ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณกระทู้ในpantip หลายๆกระทู้เกี่ยวกับการใช้หนี้ ที่ทำให้มีแนวคิดที่ดีในการปลดหนี้ มีแนวทางในการปลดหนี้
และได้สัญญากับตัวเองไว้ ว่าวันใดที่หมดหนี้แล้ว จะมาแบ่งปันความรู้และวิธีปลดหนี้แบบละเอียด เพื่อให้ทุกคนได้ปลดหนี้ การเป็นหนี้มันเป็นทุกข์
และสิ่งที่สำคัญคือเป็นหนี้ต้องใช้ค่ะ
**งดดราม่า เพราะตั้งใจทำด้วยใจค่ะ**
เราเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาคนนึงค่ะ
มีบัตรเครดิตไว้ใช้ยามจำเป็น จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อปี 2554 วิกฤตน้ำท่วมใหญ่
ทำให้ไม่มีเงินจ่ายหนี้บัตรเครดิต 8ใบ และหนี้ผ่อนรถ1คัน
ตอนแรกๆใช้วิธีกดบัตรนี้มาจ่ายบัตรนั้นเอาบัตรนั้นมาจ่ายบัตรโน้น ทำอยู่ได้4ปี ถึงทางตัน เพราะการนำบัตรนี้มาจ่ายบัตรนั้นมันมีดอกเบี้ยเกิดขึ้น
ซึ่งสิ่งนี้แหละที่ทำให้ถึงทางตัน รายได้เท่าเดิมแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น
รายละเอียดระยะเวลาในการเป็นหนี้ค่ะ
ทนทุกข์มา10 ปี เต็มๆ
ปี 2552 มีบัตร มีรถ1คัน
ปี 2554 วิกฤตน้ำท่วม
ปี 2556 Refinance รถ 1 ครั้ง (ไม่น่าไปทำเลย) เอาไปปิดบัตร และสุดท้ายก็เหมือนเดิม
ปี 2557 ตกงาน 3 เดือน
ปี 2558 ถึงทางตัน
ปี 2558 โดนฟ้อง ต้องไปขึ้นศาล
ปี 2559 ขายรถ
ปี 2562 หมดหนี้ เป็นไท ไชโย!!!!!!
***สิ่งที่สำคัญที่ต้องทำคือ****
1. ห้ามหน้าบาง ห้ามอาย มีคนมาตามทวงหนี้ทั้งที่บ้าน และที่ทำงาน เราแค่เป็นหนี้ไม่ได้ไปฆ่าใครตาย
2. หยุดจ่ายหนี้ทั้งหมด เก็บเงิน และเริ่มทำบัญชีรายรับรายจ่าย **สำคัญมาก**
จดรายรับมีเท่าไหร่ เป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างยากไม่แนะนำให้เปลี่ยนงานที่มีเงินเพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่ต้องทำคือลดรายจ่ายที่มันต้องจ่ายประจำทุกเดือน ของเรามีหนี้ผ่อนรถที่ต้องจ่ายประจำทุกเดือน เราขายรถทันที อีก1ปีจะผ่อนหมดแล้ว แต่เรามองว่าถ้ายังมีรายจ่ายแบบนี้คงไปไม่รอดแน่ ยอมนั่งรถเมล์ไปทำงาน ดีกว่าต้องเป็นทุกข์จากการเป็นหนี้ **อย่าแคร์สายตาคนรอบข้างว่าจะมองเราอย่างไร คนพวกนี้มีแต่พลังเชิงลบไม่สร้างสรรค์ดีแต่ทำลาย** เพราะเขาไม่ได้มาช่วยเราใช้หนี้ ตอนเราขายรถคนก็ดูถูกแต่เราไม่สนใจ คิดแต่ว่าวันนึงที่เราหมดหนี้เราก็จะมีความสุข
3. จดหนี้ทั้งหมดที่มี และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายหนี้ทุกเดือน เราจ่ายขั้นต่ำบัตรทุกตัวเดือนละ 20,000 บาท และผ่อนรถเดือนละ 8,700 บาท ค่าน้ำค่าไฟ 1,000 บาท ค่ากินเดือนละ 3,000 บาท ค่าน้ำมันรถ5,000บาท เดือนนึงค่าใช้จ่าย 37,700 บาท เงินเดือนเดือนละ 35,000 บาท ติดลบ
