ภาพวาดการจมของไททานิก โดย Willy Stöwer
โศกนาฏกรรมของไททานิคไม่ได้เป็นเพียงภัยพิบัติต่อมนุษย์เท่านั้น ข้างๆเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากการจม 1,500 คนนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงจำนวนหนึ่งที่อยู่บนเรือไททานิคซึ่งเดินทางไปนิวยอร์กกับเจ้าของของพวกเขาด้วย
มีสุนัขและแมวไปจนถึงนกหลากหลายตัวที่เป็นผู้โดยสารสัตว์ของไททานิคที่ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากภัยพิบัตินี้ มันทำให้เกิดความทุกข์อย่างยิ่งสำหรับเจ้าของที่ต้องเสียมันจากเหตุนี้ แต่ในบรรดาเรื่องราวที่น่าเศร้าก็มีเรื่องราวของการเอาชีวิตรอดจากเพื่อนสี่ขาด้วยเช่นกัน
สุนัขกำลังเดินบนไททานิคไม่ทราบวันที่ ที่มา: Widener University
สุนัขจำนวนหนึ่งถูกนำขึ้นมาบนเรือและได้รับการดูแลตามกฎของการโดยสารเรือ โดยจอห์นฮัทชินสันช่างไม้ของเรือเป็นคนดูแลสวัสดิภาพของสัตว์เลี้ยงของผู้โดยสารบนเรือไททานิค และกำหนดตารางการออกกำลังกายประจำวันของเหล่าสุนัข โดยการตีระฆังเมื่อถึงเวลาที่จะนำสุนัขออกมาเดินเล่นทุกวันบนดาดฟ้าของเรือ
จากบันทึกประจำเรือบันทึกไว้ว่ามีสุนัขอย่างน้อยแปดตัวบนเรือ แต่น่าจะมีจำนวนมากกว่านั้น โดยมีผู้โดยสาร ชาร์ลส์ มัวร์แห่งวอชิงตันดีซี วางแผนที่จะส่งมอบสุนัขจิ้งจอกอังกฤษประมาณ 100 ตัวให้กับสหรัฐฯไปกับเรือไททานิค แต่ตัดสินใจใช้เรือลำอื่นในนาทีสุดท้าย สุนัขบางตัวก็ถูกเจ้าของเลี้ยงไว้ในห้องโดยสารชั้นหนึ่ง โดยแอบนำขึ้นไปโดยพวกลูกเรืออาจไม่ได้คิดว่าจะทำเพราะเป็นที่รู้กันว่ากฎของเรือนั้นมีความเคร่งครัดอย่างมาก
ในตอนเช้าของวันที่ 15 เมษายน เจ้าของสุนัขหลายตัวกำลังวางแผนที่จะนำสุนัขขึ้นไปเดินเล่นบนดาดฟ้าเรือเหมือนทุกวัน แต่เหตุการณ์ในคืนก่อนที่จะเช้าจบลงด้วยโศกนาฏกรรมที่ไม่มีวันลืม
ดาดฟ้าเดินเล่นของไททานิค เป็นไปได้ค่อนข้างมากที่ผู้โดยสารหลายคนกำลังเดินไปตามดาดฟ้านี้ชื่นชมทิวทัศน์ทั่วแอตแลนติกตอนเหนือเมื่อเรือชนภูเขาน้ำแข็ง ทางเดินกลายเป็นภาพสัญลักษณ์ของ The Titanic ซึ่งเป็นจุดเด่นในภาพยนตร์ฮิต
ภาพของสุนัขในไททานิค สุนัขหนึ่งโหลได้รับการยืนยันว่าจะอยู่บนเรือ มีสุนัขตัวเล็กสามตัวรอดชีวิตมาได้
(เอื้อเฟื้อภาพถ่ายโดย Widener University)
เลดี้ LADY
