อันนี้ต่อจากโพสต์ที่หนึ่งตามลิงค์ครับ
https://ppantip.com/topic/39850959 ในโพสต์ที่สองนี้ผมจะแทรกคอมเมนท์ของตัวเองในเนื้อหาเล็กน้อย แต่จะแยกไว้ในวงเล็บจะได้ไม่ปนกับเนื้อหาหลักครับ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่าน กดไลค์ กดแชร์ คอมเมนท์ แนะนำ ติชม
ขอเริ่มเลยนะครับ
Chapter 2 เข้าสู่แกรนด์ไลน์ และการผจญภัยที่เดรสโรซา
หลังจากซื้อของ และหนีออกจากโลคทาวน์ได้แล้ว สมาชิกกลุ่มหมวกฟาง ก็ขึ้นเรือมุ่งสู่แกรนด์ไลน์ และต่างก็ประกาศเป้าหมายการเดินทาง ลูฟี่-เพื่อเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด โซโล-เพื่อเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก นามิ-เพื่อเขียนแผนที่โลก อุซป-เพื่อฝึกฝนเป็นนักรบแห่งท้องทะเลผู้ห้าวหาญ ซันจิ-เพื่อค้นหาออลบลู (All Blue) พอดูแผนที่อีกรอบ นามิก็บอกว่า การเข้าแกรนด์ไลน์ต้องล่องเรือขึ้นภูเขา ลูซเมาท์เท่น ซึ่งมันก็ฟังดูประหลาดสำหรับสมาชิกคนอื่นๆ (เรือที่ไหนมันจะแล่นขึ้นภูเขาได้ฟะ) ...
“เรามีความจำเป็นอะไรล่ะที่จะต้องไปตามทางเข้าปกติที่คนอื่นเค้าใช้กัน เราเดินเรือเข้าแกรนด์ไลน์ทางอื่นก็ได้นี่นา” โซโลจอมหลงทางได้พูดขึ้น (ซึ่งก็ฟังดู makes sense อยู่นะผมว่า) แต่ไม่ได้หรอกเพราะลูฟี่ไม่ยอม “นั่นเป็นความคิดที่ผิดนะโซโล” “เราควรจะเข้าจากทางเข้าสิ มันจะถึงจะเท่ รู้ไว้ซะด้วย” ...
ยังไม่ทันที่นามิจะได้อธิบายอะไร ทุกคนก็จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงไปเลยว่า ทำไมต้องใช้ทางเข้าปกติ ได้รู้เกี่ยวกับ คาล์มเบล และ สัตว์ทะเลยักษ์-เจ้าทะเล แล้วในที่สุดก็เข้าสู่แกรนด์ไลน์ได้ซะที
Comment1 : ถ้านามิจะเขียนแผนที่โลกจริง ๆ ก็น่าจะต้องไปให้ทั่วโลก ไม่ใช่แค่อีสต์บลูกับแกรนด์ไลน์ แล้วออลบลูมันอยู่ที่ไหนกันนะ อ่านเล่ม 1-95 ก็ยังไม่ได้เฉลยเลยว่าคืออะไร—มีคำร่ำลือกันว่า วันพีซอาจเป็นไอเท็มที่ใช้ทำลายเรดไลน์ได้ แล้วทะเลก็จะรวมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งนั่นจะเป็น ออลบลู ( All Blue) ที่ซันจิค้นหา และนามิก็จะได้ไปรอบโลก เขียนแผนที่สำเร็จ – ที่จริงตอนแรกผมจินตานาการเล่นเอาเองว่า เราน่าจะได้เจอออลบลู ได้ไปทะเลส่วนอื่นๆ หรือผจญภัยย้อนแกรนด์ไลน์ สู้บอสใหญ่(หรือบอสใหญ่ของภาคนั้นๆ) ได้ไปเกาะสุดท้าย แล้วได้วันพีซ (ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตามซึ่งยังไม่เฉลย) แล้วค่อยมีเหตุการณ์รวมทะเลเป็นหนึ่งเดียว(ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งที่ไม่ต้องทำลายเรดไลน์) นามิได้เขียนแผนที่สำเร็จ โลกกลับมาสงบสุข Happy Ending – อันนี้คือแนวคิดแบบเก่าๆ แบบ classic ที่ผมคิดเอาเอง ขอให้ถือซะว่าโอกาสผิดสูง 99.99% ละกันครับ .. กลับเข้าเรื่องต่อดีกว่า
