สวัสดีค่ะ นี้เป็นกระทู้แรกของดิฉัน หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
(เกริ่นนำ)
ความรักของดิฉันและเขา เริ่มต้นตอนช่วงม.6ค่ะ แต่เราต้องแยกจากกันเพราะเราเรียนกันคนละมหาลัย และคนละจังหวัด เราจะได้เจอกันแค่ช่วงปิดเทอม หรือวันหยุดยาว
เราคบกันมาจนถึงปี3 ตอนนั้นเราทั้งคู่ต่างมีหน้าที่ของตัวเองที่จะต้องทำ จึงทำให้เราไม่ค่อยได้ติดต่อกัน และเริ่มห่างกันมากขึ้น จนวันนึงดิฉันไปหวั่นไหวกับเพื่อน และนี้ก็เป็นเหตุให้เราเลิกกัน
(รักเราสองสามคน)
ตั้งแต่เลิกกันตอนนั้น เราก็ยังคงติดต่อกันอยู่เสมอ จนดิฉันเรียนจบและได้ย้ายเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพ และเขาก็ทำงานที่กรุงเทพ เราจึงได้อยู่ใกล้กันมากขึ้น
ความสัมพันธ์ของเราตอนนั้น เรียกได้ว่าเหมือนจะเป็นแฟน แต่แค่ไม่มีสถานะ
ซึ่งในระหว่างที่เราคุยกัน ดิฉันก็ยังคงไปไหนมาไหนกับเพื่อนคนนั้นเสมอ (แต่ดิฉันยืนยันได้ว่า ดิฉันกับเพื่อนคนนั้นเป็นแค่เพื่อนกัน ดิฉันไม่ได้รู้สึกกับเพื่อนคนนั้นไปมากกว่าเพื่อนเลย แม้บางครั้ง การกระทำอาจจะไม่ดูเหมือนเพื่อน เช่น ไปไหนมาไปด้วยกันสองต่อสอง)
เรื่องนี้เป็นประเด็นทำให้เขาไม่พอใจ และเราทะเลาะกันทุกครั้ง ยิ่งนานวันยิ่งถี่ขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่า สามวันดีสี่วันไข้เลยทีเดียว
ความนิสัยไม่ดีของดิฉันตอนนั้นคือ เวลาที่เขาไม่พอใจ หรือมีปัญหาเรื่องดิฉันกับเพื่อนคนนั้น ดิฉันมักพูดสวนเขาไปเสมอว่า
“เราไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณไม่มีสิทธิมาห้ามไม่ให้ฉันไปไหนมาไหนกับใคร”
หรือบางทีก็จะโวยวาย หาว่าเขาไม่เชื่อใจดิฉัน ทั้งๆที่ดิฉันบอกว่าเป็นแค่เพื่อน
(รักเราสองสามสี่คน)
หลังจากดิฉันย้ายมาอยู่กรุงเทพได้สักพัก เขาก็ต้องย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัด และเขาก็ได้พบรักกับเพื่อนที่ทำงาน
เขากับผญ.คนนั้นก็คุยกัน แกล้งกัน หยอดกันไปกันมา จนวันนึงดิฉันไปหาเขาที่ต่างจังหวัด และจับได้ว่าเขาคุยกันกับผญ.คนนั้น
ดิฉันให้สิทธิเขาเลือกว่าจะเลือกคุยกับใคร แต่เขาก็ขอเลือกคุยกับผญ.คนนั้น และขอจบความสัมพันธ์ของเราลง
ผ่านมาได้เกือบ2เดือน เขาก็ติดต่อกลับมา ครั้งแรกเขามาขอปรึกษาปัญหาระหว่างเขากับผญ.คนนั้น แล้วสักพักเขาก็กลับไปคุยกันเหมือนเดิม
ครั้งที่สองเขานัดเจอกับดิฉันอ้างว่าคิดถึง ซึ่งเขาก็ยังคงติดต่อกับผญ.คนนั้นอยู่
จนครั้งล่าสุด เขาบอกกับดิฉันว่าเขากับผญ.คนนั้นเครียกันแล้ว เป็นแค่เพื่อนกันแล้ว
(ความจริงในใจ)
หลังจากนั้นดิฉันจึงเรียกหาความชัดเจนจากเขา โดยการให้เขาขึ้นสถานะคบกับดิฉันในเฟสบุ๊ค