เลดี้เป็นสุนัขพันธ์ุปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขของมากาเร็ต เบ็คสไตน์ เฮส์ หญิงสาววัย 24 ปีชาวอเมริกัน เธอขึ้นเรือที่ฝรั่งเศสพร้อมเพื่อนสาว 2 คน ในระหว่างเดินทางเธอได้ให้เจ้าเลดี้อยู่ร่วมกับเธอในห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาส (สุนัขส่วนใหญ่จะถูกแยกไว้ในกรงที่อยู่ในส่วนรองรับสัตว์เลี้ยง)
ในคืนที่เรือได้ชนภูเขาน้ำแข็งนั้น มากาเร็ตและเพื่อนกำลังอยู่ในห้อง เมื่อเครื่องยนต์เรือฺหยุด พวกเธอออกไปเพื่อสำรวจสถานการณ์แต่กลับถูกบอกให้กลับไปนอนเสีย เมื่อกลับไปที่ห้อง พวกเธอจัดแจงแต่งตัวและห่อเจ้าเลดี้ไว้ในผ้าห่มเพื่อให้มันอบอุ่น และระหว่างที่ตรงไปดาดฟ้าพวกเธอก็รวบรวมเสื้อชูชีพเอาไว้
มีเด็กหญิงหลายคนที่ได้สวมชูชีพและเลดี้ได้ถูกช่วยเหลือขึ้นบนเรือ พวกเขาถูกช่วยขึ้นมาเป็นพวกแรกโดยเรือคาร์พาเธียหลังจากการจมลงของไททานิค
บนเรือกู้ภัย Hays พาเด็กชาวฝรั่งเศสสองคนที่ไม่มีผู้ปกครองเดินทางไปด้วยกันภายใต้การดูแลของเธอ โดยให้เด็กๆเล่นกับเลดี้เพื่อให้ไม่คิดมาก
เด็ก ๆ เหล่านี้เป็นที่รู้จักในนามเด็กกำพร้าไททานิคและได้อาศัยอยู่กับ Hays ในอพาร์ทเมนต์ที่นิวยอร์กของเธอ จนกระทั่งได้รับการติดต่อจากแม่ๆของเด็กๆที่มาจากนีซประเทศฝรั่งเศสว่าจะไปรับเด็กๆกลับ และได้รู้ว่ามีเด็กบางคนถูกพ่อตัวเองลักพามาจากแม่และเขาได้จมน้ำเสียชีวิตจากเรือล่มแล้ว
ส่วนเลดี้มีชีวิตอยู่จนถึงเดือนมิถุนายน 2460 ต่อมาสุนัขตัวเล็กนี้วิ่งหนีออกจากบ้านไปและไม่เคยเจออีกเลย
ELIZABETH ROTHSCHILD'S DOG
สุนัขตัวนี้ก็เป็นพันธุ์ปอมเมอเรเนียนเช่นเดียวกัน ในความสับสนอลหม่านขณะเรือล่มนั้น นางอลิซาเบ็ธก็แอยพาเจ้าสุนัขตัวน้อยลงเรือชูชีพไว้ได้โดยไม่มีผู้ใดทันสังเกตุ เข้าวันต่อมาเมื่อเรือคาร์พาเธียมาถึงเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิต เจ้าหมาน้อยไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเรือใหญ่ นางอลิซาเบ็ธโกรธเคืองมากและปฏิเสธที่จะสละเรือชูชีพถ้าหากสุนัขของเธอไม่ได้ขึ้นเรือไปด้วย
ในที่สุดลูกเรือคาร์พาเธียจำเป็นต้องยอมทำตามความต้องการของนางอย่างเลี่ยงไม่ได้ ส่วนสามีของนางอลิซาเบ็ธ ผู้เป็นเจ้าของโรงงานเสื้อผ้าที่ได้โดยสารมากับเรือไททานิคด้วยนั้น เสียชีวิต
ชะตากรรมของเจ้าปอมเมอเรเนียนหลังจากรอดจากเหตุการณ์เรือล่มมาได้นั้นเป็นเรื่องปริศนา ลูกหลานของนางอลิซาเบ็ธบางคนบอกว่ามันตายไปกับการต่อสู้กับสุนัขตัวอื่น ในขณะที่นักประวัติศาสตร์บางคนบอกว่ามันถูกรถม้าเหยียบเสียชีวิตหลังขึ้นฝั่งที่นิวยอร์กได้ไม่นาน...