เดือนละ 2,700 บาท แรกๆใช้วิธี เงินเดือนออกเอาไปจ่ายบัตรกับผ่อนรถ แล้วระหว่างเดือนกดบัตรใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด สิ่งที่ถูกต้องคือ กดบัตรเท่าที่เรามีเงินจ่าย ห้ามกดเกินกว่าที่เราจะมีจ่าย
4. เมื่อเราจดรายรับรายจ่ายแล้ว
ให้เก็บเงินที่เคยจ่ายหนี้ไว้ และรอเวลาไม่ต้องรับโทรศัพท์ ห้ามเกิน 6 เดือน สำหรับบัตรน้องเมือง ส่วนค่ายอื่นประมาณ 1 ปี
และรอเวลาให้หนี้เสีย ธนาคารจะเริ่มขายหนี้ หนี้เราจะกลายเป็นหนี้สงสัยจะสูญ เก็บเงินไว้ประมาณ 5 เดือนที่เขาติดต่อเราไม่ได้ และหลังจากนั้นเราเริ่มรับโทรศัพท์ และเริ่มการชำระหนี้คืน
บัตรที่แนะนำให้รีบจ่าย คือบัตรน้องเมือง
ต้องรีบจ่ายภายใน 6 เดือนหลังจากที่เขาติดต่อเราไม่ได้เพราะค่ายนี้ฟ้องไวมาก ห้ามปล่อยให้ถึงจุดที่ฟ้องศาลเพราะคุณจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที เราเจอมาแล้วปล่อยให้ถึงศาล ต้องจ่ายเต็มลดแค่ดอกเบี้ยจาก 28% เหลือ 15% ยอดหนี้ 110,000 บาท เรามีเงินที่เก็บตอนไม่ได้ใช้หนี้อยู่ 65,000 บาท มีจ่ายได้แค่นี้ ทนายไม่ยอม เลยคุยกับทนายว่าไม่มีเงินขอผ่อน 2 ปี ตอนนั้นไม่มีทางสู้เลยต้องยอม ตอนก่อนไปถึงศาลมีติดต่อมาลดให้ 53,000 บาท แต่ตอนนั้นเราไม่มีเงินและไม่มีเทคนิค เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลแรกที่โดนฟ้อง หลังจากเรื่องนี้ถึงเข้ามาอ่านในกระทู้ pantip ถึงทำให้ฉลาดขึ้น
5. เรามีบัญชีของน้องเมืองอยู่ 2 บัญชี
คือ 1. บัตรกดเงินสดน้องเมือง และ 2.สินเชื่อส่วนบุคคลของน้องเมือง หลังจากโดนฟ้องสินเชื่อส่วนบุคคลน้องเมืองไปแล้ว ผ่อนไป 2 ปี และเริ่มมาหาวิธีในกระทู้ pantip จึงรีบเก็บเงินและติดต่อไปที่บัตรกดเงินสดของน้องเมืองก่อนจะโดนฟ้องเพื่อขอเจรจามียอดค้างชำระอยู่ประมาณ 65,000 บาท
จึงขอเจรจาว่ายอดนี้จ่ายไม่ไหวลดได้เท่าไหร่ เขาจะถามเราว่าเราไหวที่เท่าไหร่ เราต้องเตรียมตัวเลขไว้ในใจส่วนใหญ่จะลดให้ 40%ของยอด แต่เราจะบอกไว้ที่ 50%เผื่อถูกต่อ และไม่ต้องคิดมาก เพราะเขาได้กินดอกเบี้ยเราจนทบต้นทบดอกไปนานแล้ว
เราได้ส่วนลดที่ 32,000 บาท เราเจรจาทันทีว่า สิ้นเดือนนี้ชำระ 22,000 บาท และอีกสิ้นเดือนชำระ 10,000 บาท
คุณต้องเจรจาถ้าผ่อนได้ขอผ่อน 2 เดือนหรือ 3 เดือน ในการผ่อนห้ามคิดดอกเบี้ยและสิ่งสำคัญห้ามทำสัญญาใหม่ ห้ามปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
