เรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนมีแพลนจะแต่งงานกันสิ้นปีค่ะ พ่อแม่ทั้ง2ฝ่ายคุยตกลงกันแล้ว ตอนแรกคุยกันว่าเราต้องแต่งเข้าบ้านแฟนค่ะ
ซึ่งใจของแฟนเขาอยากอยู่บ้านใหญ่ เพราะสบายคือค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเงินกงสี มีคนขับรถ มีแม่บ้าน คือเราเข้าใจว่าเขาเติบโตมาด้วยความสุขสบาย แตกต่างจากเรามากใช้ชีวิตเด็กหอตั้งแต่เด็ก ซักผ้า รีดผ้า ทำกับข้าว มีรถเองขับรถเองคือชีวิตของคนปกติที่ดิ้นรนมาแต่เด็ก เราไม่เคยกลัวลำบากเพราะเราทำเองเป็นทุกอย่าง
ต้องบอกก่อนว่าบ้านแฟนทำธุรกิจส่วนตัว แล้วแฟนก็ทำงานบริษัทที่บ้าน ได้เพียงเงินเดือนเท่านั้น ส่วนกำไรต่างๆเป็นเงินกองกลางใช้จ่ายครอบครัว บ้านที่แฟนอยู่ยังเป็นของพ่อแม่เขา คืออยู่แบบครอบครัวใหญ่ และส่วนตัวเราเองงานหลักเป็นพนักงานบริษัทที่มั่นคงแห่งหนึ่ง และทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆของตัวเองมีรายได้พอประมาณเลี้ยงตัวเองได้ บางครั้งนั่งคิดเราหารายได้มากกว่าที่แฟนเราได้เงินกงสีด้วยซ้ำ แต่ต่างกันที่รายจ่ายของแฟนไม่มี ค่าน้ำมันรถก็เงินบริษัทกงสี ค่าน้ำไฟ ค่าเครื่องใช้ส่วนตัว ค่าข้าวต่อวัน บางครั้งแม่เขาก็ทำปิ่นโตให้คนงานเอาไปให้ และจิปาถะ กงสีล้วนๆ เขาเลยใช้ชีวิตได้ด้วยเงินเดือนกงสีแบบสบายๆ ส่วนเรานั้นหาได้เยอะกว่าแต่รายจ่ายต้องรับผิดชอบตัวเองทั้งนั้น ค่าน้ำ ค่าไฟ น้ำมัน ค่ากินต่อวัน ฯลฯ ต่างกันตรงนี้ค่ะ
ในความเห็นของแฟนเขามองอีกแบบ เขาบอกว่าอยู่บ้านใหญ่มีแต่ได้กับได้ เงินเดือนที่ได้จากกงสีก็เหลือเก็บ ถ้าอนาคตมีลูกก็ใช้เงินกงสีส่งเรียน ถ้าเลือกแยกไปอยู่กันเอง เรา2คนก็ต้องดูแลครอบครัวตัวเอง เอาเงินเดือนมารวมกันและหารค่าใช้จ่ายในบ้าน เขามองว่าไม่อยากให้เราลำบาก อยู่บ้านใหญ่แรกๆอาจจะอึดอัดหน่อย เพราะมีทั้งครอบครัวพี่ชายแฟน ที่มีพี่สะใภ้ หลานอีก2คน พ่อแม่ของแฟน และย่าของแฟน อยู่กันครอบครัวใหญ่เลยค่ะ เขาบอกว่าใช้เวลาปรับตัวสักพักจะชินและชอบใช้ชีวิตแบบกงสี
แตกต่างจากความคิดเราสิ้นเชิง เราคิดว่าเราสู้ไหว เราอยากมีความสุขในครอบครัวเล็กๆที่มีแค่พ่อแม่ลูก ไม่ปวดหัว ไม่ต้องคอยระแวดระวังว่าจะมีใครมาคอยจิกกัด เราอาจจะดูละครมากไปนะ ที่เห็นว่าอยู่กันแบบกงสี มันจะมีคนอิจฉาริษยา แล้วแบบสร้างปัญหาทางใจ สุดท้ายเป็นปัญหาระดับครอบครัว
สุดท้ายเราคงไม่มีสิทธิ์เลือกอะไร เพราะแฟนเราเค้าแบบ 50-50 เขาบอกว่าเขาก็อยากอยู่บ้านใหญ่ ได้ดูแลพ่อแม่เขา รวมไปถึงความสุขสบายในอนาคตของครอบครัวเราถ้าเรามีลูก แต่เขาก็บอกว่าถ้าเราไม่อยากอยู่บ้านใหญ่จะแยกก็ได้ คือแบบพูดมาแบบนี้เราเองก็ไม่อยากไปหักหามความรู้สึกแฟน นั่นก็พ่อแม่เขา เขาบอกว่าเขาไม่อยากทิ้งพ่อแม่ นู่นนี่นั่น ....เข้าใจค่ะ ว่าลูกชายก็คงอยากทำหน้าที่ลูกชาย รวมทั้งหน้าที่สามี ไปพร้อมกัน เลยไม่อยากเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง !!!
****สรุปเราควรเลือกเชื่อความรู้สึกเราไหมว่าอนาคตจะมีปัญหาแน่ๆ แบบอยู่บ้านใหญ่ เงินกงสีอะไรแบบนี้ เราเองไม่เคยใช้ชีวิตแบบนี้ด้วย หาเองใช้เองดูแลตัวเองมาตลอดด้วยสิ
—>>>ทุกคนว่าเราคิดมากไปหรือป่าว ดูละครหลังข่าวมากไปไหม? ทุกอย่างอาจจะเป็นไปได้ด้วยดีแบบที่แฟนวาดไว้ก็เป็นได้ เราควรเชื่อแฟนดีไหม?