Sun Yat-Sen
สุนัขพันธุ์ปักกิ่งตัวนี้เป็นของนายเฮนรี เอส. ฮาร์เปอร์และนางไมนา ฮาร์เปอร์ คู่สองสามีภรรยา ไม่ปรากฎเรื่องราวของเจ้าสุนัขตัวนี้มากนัก นายเฮนรีนั้นเป็นทายาทของบริษัทสิ่งพิมพ์แห่งหนึ่ง ทั้งสองกำลังกลับจากท่องเที่ยวยุโรปและเอเชีย และมีล่ามอีกหนึ่งคนติดตามพวกเขามาจากอียิปต์ด้วย เมื่อเกิดเหตุเรือล่มทั้งสามคนและอีกหนึ่งตัวได้ลงเรือชูชีพ เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงพาสุนัขลงเรือชูชีพมาด้วย เขาก็อธิบายว่า "ก็เห็นยังมีที่ว่างอีกตั้งเยอะและไม่เห็นมีใครคัดค้าน"
สุนัขทั้งสามที่รอดมาได้ล้วนมีเจ้านายร่ำรวยและเป็นผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส สุนัขส่วนมากถูกขังไว้ในห้องกักสัตว์เลี้ยง แม้บางส่วนจะถูกปล่อยออกมาในช่วงอุบัติเหตุแต่ก็ไม่อาจจะรอดมาได้
Frou-Frou
โฟร-โฟร เป็นสุนัขพันธุ์จิ๋ว (toy.dog) เจ้านายของมันเป็นชาวอเมริกันนามว่านางเฮเลน บิชอป ซึ่งเธอได้โดยสารเรือไปกับสามี
เจ้าโฟร-โฟรเป็นสุนัขไม่กี่ตัวที่ได้รับอนุญาตให้ไปอยู่ในห้องร่วมกับเจ้านาย (ปกติจะได้รับอนุญาตเฉพาะผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส) เพราะลูกเรือเห็นว่า "มันน่ารักเกินกว่าจะไปอยู่ร่วมกับสนุขตัวใหญ่กว่า"
เมื่อเรือชนภูเขาน้ำแข็ง เฮเลนรู้ดีว่าเจ้าสุนัขตัวน้อยของเธอคงไม่ได้รับความเห็นอกเห็นใจ เพราะในขณะเธอที่กำลังอุ้มเจ้าตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน ชีวิตของเด็กอีกหลายคนก็มีความสุ่มเสี่ยงเช่นเดียวกัน เธอจึงเลือกที่จะทิ้งเจ้าโฟร-โฟรไว้ในห้องด้วยใจที่ปวดร้าวและมุ่งตรงไปยังเรือชูชีพ
สามีของนางเฮเลนเล่าในเวลาต่อมาว่าเจ้าโฟร-โฟรพยายามรั้วเธอไว้ด้วยการใช้ฟันงับชุดของเฮเลนและยื้อยุดไว้จนเสื้อผ้านั้นฉีกขาด
นางเฮเลนได้กล่าวถึงช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวดนั้นว่า "ความตายของเจ้าตัวเล็กมันทำให้ฉันเจ็บปวดมาก ฉันจะไม่มีวันลืมตอนที่มันฉุดกระฉากชุดของฉัน มันอยากตามฉันมาด้วยเหลือเกิน"
ผู้โดยสารสี่ขาเพิ่มเติม
- วิลเลียมคาร์เตอร์ ผู้โดยสารชาวอเมริกันนำสุนัขขึ้นมาบนเรือด้วย
- ครอบครัวของ Airedale terrier และครอบครัวชาวปักกิ่งของภรรยาของเขาก็นำสุนัขขึ้นมาด้วยเช่นกัน
ซึ่งหลังจากเรือจมสุนัขของผู้โดยสารทั้งสองที่เสียชีวิตถูกเรียกร้องค่าเสียหาย โดยคาร์เตอร์อ้างค่าเสียหายเป็นเงิน $ 100 และ $ 200 สำหรับสุนัขอีกราย
- ผู้รอดชีวิตอีกคนหนึ่งคือ โรเบิร์ต วิลเลียมส์ แดเนียลจอง และสายพันธุ์บูลด็อกฝรั่งเศสที่เพิ่งซื้อใหม่ของเขาคือ กามินเดอปิคอมบ์ (Gamin)
ที่อยู่ในเรือไททานิคด้วย สุนัขตัวนี้มีราคา 150 ปอนด์ในอังกฤษ (ประมาณ 13,000 ปอนด์ในราคาปัจจุบัน) แต่ดาเนียลอ้างว่าซื้อมาในราคา $ 750
มีพยานอ้างว่าเห็น Gamin ครั้งสุดท้ายขณะว่ายน้ำไม่คิดชีวิตหลังจากที่เรือจม
- สุนัขที่ไม่รอดชีวิต Airedale Terrier Kitty ของตระกูล Astor Astors ผู้โดยสารที่ร่ำรวยที่สุดใน Titanic
