สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ทริปครอบครัวของเราจะพาไปการเที่ยวในตัวเมืองโตรอนโต(แคนาดา) และไปดูความสวยงามของน้ำตกไนแองการากันค่ะ
กระทู้ที่แล้วเราถึงเล่าแพลนการเที่ยวแคนาดาคร่าวๆ ตามไปอ่านได้เลยที่
https://ppantip.com/topic/39821553
ติดตามทริปใหม่ๆของบ้านเราได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thammiles/
Toronto :
https://www.facebook.com/thammiles/posts/113513713377518
Niagara Falls :
https://www.facebook.com/thammiles/posts/119466722782217
ถ้าพร้อมแล้ว ออกเดินทางกันเลย!
Day 1: City of Toronto
หลังจากนั่งเครื่องมาไกลสิบกว่าชั่วโมง ในที่สุดเราก็ถึงสนามบินเพียร์สัน (Pearson International Airport) เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา
🚎 การเดินทางเข้าเมือง เราจะต้องนั่งรถไฟเข้าไปที่ Terminal 1 เพื่อหารถไฟเข้าเมืองอีกที (ตามรูปที่ 1 และ 2) เมื่อถึง Terminal 1 ให้หาป้าย Train to City (UP Express) เดินไปตามทาง (ที่ค่อนข้างไกล) จะมาเจอตู้ขายตั๋วเราเลือกไปที่ Union Station (12.35 CAD) สถานีหลักที่เป็นศูนย์กลางของการเดินทางหลายสาย
โชคดีที่โฮสเทลเราอยู่ใกล้สถานีสามารถเดินไปถึงได้ ทริปนี้เราพักกันที่โฮสเทลซะส่วนใหญ่เลยต้องทำอาหารกินเองบ้าง ซึ่งง่ายๆเลยเชฟกะทะเล็กอย่างเราๆ ก็ไม่พ้นมาม่าเกาหลีที่เตรียมมาจากไทยแน่นอน พร้อมเครื่องปรุงเล็กน้อย พวกเนื้อ นม ผักก็ซื้อที่ซุปเปอร์มาเก็ตแถวโรงแรมได้เลย อย่าลืมพกถุงผ้ากันมา เวลาซื้อของบ้านเขาก็ไม่แจกถุงเช่นกันค่า
การพักโฮสเทลถ้าเลือกดีๆจริงๆก็จะมีหลายๆที่ที่มีห้องน้ำในตัว บ้านเรามีกันสี่คนพอดี ทำให้การพักผ่อนเหมือนได้อยู่ห้องส่วนตัวในโรงแรมหนึ่ง สะดวกสบาย ไม่ลำบากสำหรับพ่อกับแม่เราเลยด้วย แถมประหยัดค่าโรงแรมไปในตัว
เก็บของเสร็จแล้วก็ออกเดินเที่ยวตัวเมืองกันเลย เราเริ่มจากการเที่ยวย่าน
นาธาน ฟิลลิปส์ สแควร์ (Nathan Phillips Square) ซึ่งเป็นแลนมาร์คของเมืองนี้เลยก็ว่าได้
แถวนี้จะมีทั้ง Old และ New City Hall อยู่ในระแวกเดียวกัน ห่างกันเพียงถนนกั้นเท่านั้น
Old City Hall เราขอเรียกว่า ศาลากลางเก่า เป็นตึกสไตล์โรมันที่ตั้งเด่นอยู่ท่ามกลางตึกสมัยใหม่ ดูแปลกตามาก เป็นตึกที่เขาเล่ากันว่าใหญ่ที่สุดของเมืองในช่วงปี 1899
หลังจากนั้นก็ได้มีการสร้างศาลากลางใหม่ New City Hall ซึ่งก็คือตึกสไตล์โมเดิร์นโค้งๆด้านหลังนี่เอง สองตึกนี่ตั้งอยู่ใกล้กันมาก มองซ้ายมองขวาทีนึกว่าคนละเมือง และมุมยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวมักจะมาถ่ายรูปก็ไม่พ้นป้ายโตรอนโตนี่แหล่ะ ไม่ถ่ายก็เหมือนยังมาไม่ถึงโตรอนโต
