หญิงสาวมาตามหาชายหนุ่ม อดีตคู่รักที่เลิกร้างกันไปนาน

เธอไปจากเขา เขาเป็นหนี้เธอ และจากไปโดยไม่เคยติดต่อกลับมา ประโยคแรกที่เธอเอ่ยหลังจากไม่ได้พบหน้ากันนานปี 'เอาเงินฉันคืนมา'

 


หนังบอกเล่าเรื่องราวในหนึ่งวัน เช้าจรดค่ำ

ผ่านการเดินทางและบทสนทนาของชายหนุ่มและหญิงสาว กับเหล่าตัวละครมากหน้า ที่หญิงสาวจำต้องติดตามชายหนุ่มไปพบ เพื่อเงินก้อนนั้นของเธอ

 


road movie ที่ฟังดูคล้ายจะน่าเบื่อ 

แต่บทสนทนาคมๆ กับท่าที ภาษากายที่แสดงออก เผยให้เราได้ทำความรู้จักแง่มุมความคิด ทัศนคติของหญิงสาวและชายหนุ่ม สะกดให้ฉันจับจ้องที่หน้าจออย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ด้วยความที่หนังเน้นหนักไปที่เนื้อหาของบทสนทนา พอที่คนดูเริ่มจะรู้สึกบางอย่าง ก็เป็นเวลาที่ ดนตรีแจ๊สดีๆ จะคลอเสียงขึ้นมา ช่วยผ่อนให้อารมณ์ของหนังละมุนขึ้นในทันทีทุกครั้ง อย่างเหมาะเจาะลงตัว standard jazz ที่ฟังง่ายไม่ดัดจริต ไม่ต้องปีนบันไดฟัง ท่วงทำนองไพเราะ เข้ากับอารมณ์ในช่วงเวลาที่แทรกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว

รวมทั้งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่หนังจงใจเผยความน่ารักของตัวละคร ทั้งตัวละครหลักสองคน และตัวละครแวดล้อมที่ทั้งคู่ต้องเดินทางไปตามหา
ตลอดทั้งวัน เพื่อเงินก้อนนั้นของหญิงสาว อย่างไม่ยัดเยียดแต่ดูลื่นไหลไปตามบริบทของเรื่องราว ก็เป็นสิ่งที่จุดรอยยิ้มบนมุมปากของคนดูได้อย่างไม่รู้ตัว

 


ฮาจองอู ในบทชายหนุ่มอดีตรักเก่าที่ติดหนี้คนรัก คนที่หญิงสาวเคยรัก ไม่อยากจะรัก แต่ก็คล้ายจะเกลียดไม่ลง ฮาจองอูถ่ายทอดบทบาทของเขาได้อย่างมีเสน่ห์มาก ทั้งน่าหยิกและน่ารักอย่างที่คนดูจะเกลียดไม่ลงด้วยเช่นกัน

ฮาจองอู คือนักแสดงชายที่ติดโผสำรวจความนิยมในบทบาทการแสดงของชนเกาหลีในลำดับต้นๆ ทุกครั้งมาเนิ่นนานหลายปี ตั้งแต่อดีตจวบปัจจุบัน
เป็นนักแสดงชาย ที่ผู้ชายเกาหลีในการสำรวจเลือกให้เป็นไอดอลอันดับต้นๆ เสมอ


 
ในขณะที่ จอนโดยอน เล่นน้อยๆ แต่ได้มาก เราจะสัมผัสได้ในความหงุดหงิดเล็กๆ ของหญิงสาวตลอดเวลา บางครั้งเราคล้ายจะเข้าใจเธอ แต่บางครั้งเราก็ไม่แน่ใจว่าเธอหงุดหงิดในความเป็นตัวตนของชายหนุ่มที่เธอรู้จักดี หรือหงุดหงิดตัวเองที่เหมือนยังมีตะกอนความรู้สึกบางอย่างตกค้างอยู่ในหัวใจหรือเปล่า
 
จอนโดยอน คือนักแสดงเกาหลีคนแรกและยังเป็นคนเดียวอยู่จนถึงวันนี้ ที่สามารถคว้ารางวัลทางการแสดงจากเวทีเมืองคานส์มาครองในฐานะ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม



ผู้กำกับอียุนกิ ผู้ได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับสายอาร์ตที่ขึ้นชื่อที่สุดคนหนึ่งในแวดวงหนังเกาหลี หนังของเขาดูไม่ยากและไม่ถึงกับจะเรียกว่าน่าเบื่อ แต่หนังของอียุนกิก็มีความเฉพาะตัวหรือจะเรียกว่ามีลายเซ็นในแบบของเขาอยู่ เขามักเล่าถึงความสัมพันธ์ของชายหนุ่ม-หญิงสาวในลักษณะของผู้สังเกตุการณ์อย่างไม่ตัดสินตัวละคร

หนังเกือบทุกเรื่องของเขาจะมีความเนิบช้าเรียบเรื่อย เน้นการบอกเล่าอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครผ่านท่าทีการแสดงออกแต่น้อย ปล่อยให้คนดูตีความด้วยตัวเองมากกว่าจะบอกเล่าผ่านปากตัวละคร คนที่ไม่ชอบสไตล์นี้อาจลงความเห็นว่าน่าเบื่อ แต่ถ้าคนชอบ ก็จะชอบมาก เพราะสิ่งนี้คือเสน่ห์ในงานของอียุนกิทุกเรื่อง 

ในบรรดาหนังหลายเรื่องของเขาอย่าง Come Rain Come Shine, A Man and A Woman หรือ One Day เมื่อเทียบกันแล้ว "My Dear Enemy" ถือเป็นความสดใส สดชื่น ที่สุดเรื่องหนึ่งในบรรดาทั้งหมดแล้วในความเห็นของฉัน
 



หนังรักที่ไม่มีแม้คำบอกรัก ไม่มีแม้การเกาะกุมมือหรือสวมกอด อย่าว่าแต่จุมพิตหรืออะไรที่ไกลกว่านั้น ว่ากันตามจริงแล้วฉันไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ว่าจะเรียกว่าหนังรักได้หรือไม่ แต่เมื่อมองในแง่มุมของความรักก็ไม่สามารถปฏิเสธได้จริงๆ แถมฉันยังไม่รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ด้อยกว่าหนังรักเรื่องอื่นสักนิด

อย่างน้อยก็พิสูจน์ว่าหนังรักไม่จำเป็นต้องมีเลิฟซีนวาบหวาม ไม่จำเป็นต้องมีฉากทิวทัศน์สวยงาม ไม่จำเป็นต้องมีอีกหลายๆ มี ขอแค่มีบทภาพยนตร์ที่ดี การแสดงที่แนบเนียนเข้าถึงบทบาท เพียงเท่านี้ก็สามารถครองใจคนดูและเป็นที่จดจำไปอีกนาน

.

ชมตัวอย่างหนังที่นี่


.

ศัตรูที่รัก 'My Dear Enemy' หนังเกาหลีที่กลายเป็น หนึ่งในหนังรักที่น่ารักน่าหยิกที่สุดอีกเรื่องสำหรับฉัน

.

My Dear Enemy (2008)
director : Lee Yoon Ki
cast : Joen Do Yeon - Ha Jung Woo

.

ฟังเพลงที่นี่ค่ะ



.

ชมภาพยนตร์ที่นี่ค่ะ (ซับ english)


มีทั้งหมด 14 คลิปสั้นๆ กดที่ลิงค์นะคะ

https://www.youtube.com/playlist?list=PL2Exrz1nWJ1cNW9hcZyrmyUBKxrCCJDIo