ก่อนอื่นเลย นี่เป็นกระทู้แรกที่เราตั้งขึ้นมาเพราะอยากระบายค่ะ
บ้านที่เราอาศัยอยู่ตอนนี้เป็นบ้านตึกแถวค่ะ ซอยบ้านเราเมื่อก่อนนี้เพื่อนบ้านรักกันดีมาก คอยช่วยเหลือกัน ไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะเบาะแวงกัน อะไรนิดอะไรหน่อยก็ช่วยกันไปค่ะ จนกระทั้งบ้านหัวมุมที่ติดกับบ้านเรามีแม่ลูก 2 คนย้ายเข้ามา
ต้องบอกก่อนนะคะว่าบ้านตรงหัวมุมเนี้ย มีคู่สามีภรรยาอาศัยอยู่ก่อนแล้วเป็นเพื่อนบ้านที่น่ารักมากค่ะ จนวันนึงน้องสาวของสามีบ้านหัวมุมพาแม่มาอาศัยอยู่ด้วย แม่ก็อายุเยอะแล้ว เรียกว่า ชรา ได้แล้วล่ะค่ะ ลูกสาวกับแม่ชอบทะเลาะกันเสียงดังมาก แถมยังกันพี่ชายตัวเองไม่ให้เข้าหาแม่ (บ้านหัวมุมเป็นคนมาเล่าให้บ้านเราฟังค่ะ เพราะว่าเป็นเพื่อนบ้านกันมานาน) เพราะเรื่องอะไรเราก็ไม่ทราบค่ะ จนพี่ชายและภรรยาทนไม่ไหวย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเพื่อตัดปัญหาค่ะ ก็เหลือแต่ลูกสาวกับแม่ (ตอนหลังขออณุญาติ เรียกว่า ยาย นะคะ) ทีนี้แหละค่ะทำให้เราและเพื่อนคนอื่นมีปัญหา อย่างที่บอกว่ายายที่อาศัยอยู่กับลูกสาวเนี้ยแก่มากแล้วทำอะไรก็จะหลงๆลืมๆอาจจะไม่ถูกใจไปบ้าง ลูกสาวแกก็จะด่าตลอดค่ะ ทะเลาะกันเสียงดังมากบางทีก็คว้างปาข้าวของแตก จนบ้านเราและเพื่อนบ้านคนอื่นๆรำคาญค่ะ ลูกสาวแกจะด่าแบบไม่เลือกเวลาเลยนะคะ บางที 7 โมงเช้าก็เอาแล้วค่ะ โมโหมากๆก็จะสตาร์ทรถกระบะคันเก่าของเขาแล้วก็บีบแตรลากยาวเสียงดังลั่นซอยเลยค่ะ ดังไปจนถึงซอยอื่นทำให้เพื่อนบ้านหลายคนไม่พอใจ ยิ่งบ้านใกล้ๆกันมีเด็กเล็กด้วยแล้วเด็กก็มักจะตื่นงอแงค่ะ เพื่อนบ้านอดทนกันมากจนความอดทนหมดลงเมื่อลูกสาวและยายให้อาหารนกพิราบค่ะ ชอบเอาข้าวสารมาหว่านให้นกพิราบกินที่หน้าบ้านตัวเอง แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยนะคะว่าบ้านตึกแถวเนี้ยมันไม่มีรั้วบ้านกั้นค่ะ มันจะเป็นถนนส่วนรวมแล้วก็เป็นบ้านตึกแถวติดเรียงกันไป ทีนี้แหละค่ะนกพิราบบินมากินอาหารกันเป็นฝูง ไปเกาะบ้านนู้นทีบ้านนี้ทีจนเพื่อนบ้านคนอื่นทนไม่ไหวเขาก็ไปว่าเอาค่ะ เพราะอย่างที่ทุกคนรู้นกพิราบมีพาหะและเชื้อโรคต่างๆอยู่ แล้วก็เวลามาทีก็จะบินว่อนเลยค่ะ ไล่ก็ไม่ค่อยจะไปพอบินไปได้หน่อยก็กลับมาอีก เพื่อนบ้านไปว่าก็บอกว่าตัวเองไม่ได้ทำค่ะ จนมีคนถ่ายรูปแล้วไปแจ้งเขต