****สิ่งที่สำคัญในการเจรจาคือ****
1. ขอเอกสารรายละเอียดการชำระเงินซึ่งต้องมีคำว่า ถ้าชำระหมดตามยอด จะถือว่าปิดบัญชีหรือบัญชีนี้ถือว่าชำระเรียบร้อยแล้ว ยอดเงินต้องชัดเจน
วันที่ชำระต้องชัดเจน จะส่งมาทางแฟกซ์หรือเมลก็ได้ ห้ามรับปากกันทางโทรศัพท์เป็นอันขาด คุณจะโดนจ่ายเงินฟรี ต้องมีเอกสาร เวลาไปจ่ายเงินใช้ใบแจ้งหนี้ของเดิมของเรา และตรวจสอบเลขที่ให้ถูกต้อง ห้ามโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของคนที่เราคุยด้วย ไม่งั้นโดนจ่ายฟรี
หลังจากจ่ายบัตรน้องเมืองจบเราจะเก็บเงินประมาน 3-4 เดือน ถ้ายอดเยอะก็จะเก็บประมาณ 6 เดือน และเริ่มติดต่อไปที่ธนาคารต่างๆที่เราเป็นหนี้
ทำแบบที่แจ้งไปข้างต้น ใช้เวลาอยู่ 4 ปี
วันที่ปิดตัวสุดท้ายได้ เหมือนยกภูเขาออกจากอก ความทุกข์ที่เคยสั่งสมมานานได้หมดสิ้นลง
ปัจจุบันตอนนี้มีความสุขมากค่ะ
ไม่มีหนี้
มีบ้าน1 หลัง
มีเงินเก็บ
ยังไม่มีรถเหมือนเดิม
แต่ทำไมรู้สึกชีวิตมีความสุขกว่าตอนมีรถเยอะเลย
หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยเพื่อนๆได้ปลดหนี้และมีความสุขกันทุกๆคนค่ะ
***ข้อสำคัญเป็นหนี้ต้องใช้ค่ะ***
***หากเพื่อนๆคนไหนต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมสามารถส่งมาถามได้เลยนะคะ ยินดีช่วยทุกๆคนค่ะ***
ทำตามสัญญา แบ่งปันประสบการณ์ อยากให้ทุกคนหมดหนี้
และได้สัญญากับตัวเองไว้ ว่าวันใดที่หมดหนี้แล้ว จะมาแบ่งปันความรู้และวิธีปลดหนี้แบบละเอียด เพื่อให้ทุกคนได้ปลดหนี้ การเป็นหนี้มันเป็นทุกข์
และสิ่งที่สำคัญคือเป็นหนี้ต้องใช้ค่ะ
**งดดราม่า เพราะตั้งใจทำด้วยใจค่ะ**
เราเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาคนนึงค่ะ
มีบัตรเครดิตไว้ใช้ยามจำเป็น จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อปี 2554 วิกฤตน้ำท่วมใหญ่
ทำให้ไม่มีเงินจ่ายหนี้บัตรเครดิต 8ใบ และหนี้ผ่อนรถ1คัน
ตอนแรกๆใช้วิธีกดบัตรนี้มาจ่ายบัตรนั้นเอาบัตรนั้นมาจ่ายบัตรโน้น ทำอยู่ได้4ปี ถึงทางตัน เพราะการนำบัตรนี้มาจ่ายบัตรนั้นมันมีดอกเบี้ยเกิดขึ้น
ซึ่งสิ่งนี้แหละที่ทำให้ถึงทางตัน รายได้เท่าเดิมแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น
รายละเอียดระยะเวลาในการเป็นหนี้ค่ะ
ทนทุกข์มา10 ปี เต็มๆ
ปี 2552 มีบัตร มีรถ1คัน
ปี 2554 วิกฤตน้ำท่วม
ปี 2556 Refinance รถ 1 ครั้ง (ไม่น่าไปทำเลย) เอาไปปิดบัตร และสุดท้ายก็เหมือนเดิม
ปี 2557 ตกงาน 3 เดือน
ปี 2558 ถึงทางตัน
ปี 2558 โดนฟ้อง ต้องไปขึ้นศาล
ปี 2559 ขายรถ
ปี 2562 หมดหนี้ เป็นไท ไชโย!!!!!!
***สิ่งที่สำคัญที่ต้องทำคือ****
1. ห้ามหน้าบาง ห้ามอาย มีคนมาตามทวงหนี้ทั้งที่บ้าน และที่ทำงาน เราแค่เป็นหนี้ไม่ได้ไปฆ่าใครตาย
2. หยุดจ่ายหนี้ทั้งหมด เก็บเงิน และเริ่มทำบัญชีรายรับรายจ่าย **สำคัญมาก**
จดรายรับมีเท่าไหร่ เป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างยากไม่แนะนำให้เปลี่ยนงานที่มีเงินเพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่ต้องทำคือลดรายจ่ายที่มันต้องจ่ายประจำทุกเดือน ของเรามีหนี้ผ่อนรถที่ต้องจ่ายประจำทุกเดือน เราขายรถทันที อีก1ปีจะผ่อนหมดแล้ว แต่เรามองว่าถ้ายังมีรายจ่ายแบบนี้คงไปไม่รอดแน่ ยอมนั่งรถเมล์ไปทำงาน ดีกว่าต้องเป็นทุกข์จากการเป็นหนี้ **อย่าแคร์สายตาคนรอบข้างว่าจะมองเราอย่างไร คนพวกนี้มีแต่พลังเชิงลบไม่สร้างสรรค์ดีแต่ทำลาย** เพราะเขาไม่ได้มาช่วยเราใช้หนี้ ตอนเราขายรถคนก็ดูถูกแต่เราไม่สนใจ คิดแต่ว่าวันนึงที่เราหมดหนี้เราก็จะมีความสุข
3. จดหนี้ทั้งหมดที่มี และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายหนี้ทุกเดือน เราจ่ายขั้นต่ำบัตรทุกตัวเดือนละ 20,000 บาท และผ่อนรถเดือนละ 8,700 บาท ค่าน้ำค่าไฟ 1,000 บาท ค่ากินเดือนละ 3,000 บาท ค่าน้ำมันรถ5,000บาท เดือนนึงค่าใช้จ่าย 37,700 บาท เงินเดือนเดือนละ 35,000 บาท ติดลบ
เดือนละ 2,700 บาท แรกๆใช้วิธี เงินเดือนออกเอาไปจ่ายบัตรกับผ่อนรถ แล้วระหว่างเดือนกดบัตรใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด สิ่งที่ถูกต้องคือ กดบัตรเท่าที่เรามีเงินจ่าย ห้ามกดเกินกว่าที่เราจะมีจ่าย
4. เมื่อเราจดรายรับรายจ่ายแล้ว
ให้เก็บเงินที่เคยจ่ายหนี้ไว้ และรอเวลาไม่ต้องรับโทรศัพท์ ห้ามเกิน 6 เดือน สำหรับบัตรน้องเมือง ส่วนค่ายอื่นประมาณ 1 ปี
และรอเวลาให้หนี้เสีย ธนาคารจะเริ่มขายหนี้ หนี้เราจะกลายเป็นหนี้สงสัยจะสูญ เก็บเงินไว้ประมาณ 5 เดือนที่เขาติดต่อเราไม่ได้ และหลังจากนั้นเราเริ่มรับโทรศัพท์ และเริ่มการชำระหนี้คืน
บัตรที่แนะนำให้รีบจ่าย คือบัตรน้องเมือง
ต้องรีบจ่ายภายใน 6 เดือนหลังจากที่เขาติดต่อเราไม่ได้เพราะค่ายนี้ฟ้องไวมาก ห้ามปล่อยให้ถึงจุดที่ฟ้องศาลเพราะคุณจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที เราเจอมาแล้วปล่อยให้ถึงศาล ต้องจ่ายเต็มลดแค่ดอกเบี้ยจาก 28% เหลือ 15% ยอดหนี้ 110,000 บาท เรามีเงินที่เก็บตอนไม่ได้ใช้หนี้อยู่ 65,000 บาท มีจ่ายได้แค่นี้ ทนายไม่ยอม เลยคุยกับทนายว่าไม่มีเงินขอผ่อน 2 ปี ตอนนั้นไม่มีทางสู้เลยต้องยอม ตอนก่อนไปถึงศาลมีติดต่อมาลดให้ 53,000 บาท แต่ตอนนั้นเราไม่มีเงินและไม่มีเทคนิค เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลแรกที่โดนฟ้อง หลังจากเรื่องนี้ถึงเข้ามาอ่านในกระทู้ pantip ถึงทำให้ฉลาดขึ้น
5. เรามีบัญชีของน้องเมืองอยู่ 2 บัญชี
คือ 1. บัตรกดเงินสดน้องเมือง และ 2.สินเชื่อส่วนบุคคลของน้องเมือง หลังจากโดนฟ้องสินเชื่อส่วนบุคคลน้องเมืองไปแล้ว ผ่อนไป 2 ปี และเริ่มมาหาวิธีในกระทู้ pantip จึงรีบเก็บเงินและติดต่อไปที่บัตรกดเงินสดของน้องเมืองก่อนจะโดนฟ้องเพื่อขอเจรจามียอดค้างชำระอยู่ประมาณ 65,000 บาท
จึงขอเจรจาว่ายอดนี้จ่ายไม่ไหวลดได้เท่าไหร่ เขาจะถามเราว่าเราไหวที่เท่าไหร่ เราต้องเตรียมตัวเลขไว้ในใจส่วนใหญ่จะลดให้ 40%ของยอด แต่เราจะบอกไว้ที่ 50%เผื่อถูกต่อ และไม่ต้องคิดมาก เพราะเขาได้กินดอกเบี้ยเราจนทบต้นทบดอกไปนานแล้ว
เราได้ส่วนลดที่ 32,000 บาท เราเจรจาทันทีว่า สิ้นเดือนนี้ชำระ 22,000 บาท และอีกสิ้นเดือนชำระ 10,000 บาท
คุณต้องเจรจาถ้าผ่อนได้ขอผ่อน 2 เดือนหรือ 3 เดือน ในการผ่อนห้ามคิดดอกเบี้ยและสิ่งสำคัญห้ามทำสัญญาใหม่ ห้ามปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
****สิ่งที่สำคัญในการเจรจาคือ****
1. ขอเอกสารรายละเอียดการชำระเงินซึ่งต้องมีคำว่า ถ้าชำระหมดตามยอด จะถือว่าปิดบัญชีหรือบัญชีนี้ถือว่าชำระเรียบร้อยแล้ว ยอดเงินต้องชัดเจน
วันที่ชำระต้องชัดเจน จะส่งมาทางแฟกซ์หรือเมลก็ได้ ห้ามรับปากกันทางโทรศัพท์เป็นอันขาด คุณจะโดนจ่ายเงินฟรี ต้องมีเอกสาร เวลาไปจ่ายเงินใช้ใบแจ้งหนี้ของเดิมของเรา และตรวจสอบเลขที่ให้ถูกต้อง ห้ามโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของคนที่เราคุยด้วย ไม่งั้นโดนจ่ายฟรี
หลังจากจ่ายบัตรน้องเมืองจบเราจะเก็บเงินประมาน 3-4 เดือน ถ้ายอดเยอะก็จะเก็บประมาณ 6 เดือน และเริ่มติดต่อไปที่ธนาคารต่างๆที่เราเป็นหนี้
ทำแบบที่แจ้งไปข้างต้น ใช้เวลาอยู่ 4 ปี
วันที่ปิดตัวสุดท้ายได้ เหมือนยกภูเขาออกจากอก ความทุกข์ที่เคยสั่งสมมานานได้หมดสิ้นลง
ปัจจุบันตอนนี้มีความสุขมากค่ะ
ไม่มีหนี้
มีบ้าน1 หลัง
มีเงินเก็บ
ยังไม่มีรถเหมือนเดิม
แต่ทำไมรู้สึกชีวิตมีความสุขกว่าตอนมีรถเยอะเลย
หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยเพื่อนๆได้ปลดหนี้และมีความสุขกันทุกๆคนค่ะ
***ข้อสำคัญเป็นหนี้ต้องใช้ค่ะ***
***หากเพื่อนๆคนไหนต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมสามารถส่งมาถามได้เลยนะคะ ยินดีช่วยทุกๆคนค่ะ***