แชร์ประสบการณ์จ้า ยาวมากกกอยากให้อ่าน
เรื่องเล่า "โรคเบาหวาน"
ตั้งแต่จำความได้ก็เป็นคนที่อ้วนมาก ๆแล้วเป็นคนชอบกินชอบทำอาหารแล้วก็กินเยอะคิดว่าการกินเยอะเป็นเรื่องปกติ ตอนป.6 นน. 81kg. อ้วนมากสุดประมาณช่วงม.ปลาย น่าจะ 91 kg. ก็ไม่ได้มีความคิดที่จะลดนน.เลยเพราะคิดว่าคงลดไม่ได้แน่ๆ และช่วงม.ปลายก็เป็นช่วงที่กินแหลกสุดๆ ชาไข่มุกวันละแก้ว ชาบูหมูกระทะ 4-5 ครั้ง/สัปดาห์ กินแบบไม่ได้นึกถึงผลกระทบที่จะตามมา จริงๆเคยออกกำลังกายหลายครั้งแต่ละครั้งไม่เคยออกเกิน 6 วันก็พังไม่เป็นท่า ทีนี้จุดพีคในชีวิตก็คือ ตอนม.6 ใกล้จบจะสอบเข้าพยาบาล ก็ต้องไปตรวจร่างกายเพื่อใช้ยื่นเข้าศึกษาต่อ ต้องตรวจละเอียดกว่าปกตินิดนึง ปรากฏว่า ‼พบน้ำตาลในปัสสวะ 4+ เข้าข่ายเป็นโรคเบาหวาน คือเป็นแน่ๆล่ะแต่หมอก็แนะนำให้ไปตรวจซ้ำอีกทีเพื่อหาเบาหวาน เอาล่ะทีนี้พยาบาลก็ยื่นไม่ได้ แถมยังได้โรคมาอีก เราก็ไปตรวจซ้ำอีกรอบ สรุปเป็นเบาหวานจ้า ย้ำนะ ‼ ตอนนั้นเราอายุ 18(มีคนในครอบครัวเป็นมาก่อน) ใครคิดว่าเบาหวานเป็นเฉพาะผู้สูงอายุละก็คุณคิดผิดค่ะ ช่วงสัปดาห์แรกหมอก็ให้ลองทานยาเม็ดแต่ก็ไม่ได้ผล หมอเลยเรียกผู้ปกครองไปแจ้งว่าให้ฉีดยาแทนได้มั้ย หมอกลัวจะเกิดโรคแทรกซ้อน สรุปได้ฉีดยาเอง 😂 วันแรกไม่กล้าฉีดเองแทบร้องไห้ต้องให้แม่ฉีดให้ คือเราต้องเอาเข็มยาวประมาณ 1 เซนกว่าแทงเข้าไปที่ท้องรอบสะดือ ตอนแรกๆเจ็บมาก ตอนร่างกายปรับตัวไม่ทันยังไม่ชินฉีดปุ๊ปจะอ้วกหน้ามืด พอผ่านไป 5 วัน เริ่มชิน หรออ ไม่ใช่จ้า นอนร้องไห้ทั้งคืนทำไมเราต้องมาทรมานแบบนี้คิดไปต่างๆนานา (เริ่มจากตัวเองล้วนๆตอนนี้คิดได้แล้วอย่าด่าเราน้าา) ตื่นเช้ามาก็ฉีดยาเหมือนเดิมทำไรไม่ได้นอกเหนือไปกว่านี้(ฉีดยาต้องฉีด เช้า+เย็น ) แล้วก็ต้องคุมอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แรกๆก็ทำไม่ค่อยได้ แต่ก็พยายามทำ ก็ฉีดยามาเรื่อยๆจนมหาลัยเปิด ต้องย้ายสิทธิ์รักษาไปที่รพ.อีกที่หนึ่ง หมอคนใหม่ หมอคนนี้ ก็ปรับยาให้เป็นยาเม็ดก่อนอาหาร 1 ตัว หลังอาหารอีก 1 ตัว ก่อนนอนอีก 1 ตัว ไม่ต้องฉีดยาแล้วว เย้ๆ 💉🎉 แทบกรี๊ดดีใจมากๆ เหมือนถูกรางวัล จากนั้นก็พยายามควบคุมอาหารออกกำลังกาย จนตอนนี้ เหลือยาแค่ตัวเดียวแล้ววว ปรบมือออ 👏
จากนน.91 ก็เหลือ 80 แล้วจ้า จะพยายามต่อไป 💪
คนที่กำลังลดอยู่ก็สู้ต่อไปนะคะ ส่วนคนที่ยังไม่เริ่มก็เริ่มก่อนที่จะสายเกินไปแบบเรานะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
เล่าสู่กันฟัง ❤