Section 1 ผจญภัยในท้องปลาวาฬ
เข้ามาไม่ทันไร พวกลูฟี่ก็ได้ผจญภัยในท้องปลาวาฬ ได้คุยรวบรวมข่าวสารจาก คล็อคคัส ปะทะกับ Miss Wednesday+ Mister 9 นิดหน่อย เราสามารถสรุปข้อมูลข่าวสารได้ดังนี้
ปลาวาฬ ชื่อ ลาบูน มากับพวกโจรสลัดจากทะเล West Blue พวกนั้นเห็นว่าการเดินทางในแกรนด์ไลน์มันอันตรายมาก ก็เลยทิ้งลาบูนไว้ที่ปากทางเข้า (ทำไมไม่ทิ้งไว้ที่ West Blue เหมือนเดิมล่ะฟะ พามานี่ก็กลับบ้านเองไม่ได้แล้วสิ) แล้วลาบูนก็รอการกลับมาของพวกนั้นนาน 50 ปีแล้วล่ะ ข้อมูลส่วนหนึ่งก็ว่า พวกนั้นอาจจะตายไปแล้วก็ได้ แต่คล็อคคัสก็บอกว่าตามข่าวที่เค้าเช็คมาคือ พวกนั้นหนีออกจากแกรนด์ไลน์ไปแล้ว ไม่น่าจะกลับมาแล้วล่ะ แต่ไม่ว่าทางไหน ลาบูนก็คงไม่ได้เจอเพื่อนๆ โจรสลัดกลุ่มนั้นอีกแล้ว มันก็เฝ้าแต่เอาหัวชนเรดไลน์ไปวันๆ รอวันตาย??? แต่ด้วยเหตุการณ์ขำๆ งงๆ ทำให้ปลาวาฬลาบูนกลายมาเป็นเพื่อนกับพวกลูฟี่ และรอการกลับมาของพวกลูฟี่แทน
(
Comment2 : มีรายละเอียดเพิ่มเติมตอนหลังจากที่พวกลูฟี่เจอบรูค ยังอีกนาน แต่ผมก็จะทยอยเขียนเรื่องย่อออกมาเรื่อย ๆ ครับ)
คล็อคคัส เป็นผู้ดูแลประภาคารและเป็นหมอประจำเมืองมิซากิ เป็นคนรักษาปลาวาฬ สร้างรีสอร์ทชื่อ วันแมนรีสอร์ท ภายในท้องปลาวาฬ เคยเป็นหมอประจำเรือให้โกล โรเจอร์ ประมาณ 2-3 ปีด้วย คล็อคคัสให้เข็มทิศล็อคโพสกับนามิเอาไว้ใช้เดินทางในแกรนด์ไลน์ โดยตอนเริ่มต้นจะมีเส้นทางให้พวกนามิเลือก 7 เส้นทาง และทุกเส้นทางมีจุดหมายสุดท้ายคือ รัฟเทล (Raftel--Laugh Tale) ซึ่งเชื่อกันว่ามีสมบัติที่เรียกกันว่า วันพีซ (One Piece) อยู่ที่นั่นด้วย
Section 2 ผจญภัยใน วิสกี้ พีค ป่าดงดิบ เกาะหิมะ-อาณาจักรดรัม และปะทะ นักล่าแห่งองค์กรบารอค ปะทะไดโนเสาร์ เผ่าคนยักษ์ และวาโปลู
พวกลูฟี่เจอ Miss Wednesday+ Mister 9 ที่ตอนแรกจะมาฆ่าปลาวาฬ แต่ไม่สำเร็จ ล็อคโพสที่จะใช้กลับเมืองก็ดันทำตกหายไป พวกเค้าเลยขอติดเรือลูฟี่ไปที่เมือง วิสกี้ พีค ด้วย พอไปถึงก็มีเรื่องราวต่างๆ นานา สรุปว่า พวก Miss, Mister คนในเมือง วิสกี้ พีค เป็นพวกที่ทำงานให้องค์กร บารอค (Baroque) ซึ่งคอยล่าค่าหัวโจรสลัด คนอื่นโดนมอมเหล้ากันหมด เหลือแค่โซโลกับนามิ ไม่โดนมอมเหล้า โซโลคนเดียวก็สู้ชนะได้สบายๆ สู้ไป ก็ลองดาบที่พึ่งได้มาใหม่ไปด้วย ต่อมา Mister 5 กับ Miss Valentine ก็โผล่มาอีก แต่ไม่ได้มาช่วยพวกใน วิสกี้ พีค สู้กับ โซโล แต่มาเพราะได้รับคำสั่งจากบอสขององค์กรบารอคให้มากำจัดผู้ที่ล่วงรู้ตัวจริงของบอส ซึ่งก็คือ Miss Wednesday และ Mister 8 ซึ่งที่จริงเป็น เจ้าหญิงบิบี กับแม่ทัพอิการัม แห่งอาณาจักรอลาบาสตา ปลอมตัวมาเข้าองค์กรเพื่อหาข่าวเกี่ยวกับพวกที่วางแผนทำลายความสงบสุขของอาณาจักร
