คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) วันที่ 3 พ.ค. 2563
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 3 พฤษภาคม 2563
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2563 ประเทศไทยมี
ผู้ติดเชื้อสะสม 2,969** ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้นในวันนี้ 3** ราย)
เสียชีวิตรวม 54 ราย (ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้) คิดเป็น 1.82%
**ทั้งนี้ได้มีการค้นหาเชิงรุกในชุมชน โดยในจังหวัดยะลามีการค้นหาผู้ป่วยในกลุ่มผู้สัมผัสและค้นหาเชิงรุก เนื่องจากบางพื้นที่ยังพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมได้จริง ซึ่งผลเบื้องต้นพบว่ามีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวนหนึ่ง (ทุกรายได้รับการดูแล และแยกกัก) แต่ไม่มีอาการ จึงต้องมีการทบทวนรายละเอียดในกระบวนการที่เกี่ยวข้องและเก็บสิ่งส่งตรวจใหม่**
รักษาหายป่วยแล้ว 2,739 ราย (92.25%) เพิ่มขึ้น 7 ราย
ผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 3 ราย ใน 2 จังหวัด เข้ารับการรักษาในกรุงเทพมหานคร (2 ราย) และ นราธิวาส (state quarantine 1 ราย)
กรุงเทพมหานคร มีผู้ป่วยที่รับรักษาสะสมมากที่สุด (1,526 ราย) ตามด้วย ภูเก็ต (220), นนทบุรี (157), ยะลา (118), สมุทรปราการ (114), ชลบุรี (87), ปัตตานี (79), สงขลา (44), เชียงใหม่ (40) , ปทุมธานี (39) , นราธิวาส (28) และนครปฐม (22) โดยมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระหว่าง state quarantine ในจังหวัดต่างๆ 84 ราย
ทั้งนี้มี 9 จังหวัดที่ไม่มีรายงานการรับรักษาผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี อ่างทอง (และสตูล ซึ่งรับผู้ติดเชื้อใน State quarantine)
และมีอีก 32 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในช่วง 28 วันที่ผ่านมา
ส่วนรายงานข้อมูลของอาเซียนและการวิเคราะห์จะอยู่ในรอบการรายงานช่วงเย็น
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2753072988151589?__tn__=-R
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 3 พฤษภาคม 2563
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 3 พฤษภาคม 2563
กด! ก่อนเปิด
ต่ำสิบครบ 7 วันแล้ว! ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ (3 พค. 63) ลดลงไปเหลือแค่ 3 รายเท่านั้น ซึ่งเป็นการลดลงครึ่งหนึ่งของเมื่อวาน คือ 6 ราย และทำให้ยอดผู้ติดเชื้อ “ต่ำสิบ” ครบ 1 สัปดาห์พอดีในวันนี้ นอกจากนี้ ยังไม่มีผู้เสียชีวิตเป็นวันที่ 5 ต่อเนื่องกัน
การที่เราสามารถ “กด” ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ให้ต่ำลงได้จนใกล้ความหวังที่ยอดจะเป็น “ศูนย์” นั้นมีความสำคัญมากๆ เนื่องจากเรากำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออีกช่วงหนึ่งของการต่อสู้กับโควิด-19 นั้นคือในวันนี้ เป็นวันแรกที่ทางการเริ่มผ่อนคลายให้มีการเปิดกิจการ สถานที่ต่างๆ และอนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมหลายประเภทเพื่อกลับสู่ความเป็นปกติในระยะที่ 1 ซึ่งต้องยอมรับตามตรงว่ามีความเสี่ยงที่เราจะเกิดยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอีกในอีก 5-7 วันก็เป็นได้
