สวัสดีครับ ผมเพิ่งเคยโพสเป็นครั้งแรก เพิ่งสมัครเลยเพื่อจะมาแจ้งเตือนทุกท่าน ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะครับ

เริ่มเลยนะครับ ผมก็เป็นคนนึงที่ดูแลเพจเฟสบุ๊คของตัวเองอยู่ประมาณ 2-3 เพจ และเคยมีการยิงโฆษณาเพื่อโปรโมทร้านมาบ้างแล้ว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ซื้อโฆษณาทุกครั้งคือแบบจิ๊บจ้อยมากครับ หลักร้อย ยังคงลองผิดลองถูกอยู่ ยังทำไม่ค่อยเป็น ไม่กล้าซื้อเยอะครับ เสียดายตังค์ 555

ประเด็นอยู่ที่ว่า วันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา ผมโดนเฟสบุ๊คแจ้งเตือนหักเงินในบัตรเครดิต ยอดครั้งละ 70 บาท รวม 17 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ตอนเช้าเวลาประมาณ 7.00 น.- 12.00 น. แต่ละรายการห่างกัน ประมาณ 30 นาที รวมแล้วก็ประมาณ 1 พันกว่าบาท ตอนนั้นผมก็งงมากครับว่า หักเงินจากยอดอะไรหว่า พยายามคิดครับว่ามีไปผูกรายการอะไรกับเฟสบุ๊คมั้ย หรือซื้อโฆษณาอะไรรึเปล่า แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก และโฆษณาผมก็ไม่ได้ทำการซื้อหรือโปรโมทมานานเป็นเดือนแล้วเลยคิดว่าไม่น่าจะมี เลยโทรไปแจ้งกับทางธนาคารสีม่วงขอยกเลิกรายการและอาญัติบัตรใบนั้น ธนาคารก็ได้ทำการอาญัติและทำเรื่องออกบัตรใบใหม่มาแทนให้ แจ้งว่าภายใน 3-5 วัน ขณะเดียวกันก็แจ้งไปทางเฟสบุ๊ค ให้ช่วยตรวจสอบรายการที่เกิดขึ้นว่าคือรายการอะไร


ต่อมาผมได้รับบัตรเครดิตใบใหม่มาช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยทางธนาคารทำการเปลี่ยนเลขของบัตรให้ใหม่เพื่อความปลอดภัย และผมทำการเปิดใช้งานบัตรวันที่ 5 พ.ค. และบังเอิญวันนั้นผมอยากจะลองซื้อโฆษณายิงแอดตัวหนึ่งเลยทำการไปเพิ่มบัญชีชำระเงินบัตรเครดิตกับบัญชีโฆษณาเฟสบุ๊คอีกครั้ง สดๆร้อนๆ ยังไม่ทันได้ทดลองใช้ก็โดนอีกจนได้ มันกลับมาแล้วครับ ครั้งนี้ผมโดนหักเงินจากบัตรครั้งละ 210 บาท คราวนี้ถี่มากทุกๆ 10 นาที ผมก็คิดว่าเอาแล้วไงมันยังไม่จบ จะหมดตัวก็คราวนี้แหละกู! ตอนนั้นกำลังยุ่งๆอยู่เลยยังไม่ได้โทรแจ้งทางธนาคาร จนเมื่อมีการตัดรายการไปถึงครั้งที่ 6  ทางธนาคารสีม่วงก็เป็นคนโทรกลับมาหาเอง ถามว่ารายการบัตรพวกนี้เราเป็นคนดำเนินการใช้เองรึเปล่า เพราะดูแล้วมันค่อนข้างผิดปกติ ผมก็แจ้งว่าไม่ได้ใช้เลย และเคยเป็นมาแล้วช่วงปลายเดือนก่อน เพิ่งอาญัติและทำบัตรใหม่มา ตอนนี้ก็มาเป็นอีกครั้ง โดยธนาคารแนะนำว่าจะทำการบล๊อกการใช้บัตรเอาไว้ก่อนและให้ทำการแจ้งและขอคำอธิบายกับทางเฟสบุ๊ค หากเป็นรายการที่ผิดปกติจริงค่อยโทรมาแจ้งอาญัติเพื่อทำบัตรใหม่อีกครั้ง ...ต้องขอชมคุณพนักงานธนาคารม่วงที่ช่วยลูกค้าตรวจสอบอีกทางครับ เยี่ยมมากๆครับ