หลังการต่อสู้ และการต่อรองของนามิกับอีการัม กับเหตุการณ์อะไรต่างๆ พวกลูฟี่ก็ตัดสินใจคุ้มครองบิบี และจะพาไปส่งที่อาณาจักรอลาบาสตา พอพวกลูฟี่ออกจากวิสกี้ พีค ล็อคโพสก็พาไปที่ เกาะ Little Garden ซึ่งเป็นลักษณะป่าดงดิบสมัยดึกดำบรรพ์ ดังนั้นเราก็จะได้เห็น ฉากผจญภัย เจอไดโนเสาร์ เจอ โบรกี้ ดอร์รี่ เผ่าคนยักษ์ ที่ต่อสู้ตัดสินแพ้ชนะกันมาเป็น 100 ปีแล้ว แต่เพราะสองคนนี้มีค่าหัวคนละ 100 ล้าน ยังไงก็ต้องมีเนื้อเรื่องให้ไปเกี่ยวข้องกับพวกองค์กร บารอค พวกล่าค่าหัว... สุดท้ายพวกลูฟี่ก็ได้ต่อสู้กับพวก Mister 5 Mister 3 Miss Valentine Miss Golden Week ที่กะจะมาจัดการพวกลูฟี่ และจัดการคนยักษ์เก็บค่าหัว ... หลังจากชนะมาได้ ก็ได้เอเทอนอลโพส เพื่อเดินทางไปอาณาจักรอลาบาสตา โดยพวก โบรกี้ และ ดอร์รี่ รวมพลังกันช่วยจัดการกับ ชิมะคุอิ ปีศาจทะเลที่มาขัดขวางการเดินทางต่อของพวกลูฟี่
หลังจากออกจากเกาะ Little Garden มาได้ นามิป่วยระหว่างทาง เพราะโดนหมัดกัด และปล่อยแบคทีเรียก่อโรค เคซา พวกลูฟี่ยังไม่มีหมอประจำเรือ บนเรือนี้ไม่มีใครรักษานามิได้ ดังนั้นทุกคนจึงตัดสินใจพานามิไปหาหมอก่อน ซึ่งก็โชคดีได้เจอเกาะ ที่ตั้งของ อาณาจักรดรัม ได้เจอหมอเก่งที่รักษาโรคของนามิได้ แถมได้ ช็อปเปอร์ ซึ่งเป็นลูกศิษย์หมอคนนั้นไปเป็นหมอประจำเรืออีกด้วย
เรื่องราวที่อาจเกี่ยวกับการผจญภัยในอนาคตก็คือ 2-3 เดือนก่อน ที่ลูฟี่จะมาที่นี่ กลุ่มโจรสลัดหนวดดำได้มาก่อนและทำลายอาณาจักรนี้ ส่วนตอนหลัง เอส ก็มาตามล่าหาหนวดดำที่นี่ด้วยแต่ไม่เจอ และเอสถามถึงลูฟี่และฝากข่าวไว้อีกด้วย (แต่เดี๋ยวตอนหลังก็ได้เจอกันที่อลาบาสตา)
Section 3 ผจญภัยในอาณาจักร อลาบาสตา ปะทะหนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัด
ในส่วนนี้จะว่ายาวก็ยาว แต่ถ้าตัดการต่อสู้ออกไป ก็พอเล่าให้สั้นๆ ได้ ซึ่งก็ขอสรุปสั้นๆ ตามแผนภาพ
ลูฟี่ vs crocodile วิชาหมัดยางยืด ปะทะ พลังทะเลทราย
โซโล vs Mister 1 วิชาสามดาบ ปะทะ มนุษย์ใบมีด
ซันจิ vs Mister 2 กังฟูเตะ ปะทะ หมัดกระเรียน(บางทีก็เรียกว่าหมัดกะเทย)
นามิ vs Miss Double Finger วิชาควบคุมอากาศด้วยกระบองคุมาริ ปะทะ มนุษย์หนาม
อุซป และ ช็อปเปอร์ vs Mister 4 and Miss Merry Christmas วิชายิงแล้วหนี+การแปลงร่าง ปะทะ สุสานตัวตุ่นสี่แยกเบอร์สี่