ในวันเดียวกันดิฉันก็ไปหาเขาที่ต่างจังหวัด เย็นวันนั้นเอง เขาพาดิฉันไปกินเลี้ยงกับพี่ๆเพื่อนๆที่ทำงาน และใช่ค่ะ มีผญ.คนนั้นด้วย ซึ่งตอนแรกเขาบอกว่าปกติผญ.คนนั้นจะไม่มา แต่วันนั้นผญ.คนนั้นมา จบจากงานเราก็แยกย้ายกันกลับที่พัก ระหว่างทางเขาไลน์ไปหาผญ.คนนั้นว่า ขอโทษนะ ที่ทำให้ต้องมาเจอเรื่องนี้(เรื่องที่เขากับดิฉันมาอยู่ด้วยกัน) จึงทำให้เรามีปากเสียงกันเล็กน้อย
ในคืนนั้นหลังจากเราทะเลาะกัน เราก็มีอะไรกัน ซึ่งทั้งดิฉันและเขา ต่างเมากันทั้งคู่ แต่ดิฉันยังพอมีสติอยู่บ้าง ในระหว่างร่วม sex กัน เขาได้เรียกชื่อผญ.คนนั้น บอกรักผญ.คนนั้น ออกมาหลายครั้ง จนดิฉันอัดเสียงเป็นหลักฐานได้ และเปิดให้เขาฟังในเช้าวันถัดมา
นอกจากนี้ดิฉันยังจับได้อีกว่า เขากับผญ.คนนั้นยังคงติดต่อกันอยู่ มีโทรหากันเป็นชม.ๆ แต่ไม่สามารถค้นแชทได้เพราะเขาลบ
เขาบอกกับดิฉันว่า เขาไม่รู้สึกตัว ไม่มีสติ เขาไม่ได้ต้องการจะสื่อความหมายแบบนั้นเลย เขายืนยันว่าเขารักดิฉัน อยากคบกับดิฉันจริงๆ
เขากับผญ.คนนั้นเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ แล้วที่ผ่านมาผญ.คนนั้น ไม่รู้เรื่องระหว่างเรา แต่ตอนนี้ผญ.คนนั้นรู้เรื่องแล้ว เพราะขึ้นสถานะบนเฟส
และเขาขอโอกาสอีกครั้ง เขาสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก และจะไม่ทำให้ดิฉันเสียใจอีก
(คิด วิเคราะห์ แยกแยะ)
หลังจากเกิดเรื่อง ดิฉันก็กลับมากรุงเทพ และได้คิด ไตร่ตรอง อยู่หลายครั้ง จนสรุปได้ว่า
1.ดิฉันกำลังหลอกตัวเองว่า เขารักดิฉันจริงๆ
เพราะจากการกระทำของเขา ดิฉันสามารถรู้ได้เองว่า เขาไม่ได้รักดิฉัน แต่เขารักผญ.คนนั้น แต่ดิฉันก็ยังคงพยายามที่จะเชื่อว่าเขารักดิฉันจริงๆ
2.เขาก็กำลังหลอกตัวเองเช่นกัน ว่าเขารักดิฉัน
เพราะว่าเขาคิดจริงๆว่า เขารักดิฉัน เขาไม่กล้ายอมรับความจริงว่า เขารักผญ.คนนั้น คงเพราะเขากลัวว่า ถ้าเขารักผญ.คนนั้น เขาจะเจ็บ จะผิดหวัง จะอกหัก เขาจึงปฎิเสธตัวเองว่า เขาไม่ได้รักผญ.คนนั้น และบอกตัวเองแทนว่า เขารักดิฉัน
3.เขาไม่ได้หลอกดิฉันค่ะ เพราะเขาเชื่อว่าเขารักดิฉันจริงๆ แต่เป็นดิฉันที่หลอกตัวเอง ให้เชื่อว่าเขารักดิฉัน ทั้งๆที่เหตุการณ์ต่างๆ ก็ทำให้เห็นเป็นประจักษ์แล้วว่า เขาไม่ได้รักดิฉัน แต่เขารักผญ.คนนั้น
(บทสรุป)
จนถึงตอนนี้ ดิฉันก็ขอเลือกที่จะหลอกตัวเองต่อไปว่าเขารักดิฉันจริงๆ แม้ว่าความจริงเขาจะไม่รักดิฉันก็ตาม
ดิฉันขอเลือกที่จะเชื่อคำพูด ว่ารัก ของเขา แม้ว่าการกระทำของเขาจะสวนทาง
เพราะนี้คือสิ่งที่ดิฉันหวังและรอคอยมาตลอด วันที่เขาจะหันมาเลือกดิฉันบ้าง
แม้สุดท้ายจุดจบมันจะลงเอยด้วยคำว่าเจ็บ แต่ดิฉันขอเลือกที่จะ เสียใจ ดีกว่า เสียดาย