เขตก็มาดำเนินการตักเตือนและจับนกพิราบไปบ้างค่ะ แล้วก็แปะป้ายไว้ที่เสาไฟฟ้าว่าห้ามให้อาหารนกพิราบค่ะ เงียบไปได้สักพักเขาก็มีวิธีอื่นค่ะ เอาข้าวสารใส่กระเป๋ากางเกงทำเป็นเดินเล่นพอคนเผลอก็เอาข้าวสารหว่านค่ะ นกก็มาอีก แต่คราวนี้ไม่ให้ถี่เหมือนครั้งก่อนๆแต่ก็ยังคงให้อยู่ ส่วนเรื่องทะเลาะกันก็ยังคงมีอยู่บ่อยๆค่ะแทบจะทุกวัน หลังๆมานี้มักจะสตาร์ทรถทิ้งไว้ค่ะ แต่ไม่ขับออกไปไหนควันก็จะเหม็นไปทั่วค่ะ พอถามก็ให้เหตุผลว่ารถไม่ได้ขับทุกวันต้องสตาร์ทไว้บ้าง เครื่องจะได้ไม่เสีย แต่ถ้าสตาร์ทแล้วขับออกไปข้างนอกก็คงจะไม่มีใครว่าเอาหรอกค่ะ แต่นี้เล่นสตาร์ททิ้งไว้กับที่ บ้านใกล้ๆอย่างเราก็ต้องสูดควัน หนีเข้าบ้านกันเลยค่ะ เวลามีคนด่าก็จะหาว่าคนแถวนี้ใจร้ายใจดำ แต่เขาทำตัวเองทั้งนั้น อย่างลูกสาวแกอยากขายของก็เอารถกระบะไปต่อโครงเหล็กเพื่อที่จะขายข้าวไข่เจียวนึกอยากขายก็เอารถไปจอดทับที่แม่ค้าคนอื่น พอโดนว่าเอาก็เหมือนเดิมค่ะมาลงที่แม่แก เพื่อนบ้านอย่างเราก็ต้องรับกรรมไปค่ะ เราอยู่บ้านนี้มาตั้งแต่เด็กๆเจอเพื่อนบ้านดีๆมาโดยตลอดค่ะ แต่พอมาเจอแบบนี้จะเป็นบ้าไปด้วยแล้วค่ะ
เพื่อนบ้านแบบนี้ทำยังไงดีคะ อยู่บ้านใกล้กันเจอแบบนี้จะเป็นบ้าแล้วค่ะ
บ้านที่เราอาศัยอยู่ตอนนี้เป็นบ้านตึกแถวค่ะ ซอยบ้านเราเมื่อก่อนนี้เพื่อนบ้านรักกันดีมาก คอยช่วยเหลือกัน ไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะเบาะแวงกัน อะไรนิดอะไรหน่อยก็ช่วยกันไปค่ะ จนกระทั้งบ้านหัวมุมที่ติดกับบ้านเรามีแม่ลูก 2 คนย้ายเข้ามา
ต้องบอกก่อนนะคะว่าบ้านตรงหัวมุมเนี้ย มีคู่สามีภรรยาอาศัยอยู่ก่อนแล้วเป็นเพื่อนบ้านที่น่ารักมากค่ะ จนวันนึงน้องสาวของสามีบ้านหัวมุมพาแม่มาอาศัยอยู่ด้วย แม่ก็อายุเยอะแล้ว เรียกว่า ชรา ได้แล้วล่ะค่ะ ลูกสาวกับแม่ชอบทะเลาะกันเสียงดังมาก แถมยังกันพี่ชายตัวเองไม่ให้เข้าหาแม่ (บ้านหัวมุมเป็นคนมาเล่าให้บ้านเราฟังค่ะ เพราะว่าเป็นเพื่อนบ้านกันมานาน) เพราะเรื่องอะไรเราก็ไม่ทราบค่ะ จนพี่ชายและภรรยาทนไม่ไหวย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเพื่อตัดปัญหาค่ะ ก็เหลือแต่ลูกสาวกับแม่ (ตอนหลังขออณุญาติ เรียกว่า ยาย นะคะ) ทีนี้แหละค่ะทำให้เราและเพื่อนคนอื่นมีปัญหา อย่างที่บอกว่ายายที่อาศัยอยู่กับลูกสาวเนี้ยแก่มากแล้วทำอะไรก็จะหลงๆลืมๆอาจจะไม่ถูกใจไปบ้าง