ครั้งนี้พวกลูฟี่ชนะได้อย่างยากเย็น เกือบแพ้ไปหลายรอบ ส่วนบิบี ก็สามารถหยุดยั้งสงครามได้อย่างหวุดหวิด เกือบพลาดไปหลายรอบ ส่วนข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจคือ ลูฟี่ได้เจอเอสซึ่งกำลังออกตามล่าหนวดดำ และการปรากฏหรือพูดถึงในเรื่องเป็นครั้งแรกของ ไอเท็ม แดนซ์พาวเดอร์(ผงเรียกฝน) หินไคโร พลูตัน และโพเนกลีฟ (รายละเอียดดูได้ในบัญชีไอเท็ม และบันทึกโพเนกลีฟ ซึ่งจะทำแยกไว้ต่างหาก) พอจบการผจญภัย บิบี และอาณาจักรอลาบาสตาก็ปลอดภัย กลับคืนสู่ความสงบสุข ถึงเมืองจะพังไปเยอะมาก แต่เอาเป็นว่ารอดมาได้ก็แล้วกัน แล้วพวกลูฟี่ก็เดินทางกันต่อไป
จบ Chapter 2
แหล่งอ้างอิง: หนังสือการ์ตูนฉบับแปลไทย เล่มที่ 12-23 ตอนที่ 100-216 ทั้งเนื้อหาหลักและมุมตอบคำถาม ผู้สนใจโปรดติดตามอ่านทั้งในนี้ และในต้นฉบับด้วยครับ ถ้าอ่านแล้วชอบ โปรดกดไลค์ กดแชร์ คอมเมนท์ แนะนำ ติชม และโปรดกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้ผมทำต่อด้วยครับ เดี๋ยวผมจะทยอยทำออกมาเรื่อยๆ ครับ โพสต์คล้ายๆ กันนี้ ผมจะใส่ไว้อยู่สามที่ครับคือ ในพันทิป ใน Facebook Page และใน Blockdit ชอบอันไหนก็ติดตามในอันนั้นนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ ข้างล่างคือลิงค์ กับบันทึกโพเนกลีฟของ Chapter นี้ครับ (ข้อมูลเพิ่มเติมจะทยอยใส่เข้ามาทีหลัง)
Facebook Page พึ่งทำ แต่จะพยายามพัฒนาให้ดีขึ้นครับ
https://web.facebook.com/pg/ACGM-Art-Cartoon-Game-Math-Movie-104105841281123/posts/?ref=page_internal
Blockdit ก็พึ่งทำครับ
https://www.blockdit.com/pages/5e996437983b670cb0b309c5
บันทึกโพเนกลีฟ ช่วง (Chapter 1-2)
โพเนกลีฟปรากฏเป็นครั้งแรกในเรื่องตอนที่ Crocodile ถามคอบร้าเกี่ยวกับ อาวุธโบราณพลูตัน ที่ว่ากันว่า ยิงนัดเดียวถล่มได้ทั้งเกาะ แต่คอบร้าเองก็แค่เคยได้ยิน ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน และก็ไม่รู้ว่ามันมีจริงรึป่าว ต่อมา Crocodile ก็เปลี่ยนเป็นถามถึงที่ซ่อนของโพเนกลีฟประจำอาณาจักรอลาบาสตา แล้วพระราชาก็ยอมพาโรบินไปอ่านอักษรโพเนกลีฟที่ซ่อนอยู่ที่สุสานกษัตริย์ทางทิศตะวันตกของวัง ข้อความที่โรบินแปลให้ Crocodile ฟัง มีแค่ประวัติศาตร์ของอาณาจักรอลาบาสตา และโรบินก็ไม่ได้แปลให้ฟังทั้งหมด ข้อความที่แปลก็ไม่รู้ว่าอันไหนจริง อันไหนหลอก (ท่านโรบินตั้งใจแปลแบบผิดๆ และท่านก็ไม่ได้สนใจพลูตันด้วย ท่านโรบินแค่สนใจประวัติศาสตร์เท่านั้น ก็เลยไม่ได้บอกเรื่องพลูตันกับ Crocodile) ข้อความที่โรบินพูดเป็นดังนี้ (เล่ม 22 ตอน 203)