ในคืนวันนั้นผมก็มีลองเข้าไปดูในบัญชีโฆษณาของตัวเองว่าในระยะใกล้ๆนี้มีโฆษณาอะไรที่ยังรันอยู่แล้วเราไม่รู้มั้ย ก็เจอแคมเปญหนึ่ง ชื่อ "26" ซึ่งเป็นโพสภาษาเวียดนาม และยิงไปที่เวียดนาม เป็นโพสที่เหมือนบ่นหรือประชดอะไรเรื่องความรักสักอย่าง โดยตั้งยอดเงินไว้ที่ 2500/วัน!!! เอาแล้วไง ผมก็คิดว่าอันนี้ไม่ใช่เราแน่ๆ เพราะเคยซื้ออย่างมากก็วันละ 500 อันนี้ 2500 มันใจป้ำเกินไป ไม่ใช่กูๆแน่555 ตอนนี้รู้สึกแล้วว่าบัญชีเราโดนแฮกแล้วแน่ๆ ตอนนี้ยอดรวมๆที่เกิดขึ้นมารวมครั้งแรกคือ 2 พันกว่า เริ่มเครียด...



วันต่อมา 6 พ.ค. ผมก็พยายามหาข้อมูลในเนตว่าจะติดต่อกับทางเฟสบุ๊คได้ยังไงให้รวดเร็วและดีที่สุด ใจคืออยากคุยกับคนเป็นๆมาก ไม่อยากแค่พิมพ์ข้อความหรือส่งอีเมลล์คุยกัน สรุปคือหาวิธีจนได้คือการ แชทคุยกันในเพจของเฟสบุ๊คที่มีสำหรับช่วยเหลือผู้ใช้งานเฟสบุ๊คคนไทยชื่อเพจ Facebook Business Support อันนี้เราจะได้คุยกับคนเป็นๆเลยครับ คุยเป็นภาษาไทยกับคนไทยที่เป็นพนักงานของเฟสบุ๊ค(ผมคิดว่าใช่นะ55) คือดีมาก จึงแจ้งไปว่ามีรายการตัดเงินจากเฟสบุ๊คที่ผิดปกติ และบอกรายละเอียดไปว่าเป็นตัวแคมเปญไหนที่ผิดปกติ ซึ่งทางพนักงานเฟสบุ๊คที่เป็นผู้หญิงก็รับเรื่องว่าจะตรวจสอบให้ และแจ้งให้เราทำการเปลี่ยนรหัสบัญชีเฟสบุ๊ค รหัสอีเมลล์ ทุกสิ่งอย่างเพื่อความปลอดภัย ซึ่งผมก็ทำตามนั้น และแจ้งว่าจะแจ้งผลการตรวจสอบมาทางอีเมลล์

ต่อมาวันที่ 7 พ.ค. เช้าวันนี้ ลองเช็คอีเมลล์ยังไม่ได้รับการตอบกลับแจ้งผลจากทางเฟสบุ๊ค ผมว่างๆเลยลองกดเข้าบัญชีโฆษณาค้นไปดูโพสเก่าๆช่วงปีก่อนที่เคยลงไว้ เจอโฆษณาตัวเก่าที่ดูแปลกๆ ชื่อสั้นๆว่า "Messages" คือชื่อมันดูแปลกๆแล้วคิดว่าเราไม่ได้เป็นคนทำเองแน่ เลยกดเข้าไปเช็คดู โป๊ะเช๊ะ! ภาษาเวียดนามอีกแล้ว คราวนี้เป็นวีดีโอ เขียนว่า 18+ กดดูแล้วมีแต่เสียง ไม่มีรูปภาพ เหมือนดูไม่ได้ แต่คิดว่าเป็นภาษาเวียดนาม เลยเอาไปให้ลูกน้องที่เป็นคนเวียดนามฟังให้ เค้าว่าเป็นโพสเหมือนพูดโฆษณาขายของอะไรสักอย่างที่ถ่ายรูปได้ ดูทีวีดูหนังได้ ประมาณนี้ เราก็เอาและ กูโดนมานานแล้วนี่หว่า ที่พีคคือ โพสนี้มันตั้งยอดเงินไว้สูงลิบลิ่วที่ 80600 บาทต่อวัน!!! ดูไม่ผิดครับ แปดหมื่นหกร้อยบาทต่อวัน พระเจ้า! แต่พอลองดูยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นของโฆษณาตัวนี้ คือ 12000++ บาท ซึ่งผมก็คิดว่าอาจจะเพราะเป็นลิมิตของทางเฟสบุ๊คอะไรมั้ย หรือวงเงินของบัตรมันเต็มแล้ว ก็ว่าไป และคิดว่าที่ผ่านมาที่ไม่รู้ตัว อาจเพราะเมื่อก่อนไม่ได้ทำเรื่องให้แจ้งเตือนรายการใช้บัตร พอสิ้นเดือนมันจะขึ้นในรายการบัตรว่า Facebk45213#!@&* ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่าเป็นโฆษณารายการไหน ประกอบกับช่วงนั้นมีซื้อโฆษณาหลายตัวด้วยเลยไม่ได้เอะใจอะไร และยอมรับว่าตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนละเอียดอะไรเรื่องนี้ แค่คิดว่า ค่าโฆษณาแพงเหมือนกันนะ ต้องลดๆหน่อยและ555