The Astors ขึ้นเรือกับสุนัขคิตตี้ของพวกเขา ที่มา: cheddarbay.com
หลายวันต่อมาเมื่อเรือ SS Bremen แล่นผ่านบริเวณที่เรือจมพร้อมด้วยผู้โดยสารนั้น เธออ้างว่าเธอเห็นคล้ายๆร่างของผู้หญิงที่กอดร่างสุนัขขนาดใหญ่ไว้ในอ้อมแขนของเธอ นี่เป็นหนึ่งในเรื่องราวของสัตว์ที่ทำลายหัวใจของทุกคนในเรื่องราวของ Titanic มากที่สุด
Jenny
ไททานิก มีแมวเลี้ยงที่ชื่อว่า เจนนี่ ซึ่งถือว่าเป็นตัวนำโชคสำหรับเรือและช่วยจับหนูที่อยู่บนเรือ
เจนนี่ เพิ่งเริ่มเป็นแมวที่ทำงานบนเรือไททานิค เรือเดินสมุทรที่โชคไม่ดีเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนซึ่งมันได้ออกเดินทางเป็นครั้งแรก มันถูกเลี้ยงไว้ใต้เรือของไททานิค พวกลูกเรือเลี้ยงมันด้วยเศษอาหารจากห้องครัว ในช่วงเวลาสั้น ๆ เจนนี่ได้ให้กำเนิดลูกแมวบนเรือนี้ สันนิษฐานว่าเจนนี่และลูกแมวที่น่าสงสารที่ต้องตายในระหว่างที่เรือจม
นกค็อกเคอเรล
Ella Holmes White หญิงอเมริกันขึ้นเรือที่ Cherbourg พร้อมกับนกสี่ตัว เธอมีความตั้งใจที่จะนำฝูงนกนี้ไปเลี้ยงในสหรัฐอเมริกา
นอกจากนกของเอลล่าแล้วยังมีนกค็อกเคอเรลอีก 30 ตัวที่อยู่บนเรือ รวมทั้งนกขมิ้นสีเหลืองของ เอลิซาเบซ Ramel ที่รอดชีวิตอยู่ในห้องโดยสารของเธออีกด้วย โดยสัตว์ทุกตัวที่จะขึ้นเรือนี้ได้จะต้องมีตั๋วเป็นของตัวเอง (ตั๋วสำหรับนกขมิ้นราคา 24 เซนต์สหรัฐในการเดินทาง)
(ตามรายงานของ Examiner.com มีสุนัขที่ยืนยันแล้ว 12 ตัวบนเรือไททานิกมีเพียง 3 ตัวเท่านั้นที่รอดชีวิต )
21 มกราคม 2563 เว็บไซต์มิเรอร์ รายงานข้อมูลอ้างอิงจากเดอะเทเลกราฟ ระบุว่า RMS Titanic Inc. บริษัทกู้เรือสัญชาติอเมริกัน เตรียมดำเนินการผ่าซากเรือไททานิค เพื่อนำทรัพย์สินและข้าวของมีค่าทั้งหมดออกมา ก่อนที่จะสูญหายไปใต้ท้องทะเลตลอดกาล
โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีบริษัทกู้เรือออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่าจะเก็บกู้ทุกสิ่งทุกอย่างภายในเรือไททานิค นอกจากนี้ยังคาดหวังว่าจะสามารถเก็บกู้ระบบสายวิทยุมาร์โคนี (Marconi Wireless) ที่ลูกเรือใช้ส่งสัญญาณตอนที่เรือกำลังล่มได้
ตัวแทนทางกฎหมายของ RMS Titanic Inc. แถลงการณ์ว่า ในอนาคต ซากเรือจะทรุดตัวลง ทรัพย์สินทุกอย่าง รวมทั้งบันทึกข้อมูลวิทยุที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก จะถูกฝังหายไป และไม่สามารถกู้กลับคืนมาได้อีก
ทางบริษัทวางแผนจะใช้เรือหุ่นยนต์ใต้น้ำตัดผ่าหลังคาเรือ เพื่อตามหาสายสัญญาณและเก็บกู้มันขึ้นมา รวมทั้งทรัพย์สินอื่น ๆ โดยจะถ่ายทำสารคดีอัปเดตในทุกขั้นตอนการเก็บกู้ครั้งสำคัญครั้งนี้ด้วย
เทเลกราฟ รายงานอีกว่า รัฐบาลอังกฤษไม่เห็นด้วยกับภารกิจครั้งนี้ เหล่านักอนุรักษ์ก็เช่นกัน โดยพวกเขามองว่าเรือไททานิคคือสุสานขนาดใหญ่ที่เก็บร่างผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงควรให้ความเคารพ และปล่อยซากเรือเลื่องชื่อนี้ไว้ให้อยู่ต่อไปอย่างสงบ
ที่มา Data & Images kapook.com
Cr.