อลาบาสตาก่อตั้งขึ้นโดย คาฮิรา ในปี 239 ต่อมาปี 260 ราชวงศ์บิเทน แห่งเทเมอร์ ได้ขึ้นปกครอง ในปี 306 สร้างวิหารศักดิ์สิทธิ์ ขึ้นที่ เอลูมารู ปี 325 ยอดวีรบุรุษมามุดินออลเทียได้ ... แล้ว crocodile ก็ขัดจังหวะการอ่านของท่านโรบิน แล้วก็สู้กับลูฟี่ โดนอัด ตัดจบไปเลย เราผู้อ่านก็เลย อดฟังประวัติศาสตร์โลกกันต่อ การ์ตูนเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เวลาท่านโรบินสอนประวัติศาสตร์อยู่ อย่าสอด ให้ตั้งใจฟังไปน่าจะดีกว่า ไม่งั้นโดนลูฟี่อัด แล้วก็ไม่ได้ความรู้เพิ่มอะไรขึ้นเลย มีแต่เสียกับเสีย
จบโพสต์ #ACGM #ลูกศิษย์นิโคโรบิน
Edit เพิ่ม ขอแก้เป็น เล่ม 12-24 ตอน 100-218 ครับ
Chapter 2 เรื่องย่อการ์ตูน One Piece จาก เล่มที่ 12-23 ตอนที่ 100-216
ขอเริ่มเลยนะครับ
“เรามีความจำเป็นอะไรล่ะที่จะต้องไปตามทางเข้าปกติที่คนอื่นเค้าใช้กัน เราเดินเรือเข้าแกรนด์ไลน์ทางอื่นก็ได้นี่นา” โซโลจอมหลงทางได้พูดขึ้น (ซึ่งก็ฟังดู makes sense อยู่นะผมว่า) แต่ไม่ได้หรอกเพราะลูฟี่ไม่ยอม “นั่นเป็นความคิดที่ผิดนะโซโล” “เราควรจะเข้าจากทางเข้าสิ มันจะถึงจะเท่ รู้ไว้ซะด้วย” ...
ยังไม่ทันที่นามิจะได้อธิบายอะไร ทุกคนก็จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงไปเลยว่า ทำไมต้องใช้ทางเข้าปกติ ได้รู้เกี่ยวกับ คาล์มเบล และ สัตว์ทะเลยักษ์-เจ้าทะเล แล้วในที่สุดก็เข้าสู่แกรนด์ไลน์ได้ซะที
Comment1 : ถ้านามิจะเขียนแผนที่โลกจริง ๆ ก็น่าจะต้องไปให้ทั่วโลก ไม่ใช่แค่อีสต์บลูกับแกรนด์ไลน์ แล้วออลบลูมันอยู่ที่ไหนกันนะ อ่านเล่ม 1-95 ก็ยังไม่ได้เฉลยเลยว่าคืออะไร—มีคำร่ำลือกันว่า วันพีซอาจเป็นไอเท็มที่ใช้ทำลายเรดไลน์ได้ แล้วทะเลก็จะรวมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งนั่นจะเป็น ออลบลู ( All Blue) ที่ซันจิค้นหา และนามิก็จะได้ไปรอบโลก เขียนแผนที่สำเร็จ – ที่จริงตอนแรกผมจินตานาการเล่นเอาเองว่า เราน่าจะได้เจอออลบลู ได้ไปทะเลส่วนอื่นๆ หรือผจญภัยย้อนแกรนด์ไลน์ สู้บอสใหญ่(หรือบอสใหญ่ของภาคนั้นๆ) ได้ไปเกาะสุดท้าย แล้วได้วันพีซ (ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตามซึ่งยังไม่เฉลย) แล้วค่อยมีเหตุการณ์รวมทะเลเป็นหนึ่งเดียว(ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งที่ไม่ต้องทำลายเรดไลน์) นามิได้เขียนแผนที่สำเร็จ โลกกลับมาสงบสุข Happy Ending – อันนี้คือแนวคิดแบบเก่าๆ แบบ classic ที่ผมคิดเอาเอง ขอให้ถือซะว่าโอกาสผิดสูง 99.99% ละกันครับ .. กลับเข้าเรื่องต่อดีกว่า
Section 1 ผจญภัยในท้องปลาวาฬ
เข้ามาไม่ทันไร พวกลูฟี่ก็ได้ผจญภัยในท้องปลาวาฬ ได้คุยรวบรวมข่าวสารจาก คล็อคคัส ปะทะกับ Miss Wednesday+ Mister 9 นิดหน่อย เราสามารถสรุปข้อมูลข่าวสารได้ดังนี้
ปลาวาฬ ชื่อ ลาบูน มากับพวกโจรสลัดจากทะเล West Blue พวกนั้นเห็นว่าการเดินทางในแกรนด์ไลน์มันอันตรายมาก ก็เลยทิ้งลาบูนไว้ที่ปากทางเข้า (ทำไมไม่ทิ้งไว้ที่ West Blue เหมือนเดิมล่ะฟะ พามานี่ก็กลับบ้านเองไม่ได้แล้วสิ) แล้วลาบูนก็รอการกลับมาของพวกนั้นนาน 50 ปีแล้วล่ะ ข้อมูลส่วนหนึ่งก็ว่า พวกนั้นอาจจะตายไปแล้วก็ได้ แต่คล็อคคัสก็บอกว่าตามข่าวที่เค้าเช็คมาคือ พวกนั้นหนีออกจากแกรนด์ไลน์ไปแล้ว ไม่น่าจะกลับมาแล้วล่ะ แต่ไม่ว่าทางไหน ลาบูนก็คงไม่ได้เจอเพื่อนๆ โจรสลัดกลุ่มนั้นอีกแล้ว มันก็เฝ้าแต่เอาหัวชนเรดไลน์ไปวันๆ รอวันตาย??? แต่ด้วยเหตุการณ์ขำๆ งงๆ ทำให้ปลาวาฬลาบูนกลายมาเป็นเพื่อนกับพวกลูฟี่ และรอการกลับมาของพวกลูฟี่แทน
(Comment2 : มีรายละเอียดเพิ่มเติมตอนหลังจากที่พวกลูฟี่เจอบรูค ยังอีกนาน แต่ผมก็จะทยอยเขียนเรื่องย่อออกมาเรื่อย ๆ ครับ)
คล็อคคัส เป็นผู้ดูแลประภาคารและเป็นหมอประจำเมืองมิซากิ เป็นคนรักษาปลาวาฬ สร้างรีสอร์ทชื่อ วันแมนรีสอร์ท ภายในท้องปลาวาฬ เคยเป็นหมอประจำเรือให้โกล โรเจอร์ ประมาณ 2-3 ปีด้วย คล็อคคัสให้เข็มทิศล็อคโพสกับนามิเอาไว้ใช้เดินทางในแกรนด์ไลน์ โดยตอนเริ่มต้นจะมีเส้นทางให้พวกนามิเลือก 7 เส้นทาง และทุกเส้นทางมีจุดหมายสุดท้ายคือ รัฟเทล (Raftel--Laugh Tale) ซึ่งเชื่อกันว่ามีสมบัติที่เรียกกันว่า วันพีซ (One Piece) อยู่ที่นั่นด้วย
Section 2 ผจญภัยใน วิสกี้ พีค ป่าดงดิบ เกาะหิมะ-อาณาจักรดรัม และปะทะ นักล่าแห่งองค์กรบารอค ปะทะไดโนเสาร์ เผ่าคนยักษ์ และวาโปลู
พวกลูฟี่เจอ Miss Wednesday+ Mister 9 ที่ตอนแรกจะมาฆ่าปลาวาฬ แต่ไม่สำเร็จ ล็อคโพสที่จะใช้กลับเมืองก็ดันทำตกหายไป พวกเค้าเลยขอติดเรือลูฟี่ไปที่เมือง วิสกี้ พีค ด้วย พอไปถึงก็มีเรื่องราวต่างๆ นานา สรุปว่า พวก Miss, Mister คนในเมือง วิสกี้ พีค เป็นพวกที่ทำงานให้องค์กร บารอค (Baroque) ซึ่งคอยล่าค่าหัวโจรสลัด คนอื่นโดนมอมเหล้ากันหมด เหลือแค่โซโลกับนามิ ไม่โดนมอมเหล้า โซโลคนเดียวก็สู้ชนะได้สบายๆ สู้ไป ก็ลองดาบที่พึ่งได้มาใหม่ไปด้วย ต่อมา Mister 5 กับ Miss Valentine ก็โผล่มาอีก แต่ไม่ได้มาช่วยพวกใน วิสกี้ พีค สู้กับ โซโล แต่มาเพราะได้รับคำสั่งจากบอสขององค์กรบารอคให้มากำจัดผู้ที่ล่วงรู้ตัวจริงของบอส ซึ่งก็คือ Miss Wednesday และ Mister 8 ซึ่งที่จริงเป็น เจ้าหญิงบิบี กับแม่ทัพอิการัม แห่งอาณาจักรอลาบาสตา ปลอมตัวมาเข้าองค์กรเพื่อหาข่าวเกี่ยวกับพวกที่วางแผนทำลายความสงบสุขของอาณาจักร