จากนั้นไม่รอช้า รีบทักข้อความติดต่อเพื่อแชทสดกับพนักงานเฟสบุ๊คที่รักอีกครั้งในทันที คราวนี้เป็นพนักงานผู้ชาย พูดขอรายละเอียดการติดต่อในครั้งแรกทั้งหมด และขอเวลา 5 นาที เพื่อไปเช็คข้อมูลบัญชีโฆษณาให้ สักพักก็ทักกลับมาพร้อมแสดงข้อมูลให้ดูว่า มีทั้งหมด 2 แคมเปญที่เป็นโฆษณาที่ยิงไปที่เวียดนาม แต่ยอดทั้งหมด ไม่ใช่ตามที่ผมแจ้งไปว่าประมาณ12000+ แต่เป็นประมาณเกือบ 30000 บาท !!! คือพนักงานเค้าเช็คไปที่ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นโฆษณาตัวนี้เลย คือตั้งแต่ช่วงปี 2017- ปัจจุบัน ผมอาจไม่ชำนาญหรือเช็คไม่ละเอียดเลยดูไม่หมด จังหวะนั้นผมเริ่มเครียดจริงจังและ คิดว่าเฮ้ย นี่เราสะเพร่าขนาดนี้เลยหรอวะ ทำไมไม่เช็คให้ดี ประกอบกับรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในโลกออนไลน์ โซเชียล บลาๆ ขึ้นมาในบัดดล ว่าเอาและเคยแต่ได้ยินมา ไม่เคยโดนกับตัวเอง คราวนี้สนุกและ เงินจะได้คืนมั้ยวะ TT


แต่พี่พนักงานบอกว่าไม่ต้องกังวลใจไปครับ จะยื่นเรื่องทำการตรวจสอบรายการให้ทั้งหมด ถ้ารายการโฆษณาที่ยิงไปที่เวียดนามพิสูจน์ได้ว่าเราไม่ได้เป็นคนทำจริงก็จะทำเรื่องคืนเงินให้ โดยใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 24-48 ชม. แต่ในใจลึกๆก็คิดว่า มันนานเป็นปีๆแล้ว จะได้คืนจริงๆหรอ สุดท้ายจึงขอบคุณพี่พนักงานเฟสบุ๊คที่ช่วยเป็นธุระให้ และเฝ้ารอการตอบกลับอย่างใจจดใจจ่อ สุดท้ายจะได้เงินทั้งหมดคืนรึเปล่าไว้มาอัพเดทให้ทราบกันครับ ขอบคุณมากครับสำหรับการรับฟัง




ปล.แนบไว้เผื่อใครยังไม่ทราบนะครับ ทางพนักงานเฟสบุ๊คแจ้งมา
เค้าว่าสาเหตุที่พวกคนร้ายสามารถแฮกเข้ามาในระบบเราได้ มาจากพวกลิงค์เวปไซด์ หน้าต่างป๊อปอัพ อะไรที่เด้งขึ้นมาแล้วบอกให้เรายืนยันตัวตน คุณเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัล บลาๆ หรือต้องยืนยันข้อมูลไม่งั้นจะถูกลบบัญชี บ้างก็มาในรูปแบบที่เป็นทางการ อีเมลล์ที่ลอกเลียนหน้าตาของบริษัทที่น่าเชื่อถือ หลอกให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัวต่างๆ หรืออาจจะเป็นแอพลิเคชั่นต่างๆที่เราใช้งาน ที่ชอบเด้งขึ้นมาแล้วชอบให้เรากดยินยอมให้เข้าถึงข้อมูลนู้นนี่นั่น ซึ่งบางครั้งเรารำคาญอยากใช้งานเราก็รีบกดๆมันไปโดยไม่ได้คิดอะไร และควรหมั่นเปลี่ยนพาสเวิร์ดเข้าระบบเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน...