ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร
ผมสอบ ตร.ครั้งแรกปี 2559 เพราะเพื่อนชวนไปสอบ
ในตอนนั้นไม่ได้อ่านหนังสือเลย เพื่อนชวนไปติวทบทวนที่บ้านมัน มันบอกว่าจะติววิชากฎหมายให้ก็ไม่ยอมไป
ข้ออ้างเยอะ ไม่ว่าง ติดธุระ นั่นนู้นนี่เต็มไปหมด
ในตอนนั้นโคตรขี้เกียจ สรุปปรกาศผลออกมาได้75คะแนนและไม่ติดอยู่ในกลุ่มใดๆเลย
แต่เพื่อนที่ชวนไปสอบและเขาพยายามอย่างเต็มที่ อ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบ
เพื่อนติดตัวจริง ความรู้สึกตอนนั้นคือเคว้งมาก
ว่าทำไมเราไม่ตั้งใจให้มากกว่านี้วะ ถ้าตอนนั้นเราไปติว ไปอ่าน ป่านนี้เราคงได้ติดตัวจริงแล้ว
ปี 2560 เลยตั้งใจว่าจะต้องติดตัวจริงให้ได้ เดินไปหาพ่อกับแม่บอกว่าขอติวได้ไหมอยากสอบ ตร. สัญญาจะทำให้เต็มที่
ตอนนั้นไปเข้าติวครั้งแรก จากที่เขาติวกันมาตั้งแต่เดือนเมษายน ส่วนเราไปตอนปลายของการติวแล้วนั่นคือเดือนสิงหาคม และจะต้องสอบในเดือน พฤศจิกายน เราเหลือเวลาแค่ 3 เดือนเท่านั้นที่จะหาความรู้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
จำได้ว่าในระยะเวลา3เดือนนั้นไม่มีวันไหนเลยที่ไม่ได้อ่านหนังสือ และวันประกาศผลคะแนนก็มาถึง
คะแนนที่ทำได้คือ97คะแนนอยู่ในกลุ่มตัวจริงติดลำดับที่37จากผู้สอบทั้งหมด15000คน
อ่านถึงตรงนี้ทุกคนคงคิดว่าผมประสบความสำเร็จแล้วใช่ไหมครับ ความจริงคือไม่เลย มันเป็นแค่ขั้นแรกของการสอบเท่านั้นครับ
หลังจากประกาศผล มีเวลาเตรียมตัว เตรียมเอกสารเพื่อไปมอบตัวเพียงแค่ 2 วันเท่านั้นครับ
ในตอนที่ผมติวอยู่ ผมไม่เคยซ้อมวิ่งเลย วิ่งแค่เล่นบาส น้ำหนักในตอนนั้นคือ 97 กิโลครับ แต่นั้นคือลดมาแล้ว จากน้ำหนัก 105 กิโล ครับ
ผมต้องสอบภาคพละ โดยจะมีทั้งหมด 3 ด่านคือ วิ่ง1กม. ว่ายน้ำ 25 ม. และ (โดดไกล วิ่งเก็บของ วิ่ง 50 เมตร ผ่าน2ใน3ของด่านนี้คือผ่านครับ)
วันสอบพละมาถึง ผมสอบด่านแรกครับ ด่านแรกคือ วิ่ง 1 กม. เสียงระคังดัง ระยะทางจากผมไปถึงเส้นชัยแค่ไม่ถึง 50 เมตร กับเวลาที่เกินไป เพียง 10 วินาที
ใช่ครับ ผมสอบตกในขั้นตอนการวิ่ง 1 กม. นั่นคือด่านแรกที่ผมต้องเจอ และมันคือด่านที่ส่งผมกลับบ้าน
ผมมองหน้าพ่อกับแม่และได้แต่บอกกับท่านว่าผมขอโทษครับ พ่อผมพูดแค่ว่าไม่เป็นไร แต่ดูออกครับว่าท่านคงผิดหวัง
ผมกลับถึงบ้านพ่อเดินมาหาแล้วยื่นกระปุกใส่อุจจาระที่เก็บมาจากการไปมอบตัวให้ บอกว่าเอาไว้เตือนใจซะว่าการสอบทุกขั้นตอนไม่ใช่เรื่องขี้ๆ
ปี 2561 ผมใช้ชีวิตโดยไม่อ่านหนังสือ ไม่คิดว่าจะสอบ ตร. แต่สิ่งที่ผมทำคือ ลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ผมลดน้ำหนักจนถึง 75 ลดลงไปได้ทั้งหมด 22 กิโล
พอถึงวันเปิดสอบ ผมก็สมัครและไปสอบ ผลที่ได้ตามคาดครับผมสอบไม่ติด ได้คะแนนแค่ 70 คะแนนเท่านั้น
ปี 2562 มันเป็นปีสุดท้ายที่ผมจะสอบ ตร.สาย ปป. ได้แล้วเพราะผมอายุ 26 ปี ผมคิดแค่ว่าถ้าผมพลาดปีนี้ผมคงจะไม่ได้เดินตามฝันแน่ ๆ เพราะสาย ปป.รับอายุไม่เกิน 27 ปี ผมทำงานเก็บเงิน และเอาเงินเดือนมาขอผ่อนกับสถาบันติว แต่ครั้งนี้สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ ผมวิ่งทุกวันวันละหลาย ๆ กิโล และผมมั่นใจมากว่าผมจะต้องไม่กลับบ้านเพราะด่านวิ่งแน่ๆ วันสอบผ่านไป ผมรอวันประกาศผลโดยที่ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นว่าจะได้หรือไม่ได้ เพราะผมคิดว่าครั้งนี้ผมได้ทำเต็มที่ในทุก ๆ ด้านแล้ว และผลที่ได้ออกมาคือ ผมสอบได้ 94 คะแนน และได้เป็นตัวจริงลำดับที่ 285 ได้แต่บอกกับตัวเองว่ามันยังไม่จบ มันยังเหลือสิ่งที่เราเคยทำพลาดไป ผมบอกพ่อแม่ ว่าผมสอบติด แต่ครั้งนี้ผมจะทำให้เต็มที่กว่าครั้งที่ผ่าน ๆ มา
วันสอบพละมาถึง ผมวิ่งเข้าเส้นชัย ในเวลา 4.13 น. จากกำหนดเวลา 4.55 น. แรงฮึดที่มีมันมาจากไหนไม่รู้ ว่ายน้ำเข้าในเวลา 22 วินาที จากกำหนดเวลา 30 วินาที ผมผ่านทุกการสอบ ผ่านทุกเงื่อนไขในการเป็น นสต. ตอนนี้ผมเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ และกำลังเดินตามฝันอยู่
ที่มาโพสแบบนี้ไม่ได้จะอวดหรืออะไร แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังว่า ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร เพราะผมพิสูจน์แล้วกับตัวผมเอง
เชื่อเถอะครับมันส่งผลดีต่อเราแน่ ๆ สู้ๆนะครับสำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวสอบ ไม่ว่าจะสนามไหน ขอแค่คุณพยายามไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ครับ
ถ้าครั้งนี้พยายามแล้วล้มเหลว ครั้งต่อไปก็แค่พยายามให้มากขึ้นครับ ไม่ว่าจะในสาขาอาชีพไหน ขอแค่พยายามทำในสิ่งที่เราตั้งใจมันจะต้องมีสักวันที่สำเร็จแน่นอน ผมไม่รู้ว่าจะมีคนอ่านข้อความจนถึงตรงนี้หรือเปล่า แต่ถ้าคุณยังอ่านอยู่ ผมขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณเดินทางตามหาฝัน ขอบคุณครับ