หลังการต่อสู้ และการต่อรองของนามิกับอีการัม กับเหตุการณ์อะไรต่างๆ พวกลูฟี่ก็ตัดสินใจคุ้มครองบิบี และจะพาไปส่งที่อาณาจักรอลาบาสตา พอพวกลูฟี่ออกจากวิสกี้ พีค ล็อคโพสก็พาไปที่ เกาะ Little Garden ซึ่งเป็นลักษณะป่าดงดิบสมัยดึกดำบรรพ์ ดังนั้นเราก็จะได้เห็น ฉากผจญภัย เจอไดโนเสาร์ เจอ โบรกี้ ดอร์รี่ เผ่าคนยักษ์ ที่ต่อสู้ตัดสินแพ้ชนะกันมาเป็น 100 ปีแล้ว แต่เพราะสองคนนี้มีค่าหัวคนละ 100 ล้าน ยังไงก็ต้องมีเนื้อเรื่องให้ไปเกี่ยวข้องกับพวกองค์กร บารอค พวกล่าค่าหัว... สุดท้ายพวกลูฟี่ก็ได้ต่อสู้กับพวก Mister 5 Mister 3 Miss Valentine Miss Golden Week ที่กะจะมาจัดการพวกลูฟี่ และจัดการคนยักษ์เก็บค่าหัว ... หลังจากชนะมาได้ ก็ได้เอเทอนอลโพส เพื่อเดินทางไปอาณาจักรอลาบาสตา โดยพวก โบรกี้ และ ดอร์รี่ รวมพลังกันช่วยจัดการกับ ชิมะคุอิ ปีศาจทะเลที่มาขัดขวางการเดินทางต่อของพวกลูฟี่
หลังจากออกจากเกาะ Little Garden มาได้ นามิป่วยระหว่างทาง เพราะโดนหมัดกัด และปล่อยแบคทีเรียก่อโรค เคซา พวกลูฟี่ยังไม่มีหมอประจำเรือ บนเรือนี้ไม่มีใครรักษานามิได้ ดังนั้นทุกคนจึงตัดสินใจพานามิไปหาหมอก่อน ซึ่งก็โชคดีได้เจอเกาะ ที่ตั้งของ อาณาจักรดรัม ได้เจอหมอเก่งที่รักษาโรคของนามิได้ แถมได้ ช็อปเปอร์ ซึ่งเป็นลูกศิษย์หมอคนนั้นไปเป็นหมอประจำเรืออีกด้วย
เรื่องราวที่อาจเกี่ยวกับการผจญภัยในอนาคตก็คือ 2-3 เดือนก่อน ที่ลูฟี่จะมาที่นี่ กลุ่มโจรสลัดหนวดดำได้มาก่อนและทำลายอาณาจักรนี้ ส่วนตอนหลัง เอส ก็มาตามล่าหาหนวดดำที่นี่ด้วยแต่ไม่เจอ และเอสถามถึงลูฟี่และฝากข่าวไว้อีกด้วย (แต่เดี๋ยวตอนหลังก็ได้เจอกันที่อลาบาสตา)
Section 3 ผจญภัยในอาณาจักร อลาบาสตา ปะทะหนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัด
ในส่วนนี้จะว่ายาวก็ยาว แต่ถ้าตัดการต่อสู้ออกไป ก็พอเล่าให้สั้นๆ ได้ ซึ่งก็ขอสรุปสั้นๆ ตามแผนภาพ
ลูฟี่ vs crocodile วิชาหมัดยางยืด ปะทะ พลังทะเลทราย
โซโล vs Mister 1 วิชาสามดาบ ปะทะ มนุษย์ใบมีด
ซันจิ vs Mister 2 กังฟูเตะ ปะทะ หมัดกระเรียน(บางทีก็เรียกว่าหมัดกะเทย)
นามิ vs Miss Double Finger วิชาควบคุมอากาศด้วยกระบองคุมาริ ปะทะ มนุษย์หนาม
อุซป และ ช็อปเปอร์ vs Mister 4 and Miss Merry Christmas วิชายิงแล้วหนี+การแปลงร่าง ปะทะ สุสานตัวตุ่นสี่แยกเบอร์สี่
ครั้งนี้พวกลูฟี่ชนะได้อย่างยากเย็น เกือบแพ้ไปหลายรอบ ส่วนบิบี ก็สามารถหยุดยั้งสงครามได้อย่างหวุดหวิด เกือบพลาดไปหลายรอบ ส่วนข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจคือ ลูฟี่ได้เจอเอสซึ่งกำลังออกตามล่าหนวดดำ และการปรากฏหรือพูดถึงในเรื่องเป็นครั้งแรกของ ไอเท็ม แดนซ์พาวเดอร์(ผงเรียกฝน) หินไคโร พลูตัน และโพเนกลีฟ (รายละเอียดดูได้ในบัญชีไอเท็ม และบันทึกโพเนกลีฟ ซึ่งจะทำแยกไว้ต่างหาก) พอจบการผจญภัย บิบี และอาณาจักรอลาบาสตาก็ปลอดภัย กลับคืนสู่ความสงบสุข ถึงเมืองจะพังไปเยอะมาก แต่เอาเป็นว่ารอดมาได้ก็แล้วกัน แล้วพวกลูฟี่ก็เดินทางกันต่อไป
