ความสัมพันธ์ที่ต้องหารทุกอย่าง !

คิดยังไงกันบ้างค่ะ หารแม้กระทั่งตอนเราตกงานแต่เขาได้เงินเดือนเกือบ20000 ! อยากกำจัดความคิดนี้แต่พอโดนเพื่อนพูดกรอกหูบ่อยๆมันก็จริงนะ ทำไมเขาไม่ซับพรอตเราบ้างเลย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
เราก็มองว่าไม่ ok นะ ถ้าในสถานะปกติแล้วหารกันทุกอย่างนี่รับได้ แต่ในภาวะที่คนนึงขาดแคลน มีปัญหา ถ้าอีกฝ่ายไม่ช่วยเหลือแบ่งเบามันก็แย่

เราว่าถึงไม่ใช่แฟน แต่เป็นเพื่อนสนิทแบบสนิ๊ทสนิทกัน เราว่าเพื่อนยังดูแลกัน อย่างน้อยค่าอาหารล่ะที่ต้องช่วยเหลือ ส่วนเรื่องอื่น อาจเป็นเงินยืม หรือรอให้เพื่อนลืมตาอ้าปากได้ค่อยตอบแทนคืน

ถ้าคู่รักไม่ช่วยเหลือยามคนนึงตกทุกข์ได้ยาก มันก็แสดงธาตุแท้ออกมาแล้วล่ะ

ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะถอยหลังหรือเดินหน้าต่อ เพราะการบ่นอย่างเดียวไม่แก้ปัญหา
ความคิดเห็นที่ 7
การผลักภาระตัวเองไปหาผู้อื่น ช่างเป็นแฟนที่ไม่น่ารักเอาซะเลย
ทุกคนมีภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัวกันทั้งนั้น หรือคุณอยากไปเพิ่มภาระเขาอีกคน
ไม่ใช่เขาไม่มีภาระแล้วคุณจะเบียดเบียนเขาได้เพียงเพราะคุณเป็นแฟน

แทนที่จะคิดว่าตัวเองต้องยืนด้วยลำแข้ง มีพ่อมีแม่ คนแรกที่ควรไปให้ช่วยคือคนที่คลอดคุณมา
ตราบใดที่คุณยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ถ้าเป็นสามีภรรยาก็ว่ากันอีกเรื่อง
แล้วไอเพื่อนที่กรอกหูคุณให้เลิกกับแฟนมันช่วยจ่ายค่าไฟ ค่าน้ำให้คุณไหม? ถ้ามันหวังดีทำไมมันไม่ช่วย
คุณลองไปขอยืมเงินพวกนั้นดูสิ ผมว่าเขาไม่ช่วยคุณหรอก

คนเราประเมินคนอื่นและถูกประเมินตลอดเวลา คุณอาจจะประเมินว่าเขาไม่ช่วยเหลือในยามยาก(หน้าที่เขาไหม?)
เขาก็ประเมินคุณว่าคุณเป็นแค่แฟนไปเกาะเขากิน ยังไม่ทันแต่งงานก็เป็นภาระแล้ว แต่งไปนี่ภาระทั้งก้อนตกมาที่ตัวเอง

คุณกำลังทำให้ความสัมพันธ์ตัวเองกลายเป็น Toxic Relationship ด้วยการเอาภาระและความลำบากตัวเอง
มาเป็นประเด็นปัญหาของชีวิตคู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่