http://www.marinerthai.net/forum/index.php?topic=12767.0
Cr.
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10212568049314856 / โพสท์โดย แมวปล้นใจ
Cr.
https://rmstitanichotel.co.uk/blog/best-photographs-titanic/
Cr.
https://www.dogingtonpost.com/dogs-on-the-titanic/
Cr.
https://rmstitanichotel.co.uk/blog/pets-titanic/#
ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา
สัตว์เลี้ยงแห่ง RMS TITANIC
มีสุนัขและแมวไปจนถึงนกหลากหลายตัวที่เป็นผู้โดยสารสัตว์ของไททานิคที่ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากภัยพิบัตินี้ มันทำให้เกิดความทุกข์อย่างยิ่งสำหรับเจ้าของที่ต้องเสียมันจากเหตุนี้ แต่ในบรรดาเรื่องราวที่น่าเศร้าก็มีเรื่องราวของการเอาชีวิตรอดจากเพื่อนสี่ขาด้วยเช่นกัน
จากบันทึกประจำเรือบันทึกไว้ว่ามีสุนัขอย่างน้อยแปดตัวบนเรือ แต่น่าจะมีจำนวนมากกว่านั้น โดยมีผู้โดยสาร ชาร์ลส์ มัวร์แห่งวอชิงตันดีซี วางแผนที่จะส่งมอบสุนัขจิ้งจอกอังกฤษประมาณ 100 ตัวให้กับสหรัฐฯไปกับเรือไททานิค แต่ตัดสินใจใช้เรือลำอื่นในนาทีสุดท้าย สุนัขบางตัวก็ถูกเจ้าของเลี้ยงไว้ในห้องโดยสารชั้นหนึ่ง โดยแอบนำขึ้นไปโดยพวกลูกเรืออาจไม่ได้คิดว่าจะทำเพราะเป็นที่รู้กันว่ากฎของเรือนั้นมีความเคร่งครัดอย่างมาก
ในตอนเช้าของวันที่ 15 เมษายน เจ้าของสุนัขหลายตัวกำลังวางแผนที่จะนำสุนัขขึ้นไปเดินเล่นบนดาดฟ้าเรือเหมือนทุกวัน แต่เหตุการณ์ในคืนก่อนที่จะเช้าจบลงด้วยโศกนาฏกรรมที่ไม่มีวันลืม
ดาดฟ้าเดินเล่นของไททานิค เป็นไปได้ค่อนข้างมากที่ผู้โดยสารหลายคนกำลังเดินไปตามดาดฟ้านี้ชื่นชมทิวทัศน์ทั่วแอตแลนติกตอนเหนือเมื่อเรือชนภูเขาน้ำแข็ง ทางเดินกลายเป็นภาพสัญลักษณ์ของ The Titanic ซึ่งเป็นจุดเด่นในภาพยนตร์ฮิต
เลดี้เป็นสุนัขพันธ์ุปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขของมากาเร็ต เบ็คสไตน์ เฮส์ หญิงสาววัย 24 ปีชาวอเมริกัน เธอขึ้นเรือที่ฝรั่งเศสพร้อมเพื่อนสาว 2 คน ในระหว่างเดินทางเธอได้ให้เจ้าเลดี้อยู่ร่วมกับเธอในห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาส (สุนัขส่วนใหญ่จะถูกแยกไว้ในกรงที่อยู่ในส่วนรองรับสัตว์เลี้ยง)
