สวัสดีค่า อีกคลิปคลอดออกมาละจ้า
คราวนี้จะพาไปเที่ยวเชจูกันค่ะ!
เชจูเป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวเกาหลี และชาวต่างชาตินิยมไปพักผ่อนหย่อนใจกันที่นี่ เปรียบเสมือนเป็นเมืองตากอากาศของชาวเกาหลีค่ะ เชจูเป็นเกาะที่มีปากปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วอยู่ตรงกลางเกาะ เนื่องด้วยสภาพภูมิประเทศอันหลากหลาย จึงทำให้มีที่เที่ยวเยอะมากๆ ฝนไปมาทั้ง ชายหาด น้ำตก ภูเขา หน้าผา เก็บส้ม เสพย์งานอาร์ตของคุณป้า ยาโยอิ และกินหมูดำ (ที่ไปมาทั้งหมดในคลิปนี้ไปยังไม่ถึงครึ่งนึงของเกาะเลยค่ะ) ยังไงลองติดตามชมกันนะคะ
ทริปนี้เกิดขึ้นมาเนื่องจากทำงานแล้วเครียดมาก ร่างกายต้องการ การเที่ยว 555 เลยไปมันเลย 10 วันจ้า เก็บเงินมานานเพื่อสิ่งนี้ ก็ขอใช้สักหน่อยเนอะ ตอนแรกก็จะมีเพื่อนไปด้วยแหละ แต่สุดท้ายล่ม จึงเกิดความคิดว่า เที่ยวก็เดียวก็ได้จะไปรอใครทำไม ทริปไปเกาหลีคนเดียวจึงเกิดขึ้นค่ะ ไปหลายๆเมืองในเกาหลีด้วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่รองลงมาจากโซลทั้งหมดเลย
เมืองที่จะไปก็มี ทั้งหมด 3 เมือง 2 เกาะ ด้วยกันค่ะ (จะมาอัพเดตเรื่อยๆนะ)
- ปูซาน (Oct 31 – Nov 4) http://fxxkbeauty.com/vlog-17-busan/
- คยองจู (Nov 3) *เพื่อนขับรถพาไป https://fxxkbeauty.com/vlog-18-gyeong-ju/
- เชจู (Nov 4 – Nov 7) http://fxxkbeauty.com/vlog-19-jeju/
- อูโด (Nov 6) http://fxxkbeauty.com/vlog-20-udo/
- โซล (Nov 7 – Nov 11)
รีวิวเที่ยวเกาหลี 12 วัน 11 คืน
งบประมาณ
- ค่ากิน,ค่าช้อป 25,000.-
- ค่าตั๋ว (รวมระหว่างเมือง (ไปกลับ กรุงเทพ โซล, โซล-ปูซาน, ปูซาน-เชจู, เชจู-โซล) ประมาณ 12,500
- ค่า Airbnb 11 คืน ประมาณ 15,000.-
- ค่าแท๊กซี่ทัวร์ส่วนตัวในเกาะเชจู 1 วัน 4,800.-
- ค่า sim2fly 399.-
ฝนทำ Map ใน google Pin สถานที่ต่างๆ เอาไว้ดูตอนไปที่นู่นนะคะ
https://goo.gl/maps/VVXHHPgadg6SX9K39
(มีสถานที่ที่นอกเหนือจากที่ได้ไปมาด้วยเพราะแพลนเผื่อๆไว้ค่ะ)
แชร์เอาไว้ให้เผื่อใครอยากลองวางแผนเที่ยวบ้าง
Jeju Island
Day 1
ฝนถึงเชจูประมาณบ่ายแก่ๆค่ะ เดินทางมาจากปูซาน (
http://fxxkbeauty.com/vlog-17-busan/)
จากนั้นก็เอากระเป๋าวางที่ AirBnB ค่ะ (กดไปจอง
https://th.airbnb.com/c/thanapornp100?currency=THB ได้ส่วนลดด้วยค่า)
Jeju จะแบ่งออกเป็นสองฝั่ง คือ
ฝั่งเหนือหรือ Jeju City กับฝั่งใต้ Seogwipo City ค่ะ
ฝนเลือกที่พักที่ใกล้สนามบินในฝั่ง Jeju City เพราะไฟลท์เป็นตอนเช้า กลัวไปจาก Seogwipo ไม่ทันค่ะ ที่ค่อนข้างกว้างขวาง สะอาด ราคาก็ไม่แพง ไปกัน 3 คนยังคิดว่านอนพอสบายๆเลยค่ะ