ดังนั้นเราจึงต้องกดยอดลงเอาไว้ให้ต่ำที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงให้มากที่สุดที่จะมีผู้ติดเชื้อหลงเหลืออยู่ ทั้งที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการ ยิ่งถ้าเรากดยอดลงให้เป็นศูนย์ได้ภายใน 7 วันนี้ได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่ยอดจะเพิ่มน้อยเท่านั้น ทำให้ยังรักษาระดับ “ต่ำสิบ” ไว้ได้ภายในวันที่ 8-14 ที่จะมีการประเมินสถานการณ์เพื่อพิจารณา “เปิด” บ้านเปิดเมืองในระยะต่อไป แต่ถ้าเราประมาท การ์ดตกเมื่อไหร่ เรากดยอดไม่ลงและพุ่งขึ้นเกินสิบ หรือไปถึงหลายสิบเมื่อไหร่ เราก็อาจจะต้องกลับมาปิดเมืองกันอีกครั้ง เหมือนกับบทเรียนของหลายๆประเทศที่เราเห็น
อย่าลืมนะคะ การรักษาวินัย รักษาระยะห่าง เป็นวิธีการเดียวที่จะช่วยให้เรากดหางกราฟที่สวยงามนี้ไม่ให้โงหัวขึ้นมาได้อีก
https://www.facebook.com/ThaiCovidCenter/photos/a.101090364890215/123913665941218/?type=3&__tn__=-R
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 3 พฤษภาคม 2563
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2563 ประเทศไทยมี
ผู้ติดเชื้อสะสม 2,969** ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้นในวันนี้ 3** ราย)
เสียชีวิตรวม 54 ราย (ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้) คิดเป็น 1.82%
**ทั้งนี้ได้มีการค้นหาเชิงรุกในชุมชน โดยในจังหวัดยะลามีการค้นหาผู้ป่วยในกลุ่มผู้สัมผัสและค้นหาเชิงรุก เนื่องจากบางพื้นที่ยังพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมได้จริง ซึ่งผลเบื้องต้นพบว่ามีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวนหนึ่ง (ทุกรายได้รับการดูแล และแยกกัก) แต่ไม่มีอาการ จึงต้องมีการทบทวนรายละเอียดในกระบวนการที่เกี่ยวข้องและเก็บสิ่งส่งตรวจใหม่**
รักษาหายป่วยแล้ว 2,739 ราย (92.25%) เพิ่มขึ้น 7 ราย
ผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 3 ราย ใน 2 จังหวัด เข้ารับการรักษาในกรุงเทพมหานคร (2 ราย) และ นราธิวาส (state quarantine 1 ราย)
กรุงเทพมหานคร มีผู้ป่วยที่รับรักษาสะสมมากที่สุด (1,526 ราย) ตามด้วย ภูเก็ต (220), นนทบุรี (157), ยะลา (118), สมุทรปราการ (114), ชลบุรี (87), ปัตตานี (79), สงขลา (44), เชียงใหม่ (40) , ปทุมธานี (39) , นราธิวาส (28) และนครปฐม (22) โดยมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระหว่าง state quarantine ในจังหวัดต่างๆ 84 ราย
ทั้งนี้มี 9 จังหวัดที่ไม่มีรายงานการรับรักษาผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี อ่างทอง (และสตูล ซึ่งรับผู้ติดเชื้อใน State quarantine)
และมีอีก 32 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในช่วง 28 วันที่ผ่านมา
ส่วนรายงานข้อมูลของอาเซียนและการวิเคราะห์จะอยู่ในรอบการรายงานช่วงเย็น
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2753072988151589?__tn__=-R
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 3 พฤษภาคม 2563
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 3 พฤษภาคม 2563
กด! ก่อนเปิด