ในคืนที่เรือได้ชนภูเขาน้ำแข็งนั้น มากาเร็ตและเพื่อนกำลังอยู่ในห้อง เมื่อเครื่องยนต์เรือฺหยุด พวกเธอออกไปเพื่อสำรวจสถานการณ์แต่กลับถูกบอกให้กลับไปนอนเสีย เมื่อกลับไปที่ห้อง พวกเธอจัดแจงแต่งตัวและห่อเจ้าเลดี้ไว้ในผ้าห่มเพื่อให้มันอบอุ่น และระหว่างที่ตรงไปดาดฟ้าพวกเธอก็รวบรวมเสื้อชูชีพเอาไว้
มีเด็กหญิงหลายคนที่ได้สวมชูชีพและเลดี้ได้ถูกช่วยเหลือขึ้นบนเรือ พวกเขาถูกช่วยขึ้นมาเป็นพวกแรกโดยเรือคาร์พาเธียหลังจากการจมลงของไททานิค
บนเรือกู้ภัย Hays พาเด็กชาวฝรั่งเศสสองคนที่ไม่มีผู้ปกครองเดินทางไปด้วยกันภายใต้การดูแลของเธอ โดยให้เด็กๆเล่นกับเลดี้เพื่อให้ไม่คิดมาก
เด็ก ๆ เหล่านี้เป็นที่รู้จักในนามเด็กกำพร้าไททานิคและได้อาศัยอยู่กับ Hays ในอพาร์ทเมนต์ที่นิวยอร์กของเธอ จนกระทั่งได้รับการติดต่อจากแม่ๆของเด็กๆที่มาจากนีซประเทศฝรั่งเศสว่าจะไปรับเด็กๆกลับ และได้รู้ว่ามีเด็กบางคนถูกพ่อตัวเองลักพามาจากแม่และเขาได้จมน้ำเสียชีวิตจากเรือล่มแล้ว
ส่วนเลดี้มีชีวิตอยู่จนถึงเดือนมิถุนายน 2460 ต่อมาสุนัขตัวเล็กนี้วิ่งหนีออกจากบ้านไปและไม่เคยเจออีกเลย
ELIZABETH ROTHSCHILD'S DOG
สุนัขตัวนี้ก็เป็นพันธุ์ปอมเมอเรเนียนเช่นเดียวกัน ในความสับสนอลหม่านขณะเรือล่มนั้น นางอลิซาเบ็ธก็แอยพาเจ้าสุนัขตัวน้อยลงเรือชูชีพไว้ได้โดยไม่มีผู้ใดทันสังเกตุ เข้าวันต่อมาเมื่อเรือคาร์พาเธียมาถึงเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิต เจ้าหมาน้อยไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเรือใหญ่ นางอลิซาเบ็ธโกรธเคืองมากและปฏิเสธที่จะสละเรือชูชีพถ้าหากสุนัขของเธอไม่ได้ขึ้นเรือไปด้วย
ในที่สุดลูกเรือคาร์พาเธียจำเป็นต้องยอมทำตามความต้องการของนางอย่างเลี่ยงไม่ได้ ส่วนสามีของนางอลิซาเบ็ธ ผู้เป็นเจ้าของโรงงานเสื้อผ้าที่ได้โดยสารมากับเรือไททานิคด้วยนั้น เสียชีวิต
ชะตากรรมของเจ้าปอมเมอเรเนียนหลังจากรอดจากเหตุการณ์เรือล่มมาได้นั้นเป็นเรื่องปริศนา ลูกหลานของนางอลิซาเบ็ธบางคนบอกว่ามันตายไปกับการต่อสู้กับสุนัขตัวอื่น ในขณะที่นักประวัติศาสตร์บางคนบอกว่ามันถูกรถม้าเหยียบเสียชีวิตหลังขึ้นฝั่งที่นิวยอร์กได้ไม่นาน...