ถึงเขาหลอก ก็เต็มใจให้หลอก
(เกริ่นนำ)
ความรักของดิฉันและเขา เริ่มต้นตอนช่วงม.6ค่ะ แต่เราต้องแยกจากกันเพราะเราเรียนกันคนละมหาลัย และคนละจังหวัด เราจะได้เจอกันแค่ช่วงปิดเทอม หรือวันหยุดยาว
เราคบกันมาจนถึงปี3 ตอนนั้นเราทั้งคู่ต่างมีหน้าที่ของตัวเองที่จะต้องทำ จึงทำให้เราไม่ค่อยได้ติดต่อกัน และเริ่มห่างกันมากขึ้น จนวันนึงดิฉันไปหวั่นไหวกับเพื่อน และนี้ก็เป็นเหตุให้เราเลิกกัน
(รักเราสองสามคน)
ตั้งแต่เลิกกันตอนนั้น เราก็ยังคงติดต่อกันอยู่เสมอ จนดิฉันเรียนจบและได้ย้ายเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพ และเขาก็ทำงานที่กรุงเทพ เราจึงได้อยู่ใกล้กันมากขึ้น
ความสัมพันธ์ของเราตอนนั้น เรียกได้ว่าเหมือนจะเป็นแฟน แต่แค่ไม่มีสถานะ
ซึ่งในระหว่างที่เราคุยกัน ดิฉันก็ยังคงไปไหนมาไหนกับเพื่อนคนนั้นเสมอ (แต่ดิฉันยืนยันได้ว่า ดิฉันกับเพื่อนคนนั้นเป็นแค่เพื่อนกัน ดิฉันไม่ได้รู้สึกกับเพื่อนคนนั้นไปมากกว่าเพื่อนเลย แม้บางครั้ง การกระทำอาจจะไม่ดูเหมือนเพื่อน เช่น ไปไหนมาไปด้วยกันสองต่อสอง)
เรื่องนี้เป็นประเด็นทำให้เขาไม่พอใจ และเราทะเลาะกันทุกครั้ง ยิ่งนานวันยิ่งถี่ขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่า สามวันดีสี่วันไข้เลยทีเดียว
ความนิสัยไม่ดีของดิฉันตอนนั้นคือ เวลาที่เขาไม่พอใจ หรือมีปัญหาเรื่องดิฉันกับเพื่อนคนนั้น ดิฉันมักพูดสวนเขาไปเสมอว่า
“เราไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณไม่มีสิทธิมาห้ามไม่ให้ฉันไปไหนมาไหนกับใคร”
หรือบางทีก็จะโวยวาย หาว่าเขาไม่เชื่อใจดิฉัน ทั้งๆที่ดิฉันบอกว่าเป็นแค่เพื่อน
(รักเราสองสามสี่คน)
หลังจากดิฉันย้ายมาอยู่กรุงเทพได้สักพัก เขาก็ต้องย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัด และเขาก็ได้พบรักกับเพื่อนที่ทำงาน
เขากับผญ.คนนั้นก็คุยกัน แกล้งกัน หยอดกันไปกันมา จนวันนึงดิฉันไปหาเขาที่ต่างจังหวัด และจับได้ว่าเขาคุยกันกับผญ.คนนั้น
ดิฉันให้สิทธิเขาเลือกว่าจะเลือกคุยกับใคร แต่เขาก็ขอเลือกคุยกับผญ.คนนั้น และขอจบความสัมพันธ์ของเราลง
ผ่านมาได้เกือบ2เดือน เขาก็ติดต่อกลับมา ครั้งแรกเขามาขอปรึกษาปัญหาระหว่างเขากับผญ.คนนั้น แล้วสักพักเขาก็กลับไปคุยกันเหมือนเดิม
ครั้งที่สองเขานัดเจอกับดิฉันอ้างว่าคิดถึง ซึ่งเขาก็ยังคงติดต่อกับผญ.คนนั้นอยู่
จนครั้งล่าสุด เขาบอกกับดิฉันว่าเขากับผญ.คนนั้นเครียกันแล้ว เป็นแค่เพื่อนกันแล้ว
(ความจริงในใจ)
หลังจากนั้นดิฉันจึงเรียกหาความชัดเจนจากเขา โดยการให้เขาขึ้นสถานะคบกับดิฉันในเฟสบุ๊ค