ต่ำสิบครบ 7 วันแล้ว! ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ (3 พค. 63) ลดลงไปเหลือแค่ 3 รายเท่านั้น ซึ่งเป็นการลดลงครึ่งหนึ่งของเมื่อวาน คือ 6 ราย และทำให้ยอดผู้ติดเชื้อ “ต่ำสิบ” ครบ 1 สัปดาห์พอดีในวันนี้ นอกจากนี้ ยังไม่มีผู้เสียชีวิตเป็นวันที่ 5 ต่อเนื่องกัน
การที่เราสามารถ “กด” ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ให้ต่ำลงได้จนใกล้ความหวังที่ยอดจะเป็น “ศูนย์” นั้นมีความสำคัญมากๆ เนื่องจากเรากำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออีกช่วงหนึ่งของการต่อสู้กับโควิด-19 นั้นคือในวันนี้ เป็นวันแรกที่ทางการเริ่มผ่อนคลายให้มีการเปิดกิจการ สถานที่ต่างๆ และอนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมหลายประเภทเพื่อกลับสู่ความเป็นปกติในระยะที่ 1 ซึ่งต้องยอมรับตามตรงว่ามีความเสี่ยงที่เราจะเกิดยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอีกในอีก 5-7 วันก็เป็นได้
ดังนั้นเราจึงต้องกดยอดลงเอาไว้ให้ต่ำที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงให้มากที่สุดที่จะมีผู้ติดเชื้อหลงเหลืออยู่ ทั้งที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการ ยิ่งถ้าเรากดยอดลงให้เป็นศูนย์ได้ภายใน 7 วันนี้ได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่ยอดจะเพิ่มน้อยเท่านั้น ทำให้ยังรักษาระดับ “ต่ำสิบ” ไว้ได้ภายในวันที่ 8-14 ที่จะมีการประเมินสถานการณ์เพื่อพิจารณา “เปิด” บ้านเปิดเมืองในระยะต่อไป แต่ถ้าเราประมาท การ์ดตกเมื่อไหร่ เรากดยอดไม่ลงและพุ่งขึ้นเกินสิบ หรือไปถึงหลายสิบเมื่อไหร่ เราก็อาจจะต้องกลับมาปิดเมืองกันอีกครั้ง เหมือนกับบทเรียนของหลายๆประเทศที่เราเห็น
อย่าลืมนะคะ การรักษาวินัย รักษาระยะห่าง เป็นวิธีการเดียวที่จะช่วยให้เรากดหางกราฟที่สวยงามนี้ไม่ให้โงหัวขึ้นมาได้อีก
https://www.facebook.com/ThaiCovidCenter/photos/a.101090364890215/123913665941218/?type=3&__tn__=-R
แสดงความคิดเห็น
⚘มาลาริน/ดีใจ..ดีใจ..ดีใจ..เก่งจังค่ะไทยแลนด์ โควิดพ่ายแพ้ไป ลุงตู่ผู้นำพาเราพ้นภัย ติดเชื้อโควิด19 เพิ่มใหม่แค่ 3 คนค่ะ
วันนี้ติดเชื้อเพิ่มใหม่แค่ 3 คนเท่านั้นค่ะ ไม่มีผู้เสียชีวิต
ผู้นำฉลาดแข็งแกร่งมีภูมิต้านทานดี นำพาประชาชนและประเทศชาติพ้นภัย
ฟังแล้วสบายใจมากค่ะ
หลังจากใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินมา 38 วัน เอาอยู่ทั้งโควิด19 และเอาอยู่ฝ่ายต้านรบ.ที่เอาแต่ดราม่าโจมตีรายวันจนประชาชนเบื่อระอา
ลุงชนะด้วยฝีมือ ไม่ใช่โชคช่วย...👍🕊👍🕊👍
วันนี้วันแรกที่เริ่มผ่อนคลายมาตราการเข้มข้น
ประชาชนรับรู้รับสภาพที่ต้องใช้วิถีชีวิตแบบใหม่ ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ทุกอย่างก็จะเป็นปกติในวิถีชีวิตไปอีกนาน
ให้เวลา 14 วัน ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่มีติดเชื้อเพิ่มอย่าน่าตกใจ การใช้ชีวิตแบบใหม่ ก็จะดำเนินต่อไปและจะผ่อนคลายไปเรื่อยๆ
อีกสักพักเราก็จะคุ้นเคยกับชีวิตแบบนี้ค่ะ..😉😄😃😄😀
ยินดีกับรัฐบาล ทีมหมอ บุคลากรทางการแพทย์ และผู้รับผิดชอบทุกๆท่านนะคะ
ลุงคงปลื้มดีใจ ยิ้มหน้าใส ที่ทำได้..👍😄👍😄👍😄
คงหายเหนื่อยแล้วค่ะ
เป็นวันหยุดที่แสนมีความสุขจนล้นปรี่...💖👍💕💖👍💕💖