหลายสถานที่เช่น อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย , วัดปทุมวนาราม , แยกราชประสงค์ , กระทรวงกลาโหม และบางจุดมีการฉายภาพเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 พร้อมกับระบุข้อความผ่านแสงเลเซอร์ว่า "ตามหาความจริง" เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.เมธี รักพันธ์ ผู้บังคับการตำรวจนคครบาล 6 (ผบก.น.6) เข้าร่วมประชุมด้วย โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ
โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. กล่าวก่อนประชุมว่า ฝากไปยังกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุ หากจะทำอะไรก็ต้องระวัง อย่าทำให้เป็นความขัดแย้งของคนในชาติ ซึ่งขณะนี้ฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดใดบ้าง ทั้งนี้ตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีการเตรียมเรียกบุคคลใดเข้ามาสอบปากคำ
มีรายงานว่าเนื่องจากมีการยิงเลเซอร์ในหลายท้องที่ของนครบาล พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. จึงสั่งการให้ศูนย์สืบสวน บช.น. เป็นแม่งานในการรวบรวมพยานหลักฐาน และพิจารณาว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายความผิดใด
มีรายงานว่าเนื่องจากมีการยิงเลเซอร์ในหลายท้องที่ของนครบาล พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. จึงสั่งการให้ศูนย์สืบสวน บช.น. เป็นแม่งานในการรวบรวมพยานหลักฐาน และพิจารณาว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายความผิดใด
https://www.thaipost.net/main/detail/65715
ประชาชนทราบดีค่ะ ว่าเรื่องที่มายิงเลเซอร์ มีความเป็นมาอย่างไร
ความจริงคือ...มีแต่คนหนีคดี ติดคุกเพราะคดีความที่ก่อเรื่องไว้
ความจริงคือการกล่าวหาว่ารัฐบาลคุณอภิสิทธิ์☠ประชาชน
สุดท้ายขึ้นศาลคุณอภิสิทธิ์ชนะคดี
ลุงบอกคนไทยจำเป็นต้องร่วมมือกันในสถานการณ์วิกฤตโควิด19
อย่าไปเอาเรื่องอื่นเข้ามาให้วุ่นวาย
ประเทศไทยอย่าให้ใคร 🔥 อีกค่ะ
🎁🎁🎁มาลาริน/ขอให้ตำรวจเอาจริงเรื่องนี้ค่ะ...ตามหาความจริงหรือกำลังบิดเบือนความจริงของกลุ่มก้าวกลวง
12 พ.ค.63- พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าจากกรณีปรากฎมีการฉายข้อความปริศนาด้วยลำแสงเลเซอร์ในหลายสถานที่เช่น อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย , วัดปทุมวนาราม , แยกราชประสงค์ , กระทรวงกลาโหม และบางจุดมีการฉายภาพเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 พร้อมกับระบุข้อความผ่านแสงเลเซอร์ว่า "ตามหาความจริง" เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.เมธี รักพันธ์ ผู้บังคับการตำรวจนคครบาล 6 (ผบก.น.6) เข้าร่วมประชุมด้วย โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ
โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. กล่าวก่อนประชุมว่า ฝากไปยังกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุ หากจะทำอะไรก็ต้องระวัง อย่าทำให้เป็นความขัดแย้งของคนในชาติ ซึ่งขณะนี้ฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดใดบ้าง ทั้งนี้ตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีการเตรียมเรียกบุคคลใดเข้ามาสอบปากคำ
มีรายงานว่าเนื่องจากมีการยิงเลเซอร์ในหลายท้องที่ของนครบาล พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. จึงสั่งการให้ศูนย์สืบสวน บช.น. เป็นแม่งานในการรวบรวมพยานหลักฐาน และพิจารณาว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายความผิดใด
มีรายงานว่าเนื่องจากมีการยิงเลเซอร์ในหลายท้องที่ของนครบาล พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. จึงสั่งการให้ศูนย์สืบสวน บช.น. เป็นแม่งานในการรวบรวมพยานหลักฐาน และพิจารณาว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายความผิดใด
https://www.thaipost.net/main/detail/65715
ประชาชนทราบดีค่ะ ว่าเรื่องที่มายิงเลเซอร์ มีความเป็นมาอย่างไร
ความจริงคือ...มีแต่คนหนีคดี ติดคุกเพราะคดีความที่ก่อเรื่องไว้
ความจริงคือการกล่าวหาว่ารัฐบาลคุณอภิสิทธิ์☠ประชาชน
สุดท้ายขึ้นศาลคุณอภิสิทธิ์ชนะคดี
ลุงบอกคนไทยจำเป็นต้องร่วมมือกันในสถานการณ์วิกฤตโควิด19
อย่าไปเอาเรื่องอื่นเข้ามาให้วุ่นวาย
ประเทศไทยอย่าให้ใคร 🔥 อีกค่ะ