(ฝนเลือกพักที่ห้องนี้ค่ะ)
https://www.airbnb.com/rooms/24094917?s=67&sharer_id=102046473&unique_share_id=5c61605d-dcf6-49a5-a2f5-62e0239af11d
จากนั้นก็รีบไปที่ชายหาด iho tewoo ค่ะ มีแลนด์มาร์กเป็นประภาคารรูปม้าสองตัว สีแดงกับสีขาว น่ารักมากๆ
แถวนั้นมีคาเฟ่น่ารักเยอะมากๆ แต่ฝนไปถึงช้าคาเฟ่ปิดเกือบหมดเลย เลยรีบกลับบ้านไปพักผ่อนค่ะ
Day 2
ฝนใช้บริการ Private Taxi Tour ของบริษัทนี้ค่ะ
https://jejutour.club/
คุณลุงน่ารักแต่เราไม่ได้เลือกคนที่พูดภาษาอังกฤษเก่งมา เพราะต้องจ่ายแพงกว่า และเราก็พอพูดภาษาเกาหลีได้นิดหน่อยเลยพอสื่อสารกันรู้เรื่องค่ะ
ราคาก็ค่อนข้างเอาเรื่องอยู่แต่ด้วยความที่อยากจะไปเที่ยวจริงๆ แต่ร่างกายไม่พร้อมจึงยอมจ่ายค่ะ
ถ้ามากันสักสี่คน ราคาจะโอเคมากๆเลยนะ แล้วก็ไปที่ไหนก็ได้ตามใจเลย สะดวกสบายค่ะ
Stop 1: Saebyeol Oreum
เป็นภูเขาลูกใหญ่ๆ ที่มีดอกหญ้าแบบนี้อยู่ทั่วทั้งลูกเลยค่ะ
ฝนได้แต่เดินถ่ายรูปชิคๆ เก๋ๆ เพราะมันสูงมากเลยไม่ได้เดินขึ้นไปจนถึงยอดค่ะ
ถ้าไปถึงยอดจะเห็นวิวของเมืองเชจูไปไกลสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ
Stop 2: Bonte Museum
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะของศิลปินไว้หลากหลายค่ะ
มีทั้งแบบเกาหลีดั้งเดิม
และศิลปะสมัยใหม่ที่มีความ modern ใน gallery อื่นๆ
ตัวพิพิธภัณฑ์เองก็ถือว่าเป็นสถาปัตติยกรรมที่สวยงามได้รับการดีไซน์ที่ออกแบบมาอย่างดี
ไฮไลต์ของที่นี่สำหรับฝนคือห้อง Infinity Mirrored Room ของคุณป้า Yayoi Kusama ค่ะ
สวยมากๆ เหมือนอยู่ในวังวนอะไรสักอย่าง
Stop 3: Jusangjeolli Cliff
เป็นความสวยงามทางธรรมชาติที่เห็นได้ เมื่อลาวาเย็นตัวลงเมื่อเจอกับน้ำทะเล ทำให้เกิดแท่งหินบะซอลต์แบบนี้ค่ะ สวยแปลกตา หาดูที่ประเทศไทยไม่ได้เลยต้องมาดูที่นี่ 555
Stop 4: Cheongjeyeon Falls
น้ำตก Cheongjeyeon เป็นสถานที่ที่มีน้ำตกหลากหลายอัน ด้วยความสูงที่แตกต่างกันค่ะ สวยงาม และน้ำไหลแรงมากกกกกก ทำให้บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย เดินไปก็ไม่เหนื่อยเลยค่ะ ทางเดินเค้าทำไว้ดีมาก สามารถเดินได้สบายไม่ลื่นแน่นอนค่ะ
Stop 5: Oedolgae
นี่คือโขดหินรูปร่างเป็นแท่ง สูงประมาณ 20 เมตร เนื่องจากโดนน้ำทะเลกัดเซาะค่ะ
ตามตำนานเล่าว่าก้อนหินคือคุณย่าที่มารอคุณปู่นานมากจนกลายเป็นหินเลยมีชื่อเล่นว่าหินคุณย่าค่ะ
Stop 5: JeongBang Falls
เป็นน้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผา แล้วไหลลงสู่ทะเลเลยทันที สถานที่แบบนี้บนโลกของเรามีไม่เยอะค่ะ ที่น้ำตกนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น
สวยมากๆ แต่ขอบอกว่าน้ำไกลแรงมากๆ จนพูดกันไม่ได้ยิน 555
Stop 6: Citrus Museum
เนื่องจากตอนที่เราไปมันเป็นหน้าส้ม เราวอแวให้คุณลุงพาเราไปเก็บส้มให้ได้ 555 คุณลุงเลยพาเรามาเก็บส้มที่พิพิธภัณฑ์ส้มค่ะ เค้าจะให้ถุงมา ใส่ส้มกลับไปทานที่บ้านได้
หรือใครอดใจไม่ไหวแกะทานจากต้นเลยก็ได้ โอ้โห อร่อยมากๆ เรากินไปหลายลูกเลย ส้มชนิดนี้ไม่มีเม็ด เนื้อหวานฉ่ำมาก ตอนที่ทานอากาศก็เย็นๆ ฟินมากจ้าาา
Stop 7: Dongmun Market
ใครอยากหาซื้อของฝากและกิน Street Food หมูดำต่างๆ ให้มาทานได้ที่ตลาดนี้จ้ะ
ของฝากมีหลายแบบมากๆแต่ที่เชจูสิ่งที่ดังๆก็จะเป็นส้มเลยจะมีผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากส้มให้เห็นเยอะ
ก็จบไปแล้วนะคะสำหรับการเที่ยวที่เชจู ของเมืองอื่นๆจะตามมาเร็วๆนี้ค่ะ รอติดตามกันด้วยน้า
♡ กด subscribe สำหรับวีดีโอต่อๆไป
http://bit.ly/fxxkbeautysubbie
♡ กดติดตามบน INSTAGRAM
https://instagram.com/fxxkbeauty
♡ กดไลค์บน FACEBOOK
https://www.facebook.com/fxxkbeauty
Vlog #19: Jeju เกาะสวรรค์ของคนเกาหลีใต้ | เพราะเกาหลีไม่ได้มีแค่โซล 3
คราวนี้จะพาไปเที่ยวเชจูกันค่ะ!
เชจูเป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวเกาหลี และชาวต่างชาตินิยมไปพักผ่อนหย่อนใจกันที่นี่ เปรียบเสมือนเป็นเมืองตากอากาศของชาวเกาหลีค่ะ เชจูเป็นเกาะที่มีปากปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วอยู่ตรงกลางเกาะ เนื่องด้วยสภาพภูมิประเทศอันหลากหลาย จึงทำให้มีที่เที่ยวเยอะมากๆ ฝนไปมาทั้ง ชายหาด น้ำตก ภูเขา หน้าผา เก็บส้ม เสพย์งานอาร์ตของคุณป้า ยาโยอิ และกินหมูดำ (ที่ไปมาทั้งหมดในคลิปนี้ไปยังไม่ถึงครึ่งนึงของเกาะเลยค่ะ) ยังไงลองติดตามชมกันนะคะ
ทริปนี้เกิดขึ้นมาเนื่องจากทำงานแล้วเครียดมาก ร่างกายต้องการ การเที่ยว 555 เลยไปมันเลย 10 วันจ้า เก็บเงินมานานเพื่อสิ่งนี้ ก็ขอใช้สักหน่อยเนอะ ตอนแรกก็จะมีเพื่อนไปด้วยแหละ แต่สุดท้ายล่ม จึงเกิดความคิดว่า เที่ยวก็เดียวก็ได้จะไปรอใครทำไม ทริปไปเกาหลีคนเดียวจึงเกิดขึ้นค่ะ ไปหลายๆเมืองในเกาหลีด้วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่รองลงมาจากโซลทั้งหมดเลย
เมืองที่จะไปก็มี ทั้งหมด 3 เมือง 2 เกาะ ด้วยกันค่ะ (จะมาอัพเดตเรื่อยๆนะ)
- ปูซาน (Oct 31 – Nov 4) http://fxxkbeauty.com/vlog-17-busan/