จริงๆเราชอบแถวๆนี้เป็นพิเศษ เพราะว่าเป็นที่ๆคนที่นี่เขามานั่งพักผ่อนกันจริงจัง บ้างก็ฟังเพลง อ่านหนังสือ นอกจากนี้เราก็ยังเดินเที่ยวตัวเมือง แวะดูรอบๆ CN Tower บ้างแต่ไม่ได้ขึ้นไปก็เลยไม่มีวิวให้ทุกคนมาดูกัน เดินเที่ยวเสร็จก็เกือบมืด เก็บซ่อนความหิวมานาน แวะซื้อของกินสำหรับข้าวเย็น ขนมมากมาย และเตรียมพร้อมสำหรับความยิ่งใหญ่ของไนแองการาวันพรุ่งนี้กัน 💪🏻
Day 2: Niagara Falls
เนื่องจากบ้านเราเน้นเที่ยวแบบไม่ขับรถกันเอง ทริปวันนี้เราจึงใช้บริการรถโค้ชแทน หรือจริงๆก็คือรถบัสน่ะแหล่ะ นั่งสบายๆ เราสามารถจองตั๋วมาจากไทยได้เลย (ถูกกว่า) หรือจะมาจองเที่ยวรถที่นี่ก็ได้
📍ใช้บริการ MEGABUS : ขึ้นรถที่ Toronto Coach Terminal ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. ถึงสถานีรถ Niagara Falls (ไปกลับคนละ 40.12 CAD) รถออกตรงเวลา อย่าไปสายนะคะเดี๋ยวตกรถ😅
มาถึงสถานีรถบัสที่ไนแองการา เราสามารถนั่งรถบัสต่อไปได้ หรือจะเดินไปถึงน้ำตกก็ได้ ประมาณ 3.5 กม. ซึ่งบ้านเราก็เลือกเดินไปค่า ก๊อกๆแก๊กๆไป
ระหว่างทางเราจะได้เห็นย่านบ้านพักชุมชนจนไปถึงในตัวเมือง มีความเปลี่ยนแปลงจากบ้านธรรมดาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีสีสัน มีร้านค้า กาสิโน หรือแม้แต่พวกเครื่องเล่นสวนสนุกต่างๆก็มี เดินมาซักพักก็มีบ่นกันว่าเอ้ะ ทำไมไม่ถึงซักที ทำไมไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นเดินมากับเราเลยนะ 😆
แต่ถ้าใครไม่รีบก็แนะนำให้เดินนะคะ เราจะเห็นบรรยากาศที่นี่ได้เต็มๆเลย ระหว่างทางมีดอกทิวลิปน่ารักๆ สวยๆเต็มเลย ที่สำคัญคือประหยัดด้วย (ประเด็นอยู่ตรงนี้)
หลังจากเดินมาสักพักความพยายามของเราก็เห็นผล เสียงน้ำตกดังใกล้เข้ามา ไนแองการาอยู่ข้างหน้านี้เอง!
ที่เห็นนี้คือ น้ำตกอเมริกา (American Falls) และ น้ำตก Bridal Veil ไนแองการาจะประกอบไปด้วย 3 น้ำตกย่อยๆ คือ น้ำตกอเมริกา (American Falls), น้ำตก Bridal Veil และ น้ำตกเกือกม้า (Horseshoe Falls) โค้งอยู่ตรงหัวมุมรูปร่างคล้ายเกือกม้า เราสามารถเดินไปชมน้ำตกได้ตามทางเดินจากน้ำตกนึงไปอีกที่นึงได้เลย เป็นทางยาวที่เราแทบจะหยุดถ่ายรูปทุกๆสิบเมตร เหมือนกลัววิวว่าข้างหน้าจะหายไป (กลับไปดูรูปแล้วแทบจะเป็นภาพขยับได้ ถ่ายทุกย่างก้าว 😂)
ต้นน้ำของน้ำตกมาจากฝั่งอเมริกา สามารถเที่ยวชมน้ำตกได้จากทั้งฝั่งอเมริกาและแคนาดาเลย ทริปนี้เราเที่ยวจากฝั่งแคนาดาอย่างเดียว ซึ่งก็ได้เห็นตัวน้ำตกทั้งหมดเลย สวยมาก เราสามารถเที่ยวชมด้วยการนั่งเรือ Furry เข้าไปดูใกล้ๆได้เช่นกัน รับรองว่าตัวเปียกแน่นอน เสื้อกันฝนก็เอาไม่อยู่
📍เรือ Furry : Horn Brewer (25.95 CAD)
นอกจากนี้ถ้าใครอยากฟังเรื่องราวของน้ำตกเพิ่มเติม หรือเข้าไปดูใกล้ๆมากขึ้นก็เข้าชม Journey Behind the Falls ได้ โผล่ไปดูกันถึงใต้น้ำตกเลย
หลังจากที่เราเที่ยวชมน้ำตกจนอิ่มเอมตัวเปียกไปเล็กน้อย ก็ได้เวลากลับที่พัก เราเลือกเดินกลับอีกเช่นกัน โดยเดินเส้นเรียบแม่น้ำไป ชมน้ำตกกันอีกรอบ ไม่คุ้มไม่รู้จะเรียกว่ายังไงแล้ว😊
ความรู้สึกหลังจบทริป
ตอนเด็กๆเคยได้ยินแต่ชื่อน้ำตกไนแองการา ไม่คิดว่าวันนึงเราจะได้มาเห็นจริงๆ น้ำตกที่ขึ้นชื่อเรื่องความใหญ่ และความอลังการ มาวันนี้คิดย้อนกลับไปก็คิดว่าคุ้มนะที่ได้ไปเห็นมากับตา ใครจะรู้ว่าน้ำที่ตกลงมาแรงมากขนาดกลายเป็นน้ำที่ตกลงมาจนแยกไม่ออกว่าน้ำตกหรือฝน การได้เห็นน้ำตกขนาดใหญ่ในระยะใกล้ทำให้รู้สึกว่าเราตัวเล็กลงไปมาก ยังมีอะไรที่อยากไปเจออีกมาก ประทับใจกับน้ำตกไนแองการาในวันนั้นมากเช่นกัน
ทริปโตรอนโต - ไนแองการา ของสไตล์บ้านเราออกมาประมาณนี้ หวังว่าทุกคนจะชอบและได้ประโยชน์นะคะ ทริปต่อไปจะมาเล่าการเที่ยว Ottawa เมืองหลวงของแคนาดา แบบ One-day trip ค่ะ
ติดตามกระทู้อื่นๆ
เที่ยว Canada 14 วัน 6 เมือง จากตะวันออกไปตะวันตกแบบรวดเดียวจบ :
https://ppantip.com/topic/39821553
ดูรูปไปพรางๆ ติดตามทริปเที่ยวของบ้านเราได้ที่
FB :
https://www.facebook.com/thammiles/
Instagram :
https://www.instagram.com/tham.miles/
[CR] โตรอนโต x ไนแองการา (Niagara Falls) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ (Canada Ep.1)
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ทริปครอบครัวของเราจะพาไปการเที่ยวในตัวเมืองโตรอนโต(แคนาดา) และไปดูความสวยงามของน้ำตกไนแองการากันค่ะ
กระทู้ที่แล้วเราถึงเล่าแพลนการเที่ยวแคนาดาคร่าวๆ ตามไปอ่านได้เลยที่ https://ppantip.com/topic/39821553
ติดตามทริปใหม่ๆของบ้านเราได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thammiles/
Toronto : https://www.facebook.com/thammiles/posts/113513713377518
Niagara Falls : https://www.facebook.com/thammiles/posts/119466722782217
ถ้าพร้อมแล้ว ออกเดินทางกันเลย!
Day 1: City of Toronto
หลังจากนั่งเครื่องมาไกลสิบกว่าชั่วโมง ในที่สุดเราก็ถึงสนามบินเพียร์สัน (Pearson International Airport) เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา
🚎 การเดินทางเข้าเมือง เราจะต้องนั่งรถไฟเข้าไปที่ Terminal 1 เพื่อหารถไฟเข้าเมืองอีกที (ตามรูปที่ 1 และ 2) เมื่อถึง Terminal 1 ให้หาป้าย Train to City (UP Express) เดินไปตามทาง (ที่ค่อนข้างไกล) จะมาเจอตู้ขายตั๋วเราเลือกไปที่ Union Station (12.35 CAD) สถานีหลักที่เป็นศูนย์กลางของการเดินทางหลายสาย
โชคดีที่โฮสเทลเราอยู่ใกล้สถานีสามารถเดินไปถึงได้ ทริปนี้เราพักกันที่โฮสเทลซะส่วนใหญ่เลยต้องทำอาหารกินเองบ้าง ซึ่งง่ายๆเลยเชฟกะทะเล็กอย่างเราๆ ก็ไม่พ้นมาม่าเกาหลีที่เตรียมมาจากไทยแน่นอน พร้อมเครื่องปรุงเล็กน้อย พวกเนื้อ นม ผักก็ซื้อที่ซุปเปอร์มาเก็ตแถวโรงแรมได้เลย อย่าลืมพกถุงผ้ากันมา เวลาซื้อของบ้านเขาก็ไม่แจกถุงเช่นกันค่า
การพักโฮสเทลถ้าเลือกดีๆจริงๆก็จะมีหลายๆที่ที่มีห้องน้ำในตัว บ้านเรามีกันสี่คนพอดี ทำให้การพักผ่อนเหมือนได้อยู่ห้องส่วนตัวในโรงแรมหนึ่ง สะดวกสบาย ไม่ลำบากสำหรับพ่อกับแม่เราเลยด้วย แถมประหยัดค่าโรงแรมไปในตัว
เก็บของเสร็จแล้วก็ออกเดินเที่ยวตัวเมืองกันเลย เราเริ่มจากการเที่ยวย่าน นาธาน ฟิลลิปส์ สแควร์ (Nathan Phillips Square) ซึ่งเป็นแลนมาร์คของเมืองนี้เลยก็ว่าได้
แถวนี้จะมีทั้ง Old และ New City Hall อยู่ในระแวกเดียวกัน ห่างกันเพียงถนนกั้นเท่านั้น
Old City Hall เราขอเรียกว่า ศาลากลางเก่า เป็นตึกสไตล์โรมันที่ตั้งเด่นอยู่ท่ามกลางตึกสมัยใหม่ ดูแปลกตามาก เป็นตึกที่เขาเล่ากันว่าใหญ่ที่สุดของเมืองในช่วงปี 1899
หลังจากนั้นก็ได้มีการสร้างศาลากลางใหม่ New City Hall ซึ่งก็คือตึกสไตล์โมเดิร์นโค้งๆด้านหลังนี่เอง สองตึกนี่ตั้งอยู่ใกล้กันมาก มองซ้ายมองขวาทีนึกว่าคนละเมือง และมุมยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวมักจะมาถ่ายรูปก็ไม่พ้นป้ายโตรอนโตนี่แหล่ะ ไม่ถ่ายก็เหมือนยังมาไม่ถึงโตรอนโต
จริงๆเราชอบแถวๆนี้เป็นพิเศษ เพราะว่าเป็นที่ๆคนที่นี่เขามานั่งพักผ่อนกันจริงจัง บ้างก็ฟังเพลง อ่านหนังสือ นอกจากนี้เราก็ยังเดินเที่ยวตัวเมือง แวะดูรอบๆ CN Tower บ้างแต่ไม่ได้ขึ้นไปก็เลยไม่มีวิวให้ทุกคนมาดูกัน เดินเที่ยวเสร็จก็เกือบมืด เก็บซ่อนความหิวมานาน แวะซื้อของกินสำหรับข้าวเย็น ขนมมากมาย และเตรียมพร้อมสำหรับความยิ่งใหญ่ของไนแองการาวันพรุ่งนี้กัน 💪🏻
Day 2: Niagara Falls
เนื่องจากบ้านเราเน้นเที่ยวแบบไม่ขับรถกันเอง ทริปวันนี้เราจึงใช้บริการรถโค้ชแทน หรือจริงๆก็คือรถบัสน่ะแหล่ะ นั่งสบายๆ เราสามารถจองตั๋วมาจากไทยได้เลย (ถูกกว่า) หรือจะมาจองเที่ยวรถที่นี่ก็ได้
📍ใช้บริการ MEGABUS : ขึ้นรถที่ Toronto Coach Terminal ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. ถึงสถานีรถ Niagara Falls (ไปกลับคนละ 40.12 CAD) รถออกตรงเวลา อย่าไปสายนะคะเดี๋ยวตกรถ😅
มาถึงสถานีรถบัสที่ไนแองการา เราสามารถนั่งรถบัสต่อไปได้ หรือจะเดินไปถึงน้ำตกก็ได้ ประมาณ 3.5 กม. ซึ่งบ้านเราก็เลือกเดินไปค่า ก๊อกๆแก๊กๆไป
ระหว่างทางเราจะได้เห็นย่านบ้านพักชุมชนจนไปถึงในตัวเมือง มีความเปลี่ยนแปลงจากบ้านธรรมดาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีสีสัน มีร้านค้า กาสิโน หรือแม้แต่พวกเครื่องเล่นสวนสนุกต่างๆก็มี เดินมาซักพักก็มีบ่นกันว่าเอ้ะ ทำไมไม่ถึงซักที ทำไมไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นเดินมากับเราเลยนะ 😆
แต่ถ้าใครไม่รีบก็แนะนำให้เดินนะคะ เราจะเห็นบรรยากาศที่นี่ได้เต็มๆเลย ระหว่างทางมีดอกทิวลิปน่ารักๆ สวยๆเต็มเลย ที่สำคัญคือประหยัดด้วย (ประเด็นอยู่ตรงนี้)
หลังจากเดินมาสักพักความพยายามของเราก็เห็นผล เสียงน้ำตกดังใกล้เข้ามา ไนแองการาอยู่ข้างหน้านี้เอง!
ที่เห็นนี้คือ น้ำตกอเมริกา (American Falls) และ น้ำตก Bridal Veil ไนแองการาจะประกอบไปด้วย 3 น้ำตกย่อยๆ คือ น้ำตกอเมริกา (American Falls), น้ำตก Bridal Veil และ น้ำตกเกือกม้า (Horseshoe Falls) โค้งอยู่ตรงหัวมุมรูปร่างคล้ายเกือกม้า เราสามารถเดินไปชมน้ำตกได้ตามทางเดินจากน้ำตกนึงไปอีกที่นึงได้เลย เป็นทางยาวที่เราแทบจะหยุดถ่ายรูปทุกๆสิบเมตร เหมือนกลัววิวว่าข้างหน้าจะหายไป (กลับไปดูรูปแล้วแทบจะเป็นภาพขยับได้ ถ่ายทุกย่างก้าว 😂)
ต้นน้ำของน้ำตกมาจากฝั่งอเมริกา สามารถเที่ยวชมน้ำตกได้จากทั้งฝั่งอเมริกาและแคนาดาเลย ทริปนี้เราเที่ยวจากฝั่งแคนาดาอย่างเดียว ซึ่งก็ได้เห็นตัวน้ำตกทั้งหมดเลย สวยมาก เราสามารถเที่ยวชมด้วยการนั่งเรือ Furry เข้าไปดูใกล้ๆได้เช่นกัน รับรองว่าตัวเปียกแน่นอน เสื้อกันฝนก็เอาไม่อยู่
📍เรือ Furry : Horn Brewer (25.95 CAD)
นอกจากนี้ถ้าใครอยากฟังเรื่องราวของน้ำตกเพิ่มเติม หรือเข้าไปดูใกล้ๆมากขึ้นก็เข้าชม Journey Behind the Falls ได้ โผล่ไปดูกันถึงใต้น้ำตกเลย
หลังจากที่เราเที่ยวชมน้ำตกจนอิ่มเอมตัวเปียกไปเล็กน้อย ก็ได้เวลากลับที่พัก เราเลือกเดินกลับอีกเช่นกัน โดยเดินเส้นเรียบแม่น้ำไป ชมน้ำตกกันอีกรอบ ไม่คุ้มไม่รู้จะเรียกว่ายังไงแล้ว😊
ความรู้สึกหลังจบทริป
ตอนเด็กๆเคยได้ยินแต่ชื่อน้ำตกไนแองการา ไม่คิดว่าวันนึงเราจะได้มาเห็นจริงๆ น้ำตกที่ขึ้นชื่อเรื่องความใหญ่ และความอลังการ มาวันนี้คิดย้อนกลับไปก็คิดว่าคุ้มนะที่ได้ไปเห็นมากับตา ใครจะรู้ว่าน้ำที่ตกลงมาแรงมากขนาดกลายเป็นน้ำที่ตกลงมาจนแยกไม่ออกว่าน้ำตกหรือฝน การได้เห็นน้ำตกขนาดใหญ่ในระยะใกล้ทำให้รู้สึกว่าเราตัวเล็กลงไปมาก ยังมีอะไรที่อยากไปเจออีกมาก ประทับใจกับน้ำตกไนแองการาในวันนั้นมากเช่นกัน
ทริปโตรอนโต - ไนแองการา ของสไตล์บ้านเราออกมาประมาณนี้ หวังว่าทุกคนจะชอบและได้ประโยชน์นะคะ ทริปต่อไปจะมาเล่าการเที่ยว Ottawa เมืองหลวงของแคนาดา แบบ One-day trip ค่ะ
ติดตามกระทู้อื่นๆ
เที่ยว Canada 14 วัน 6 เมือง จากตะวันออกไปตะวันตกแบบรวดเดียวจบ : https://ppantip.com/topic/39821553
ดูรูปไปพรางๆ ติดตามทริปเที่ยวของบ้านเราได้ที่
FB : https://www.facebook.com/thammiles/
Instagram : https://www.instagram.com/tham.miles/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้