แต่งงานเข้าบ้านใหญ่กงสี หรือแยกออกมาอยู่เองดีคะ?
ซึ่งใจของแฟนเขาอยากอยู่บ้านใหญ่ เพราะสบายคือค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเงินกงสี มีคนขับรถ มีแม่บ้าน คือเราเข้าใจว่าเขาเติบโตมาด้วยความสุขสบาย แตกต่างจากเรามากใช้ชีวิตเด็กหอตั้งแต่เด็ก ซักผ้า รีดผ้า ทำกับข้าว มีรถเองขับรถเองคือชีวิตของคนปกติที่ดิ้นรนมาแต่เด็ก เราไม่เคยกลัวลำบากเพราะเราทำเองเป็นทุกอย่าง
ต้องบอกก่อนว่าบ้านแฟนทำธุรกิจส่วนตัว แล้วแฟนก็ทำงานบริษัทที่บ้าน ได้เพียงเงินเดือนเท่านั้น ส่วนกำไรต่างๆเป็นเงินกองกลางใช้จ่ายครอบครัว บ้านที่แฟนอยู่ยังเป็นของพ่อแม่เขา คืออยู่แบบครอบครัวใหญ่ และส่วนตัวเราเองงานหลักเป็นพนักงานบริษัทที่มั่นคงแห่งหนึ่ง และทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆของตัวเองมีรายได้พอประมาณเลี้ยงตัวเองได้ บางครั้งนั่งคิดเราหารายได้มากกว่าที่แฟนเราได้เงินกงสีด้วยซ้ำ แต่ต่างกันที่รายจ่ายของแฟนไม่มี ค่าน้ำมันรถก็เงินบริษัทกงสี ค่าน้ำไฟ ค่าเครื่องใช้ส่วนตัว ค่าข้าวต่อวัน บางครั้งแม่เขาก็ทำปิ่นโตให้คนงานเอาไปให้ และจิปาถะ กงสีล้วนๆ เขาเลยใช้ชีวิตได้ด้วยเงินเดือนกงสีแบบสบายๆ ส่วนเรานั้นหาได้เยอะกว่าแต่รายจ่ายต้องรับผิดชอบตัวเองทั้งนั้น ค่าน้ำ ค่าไฟ น้ำมัน ค่ากินต่อวัน ฯลฯ ต่างกันตรงนี้ค่ะ
ในความเห็นของแฟนเขามองอีกแบบ เขาบอกว่าอยู่บ้านใหญ่มีแต่ได้กับได้ เงินเดือนที่ได้จากกงสีก็เหลือเก็บ ถ้าอนาคตมีลูกก็ใช้เงินกงสีส่งเรียน ถ้าเลือกแยกไปอยู่กันเอง เรา2คนก็ต้องดูแลครอบครัวตัวเอง เอาเงินเดือนมารวมกันและหารค่าใช้จ่ายในบ้าน เขามองว่าไม่อยากให้เราลำบาก อยู่บ้านใหญ่แรกๆอาจจะอึดอัดหน่อย เพราะมีทั้งครอบครัวพี่ชายแฟน ที่มีพี่สะใภ้ หลานอีก2คน พ่อแม่ของแฟน และย่าของแฟน อยู่กันครอบครัวใหญ่เลยค่ะ เขาบอกว่าใช้เวลาปรับตัวสักพักจะชินและชอบใช้ชีวิตแบบกงสี
แตกต่างจากความคิดเราสิ้นเชิง เราคิดว่าเราสู้ไหว เราอยากมีความสุขในครอบครัวเล็กๆที่มีแค่พ่อแม่ลูก ไม่ปวดหัว ไม่ต้องคอยระแวดระวังว่าจะมีใครมาคอยจิกกัด เราอาจจะดูละครมากไปนะ ที่เห็นว่าอยู่กันแบบกงสี มันจะมีคนอิจฉาริษยา แล้วแบบสร้างปัญหาทางใจ สุดท้ายเป็นปัญหาระดับครอบครัว
สุดท้ายเราคงไม่มีสิทธิ์เลือกอะไร เพราะแฟนเราเค้าแบบ 50-50 เขาบอกว่าเขาก็อยากอยู่บ้านใหญ่ ได้ดูแลพ่อแม่เขา รวมไปถึงความสุขสบายในอนาคตของครอบครัวเราถ้าเรามีลูก แต่เขาก็บอกว่าถ้าเราไม่อยากอยู่บ้านใหญ่จะแยกก็ได้ คือแบบพูดมาแบบนี้เราเองก็ไม่อยากไปหักหามความรู้สึกแฟน นั่นก็พ่อแม่เขา เขาบอกว่าเขาไม่อยากทิ้งพ่อแม่ นู่นนี่นั่น ....เข้าใจค่ะ ว่าลูกชายก็คงอยากทำหน้าที่ลูกชาย รวมทั้งหน้าที่สามี ไปพร้อมกัน เลยไม่อยากเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง !!!
****สรุปเราควรเลือกเชื่อความรู้สึกเราไหมว่าอนาคตจะมีปัญหาแน่ๆ แบบอยู่บ้านใหญ่ เงินกงสีอะไรแบบนี้ เราเองไม่เคยใช้ชีวิตแบบนี้ด้วย หาเองใช้เองดูแลตัวเองมาตลอดด้วยสิ
—>>>ทุกคนว่าเราคิดมากไปหรือป่าว ดูละครหลังข่าวมากไปไหม? ทุกอย่างอาจจะเป็นไปได้ด้วยดีแบบที่แฟนวาดไว้ก็เป็นได้ เราควรเชื่อแฟนดีไหม?