ลูกสาวแกก็จะด่าตลอดค่ะ ทะเลาะกันเสียงดังมากบางทีก็คว้างปาข้าวของแตก จนบ้านเราและเพื่อนบ้านคนอื่นๆรำคาญค่ะ ลูกสาวแกจะด่าแบบไม่เลือกเวลาเลยนะคะ บางที 7 โมงเช้าก็เอาแล้วค่ะ โมโหมากๆก็จะสตาร์ทรถกระบะคันเก่าของเขาแล้วก็บีบแตรลากยาวเสียงดังลั่นซอยเลยค่ะ ดังไปจนถึงซอยอื่นทำให้เพื่อนบ้านหลายคนไม่พอใจ ยิ่งบ้านใกล้ๆกันมีเด็กเล็กด้วยแล้วเด็กก็มักจะตื่นงอแงค่ะ เพื่อนบ้านอดทนกันมากจนความอดทนหมดลงเมื่อลูกสาวและยายให้อาหารนกพิราบค่ะ ชอบเอาข้าวสารมาหว่านให้นกพิราบกินที่หน้าบ้านตัวเอง แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยนะคะว่าบ้านตึกแถวเนี้ยมันไม่มีรั้วบ้านกั้นค่ะ มันจะเป็นถนนส่วนรวมแล้วก็เป็นบ้านตึกแถวติดเรียงกันไป ทีนี้แหละค่ะนกพิราบบินมากินอาหารกันเป็นฝูง ไปเกาะบ้านนู้นทีบ้านนี้ทีจนเพื่อนบ้านคนอื่นทนไม่ไหวเขาก็ไปว่าเอาค่ะ เพราะอย่างที่ทุกคนรู้นกพิราบมีพาหะและเชื้อโรคต่างๆอยู่ แล้วก็เวลามาทีก็จะบินว่อนเลยค่ะ ไล่ก็ไม่ค่อยจะไปพอบินไปได้หน่อยก็กลับมาอีก เพื่อนบ้านไปว่าก็บอกว่าตัวเองไม่ได้ทำค่ะ จนมีคนถ่ายรูปแล้วไปแจ้งเขต เขตก็มาดำเนินการตักเตือนและจับนกพิราบไปบ้างค่ะ แล้วก็แปะป้ายไว้ที่เสาไฟฟ้าว่าห้ามให้อาหารนกพิราบค่ะ เงียบไปได้สักพักเขาก็มีวิธีอื่นค่ะ เอาข้าวสารใส่กระเป๋ากางเกงทำเป็นเดินเล่นพอคนเผลอก็เอาข้าวสารหว่านค่ะ นกก็มาอีก แต่คราวนี้ไม่ให้ถี่เหมือนครั้งก่อนๆแต่ก็ยังคงให้อยู่ ส่วนเรื่องทะเลาะกันก็ยังคงมีอยู่บ่อยๆค่ะแทบจะทุกวัน หลังๆมานี้มักจะสตาร์ทรถทิ้งไว้ค่ะ แต่ไม่ขับออกไปไหนควันก็จะเหม็นไปทั่วค่ะ พอถามก็ให้เหตุผลว่ารถไม่ได้ขับทุกวันต้องสตาร์ทไว้บ้าง เครื่องจะได้ไม่เสีย แต่ถ้าสตาร์ทแล้วขับออกไปข้างนอกก็คงจะไม่มีใครว่าเอาหรอกค่ะ แต่นี้เล่นสตาร์ททิ้งไว้กับที่ บ้านใกล้ๆอย่างเราก็ต้องสูดควัน หนีเข้าบ้านกันเลยค่ะ เวลามีคนด่าก็จะหาว่าคนแถวนี้ใจร้ายใจดำ แต่เขาทำตัวเองทั้งนั้น อย่างลูกสาวแกอยากขายของก็เอารถกระบะไปต่อโครงเหล็กเพื่อที่จะขายข้าวไข่เจียวนึกอยากขายก็เอารถไปจอดทับที่แม่ค้าคนอื่น พอโดนว่าเอาก็เหมือนเดิมค่ะมาลงที่แม่แก เพื่อนบ้านอย่างเราก็ต้องรับกรรมไปค่ะ เราอยู่บ้านนี้มาตั้งแต่เด็กๆเจอเพื่อนบ้านดีๆมาโดยตลอดค่ะ แต่พอมาเจอแบบนี้จะเป็นบ้าไปด้วยแล้วค่ะ