จบ Chapter 2
แหล่งอ้างอิง: หนังสือการ์ตูนฉบับแปลไทย เล่มที่ 12-23 ตอนที่ 100-216 ทั้งเนื้อหาหลักและมุมตอบคำถาม ผู้สนใจโปรดติดตามอ่านทั้งในนี้ และในต้นฉบับด้วยครับ ถ้าอ่านแล้วชอบ โปรดกดไลค์ กดแชร์ คอมเมนท์ แนะนำ ติชม และโปรดกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้ผมทำต่อด้วยครับ เดี๋ยวผมจะทยอยทำออกมาเรื่อยๆ ครับ โพสต์คล้ายๆ กันนี้ ผมจะใส่ไว้อยู่สามที่ครับคือ ในพันทิป ใน Facebook Page และใน Blockdit ชอบอันไหนก็ติดตามในอันนั้นนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ ข้างล่างคือลิงค์ กับบันทึกโพเนกลีฟของ Chapter นี้ครับ (ข้อมูลเพิ่มเติมจะทยอยใส่เข้ามาทีหลัง)
Facebook Page พึ่งทำ แต่จะพยายามพัฒนาให้ดีขึ้นครับ
https://web.facebook.com/pg/ACGM-Art-Cartoon-Game-Math-Movie-104105841281123/posts/?ref=page_internal
Blockdit ก็พึ่งทำครับ
https://www.blockdit.com/pages/5e996437983b670cb0b309c5
บันทึกโพเนกลีฟ ช่วง (Chapter 1-2)
โพเนกลีฟปรากฏเป็นครั้งแรกในเรื่องตอนที่ Crocodile ถามคอบร้าเกี่ยวกับ อาวุธโบราณพลูตัน ที่ว่ากันว่า ยิงนัดเดียวถล่มได้ทั้งเกาะ แต่คอบร้าเองก็แค่เคยได้ยิน ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน และก็ไม่รู้ว่ามันมีจริงรึป่าว ต่อมา Crocodile ก็เปลี่ยนเป็นถามถึงที่ซ่อนของโพเนกลีฟประจำอาณาจักรอลาบาสตา แล้วพระราชาก็ยอมพาโรบินไปอ่านอักษรโพเนกลีฟที่ซ่อนอยู่ที่สุสานกษัตริย์ทางทิศตะวันตกของวัง ข้อความที่โรบินแปลให้ Crocodile ฟัง มีแค่ประวัติศาตร์ของอาณาจักรอลาบาสตา และโรบินก็ไม่ได้แปลให้ฟังทั้งหมด ข้อความที่แปลก็ไม่รู้ว่าอันไหนจริง อันไหนหลอก (ท่านโรบินตั้งใจแปลแบบผิดๆ และท่านก็ไม่ได้สนใจพลูตันด้วย ท่านโรบินแค่สนใจประวัติศาสตร์เท่านั้น ก็เลยไม่ได้บอกเรื่องพลูตันกับ Crocodile) ข้อความที่โรบินพูดเป็นดังนี้ (เล่ม 22 ตอน 203)
อลาบาสตาก่อตั้งขึ้นโดย คาฮิรา ในปี 239 ต่อมาปี 260 ราชวงศ์บิเทน แห่งเทเมอร์ ได้ขึ้นปกครอง ในปี 306 สร้างวิหารศักดิ์สิทธิ์ ขึ้นที่ เอลูมารู ปี 325 ยอดวีรบุรุษมามุดินออลเทียได้ ... แล้ว crocodile ก็ขัดจังหวะการอ่านของท่านโรบิน แล้วก็สู้กับลูฟี่ โดนอัด ตัดจบไปเลย เราผู้อ่านก็เลย อดฟังประวัติศาสตร์โลกกันต่อ การ์ตูนเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เวลาท่านโรบินสอนประวัติศาสตร์อยู่ อย่าสอด ให้ตั้งใจฟังไปน่าจะดีกว่า ไม่งั้นโดนลูฟี่อัด แล้วก็ไม่ได้ความรู้เพิ่มอะไรขึ้นเลย มีแต่เสียกับเสีย
จบโพสต์ #ACGM #ลูกศิษย์นิโคโรบิน
Edit เพิ่ม ขอแก้เป็น เล่ม 12-24 ตอน 100-218 ครับ