ในวันเดียวกันดิฉันก็ไปหาเขาที่ต่างจังหวัด เย็นวันนั้นเอง เขาพาดิฉันไปกินเลี้ยงกับพี่ๆเพื่อนๆที่ทำงาน และใช่ค่ะ มีผญ.คนนั้นด้วย ซึ่งตอนแรกเขาบอกว่าปกติผญ.คนนั้นจะไม่มา แต่วันนั้นผญ.คนนั้นมา จบจากงานเราก็แยกย้ายกันกลับที่พัก ระหว่างทางเขาไลน์ไปหาผญ.คนนั้นว่า ขอโทษนะ ที่ทำให้ต้องมาเจอเรื่องนี้(เรื่องที่เขากับดิฉันมาอยู่ด้วยกัน) จึงทำให้เรามีปากเสียงกันเล็กน้อย
ในคืนนั้นหลังจากเราทะเลาะกัน เราก็มีอะไรกัน ซึ่งทั้งดิฉันและเขา ต่างเมากันทั้งคู่ แต่ดิฉันยังพอมีสติอยู่บ้าง ในระหว่างร่วม sex กัน เขาได้เรียกชื่อผญ.คนนั้น บอกรักผญ.คนนั้น ออกมาหลายครั้ง จนดิฉันอัดเสียงเป็นหลักฐานได้ และเปิดให้เขาฟังในเช้าวันถัดมา
นอกจากนี้ดิฉันยังจับได้อีกว่า เขากับผญ.คนนั้นยังคงติดต่อกันอยู่ มีโทรหากันเป็นชม.ๆ แต่ไม่สามารถค้นแชทได้เพราะเขาลบ
เขาบอกกับดิฉันว่า เขาไม่รู้สึกตัว ไม่มีสติ เขาไม่ได้ต้องการจะสื่อความหมายแบบนั้นเลย เขายืนยันว่าเขารักดิฉัน อยากคบกับดิฉันจริงๆ
เขากับผญ.คนนั้นเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ แล้วที่ผ่านมาผญ.คนนั้น ไม่รู้เรื่องระหว่างเรา แต่ตอนนี้ผญ.คนนั้นรู้เรื่องแล้ว เพราะขึ้นสถานะบนเฟส
และเขาขอโอกาสอีกครั้ง เขาสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก และจะไม่ทำให้ดิฉันเสียใจอีก
(คิด วิเคราะห์ แยกแยะ)
หลังจากเกิดเรื่อง ดิฉันก็กลับมากรุงเทพ และได้คิด ไตร่ตรอง อยู่หลายครั้ง จนสรุปได้ว่า
1.ดิฉันกำลังหลอกตัวเองว่า เขารักดิฉันจริงๆ
เพราะจากการกระทำของเขา ดิฉันสามารถรู้ได้เองว่า เขาไม่ได้รักดิฉัน แต่เขารักผญ.คนนั้น แต่ดิฉันก็ยังคงพยายามที่จะเชื่อว่าเขารักดิฉันจริงๆ
2.เขาก็กำลังหลอกตัวเองเช่นกัน ว่าเขารักดิฉัน
เพราะว่าเขาคิดจริงๆว่า เขารักดิฉัน เขาไม่กล้ายอมรับความจริงว่า เขารักผญ.คนนั้น คงเพราะเขากลัวว่า ถ้าเขารักผญ.คนนั้น เขาจะเจ็บ จะผิดหวัง จะอกหัก เขาจึงปฎิเสธตัวเองว่า เขาไม่ได้รักผญ.คนนั้น และบอกตัวเองแทนว่า เขารักดิฉัน
3.เขาไม่ได้หลอกดิฉันค่ะ เพราะเขาเชื่อว่าเขารักดิฉันจริงๆ แต่เป็นดิฉันที่หลอกตัวเอง ให้เชื่อว่าเขารักดิฉัน ทั้งๆที่เหตุการณ์ต่างๆ ก็ทำให้เห็นเป็นประจักษ์แล้วว่า เขาไม่ได้รักดิฉัน แต่เขารักผญ.คนนั้น
(บทสรุป)
จนถึงตอนนี้ ดิฉันก็ขอเลือกที่จะหลอกตัวเองต่อไปว่าเขารักดิฉันจริงๆ แม้ว่าความจริงเขาจะไม่รักดิฉันก็ตาม
ดิฉันขอเลือกที่จะเชื่อคำพูด ว่ารัก ของเขา แม้ว่าการกระทำของเขาจะสวนทาง
เพราะนี้คือสิ่งที่ดิฉันหวังและรอคอยมาตลอด วันที่เขาจะหันมาเลือกดิฉันบ้าง
แม้สุดท้ายจุดจบมันจะลงเอยด้วยคำว่าเจ็บ แต่ดิฉันขอเลือกที่จะ เสียใจ ดีกว่า เสียดาย