Sun Yat-Sen
สุนัขพันธุ์ปักกิ่งตัวนี้เป็นของนายเฮนรี เอส. ฮาร์เปอร์และนางไมนา ฮาร์เปอร์ คู่สองสามีภรรยา ไม่ปรากฎเรื่องราวของเจ้าสุนัขตัวนี้มากนัก นายเฮนรีนั้นเป็นทายาทของบริษัทสิ่งพิมพ์แห่งหนึ่ง ทั้งสองกำลังกลับจากท่องเที่ยวยุโรปและเอเชีย และมีล่ามอีกหนึ่งคนติดตามพวกเขามาจากอียิปต์ด้วย เมื่อเกิดเหตุเรือล่มทั้งสามคนและอีกหนึ่งตัวได้ลงเรือชูชีพ เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงพาสุนัขลงเรือชูชีพมาด้วย เขาก็อธิบายว่า "ก็เห็นยังมีที่ว่างอีกตั้งเยอะและไม่เห็นมีใครคัดค้าน"
สุนัขทั้งสามที่รอดมาได้ล้วนมีเจ้านายร่ำรวยและเป็นผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส สุนัขส่วนมากถูกขังไว้ในห้องกักสัตว์เลี้ยง แม้บางส่วนจะถูกปล่อยออกมาในช่วงอุบัติเหตุแต่ก็ไม่อาจจะรอดมาได้
Frou-Frou
โฟร-โฟร เป็นสุนัขพันธุ์จิ๋ว (toy.dog) เจ้านายของมันเป็นชาวอเมริกันนามว่านางเฮเลน บิชอป ซึ่งเธอได้โดยสารเรือไปกับสามี
เจ้าโฟร-โฟรเป็นสุนัขไม่กี่ตัวที่ได้รับอนุญาตให้ไปอยู่ในห้องร่วมกับเจ้านาย (ปกติจะได้รับอนุญาตเฉพาะผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส) เพราะลูกเรือเห็นว่า "มันน่ารักเกินกว่าจะไปอยู่ร่วมกับสนุขตัวใหญ่กว่า"
เมื่อเรือชนภูเขาน้ำแข็ง เฮเลนรู้ดีว่าเจ้าสุนัขตัวน้อยของเธอคงไม่ได้รับความเห็นอกเห็นใจ เพราะในขณะเธอที่กำลังอุ้มเจ้าตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน ชีวิตของเด็กอีกหลายคนก็มีความสุ่มเสี่ยงเช่นเดียวกัน เธอจึงเลือกที่จะทิ้งเจ้าโฟร-โฟรไว้ในห้องด้วยใจที่ปวดร้าวและมุ่งตรงไปยังเรือชูชีพ
สามีของนางเฮเลนเล่าในเวลาต่อมาว่าเจ้าโฟร-โฟรพยายามรั้วเธอไว้ด้วยการใช้ฟันงับชุดของเฮเลนและยื้อยุดไว้จนเสื้อผ้านั้นฉีกขาด
นางเฮเลนได้กล่าวถึงช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวดนั้นว่า "ความตายของเจ้าตัวเล็กมันทำให้ฉันเจ็บปวดมาก ฉันจะไม่มีวันลืมตอนที่มันฉุดกระฉากชุดของฉัน มันอยากตามฉันมาด้วยเหลือเกิน"
ผู้โดยสารสี่ขาเพิ่มเติม
- วิลเลียมคาร์เตอร์ ผู้โดยสารชาวอเมริกันนำสุนัขขึ้นมาบนเรือด้วย
- ครอบครัวของ Airedale terrier และครอบครัวชาวปักกิ่งของภรรยาของเขาก็นำสุนัขขึ้นมาด้วยเช่นกัน
ซึ่งหลังจากเรือจมสุนัขของผู้โดยสารทั้งสองที่เสียชีวิตถูกเรียกร้องค่าเสียหาย โดยคาร์เตอร์อ้างค่าเสียหายเป็นเงิน $ 100 และ $ 200 สำหรับสุนัขอีกราย
- ผู้รอดชีวิตอีกคนหนึ่งคือ โรเบิร์ต วิลเลียมส์ แดเนียลจอง และสายพันธุ์บูลด็อกฝรั่งเศสที่เพิ่งซื้อใหม่ของเขาคือ กามินเดอปิคอมบ์ (Gamin)
ที่อยู่ในเรือไททานิคด้วย สุนัขตัวนี้มีราคา 150 ปอนด์ในอังกฤษ (ประมาณ 13,000 ปอนด์ในราคาปัจจุบัน) แต่ดาเนียลอ้างว่าซื้อมาในราคา $ 750
มีพยานอ้างว่าเห็น Gamin ครั้งสุดท้ายขณะว่ายน้ำไม่คิดชีวิตหลังจากที่เรือจม