แชร์ประสบการณ์อ้วนจนเป็น "เบาหวาน"
เรื่องเล่า "โรคเบาหวาน"
ตั้งแต่จำความได้ก็เป็นคนที่อ้วนมาก ๆแล้วเป็นคนชอบกินชอบทำอาหารแล้วก็กินเยอะคิดว่าการกินเยอะเป็นเรื่องปกติ ตอนป.6 นน. 81kg. อ้วนมากสุดประมาณช่วงม.ปลาย น่าจะ 91 kg. ก็ไม่ได้มีความคิดที่จะลดนน.เลยเพราะคิดว่าคงลดไม่ได้แน่ๆ และช่วงม.ปลายก็เป็นช่วงที่กินแหลกสุดๆ ชาไข่มุกวันละแก้ว ชาบูหมูกระทะ 4-5 ครั้ง/สัปดาห์ กินแบบไม่ได้นึกถึงผลกระทบที่จะตามมา จริงๆเคยออกกำลังกายหลายครั้งแต่ละครั้งไม่เคยออกเกิน 6 วันก็พังไม่เป็นท่า ทีนี้จุดพีคในชีวิตก็คือ ตอนม.6 ใกล้จบจะสอบเข้าพยาบาล ก็ต้องไปตรวจร่างกายเพื่อใช้ยื่นเข้าศึกษาต่อ ต้องตรวจละเอียดกว่าปกตินิดนึง ปรากฏว่า ‼พบน้ำตาลในปัสสวะ 4+ เข้าข่ายเป็นโรคเบาหวาน คือเป็นแน่ๆล่ะแต่หมอก็แนะนำให้ไปตรวจซ้ำอีกทีเพื่อหาเบาหวาน เอาล่ะทีนี้พยาบาลก็ยื่นไม่ได้ แถมยังได้โรคมาอีก เราก็ไปตรวจซ้ำอีกรอบ สรุปเป็นเบาหวานจ้า ย้ำนะ ‼ ตอนนั้นเราอายุ 18(มีคนในครอบครัวเป็นมาก่อน) ใครคิดว่าเบาหวานเป็นเฉพาะผู้สูงอายุละก็คุณคิดผิดค่ะ ช่วงสัปดาห์แรกหมอก็ให้ลองทานยาเม็ดแต่ก็ไม่ได้ผล หมอเลยเรียกผู้ปกครองไปแจ้งว่าให้ฉีดยาแทนได้มั้ย หมอกลัวจะเกิดโรคแทรกซ้อน สรุปได้ฉีดยาเอง 😂 วันแรกไม่กล้าฉีดเองแทบร้องไห้ต้องให้แม่ฉีดให้ คือเราต้องเอาเข็มยาวประมาณ 1 เซนกว่าแทงเข้าไปที่ท้องรอบสะดือ ตอนแรกๆเจ็บมาก ตอนร่างกายปรับตัวไม่ทันยังไม่ชินฉีดปุ๊ปจะอ้วกหน้ามืด พอผ่านไป 5 วัน เริ่มชิน หรออ ไม่ใช่จ้า นอนร้องไห้ทั้งคืนทำไมเราต้องมาทรมานแบบนี้คิดไปต่างๆนานา (เริ่มจากตัวเองล้วนๆตอนนี้คิดได้แล้วอย่าด่าเราน้าา) ตื่นเช้ามาก็ฉีดยาเหมือนเดิมทำไรไม่ได้นอกเหนือไปกว่านี้(ฉีดยาต้องฉีด เช้า+เย็น ) แล้วก็ต้องคุมอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แรกๆก็ทำไม่ค่อยได้ แต่ก็พยายามทำ ก็ฉีดยามาเรื่อยๆจนมหาลัยเปิด ต้องย้ายสิทธิ์รักษาไปที่รพ.อีกที่หนึ่ง หมอคนใหม่ หมอคนนี้ ก็ปรับยาให้เป็นยาเม็ดก่อนอาหาร 1 ตัว หลังอาหารอีก 1 ตัว ก่อนนอนอีก 1 ตัว ไม่ต้องฉีดยาแล้วว เย้ๆ 💉🎉 แทบกรี๊ดดีใจมากๆ เหมือนถูกรางวัล จากนั้นก็พยายามควบคุมอาหารออกกำลังกาย จนตอนนี้ เหลือยาแค่ตัวเดียวแล้ววว ปรบมือออ 👏
จากนน.91 ก็เหลือ 80 แล้วจ้า จะพยายามต่อไป 💪
คนที่กำลังลดอยู่ก็สู้ต่อไปนะคะ ส่วนคนที่ยังไม่เริ่มก็เริ่มก่อนที่จะสายเกินไปแบบเรานะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
เล่าสู่กันฟัง ❤