อยากแชร์ประสบการณ์กว่าจะเป็น นสต. (ด่าได้แต่อย่าแรง)
ผมสอบ ตร.ครั้งแรกปี 2559 เพราะเพื่อนชวนไปสอบ
ในตอนนั้นไม่ได้อ่านหนังสือเลย เพื่อนชวนไปติวทบทวนที่บ้านมัน มันบอกว่าจะติววิชากฎหมายให้ก็ไม่ยอมไป
ข้ออ้างเยอะ ไม่ว่าง ติดธุระ นั่นนู้นนี่เต็มไปหมด
ในตอนนั้นโคตรขี้เกียจ สรุปปรกาศผลออกมาได้75คะแนนและไม่ติดอยู่ในกลุ่มใดๆเลย
แต่เพื่อนที่ชวนไปสอบและเขาพยายามอย่างเต็มที่ อ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบ
เพื่อนติดตัวจริง ความรู้สึกตอนนั้นคือเคว้งมาก
ว่าทำไมเราไม่ตั้งใจให้มากกว่านี้วะ ถ้าตอนนั้นเราไปติว ไปอ่าน ป่านนี้เราคงได้ติดตัวจริงแล้ว
ปี 2560 เลยตั้งใจว่าจะต้องติดตัวจริงให้ได้ เดินไปหาพ่อกับแม่บอกว่าขอติวได้ไหมอยากสอบ ตร. สัญญาจะทำให้เต็มที่
ตอนนั้นไปเข้าติวครั้งแรก จากที่เขาติวกันมาตั้งแต่เดือนเมษายน ส่วนเราไปตอนปลายของการติวแล้วนั่นคือเดือนสิงหาคม และจะต้องสอบในเดือน พฤศจิกายน เราเหลือเวลาแค่ 3 เดือนเท่านั้นที่จะหาความรู้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
จำได้ว่าในระยะเวลา3เดือนนั้นไม่มีวันไหนเลยที่ไม่ได้อ่านหนังสือ และวันประกาศผลคะแนนก็มาถึง
คะแนนที่ทำได้คือ97คะแนนอยู่ในกลุ่มตัวจริงติดลำดับที่37จากผู้สอบทั้งหมด15000คน
อ่านถึงตรงนี้ทุกคนคงคิดว่าผมประสบความสำเร็จแล้วใช่ไหมครับ ความจริงคือไม่เลย มันเป็นแค่ขั้นแรกของการสอบเท่านั้นครับ
หลังจากประกาศผล มีเวลาเตรียมตัว เตรียมเอกสารเพื่อไปมอบตัวเพียงแค่ 2 วันเท่านั้นครับ
ในตอนที่ผมติวอยู่ ผมไม่เคยซ้อมวิ่งเลย วิ่งแค่เล่นบาส น้ำหนักในตอนนั้นคือ 97 กิโลครับ แต่นั้นคือลดมาแล้ว จากน้ำหนัก 105 กิโล ครับ
ผมต้องสอบภาคพละ โดยจะมีทั้งหมด 3 ด่านคือ วิ่ง1กม. ว่ายน้ำ 25 ม. และ (โดดไกล วิ่งเก็บของ วิ่ง 50 เมตร ผ่าน2ใน3ของด่านนี้คือผ่านครับ)
วันสอบพละมาถึง ผมสอบด่านแรกครับ ด่านแรกคือ วิ่ง 1 กม. เสียงระคังดัง ระยะทางจากผมไปถึงเส้นชัยแค่ไม่ถึง 50 เมตร กับเวลาที่เกินไป เพียง 10 วินาที
ใช่ครับ ผมสอบตกในขั้นตอนการวิ่ง 1 กม. นั่นคือด่านแรกที่ผมต้องเจอ และมันคือด่านที่ส่งผมกลับบ้าน
ผมมองหน้าพ่อกับแม่และได้แต่บอกกับท่านว่าผมขอโทษครับ พ่อผมพูดแค่ว่าไม่เป็นไร แต่ดูออกครับว่าท่านคงผิดหวัง
ผมกลับถึงบ้านพ่อเดินมาหาแล้วยื่นกระปุกใส่อุจจาระที่เก็บมาจากการไปมอบตัวให้ บอกว่าเอาไว้เตือนใจซะว่าการสอบทุกขั้นตอนไม่ใช่เรื่องขี้ๆ
ปี 2561 ผมใช้ชีวิตโดยไม่อ่านหนังสือ ไม่คิดว่าจะสอบ ตร. แต่สิ่งที่ผมทำคือ ลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ผมลดน้ำหนักจนถึง 75 ลดลงไปได้ทั้งหมด 22 กิโล
พอถึงวันเปิดสอบ ผมก็สมัครและไปสอบ ผลที่ได้ตามคาดครับผมสอบไม่ติด ได้คะแนนแค่ 70 คะแนนเท่านั้น
ปี 2562 มันเป็นปีสุดท้ายที่ผมจะสอบ ตร.สาย ปป. ได้แล้วเพราะผมอายุ 26 ปี ผมคิดแค่ว่าถ้าผมพลาดปีนี้ผมคงจะไม่ได้เดินตามฝันแน่ ๆ เพราะสาย ปป.รับอายุไม่เกิน 27 ปี ผมทำงานเก็บเงิน และเอาเงินเดือนมาขอผ่อนกับสถาบันติว แต่ครั้งนี้สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ ผมวิ่งทุกวันวันละหลาย ๆ กิโล และผมมั่นใจมากว่าผมจะต้องไม่กลับบ้านเพราะด่านวิ่งแน่ๆ วันสอบผ่านไป ผมรอวันประกาศผลโดยที่ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นว่าจะได้หรือไม่ได้ เพราะผมคิดว่าครั้งนี้ผมได้ทำเต็มที่ในทุก ๆ ด้านแล้ว และผลที่ได้ออกมาคือ ผมสอบได้ 94 คะแนน และได้เป็นตัวจริงลำดับที่ 285 ได้แต่บอกกับตัวเองว่ามันยังไม่จบ มันยังเหลือสิ่งที่เราเคยทำพลาดไป ผมบอกพ่อแม่ ว่าผมสอบติด แต่ครั้งนี้ผมจะทำให้เต็มที่กว่าครั้งที่ผ่าน ๆ มา
วันสอบพละมาถึง ผมวิ่งเข้าเส้นชัย ในเวลา 4.13 น. จากกำหนดเวลา 4.55 น. แรงฮึดที่มีมันมาจากไหนไม่รู้ ว่ายน้ำเข้าในเวลา 22 วินาที จากกำหนดเวลา 30 วินาที ผมผ่านทุกการสอบ ผ่านทุกเงื่อนไขในการเป็น นสต. ตอนนี้ผมเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ และกำลังเดินตามฝันอยู่
ที่มาโพสแบบนี้ไม่ได้จะอวดหรืออะไร แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังว่า ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร เพราะผมพิสูจน์แล้วกับตัวผมเอง
เชื่อเถอะครับมันส่งผลดีต่อเราแน่ ๆ สู้ๆนะครับสำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวสอบ ไม่ว่าจะสนามไหน ขอแค่คุณพยายามไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ครับ
ถ้าครั้งนี้พยายามแล้วล้มเหลว ครั้งต่อไปก็แค่พยายามให้มากขึ้นครับ ไม่ว่าจะในสาขาอาชีพไหน ขอแค่พยายามทำในสิ่งที่เราตั้งใจมันจะต้องมีสักวันที่สำเร็จแน่นอน ผมไม่รู้ว่าจะมีคนอ่านข้อความจนถึงตรงนี้หรือเปล่า แต่ถ้าคุณยังอ่านอยู่ ผมขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณเดินทางตามหาฝัน ขอบคุณครับ