- คยองจู (Nov 3) *เพื่อนขับรถพาไป https://fxxkbeauty.com/vlog-18-gyeong-ju/
- เชจู (Nov 4 – Nov 7) http://fxxkbeauty.com/vlog-19-jeju/
- อูโด (Nov 6) http://fxxkbeauty.com/vlog-20-udo/
- โซล (Nov 7 – Nov 11)
รีวิวเที่ยวเกาหลี 12 วัน 11 คืน
งบประมาณ
- ค่ากิน,ค่าช้อป 25,000.-
- ค่าตั๋ว (รวมระหว่างเมือง (ไปกลับ กรุงเทพ โซล, โซล-ปูซาน, ปูซาน-เชจู, เชจู-โซล) ประมาณ 12,500
- ค่า Airbnb 11 คืน ประมาณ 15,000.-
- ค่าแท๊กซี่ทัวร์ส่วนตัวในเกาะเชจู 1 วัน 4,800.-
- ค่า sim2fly 399.-
ฝนทำ Map ใน google Pin สถานที่ต่างๆ เอาไว้ดูตอนไปที่นู่นนะคะ
https://goo.gl/maps/VVXHHPgadg6SX9K39
(มีสถานที่ที่นอกเหนือจากที่ได้ไปมาด้วยเพราะแพลนเผื่อๆไว้ค่ะ)
แชร์เอาไว้ให้เผื่อใครอยากลองวางแผนเที่ยวบ้าง
Jeju Island
Day 1
ฝนถึงเชจูประมาณบ่ายแก่ๆค่ะ เดินทางมาจากปูซาน (http://fxxkbeauty.com/vlog-17-busan/)
จากนั้นก็เอากระเป๋าวางที่ AirBnB ค่ะ (กดไปจอง https://th.airbnb.com/c/thanapornp100?currency=THB ได้ส่วนลดด้วยค่า)
Jeju จะแบ่งออกเป็นสองฝั่ง คือ
ฝั่งเหนือหรือ Jeju City กับฝั่งใต้ Seogwipo City ค่ะ
ฝนเลือกที่พักที่ใกล้สนามบินในฝั่ง Jeju City เพราะไฟลท์เป็นตอนเช้า กลัวไปจาก Seogwipo ไม่ทันค่ะ ที่ค่อนข้างกว้างขวาง สะอาด ราคาก็ไม่แพง ไปกัน 3 คนยังคิดว่านอนพอสบายๆเลยค่ะ
(ฝนเลือกพักที่ห้องนี้ค่ะ) https://www.airbnb.com/rooms/24094917?s=67&sharer_id=102046473&unique_share_id=5c61605d-dcf6-49a5-a2f5-62e0239af11d
จากนั้นก็รีบไปที่ชายหาด iho tewoo ค่ะ มีแลนด์มาร์กเป็นประภาคารรูปม้าสองตัว สีแดงกับสีขาว น่ารักมากๆ
แถวนั้นมีคาเฟ่น่ารักเยอะมากๆ แต่ฝนไปถึงช้าคาเฟ่ปิดเกือบหมดเลย เลยรีบกลับบ้านไปพักผ่อนค่ะ
Day 2
ฝนใช้บริการ Private Taxi Tour ของบริษัทนี้ค่ะ https://jejutour.club/
คุณลุงน่ารักแต่เราไม่ได้เลือกคนที่พูดภาษาอังกฤษเก่งมา เพราะต้องจ่ายแพงกว่า และเราก็พอพูดภาษาเกาหลีได้นิดหน่อยเลยพอสื่อสารกันรู้เรื่องค่ะ
ราคาก็ค่อนข้างเอาเรื่องอยู่แต่ด้วยความที่อยากจะไปเที่ยวจริงๆ แต่ร่างกายไม่พร้อมจึงยอมจ่ายค่ะ
ถ้ามากันสักสี่คน ราคาจะโอเคมากๆเลยนะ แล้วก็ไปที่ไหนก็ได้ตามใจเลย สะดวกสบายค่ะ
Stop 1: Saebyeol Oreum
เป็นภูเขาลูกใหญ่ๆ ที่มีดอกหญ้าแบบนี้อยู่ทั่วทั้งลูกเลยค่ะ
ฝนได้แต่เดินถ่ายรูปชิคๆ เก๋ๆ เพราะมันสูงมากเลยไม่ได้เดินขึ้นไปจนถึงยอดค่ะ
ถ้าไปถึงยอดจะเห็นวิวของเมืองเชจูไปไกลสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ
Stop 2: Bonte Museum
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะของศิลปินไว้หลากหลายค่ะ
มีทั้งแบบเกาหลีดั้งเดิม
และศิลปะสมัยใหม่ที่มีความ modern ใน gallery อื่นๆ
ตัวพิพิธภัณฑ์เองก็ถือว่าเป็นสถาปัตติยกรรมที่สวยงามได้รับการดีไซน์ที่ออกแบบมาอย่างดี
ไฮไลต์ของที่นี่สำหรับฝนคือห้อง Infinity Mirrored Room ของคุณป้า Yayoi Kusama ค่ะ
สวยมากๆ เหมือนอยู่ในวังวนอะไรสักอย่าง
Stop 3: Jusangjeolli Cliff
เป็นความสวยงามทางธรรมชาติที่เห็นได้ เมื่อลาวาเย็นตัวลงเมื่อเจอกับน้ำทะเล ทำให้เกิดแท่งหินบะซอลต์แบบนี้ค่ะ สวยแปลกตา หาดูที่ประเทศไทยไม่ได้เลยต้องมาดูที่นี่ 555
Stop 4: Cheongjeyeon Falls
น้ำตก Cheongjeyeon เป็นสถานที่ที่มีน้ำตกหลากหลายอัน ด้วยความสูงที่แตกต่างกันค่ะ สวยงาม และน้ำไหลแรงมากกกกกก ทำให้บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย เดินไปก็ไม่เหนื่อยเลยค่ะ ทางเดินเค้าทำไว้ดีมาก สามารถเดินได้สบายไม่ลื่นแน่นอนค่ะ
Stop 5: Oedolgae
นี่คือโขดหินรูปร่างเป็นแท่ง สูงประมาณ 20 เมตร เนื่องจากโดนน้ำทะเลกัดเซาะค่ะ
ตามตำนานเล่าว่าก้อนหินคือคุณย่าที่มารอคุณปู่นานมากจนกลายเป็นหินเลยมีชื่อเล่นว่าหินคุณย่าค่ะ
Stop 5: JeongBang Falls
เป็นน้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผา แล้วไหลลงสู่ทะเลเลยทันที สถานที่แบบนี้บนโลกของเรามีไม่เยอะค่ะ ที่น้ำตกนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น
สวยมากๆ แต่ขอบอกว่าน้ำไกลแรงมากๆ จนพูดกันไม่ได้ยิน 555
Stop 6: Citrus Museum
เนื่องจากตอนที่เราไปมันเป็นหน้าส้ม เราวอแวให้คุณลุงพาเราไปเก็บส้มให้ได้ 555 คุณลุงเลยพาเรามาเก็บส้มที่พิพิธภัณฑ์ส้มค่ะ เค้าจะให้ถุงมา ใส่ส้มกลับไปทานที่บ้านได้
หรือใครอดใจไม่ไหวแกะทานจากต้นเลยก็ได้ โอ้โห อร่อยมากๆ เรากินไปหลายลูกเลย ส้มชนิดนี้ไม่มีเม็ด เนื้อหวานฉ่ำมาก ตอนที่ทานอากาศก็เย็นๆ ฟินมากจ้าาา
Stop 7: Dongmun Market
ใครอยากหาซื้อของฝากและกิน Street Food หมูดำต่างๆ ให้มาทานได้ที่ตลาดนี้จ้ะ
ของฝากมีหลายแบบมากๆแต่ที่เชจูสิ่งที่ดังๆก็จะเป็นส้มเลยจะมีผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากส้มให้เห็นเยอะ
ก็จบไปแล้วนะคะสำหรับการเที่ยวที่เชจู ของเมืองอื่นๆจะตามมาเร็วๆนี้ค่ะ รอติดตามกันด้วยน้า
♡ กด subscribe สำหรับวีดีโอต่อๆไป http://bit.ly/fxxkbeautysubbie
♡ กดติดตามบน INSTAGRAM https://instagram.com/fxxkbeauty
♡ กดไลค์บน FACEBOOK https://www.facebook.com/fxxkbeauty