ปี 2548 ถือเป็นปีที่สร้างความคึกคักปีหนึ่งของวงการหนังไทย เพราะมีหนังใหม่ ๆ เข้าฉายให้ชมกันมากมาย หลากแนว จากผู้สร้างหลายรายที่เข้ามาครองรายได้กันอย่างสนุกสนาน ดูแล้วจะสบายจิตสบายใจ

ถ้าฉันจะคัดเฉพาะหนังที่ประสบความสำเร็จหรือเป็นที่กล่าวขวัญให้พวกเรา ๆ จดจำจริง ๆ ก็มีอยู่สัก 10 เรื่องเห็นจะได้...เริ่มด้วยบทเริ่มต้นของ "จอมขมังเวทย์" หนังไสยศาสตร์กับการพลิกบทบาทสุดท้าทายครั้งแรกของ ฉัตรชัย เปล่งพานิช ต่อด้วย "มหา'ลัยเหมืองแร่" ผลงานชั้นดีที่ไม่ถูกลืมของพี่เก้ง-จิระ มะลิกุล แห่งค่าย "จีทีเอช" ซึ่งยังมี "เพื่อนสนิท" หนังรักวัยเรียนที่ใช้ทีมนักแสดงหน้าใหม่กับวลีเด็ดที่ยังคงตรึงตราคอหนังไม่เสื่อมคลาย

นอกจากนี้ จีทีเอช ยังได้จับมือกับ "ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น" ร่วมกันสร้างผลงานชิ้นสำคัญอยู่หนึ่งเรื่อง นั่นคือการกลับมาของพ่อตั้มกับแม่โอ๋ที่งานนี้ได้พกลูก ๆ พร้อมญาติสนิทมิตรสหายมาร่วมวงในเรื่อง "วัยอลวน 4 ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น" ขณะที่ "พระนครฟิลม์" ประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมายทางรายได้จากเรื่อง "หลวงพี่เท่ง" หนังธรรมะอารมณ์ดี ฝีมือการกำกับของ โน้ต เชิญยิ้ม

ส่วน "สหมงคลฟิล์ม" เรียกว่าเป็นค่ายหนังที่มีผลงานเข้าฉายไว้มากที่สุดในรอบปีสมเป็นเบอร์หนึ่งอย่างแท้จริง เปิดหัวปีด้วย "เอ๋อเหรอ" หนังเซอร์ไพรส์วงการ เพราะได้เด็กเอ๋อตัวจริงมาแสดงร่วมกับดาราดัง ๆ อีกคับคั่ง แถมยังเป็นผลงานแจ้งเกิดของน้องเกรซ ลูกเสี่ยเจียงนั่นเอง แม้ว่าเรื่องนี้จะเข้าฉายขณะที่คนไทยกำลังไว้ทุกข์กับภัยสึนามิ แต่บรรยากาศก็ไม่ทำร้ายเราได้อยู่ดี เพราะทำรายได้ในระดับที่น่าพอใจเชียว

แต่ที่กลายเป็นประวัติการณ์ของปีคงหนีไม่พ้น "ต้มยำกุ้ง" ผลงานแอ็กชั่นจากทีมงานเดียวกับองค์บาก แต่เข้มข้นถึงใจกว่ารสต้มยำ เพราะถ่ายทำไกลถึงต่างแดน แถมยังเกิดวลีฮิตติดหู "ช้าง...อยู่ไหน?" จากพระเอกคนเดิม...พี่จานั่นไง 

สำหรับปี 2548 ดูจะเป็นปีทองของดาราตลกมหาเศรษฐี "หม่ำ จ๊กมก" เพราะมีผลงานแสดงให้ชมถึง 6 เรื่อง แถมยังคว้าบทพระเอกและผู้กำกับหนังด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น "แหยม ยโสธร" หนังรักแบบชาวบ้าน สีสันแบบย้อนยุค แถมเพลงก็ไพเราะ ทำให้เพลง กลับมาทำไม กลับมาฮิตจนกลายเป็นเพลงประจำตัวของพระเอกคนนี้โดยปริยาย หรือจะเป็น "เฉิ่ม" หนังรักหวานซึ้งท้าทายความสามารถ ซึ่งยังได้ประกบนางเอกสุดสวย นุ่น วรนุช ที่มาประเดิมจอเงินเป็นครั้งแรก

ยังมีอีก 1 เรื่องที่คุณน่าจะยกให้เป็นหนังในดวงใจแห่งปีด้วยเช่นกัน แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านมาถึง 15 ปีแล้ว ความไวเป็นเพียงตัวเลข รายได้หนังก็เป็นเพียงตัวเลข แต่เราและคอหนังทุก ๆ คนก็หวังให้ช่วงเวลาจากนี้ไปเป็นเวลาอันมีคุณค่าอย่างสมน้ำสมเนื้อ ตราบใดที่บรรยากาศคึกคัก วงการหนังก็จะยังไม่ตาย

หน้านี้ให้คุณเลือกหนังที่อยู่ในดวงใจที่สุดเพียงท่านละ 1 เรื่องเท่านั้น แล้วจะผ่านมัน(..ก็โควิด)ไปด้วยกัน...

#15ปีมีความสุข #คิดถึงปี2548 #สวัสดี.