- สุนัขที่ไม่รอดชีวิต Airedale Terrier Kitty ของตระกูล Astor Astors ผู้โดยสารที่ร่ำรวยที่สุดใน Titanic
Jenny
ไททานิก มีแมวเลี้ยงที่ชื่อว่า เจนนี่ ซึ่งถือว่าเป็นตัวนำโชคสำหรับเรือและช่วยจับหนูที่อยู่บนเรือ
เจนนี่ เพิ่งเริ่มเป็นแมวที่ทำงานบนเรือไททานิค เรือเดินสมุทรที่โชคไม่ดีเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนซึ่งมันได้ออกเดินทางเป็นครั้งแรก มันถูกเลี้ยงไว้ใต้เรือของไททานิค พวกลูกเรือเลี้ยงมันด้วยเศษอาหารจากห้องครัว ในช่วงเวลาสั้น ๆ เจนนี่ได้ให้กำเนิดลูกแมวบนเรือนี้ สันนิษฐานว่าเจนนี่และลูกแมวที่น่าสงสารที่ต้องตายในระหว่างที่เรือจม
นกค็อกเคอเรล
Ella Holmes White หญิงอเมริกันขึ้นเรือที่ Cherbourg พร้อมกับนกสี่ตัว เธอมีความตั้งใจที่จะนำฝูงนกนี้ไปเลี้ยงในสหรัฐอเมริกา
นอกจากนกของเอลล่าแล้วยังมีนกค็อกเคอเรลอีก 30 ตัวที่อยู่บนเรือ รวมทั้งนกขมิ้นสีเหลืองของ เอลิซาเบซ Ramel ที่รอดชีวิตอยู่ในห้องโดยสารของเธออีกด้วย โดยสัตว์ทุกตัวที่จะขึ้นเรือนี้ได้จะต้องมีตั๋วเป็นของตัวเอง (ตั๋วสำหรับนกขมิ้นราคา 24 เซนต์สหรัฐในการเดินทาง)
โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีบริษัทกู้เรือออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่าจะเก็บกู้ทุกสิ่งทุกอย่างภายในเรือไททานิค นอกจากนี้ยังคาดหวังว่าจะสามารถเก็บกู้ระบบสายวิทยุมาร์โคนี (Marconi Wireless) ที่ลูกเรือใช้ส่งสัญญาณตอนที่เรือกำลังล่มได้
ตัวแทนทางกฎหมายของ RMS Titanic Inc. แถลงการณ์ว่า ในอนาคต ซากเรือจะทรุดตัวลง ทรัพย์สินทุกอย่าง รวมทั้งบันทึกข้อมูลวิทยุที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก จะถูกฝังหายไป และไม่สามารถกู้กลับคืนมาได้อีก
ทางบริษัทวางแผนจะใช้เรือหุ่นยนต์ใต้น้ำตัดผ่าหลังคาเรือ เพื่อตามหาสายสัญญาณและเก็บกู้มันขึ้นมา รวมทั้งทรัพย์สินอื่น ๆ โดยจะถ่ายทำสารคดีอัปเดตในทุกขั้นตอนการเก็บกู้ครั้งสำคัญครั้งนี้ด้วย
เทเลกราฟ รายงานอีกว่า รัฐบาลอังกฤษไม่เห็นด้วยกับภารกิจครั้งนี้ เหล่านักอนุรักษ์ก็เช่นกัน โดยพวกเขามองว่าเรือไททานิคคือสุสานขนาดใหญ่ที่เก็บร่างผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงควรให้ความเคารพ และปล่อยซากเรือเลื่องชื่อนี้ไว้ให้อยู่ต่อไปอย่างสงบ
ที่มา Data & Images kapook.com
Cr.http://www.marinerthai.net/forum/index.php?topic=12767.0
Cr. https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10212568049314856 / โพสท์โดย แมวปล้นใจ
Cr.https://rmstitanichotel.co.uk/blog/best-photographs-titanic/
Cr.https://www.dogingtonpost.com/dogs-on-the-titanic/
Cr.https://rmstitanichotel.co.uk/blog/pets-titanic/#
ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา